หลังจบเกมที่ไทยไล่ตามตีเสมอ บังกลาเทศ 1-1
ท่ามกลางบรรยากาศการเชียร์บอลที่สุดแสนกระอักกระอ่วน
ในฟีลแบบนี้ผมเลือกที่จะไม่เขียนคอลัมน์ตรวจผลสอบแข้งช้างศึก
เพราะไม่ไว้ใจปลายนิ้วของตัวเองในการกระแทกคีย์บอร์ด
และเลือกที่จะโทรไปคุยกับ "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด
พี่ที่ผมมักแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องเกมฟุตบอลกันอยู่เป็นประจำ
ซึ่งพบว่าความคิดเห็นของกุนซือบีจี เอฟซี และอดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย ยู-19
มีมุมมองที่น่าสนใจหลายประเด็น ผมจึงนำบทสนทนากับ "โค้ชจุ่น" มาฝากอีกครั้ง
แมน : สวัสดีครับพี่จุ่น รบกวนหน่อยครับพี่
โค้ชจุ่น : ว่าไงครับแมน
แมน : ได้ดูเกมไทยเจอบังกลาเทศใช่มั้ยพี่ คิดว่าเราเป็นยังไงบ้าง
ผลการแข่งขันเกิดจากการประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไปหรือเปล่า
โค้ชจุ่น : อาจจะด้วยการที่เป็นบอลทัวร์นาเม้นต์
แล้วก็มีการเปลี่ยนไลน์อัพผู้เล่นอยู่ 3-4 คน ซึ่งก็มีผลต่อรูปเกมเหมือนกันนะ
พี่ยังคิดว่าถ้าเราเลือกใช้ผู้เล่นที่ลงในครึ่งหลังเกมกับกาตาร์
ความต่อเนื่องอาจจะดีกว่า แต่พี่โย่งคงมองว่าเราน่าจะกดเขาได้
ถ้าตันยังไงครึ่งหลังก็น่าจะยังทัน เหมือนตอนที่ อุซเบฯ เจอ บังกลาเทศ
เขาก็มาเร่งยิงเอาตอนครึ่งหลัง พอได้ประตูแรกสกอร์ถึงไหล
แต่เราไปโดนซะก่อนรูปแบบเกมเลยต้องเปลี่ยนและยิ่งพอยิงไม่ได้ก็กดดันไปกันใหญ่
แมน : เกมแรกการแก้เกมของพี่โย่งดูจะเห็นผลกว่ามากเลยนะครับ
เปลี่ยนตัวลงไปแต่ละคนแล้วสามารถเปลี่ยนวิธีการเล่นได้ ชัดเจน
แต่เกมนี้ที่เวิร์คจริงๆ ก็คงมีแค่เจ้าอาร์ม (ศุภชัย ใจเด็ด) ที่ลงแทน บุ๊ค (เอกนิษฐ์ ปัญญา)
ส่วน เป้ ที่ลงไปแทน เต้ (นพพล พลคำ แทน พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล)
และ บอมบ์ แทน หนึ่ง (ชินภัทร ลีเอาะ แทน วรวุช นามเวช)
มันเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งต่อตำแหน่งที่ไม่มีผลกับสถานการณ์ที่ทีมกำลังต้องการประตูเลย
โค้ชจุ่น : พี่โย่งน่าจะมองว่าแท็กติกมันยังโอเคอยู่ และอยากรักษาเชพของทีมเอาไว้
แต่พี่เองก็คิดอยู่ว่าเราน่าจะส่งคนที่เป็นตัวจบสกอร์ลงไปเพิ่มมากกว่าตัวเสิร์ฟ
คือตัวเสิร์ฟเรามีทั้งเจ้ายิม (วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ) กับเจ้าเชค (สุภโชค สารชาติ) อยู่แล้ว
