ยิงให้ JK ดู!พูลิซิชสำรองเบิ้ล 'เสือเหลือง' แซงดับหงส์ 3-1
เยอร์เก้น คล็อปป์มีลูบปากหลังจากคริสเตียน พูลิซิชแข้งเป้าหมายลงเป็นสำรองก่อนยิงคนเดียว 2 ประตูและยาค็อบ บรุน ลาร์เซ่นมาปิดท้ายพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ที่เกมเป็นรองแต่เด็ดขาดกว่าแซงชนะลิเวอร์พูล 3-1 เก็บชัยชนะ 2 นัดในศึก ICC 2018
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
32.
โยเอล มาติป
22'
6
4.
เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค
46'
7
26.
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
46'
6.5
2.
นาธาเนี่ยล ไคลน์
62'
6.5
3.
ฟาบินโญ่
46'
6
20.
อดัม ลัลลาน่า
46'
6
27.
ดิว็อค โอริกี้
46'
6
50.
ลาซาร์ มาร์โควิช
46'
6
64.
ราฟาเอล คามาโช่
46'
6
ตัวสำรอง
7.
เจมส์ มิลเนอร์
46'
6.5
17.
รักนาร์ คลาวาน
46'
6
12.
โจ โกเมซ
22'
6
18.
อัลเบร์โต้ โมเรโน่
46'
5.5
29.
โดมินิก โซลันกี้
46'
6
8.
นาบี เกอิต้า
46'
7
54.
เชยี่ โอโจ้
46'
6
58.
เบน วู้ดเบิร์น
46'
6.5
47.
นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์
62'
6
อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ
สนาม แบงค์ ออฟ อเมริกา สเตเดี้ยม
อาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2561
กรรมการ
ลิเวอร์พูล
1
3
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
1-0 เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค 25'
1-1 คริสเตียน พูลิซิช 67' (Pen.)
1-2 คริสเตียน พูลิซิช 89'
1-3 ยาค็อบ บรุน ลาร์เซ่น 90+2'
ลิเวอร์พูลประเดิมเกมแรกในศึก ICC โดยยังไม่มีบรรดานักเตะดังอย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่รวมถึงอลิสซอนลงสนามแต่แนวรับค่อนข้างแกร่งนำมาโดยเวอร์กิล ฟาน ไดจ์คและโยเอล มาติปส่วนแดนกลางฟาบินโญ่นำทัพมาพร้อมเจ้าหนูเคอร์ติส โจนส์แล้วทิ้งให้ดิว็อค โอริกี้ยืนค้ำในแดนหน้า ส่วนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์นัดแรกเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาได้นัดนี้ใส่นักเตะสำรองเป็นตัวจริงก่อนเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ยังมีดาวดังอย่างนูริ ซาฮิน,มาห์มูด ดาฮูดคอยประคองเกม
โธ่อู๊ด!เคลียร์ห่วยจัดยังดีไม่เสียประตู
เปิดเกมมาไม่ทันไรลอริส คาริอุสโชว์เหวอก่อนเลยเมื่อออกมาเคลียร์บอลนอกกรอบเขตโทษไม่ดีไปเข้าทางฟิลิปป์ยิงสวนกลับมาทันทีแต่รีบร้อนไปหน่อยทำให้บอลค่อยๆกระดอนก่อนออกหลังไม่ตรงกรอบ
