เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงโตโยต้า ไทยลีก มองฟุตบอลไทยกำลังเจอวิกฤติแฟนบอลลดลง ส่งผลกระทบต่อสโมสร มีแนวโน้มถอนตัวเพราะถอดใจกว่า 20 ทีม

ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในหัวข้อ “ฟุตบอลไทย เติบโต หรือ หดตัว? แฟนบอลคือคำตอบ” โดยมีเนื้อหาดังนี้

“ในแวดวงผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยในทุกลีก ตั้งแต่ T1 ถึง T4 ทุกคนมีคำถามอยู่ในใจ มีความห่วงใย และกังวลอยู่ในแววตา ว่า “ฟุตบอลไทย จะฝ่าวิกฤตแฟนบอลไม่เข้าสนาม ได้อย่างไร?”

แม้เราจะเป็นฟุตบอลอาชีพ สโมสรทุกสโมสร ในทุกลีก อีกสถานะหนึ่งก็คือ “บริษัท” ที่ต้องอยู่ได้ด้วยผลประกอบการที่มีกำไร แต่ในหัวใจคนทำทีม และผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทย มากกว่าร้อยละ 90 ทำด้วยหัวใจที่รักฟุตบอล มากกว่าหวังผลกำไรจากฟุตบอล หรือผลประโยชน์อื่นๆ

การลงทุนสร้างสโมสรฟุตบอลในไทยลีก ตั้งแต่ T1 ถึง T4 จำนวน 122 ทีม มีเม็ดเงินรวมกันมากกว่า 5,000 ล้านบาท ในแต่ละปี และเป็นที่รับทราบกันว่าสโมสรเกือบทั้งหมด มีผลประกอบการขาดทุน ถ้าเป็นธุรกิจอื่นๆ คงเลิกกิจการกันไปมากกว่าครึ่งแล้ว

แต่สำหรับกิจการที่เรียกว่าฟุตบอลอาชีพ ผู้บริหารสโมสรทุกสโมสร ยังคงมีหัวใจสู้ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้จะขาดทุนและเจ็บปวดแค่ไหน ก็ยังสู้ และทำต่อไปด้วยความรัก ทั้งรักฟุตบอล รักบ้านเกิด และมีความหวังที่อยากเห็นฟุตบอลไทย เติบโต ก้าวหน้า ต่อไป

แต่วิกฤตแฟนบอลไม่เข้าสนาม เป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจของคนทำทีม ผู้บริหารสโมสร และนักฟุตบอลมากที่สุด หากแฟนบอลหันหลังให้สนามฟุตบอล ไม่เข้ามาชมในสนาม ไม่มาให้กำลังใจ นักฟุตบอล ไม่มาส่งเสียงเชียร์ อีกไม่นาน ฟุตบอลไทยที่เราภาคภูมิใจ และดีใจว่ามีการเติบโตมากที่สุดในเอเชีย และเป็นลีกอันดับหนึ่งของอาเซียน ก็มีโอกาสที่จะร่วงหล่นลงมา เป็นลีกอันดับท้ายๆ ของเอเชียได้เหมือนในอดีต

เสียงเชียร์ เสียงตะโกนในสนาม และกำลังใจจากแฟนบอล ไม่ได้ให้กำลังใจนักฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นกำลังใจ และเสียงเชียร์แก่ผู้บริหารสโมสร ให้มุ่งมั่น ตั้งใจทำทีมต่อไปอีกด้วย

วันนี้ หลายๆ สโมสร แม้หัวใจยังคิดสู้ แต่กำลังทรัพย์ที่ร่อยหรอ บางสโมสรมีความคิดเรื่องถอนทีมเพราะถอดใจ ผมได้ยินมาว่า จาก 122 ทีม ในปีนี้ อาจจะเหลือ 100 ทีม ในปีหน้า

นี่เป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า ฟุตบอลไทย กำลังเติบโต หรือหดตัว

คนทำทีมฟุตบอล ทำด้วยความรัก ทำด้วยหัวใจ เรื่องกำไร ขาดทุน เป็นเรื่องรอง ถ้าไม่ได้กำไร แต่ได้กำลังใจ ก็ยังพอยืนหยัดอยู่ได้ แต่ถ้าขาดทุนทั้งกำลังเงิน และกำลังใจ แฟนบอลไม่เข้าสนาม แล้วยังตามด่าในโลกโซเชียล แบบนี้เรียกว่าขาดทุนทั้งตัว และหัวใจ ไม่มีใครอยากทำต่อแน่ๆ

ผมจึงอยากขอเชิญชวนแฟนบอลไทย ที่บอกว่ารักฟุตบอลไทย อยากเห็นฟุตบอลไทยเติบโต เข้ามาชมฟุตบอลในสนามเถอะครับ เข้ามาช่วยกันสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน และสร้างความเติบโตให้ฟุตบอลไทย