เอาจริงๆ พี่ค่อนข้างผิดหวังกับเจ้าเต๋า (ธนาสิทธิ ศิริผลา) นะ
เพราะน้องมันยังไม่กล้ายิงเหมือนเดิม อย่างจังหวะที่ได้โหม่งแค่ 6 หลา
ก็น่าจะโขกใส่ประตูไปเลย ไม่ใช่โหม่งตั้งกลับมา คือเต๋ามันยังมีปัญหาตรงนี้แหละ
ก็คือจังหวะจบมันยังไม่ได้ พี่คิดว่าถ้าส่ง มนตรี (พรหมสวัสดิ์)
หรือ เจ้าโก้ (สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ) ลงไปน่าจะดีกว่าส่งกองหลัง
ไปแทนตำแหน่งเดียวกัน เพราะมันไม่ได้ทำให้เรามีตัวจบสกอร์เพิ่มขึ้นเลย
แมน : เกมนี้บังกลาเทศทำการบ้านมาดีเลยนะพี่ คือไม่ให้พื้นที่เต๋าได้ดวล 1 ต่อ 1 เลย
เหมือนเขาศึกษามาแล้วว่าเกมรุกของไทยจะเริ่มจากตรงไหนบ้าง
แล้วเขาก็ปิดจุดนั้นเอาไว้ได้หมด
โค้ชจุ่น : ใช่ครับ บุ๊ค เองก็มีปัญหานี้เหมือนกัน ทั้งเต๋าทั้งบุ๊ค
เป็นผู้เล่นที่ต้องใช้พื้นที่ว่างในการทำเกม แต่พอถูกซ้อนก็ไปไม่ได้เลย
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องคิดอยู่แล้วว่าเขาจะเล่นแบบนี้
แต่ทั้งเกมเราก็ยังเห็นทีมไทยพยายามโจมตีในรูปแบบเดิมอยู่
จนกระทั่งส่ง อาร์ม เข้ามาเก็บบอลในแดนหน้าได้นั่นแหละ
ถึงเริ่มมีจังหวะยิงประตูกันได้
แมน : พี่คิดว่าบุ๊คถูกเปลี่ยนตัวออกเร็วเกินไปมั้ยครับ
คือผมเห็นว่าน้องเริ่มจะเข้าสู่เกมได้แล้วตอนก่อนจะถูกเปลี่ยนออก
ตอนแรกๆ นี่แทบหาบอลไม่เจอเลย พยายามวิ่งส่ายแล้วก็ยังเชื่อมกับพี่ๆ ไม่ได้
แถมยังมีบางจังหวะที่พยายามยิงเองแล้วโดนรุ่นพี่เอ็ดเอาอีก
โค้ชจุ่น : จริงๆ แล้วพี่มองว่าสำหรับรุ่น 23 ปีเนี่ย
เรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องมันเอามาใช้ไม่ได้หรอก มันเป็นการแข่งขันที่จำกัดอายุ
ดังนั้นการแสดงความเป็นผู้นำของรุ่นพี่มันไม่ใช่เรื่องของวัยวุฒิแล้ว
แต่ต้องนำด้วยการพาเพื่อนๆ เล่นเป็นทีมให้ได้
พี่คิดว่าทั้งบุ๊คแล้วก็อีกหลายๆ คนดูเกร็งเกินไปจนไม่กล้าจบสกอร์
อย่างเจ้าเชคกับเจ้ายิมปกติเป็นคนที่จบสกอร์ดีจะตาย
แต่พอมาเล่นเอเชียนเกมส์ เชคมันเหนื่อยเกินไป ภาระมันหนักกว่าที่บุรีรัมย์เยอะ
มันแทบจะเป็นเพลย์เมกเกอร์มากกว่ายิมเสียอีก
เพราะเชคเคลื่อนที่เยอะมาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้หาโอกาสจบสกอร์เองเลย
แมน : ผมแอบคิดนะว่าเกมนี้ในเมื่อพี่โย่งคิดลองใช้เจ้าบุ๊คลงตัวจริง
แล้วทำไมไม่ลองส่ง เจ้าช็อป (ขวัญชัย สุขล้อม ผู้รักษาประูตู)
กับ ปวีร์ (ตัณฑะเตมีย์) ลงบ้าง เพราะเกมนี้เป็นเกมที่น่าทดลองที่สุดแล้ว
โค้ชจุ่น : นั่นน่ะสิ แต่พี่โย่งคงมองถึงเรื่องความสัมพันธ์ในเกมระหว่างประตูกับกองหลัง
ก็เลยใช้นักเตะกลุ่มที่เคยเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ซีเกมส์ก่อน
พี่ค่อนข้างห่วงเจ้าหนึ่ง (วรวุฒิ นามเวช) ที่สุดแล้ว
เพราะน้องมันเคลื่อนตัวค่อนข้างช้า โอเคล่ะอาจจะดักทางบอลได้ดี
แต่สไตล์หนึ่งต้องมีคนคอยซ้อนอย่าปล่อยให้เจอสถานการณ์ 1 ต่อ 1
แล้วก็เรื่องการบิวดิ้งเกม (ออกบอลเพื่อขึ้นเกม) ยังไม่ดีเท่าไหร่ด้วย
กองหลังไทยเราเป็นสไตล์ตัวชนทั้งนั้นเลย
เราไม่มีคนที่เป็นพวกตัวสั่งการที่เป็นผู้นำในแนวรับ ทั้ง บอมบ์, เหน่ง (ศฤงคาร พรหมสุภะ)
และ หนึ่ง เล่นสไตล์เดียวกันหมดเลย ถ้าไหนๆ พี่โย่งจะใช้ 3 คนนี้อยู่แล้ว
ก็อาจจะถอดปีกออก แล้วใส่หลังสามไปเลย
ดันเจ้าบอล (ชัยวัฒน์ บุราณ) หรือเจ้าเธค (สุริยา สิงห์มุ้ย)
แล้วก็เด็กจากบุรีรัมย์ (รัตนากร ใหม่คามิ) นั่นก็เล่นได้โอเคเลยนะ
เอาไปยืนวิงแบ็ค แล้วขยับ เชค มายืนคู่กับยิม ตรงกลาง
น่าจะทำให้เราเคลื่อนเกมตรงกลางได้ไหลลื่นกว่านี้
แมน : ผมแปลกใจอีกอย่างว่าลูกยิงแถวสองเราหายไปไหนหมด
ทั้งที่ในสโมสรแต่ละคนก็เป็นพวกยิงไกลดีๆ ทั้งนั้น ยังคิดถึงเจ้าโก้ (สรรเสริญ)
เลยว่าทำไมพี่โย่งถึงไม่เลือกใช้
โค้ชจุ่น : คือเหมือนจังหวะมันไม่เข้าที่ไปหมด แล้วพอจะยิงก็กลัวทำเสีย
ยิ่งถ้าเสียแล้วถูกเพื่อนบ่นก็ยิ่งไปกันใหญ่ อย่าว่าแต่น้องๆ เลย
ตัวพี่เองก็เคยเป็นนะ พี่ไม่แน่ใจว่าเจ้าโก้ มีปัญหาบาดเจ็บอะไรหรือเปล่า
คือถ้าลงมาเราก็จะมีเกมรุกในอีกมิติ เพราะโก้มันออกบอลจากแนวลึกได้ดี
และก็มีลูกยิงไกลจากแถวสองด้วย
แมน : เจนรบเป็นไงบ้างพี่ วันก่อนที่ผมคุยกับพี่
แล้วพี่แนะนำให้น้องเล่นเป็นตัวของตัวเองไม่ต้องกดดัน
หรือพยายามพิสูจน์ตัวเองมากเกินไป ผมเอาไปเขียนเป็นข่าว
มีคนแชร์ไปลงในเฟซบุ๊คของเจน น้องเขาก็น่าจะเห็นคำแนะนำของพี่แล้ว
โค้ชจุ่น : หรอครับ ดีๆ คือพี่ก็อยากให้เขาลดการกดดันตัวเองลง
แล้วอย่าไปเล่นโซเชี่ยลเยอะ เพราะพอเห็นข้อความไม่ถูกใจแล้ว
เดี๋ยวก็เก็บเอาไปคิดมาก เขาถูกคาดหวังว่าจะเป็นศูนย์หน้าตัวหลัก
ของทีมชาติไทยคนต่อไป เพราะมองไปรุ่นหลังๆ ก็แทบไม่เห็นใครแล้ว
ซึ่งมันก็ทำให้เขาถูกกดดันมาตั้งแต่เด็ก พี่คิดว่าเขาไม่จำเป็น