ฟุตบอลไทยจะเติบโตไม่ได้เลย ถ้าไม่มีแฟนบอลอยู่ในสนามฟุตบอล

ไม่ว่าสมาคมฯ หรือ ไทยลีก จะมีผู้บริหารเก่งขนาดไหนก็ตาม แต่ “แฟนบอล” คือคนสำคัญที่สุดของวงการฟุตบอล

วันนี้ ขอเขียนถึงภาพรวมฟุตบอลไทย ด้วยความห่วงใย และต้องการให้กำลังใจคนทำทีม และผู้บริหารทุกๆ สโมสร

ผมบอกเพื่อนๆ คนทำทีมที่มาปรึกษากัน ว่า “ถ้าเราไม่ทิ้งทีม แฟนบอลจะไม่ทิ้งเรา”

ผมอยากจะบอกกับแฟนบอลทุกๆ สโมสร ว่าการเข้ามาชมฟุตบอลในสนาม คือการรักษาสโมสรฟุตบอลที่คุณรัก คุณชียร์ และเป็นการต่อลมหายใจให้ฟุตบอลไทย

“ถ้ารักฟุตบอลไทยจริง อย่าทิ้งฟุตบอลไทย”

เนวิน ชิดชอบ

บริหารทีมแบบนี้ยังหวังให้แฟนบอลเข้าไปอีกเหรอ แต่ละทีมเคยแสดงความมืออาชีพไหม ขนาดบรรทีมที่ดูดีที่สุดยังมีระบบลูกรัก ผัวสร้างเมียทำลาย
แล้วทีมที่เหลือมันทำอะไรให้แฟนบอลบ้างไหม เคยเข้าไปเชียร์ในสนามแต่สุดท้ายทีมกลายเป็นกลางตารางเพราะอะไรทั้งที่แฟนบอลช่วงนั้นเข้าไปเยอะมากๆ

เห็นด้วยครับ ผมว่าลดขนาดลีคให้เล็กลง แต่เพิ่มความเข้มข้นให้มากขึ้น สร้างคุณค่าให้มากขึ้นคือคำตอบครับ อีกอย่างว่ากันตามตรง ทีมฟุตบอลในบ้านเรามันไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของคนท้องถิ่นจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่า แฟนบอลก้ได้แต่เฮตามไป ทีนี้การเฮตามบางครั้งมันก็หมดลงได้ น่าจะดีกว่าที่จะกลับไปทบทวนการมีส่วนร่วม(เจ้าของร่วม) อย่างแฟนบอลอย่างแท้จริง

ช่วงนี้แทบทุกคนต้องประหยัด

ผมว่าบอลแตะสัปดาละนัดก็พอครับ

นอกจากช่วยลดรายจ่ายแล้ว

ยังช่วยเพิ่มความอยากดูได้ด้วย

เห็นด้วยครับ ผมว่าลดขนาดลีคให้เล็กลง แต่เพิ่มความเข้มข้นให้มากขึ้น สร้างคุณค่าให้มากขึ้นคือคำตอบครับ อีกอย่างว่ากันตามตรง ทีมฟุตบอลในบ้านเรามันไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของคนท้องถิ่นจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่า แฟนบอลก้ได้แต่เฮตามไป ทีนี้การเฮตามบางครั้งมันก็หมดลงได้ น่าจะดีกว่าที่จะกลับไปทบทวนการมีส่วนร่วม(เจ้าของร่วม) อย่างแฟนบอลอย่างแท้จริง

หลักๆคือคนไม่ซื้อบัตรไปดู หมายความว่าการดูบอลมันเป็นอะไรที่จรโลงในครับเหมือนซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยอะครับ สินค้าระดับพวกนี้มันจะส่งผลตรงกับสภาพเศรษฐกิจของคนชนชั้นกลางได้มากที่สุดครับ ซึ่งมันห่วยจริงๆๆห่วยมาสักพักแล้ว และกำลังขยายวงกว้างขึ้นครับ ไม่แปลกที่จะมีคนถอนตัวครับ โทรไปปรึกษาลุงตู่ครับว่าจะทำไงให้เม็ดเงินกระจายสูายุมชนหรือคนชนชั้นกลางครับ

บริหารทีมแบบนี้ยังหวังให้แฟนบอลเข้าไปอีกเหรอ แต่ละทีมเคยแสดงความมืออาชีพไหม ขนาดบรรทีมที่ดูดีที่สุดยังมีระบบลูกรัก ผัวสร้างเมียทำลาย
แล้วทีมที่เหลือมันทำอะไรให้แฟนบอลบ้างไหม เคยเข้าไปเชียร์ในสนามแต่สุดท้ายทีมกลายเป็นกลางตารางเพราะอะไรทั้งที่แฟนบอลช่วงนั้นเข้าไปเยอะมากๆ