ต้องแบกความกดดันนี้ไว้ แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ
สไตล์ที่ใช้ลูกบู๊ดุดันก็อาจจะลดลงมาบ้างเพื่อยืนระยะให้ได้นานๆ
แล้วหันมาใช้เพื่อนร่วมทีมให้มากขึ้น จังหวะจบสกอร์เปลี่ยนมายิงเล่นทาง
หรือชงกลับให้เพื่อนบ้างก็ได้ ไม่ต้องยิงอัดแรงอย่างเดียว
คือพอประตูแรกมันยังไม่มา ก็ดูเหมือนยิ่งเขาจะกดดันตัวเองไปกันใหญ่เลยทีนี้
แมน : พี่คิดว่าเกมสุดท้ายที่จะเจออุซเบกิสถาน
จะมีอะไรเกินคาดอีกมั้ย เพราะเกมแรกที่เราเสมอกาตาร์
ก็ถือว่าดีเกินคาด ส่วนเกมกับ บังกลาเทศ เราก็แย่เกินคาด
โค้ชจุ่น : คงต้องภาวนาให้ อุซเบกิสถาน ที่เขาเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มไป
แล้วส่งตัวสำรองลงเยอะๆ เพราะพี่ดูผลเมื่อกี๊ อุซเบ นำกาตาร์ ไป 5-0 แล้ว
(จบเกมชนะ 6-0) ถ้าเขาส่งชุดสองลง แล้วเราได้ผู้เล่นฟูลทีมลงสนามพร้อมๆ
เราก็ยังมีโอกาสนะ พี่เชื่อว่าพี่โย่งมีวิธีการที่จะไปต่อได้อยู่แล้ว
รู้สึกว่าแค่เสมอเราก็น่าจะเข้ารอบได้แล้วมั้ง
แมน : เสมอเราก็มีแค่ 3 แต้มนะพี่ แถมประตูได้เสียเราจะ 0 เลย
เพราะเสมอ 1-1 มาทั้งสองเกม แล้วอันดับ 2 นี่คงหวังยาก
เพราะ กาตาร์ กับ บังกลาเทศ นัดสุดท้ายใครชนะก็แซงเราหมด
เรื่องอันดับ 3 ที่ดีที่สุดนี่น่าจะยาก เพราะเอา 4 ทีมจาก 6 กลุ่มเข้ารอบ
กลุ่มอื่นก็ทยอยมี 3 แต้มกันไปแล้ว
โค้ชจุ่น : ก็อาจจะต้องไปลุ้นลูกได้เสียกันอีกที แต่เอาน่ะ
พี่เชื่อว่าอุซเบคงไม่ส่งชุดที่ดีที่สุดลงแน่ๆ เรายังมีโอกาสกลับมาได้
แมน : ดูไปดูมา กาตาร์ ที่เราเสมอกับเขานี่ สภาพแย่กว่าบังกลาเทศซะอีกนะครับ
โค้ชจุ่น : ใช่ กาตาร์ ไม่มีสภาพเลย บังกลาเทศเขามีตัวอายุเกิน
ที่คุมจังหวะเกมได้อยู่ 3 คน ทำให้รูปเกมของเขาไม่ลนลานในเกมรับ
แมน : เขาใช้กลาง, หลัง แล้วก็โกล อย่างละตำแหน่ง แล้วก็ดูนิ่งเล่นดีเลยนะครับ
โค้ชจุ่น : โกลเขาดีเลยนะ คือพวกตัวอายุเกินเขามีประสบการณ์ระดับชุดใหญ่มาแล้ว
แล้วก็ให้ตัวอื่นๆ วิ่งไล่บอลแทน ทำให้เขาไม่เสียกำลังมาก
แต่กาตาร์ชุดนี้นี่มีแค่เรื่องแท็กติคอล แต่ความสามารถเฉพาะตัวหรือฟิตเนสไม่ไหวเลย
แมน : คิดว่าบังกลาเทศจะพลิกชนะกาตาร์ได้มั้ยครับ
โค้ชจุ่น : ก็ยังยากนะ เพราะเกมนี้เขามีแค่ลูกทุ่มไกลเองที่ยิงเราได้
จังหวะเกมบุกเขาก็ไม่ค่อยมีอะไร กาตาร์จะดูเป็นชิ้นเป็นอันกว่า
แมน : ถามถึงเจ้าอาร์ม (ศุภชัย ใจเด็ด) ดีกว่าพี่ ถึงชั่วโมงนี้ คิดว่าต้องเป็นตัวจริงหรือยัง
โค้ชจุ่น : ก็ถ้ามาถึงขนาดนี้แล้วนะ ยังไงก็ต้องใช้เป็นตัวจริงแล้วล่ะ
เพราะอาร์มเขาไม่ใช่ตัวจบสกอร์อย่่างเดียว
แต่เขาเล่นเพื่อทีมและลงไปช่วยเกมรับได้ด้วย
ทักษะการเก็บบอลครองบอลการประสานงานกับเพื่อน
อาร์มมันเกินเด็กอายุ 19 ไปแล้ว
แมน : เมื่อวันก่อนผมโทรไปคุยกับคุณเนวิน (ชิดชอบ)
แกบอกว่า อาร์ม และคนอื่นๆ จาก บุรีรัมย์ ทั้ง เชค และ เกม (รัตนากร ใหม่คามิ)
ยังไม่เก่งพอในสายตาแก และไม่อยากให้คนไปอวยเยอะ
เพราะเด็กเหล่านี้ยังต้องพัฒนาอีกมาก
โค้ชจุ่น : ถูกของแกแล้ว ที่แกพูดแบบนั้นก็คงเพื่อควบคุมให้อยู่ในแท็กติกของแก
ไม่ให้เหลิงจนเปลี่ยนบุคลิกในการเล่นไป ตอนนี้น้องๆ ยังไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์
ก็ยังพยายามวิ่งพยายามเล่นเพื่อทีม แต่บางคนพอมีชื่อเสียงโด่งดัง
แล้วก็เหลิงจนวิธีการเล่นเปลี่ยนไปเลย ที่แกพูดแบบนั้นน่ะดีเลยนะ
แมน : ผมถามไปด้วยว่ามีคนเอาอาร์มไปเปรียบเทียบกับ ธีรศิลป์ แดงดา ในวัยเดียวกัน
แกบอกว่าเทียบกันไม่ได้ ยังห่างชั้นจากมุ้ยเยอะ และถ้าเอามุ้ยตอนอายุ 19
มาอยู่กับบุรีรัมย์ในตอนนี้ มุ้ย จะยิ่งเก่งกว่านี้อีกหลายเท่า
เพราะสมัยก่อนลีกบ้านเรายังไม่ได้มีการจัดการที่เป็นอาชีพเหมือนอย่างเดี๋ยวนี้
โค้ชจุ่น : อาร์มยังห่างมุ้ยเยอะ แต่เชื่อมั้ยว่าตอนที่เขามาคัดกับพี่ในทีมชาติยู-19
เขามาจากปทุมคงคา มาขอคัดในตำแหน่งกองกลาง
พี่โยนชื่อเขาลงถังขยะเลย แต่พอมาดูอายุเขาเพิ่งแค่ 17 แล้วมีความสูงขนาดนี้
พี่เลยมองว่าเอาไปเล่นกองกลางเสียของเปล่าๆ
คืนวันนั้นพี่กับทีมสตาฟฟ์ไปนั่งกินข้าวกันที่ร้านอาหาร
พี่โทรไปหาพี่โต่ย (ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) ที่ตอนนั้นแกอยู่กับโอสถสภา
(ต้นสังกัดเดิมของเจ้าอาร์ม) แล้วคุยกันถึงเรื่องของเจ้าอาร์มว่า
เด็กคนนี้น่าจะปั้นมาเล่นตำแหน่งกองหน้านะ
แล้วอีกวันนึงพี่ก็โทรตามให้น้องมันลองมาซ้อมเป็นกองหน้าดู
ปรากฎว่าเฮ้ยนี่แหละตำแหน่งที่แท้จริงของอาร์ม
เพราะเขาเก็บบอลดีและมีเซนส์ในการยิงประตูดีมาก
แมน : เห็นเคยยิงแฮททริคใส่ออสเตรเลียมาแล้วด้วยนี่พี่
โค้ชจุ่น : โห ใช่ๆ มีลูกนึงชิพเข้าอย่างสวยเลยล่ะ
พี่มองว่า อาร์ม นี่แหละที่ถอดสไตล์การเล่นมาจาก มุ้ย ชัดๆ เลย
แมน : ผมเคยถามคุณเนวินนะพี่ว่า จะปั้นอาร์มเล่นกองหน้าในบุรีรัมย์มั้ย