ทีมใช้เงินจนหมด คนรวยคือนักบอลช่วงพีค แต่ตัวเกรด C จ้างซะ 80k เกรดทีมชาติหลายแสน

เพื่อให้คนมาดู ตอนนั้นใครๆ ก็อยากให้ทีมตัวเองมีคนสนใจ แต่พอถึงจุดนึงก็เริ่มปลง

ใครรักจริงก็ทำทีมต่อ ให้พนักงานมีงานทำ นักบอลมีทีมเล่น พัฒนาเยาวชนนี่ลงทุนถูกสุดแล้ว


เพิ่มเติม ... สมัยก่อนทีมเล็กๆ ต่างจังหวัดตั้งตารอบอลถ้วย อยากเจอชลบุรี เทโร ท่าเรือ

เพราะจะได้เห็นตัวทีมชาติ แฟนบอลเข้าเต็มสนาม แต่สมัยนี้ ขอเจอทีมดิวิชั่นเดียวกันก็พอ

ขี้เกียจเดินทางไกล เปลืองค่าใช้จ่าย นักเตะทีมชาติเริ่มจับต้องได้ง่าย เพราะบางคนกลับบ้านเกิด เจอกันง่าย

เหมือนของที่เราเคยอยากได้มากๆ แต่พอได้มาแล้วก็งั้นๆ อะ สักพักทิ้งๆ ขว้างๆ

อย่างแรกเลยครับ อย่างบุรีรัมย์ต้องเลิกให้เมียยุ่งและโจมตีแฟนบอลได้แล้ว เลิกด่านักเตะตัวเองออกสื่อ ลดค่าตั๋วลงอีกนิดกำไรไปเน้นเอาที่ของกิน ส่วนทีมอื่นผมว่าเขาทำลายศรัทธาแฟนบอลกันเองนะ

ทั้งหมด ถ้าสมาคมยังบริหารแบบมืออาชีพ
ผมว่าก็ยังไปต่อแบบก้าวหน้าได้นะ

ประเด็นที่อยากให้แก้
-เราจำเป็นไหม ที่ต้องเตะถึง3ถ้วย
-มาตราฐานลีคที่ต่ำกว่าลีคสูงสุด ใครไม่ผ่านเกณฑ์บอลอาชีพ สนาม งบการทำทีม รายรับรายจ่าย
ก็ตัดออกไปให้หมดเถอะ
-เรื่องกรรมการ มีvarแล้วก็ใช้ให้ดี ให้ถูกต้อง

ถ้าลดจำนวนทีม จำนวนลีค ลดการแข่งขันลง ก็ลดค่าใช่จ่ายของสโมสร กรรมการไม่กาก ไม่เอียง
ส.บอลบริหารให้เป็นมืออาชีพ

ระบบเยาวชนคือคำตอบปัจจุบันคนทำทีมส่วนใหญ่คือนักการเมืองทำเพื่อหวังผลทางการเมืองไม่ใช่ทำเพื่อชุมชนหรือบ้านเกิด คนท้องถิ่นเค้าไม่อินด้วย

ผมว่าสาเหตุที่ทำให้แฟนบอลลดลงมีดังนี้

1.นักเตะระดับสตาร์อย่าง มุ้ย,อุ้ม,เจ ไปเล่นเจลีก ทำให้แม่เหล็กที่จะดึงแฟนบอลเข้าสนามเพื่อมาดูนักเตะเหล่านี้มันหายไป
2.ตั้งแต่มีนักเตะไทยไปเจลีก คนติดตามเจลีกมากขึ้นซึ่งพอดูเจลีกเล่นแล้วเปลี่ยนมาดูไทยลีกเล่นมันต่างกัน มันเห็นภาพชัดๆว่าไทยลีกยังอ่อนกว่าเยอะเลยและไม่สนุก
3.ไทยลีกผูกขาดแชมป์กันอยู่ 2 ทีม ไม่บุรีรัมย์ฯก็เมืองทองฯ ความสนุกมันก็ลดลงพอแต้มเริ่มขาดลุ้นไม่ขึ้นคนก็หายหมด มาตรฐานระหว่างทีมใหญ่กับทีมเล็กมันห่างกันเยอะ ผิดกับบางลีกที่มีทีมลุ้นแชมป์กัน 4-5 ทีม อย่างเจลีกทุกทีมมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ได้หมดมาตรฐานใกล้เคียงกัน
4.สภาพเศรษฐกิจ มันก็กระทบกับคนที่คิดจะไปดูบอล ไปดูบอลทีนึงต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 300 บาท ดูทีวีอยู่บ้านยังดีกว่าไม่เสียเงินด้วย

นี่แหละคือสาเหตุว่าทำไมเขาถึงคิดจะเปิดโควต้าอาเซียน เพราะในเมื่อตลาดในประเทศเริ่มขายได้ยากก็ต้องหาตลาดจากนอกประเทศ ก็โมเดลเหมือนที่เจลีกทำเพราะเจลีกช่วงหลังๆคนดูก็ลดลงจากการที่พวกสตาร์ออกไปเล่นที่ยุโรปกันหมด เลยต้องหาทางออกด้วยการเพิ่มโควต้านักเตะชาติพันธมิตรเข้าไป ซึ่งก็ได้ผลทันตาพอเปิดโควต้านี้ปุ๊ปตั้งแต่มีนักเตะไทยไปเล่นก็ขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดมากขึ้น คนไทยหันมาติดตามเจลีกมากขึ้น เราเองก็ต้องเริ่มทำแบบนั้นบ้างแล้ว

เหมือนจะเป็นเรื่องที่แย่ แต่ถ้ามองกันดีๆ เหมือนว่าระบบมันเริ่มคัดกรองทีมที่มีคุณภาพ ทีมที่พร้อมให้อยู่กันต่อไป

การบริหารการจัดการของสมาคมที่เป็นไปในทางที่ดี หลายๆทีมเริ่มใส่ใจการสร้างนักเตะในอคาเดมี่ตัวเองมากขึ้น อย่างหลังนี้แหละครับ จะเซฟให้แต่ละทีมไม่หมดงบไปด้วยความสิ้นเปลือง ไม่ต้องไปจ้างนักบอลที่โอเวอร์เรต

หวังว่าในอนาคต การจัดการด้านแมตช์การแข่งขัน ที่ไม่เป็นการบั่นทอนทั้งคนดูที่ต้องเสียงบแบบรัวๆและแมตช์ที่กำหนดวันรวนเร กรรมการ จะดีขึ้นนะครับ เพราะที่เห็นตอนนี้ คือ แมตช์การแข่งขันถี่ยิบและพร้อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดจนทั้งแฟนบอลก็เริ่มไม่โอเค กรรมการที่ยังมีปัญหาในการตัดสินอยู่เรื่อยๆ

ต้องหันมาแจกข้าวกล่องแล้วแหละ เผื่อจะช่วยกระตุ้นได้

หลักๆเลย ขอเสนอให้บอลถ้วยเหลือแค่ FA cup อย่างเดียวก่อน อีกถ้วยตัดไปเถอะ ไร้สาระ ลอกเค้ามาแต่สุดท้ายกลายเป็นทำให้บอลไทยเสีย เพราะมันไม่มีความสำคัญ สู้เอาเงินของถ้วยเล็กไปใส่เป็นรางวัลเพิ่มของถ้วยหลักดีกว่า เพราะทุกวันนี้เศรษฐกิจมันไม่ดี บอลเตะถี่จนน่าเบื่อ ใครจะอยากไปดู ทำอะไรให้มันมีความขลังนิดนึง ไม่ใช่สักแต่เห็นว่ามีเงินสปอนเซอร์เข้ามาก็จัด สุดท้ายมันพัง เพราะจำนวนทีมในลีกยังกล้าลดได้ ตัดถ้วยเล็กไปอีกก็จะดีมาก ส่งผลดีทุกด้านแน่นอน

ส่วนเรื่องทีมจะยุบไปกี่ทีม อันนี้เป็นเรื่องของความสามารถในการจัดการ ก็คล้ายๆกับบริษัทในวงการอื่นนะแหละ อยู่ไม่ได้ก็ต้องปิดไป มันถือเป็นระบบคัดกรองตามธรรมชาติอยู่แล้ว

แล้วที่เนวินบอกว่า 90% ทำบอลด้วยใจรัก อันนี้ผมขำ เพราะทุกวันนี้เห็นมีแต่นักการเมืองมาทำ ทั้งที่ก่อนหน้าบอลลีกจะบูมไม่เห็นมีใครออกหน้าออกตาเรื่องบอลเท่าไร พอบูมนี่ทำกันพรึ่บไปหมด ผมไม่เถียงว่าเนวินรักฟุตบอลจริงๆ แต่อีกหลายๆทีม หลายๆจังหวัดผมไม่แน่ใจครับ

ผมเห็นด้วยเหมือนเม้นบนๆ ที่ว่าให้ระบบมันคัดกรองทีมคุณภาพจริงๆ

และขนาดลีกที่เล็กเพื่อเพิ่มคุณภาพ ทำให้ค่าบัตรที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยมีราคามากขึ้น

เห็นด้วยเรื่องลดจำนวนถ้วยลงนะ ผมว่าในประเทศสองถ้วยก็พอ ไปเน้นพวกบอลนักเรียนให้โชว์ฝีเท้าให้สโมสรเห็นดีกว่า