แกตอบผมว่าถ้าให้มันเล่นกองหน้า มันก็ไม่ได้ลงสิ
เพราะกองหน้าบุรีรัมย์ต่างชาติดีกว่าอาร์มทุกคน
แต่ถ้าเป็นทีมโค้กคัพ อาร์มก็คือกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีม
ตอนนี้แกเน้นให้ลงไปสัมผัสเกมในตำแหน่งอื่นๆ
และคอยศึกษาจากพวก ดิโอโก้ กับตัวต่างชาติไปก่อน
โค้ชจุ่น : แน่นอนล่ะ ระดับบุรีรัมย์ กองหน้าตัวจริงคงเบียดยากอยู่แล้ว
แต่เขาอยู่ท่ามกลางผู้เล่นเก่งๆ เขาก็จะค่อยๆ ซึมซับ และเก่งตามไปเอง
มันอยู่ที่ทัศนคติของเด็กด้วยนะว่าจะซึมซับมาพัฒนาตัวเองได้มากแค่ไหน
ตอนนี้แค่เขาได้เล่นเป็น 11 ตัวจริงกับทีมอย่างบุรีรัมย์
ในวัยแค่ 19 ปี ก็สุดยอดแล้ว
แมน : พูดถึงบุรีรัมย์ รู้สึกยังไงบ้างพี่ที่จับสลากมาเจอกันในรอบรองฯ
ของโตโยต้า ลีก คัพ แฟนบอลหลายๆ คนรวมถึงผมอยากให้จับมาเจอกันแต่แรกแล้วนะ
เพราะคิดว่าน่าจะมันส์แน่ๆ เป็นทีมสไตล์บุกมาเจอกัน
โค้ชจุ่น : อืม ก็หนักเลยล่ะนะ แต่พี่คิดว่าเรามาเจอบุรีรัมย์ในรอบนี้
ดีกว่าเจอ นครราชสีมา หรือ เชียงราย นะ
เพราะต่อให้เราแพ้ในรอบนี้ ก็ยังดีกว่าเข้าชิงแล้วไปแพ้เขา
แบบนั้นมันน่าเสียใจมากกว่า ที่พี่เสียดายที่สุดก็คือ
ส่งเจ้านนท์ (อานนท์ อมรเลิศศักดิ์) ลงไม่ได้ เพราะติดสัญญายืมตัว
แมน : อันนี้ระบุไว้ในสัญญาหรือเป็นเรื่องมารยาทพี่ ที่ส่งนนท์ลงไม่ได้
โค้ชจุ่น : มีระบุไว้ในสัญญาเลยนะว่าถ้าเจอกันจะส่งลงเล่นไม่ได้
ที่พี่เสียดายเพราะเชพของทีมเรากำลังดี และเจ้านนท์คือคีย์แมน
ในการทำเกมบุกของเรา แต่ไม่เป็นไรพี่ก็ต้องมาพยายามเปลี่ยนบุคลิกการเล่น
ของทีมด้วยคนอื่นแทน อย่างน้อยมองในแง่ดี บุรีรัมย์เขาก็มีเกมลีกหนักๆ
กับเมืองทองก่อนหน้านั้น แต่เราเองก็ต้องเจอเชียงรายก่อนเหมือนกัน
แมน : ถึงตอนนั้น (19 ก.ย.) สถานการณ์หนีตายน่าจะชัดเจนมากขึ้นนะพี่
เพราะมีเกมลีกให้เล่นก่อนประมาณ 2-3 นัดถ้าโกยแต้มได้เยอะๆ
ก็คงไปเน้นในบอลถ้วยได้
โค้ชจุ่น : ใช่ครับ ตอนนี้เราก็ต้องเน้นเกมต่อเกมแล้วล่ะ
ก็หวังว่าจะรักษาความต่อเนื่องหลังจากพักเบรกทีมชาติเอาไว้ได้
แมน : โอเคครับพี่ งั้นวันนี้ผมรบกวนพี่จุ่นเท่านี้ดีกว่าครับ ขอบคุณมากนะพี่
โค้ชจุ่น : ได้ครับ ขอบคุณเหมือนกันครับแมน
ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)
เครดิต
https://m.thsport.com/column-1221.html และท่าน ป็อกกี้ จาก thailandsusu ครับ