ผลัดกันครองบอลดูเชิง
เกมผ่านมา 15 นาทีทั้งสองฝ่ายสลับกันครองบอลและไล่แย่งบอลมาครองโดยลิเวอร์พูลเหมือนวูบวาบมากกว่าในพื้นที่สุดท้ายแต่ก็ยังไม่มีจังหวะอันตรายให้เห็นส่วนดอร์ทมุนด์ยังแทบเจาะแนวรับของทีมอังกฤษไม่เข้าเลย
มาติปเดี้ยงอีกโกเมซแทน
หงส์แดงต้องเปลี่ยนตัวเร็วเลยเมื่อโยเอล มาติปมีปัญหาบาดเจ็บต้องเดินออกจากสนามไปก่อนแล้วส่งเอาโจ โกเมซลงสนามมาเล่นแทนตั้งแต่ช่วงต้นเกม
เต็มหัว!VvD โขกตุงหงส์เฮ 1-0
หลังจากดอร์ทมุนด์ครองเกมอยู่นานกลับเป็นลิเวอร์พูลได้ประตูออกนำไปก่อนจากคอนเนอร์ทางซ้ายเล่นสั้นมาให้โรเบิร์ตสันตั้งป้อมครอสเข้ากลางฟาน ไดจ์คกระโดดโขกคนเดียวโล่งๆแบบที่ไม่มีนักเตะดอร์ทมุนด์ขึ้นมาเบียดเลยไม่พลาดบอลพุ่งเสียบตาข่ายเต็มๆ 1-0
หงส์บีบหนักเสือเหลืองครองเกมไม่ได้
เกมของดอร์ทมุนด์ช็อตไปเลยโดนลิเวอร์พูลเพรสซิ่งเร็วเข้าใส่ตลอดทำให้กลายเป็นหงส์แดงที่กลับมาครองบอลได้มากกว่าแต่สามผสานแดนหน้ายังต่อกันไม่ค่อยติดเท่าไหร่ทำให้โอกาสยิงเพิ่มไม่มีให้เห็น
เสือเหลืองสวนเร็ว
เสือเหลืองขึ้นเกมมาได้สวยจังหวะนี้เป็นการสวนกลับเร็วดาฮูดกระชากมาถึงหน้าปากเขตโทษแล้วโดนบีบให้ต้องถ่ายบอลออกขวาก่อนเป็นโวลฟ์เปิดยัดมาที่เสาแรกคาริอุสล้มตัวคว้าเอาไว้กระฉอกนิดหน่อยแต่เอาอยู่
ส์เปลี่ยนเพียบ หริด,เกอิต้า, รอยส์, เกิทเซ่
ลงมาครึ่งหลังเปลี่ยนนักเตะกันหลายตำแหน่งลิเวอร์พูลนำมาโดยนาบี เกอิต้า, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, เจมส์ มิลเนอร์, โดมินิก โซลันกี้ ส่วนดอร์ทมุนด์เปลี่ยนเพียบเหมือนกันคริสเตียน พูลิซิช, มาริโอ เกิทเซ่
มิลเนอร์ปั่นข้ามคานไม่มาก
โอกาสจบครั้งแรกของครึ่งหลังเป็นโมเรโน่ตามไปเก็บบอลจากริมเส้นซ้ายก่อนไหลคืนมาให้มิลเนอร์ตั้งป้อมปั่นโค้งด้วยขวาจากระยะกว่า 25 หลาบอลโค้งข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้นทีเดียว
หริดกดซ้ายหลุดเสาขวา
สเตอร์ริดจ์ลงมาวูบวาบใช้ได้มีส่วนในเกมรุกหลายครั้งคราวนี้ลากบอลขึ้นมาเองก่อนเห็นช่องเลยยิงด้วยซ้ายระยะ 20 หลาบอลพุ่งเรียดแล้วแต่ไม่ตรงกรอบหลุดออกหลังไปเท่านั้น
มิลเนอร์หยอดสวยกี้โขกออกเฉย
ไม่น่าเชื่อว่าหงส์แดงไม่ได้ประตูเพิ่ม มิลเนอร์เล่นคอนเนอร์สั้นทางซ้ายก่อนหลุดไปได้โยนผ่านทางเสาไกลให้โซลันกี้กระโดดโขกดีแล้วแต่โหม่งบอลผ่านหน้าประตูออกหลังไปเสียอย่างนั้น
โอโจ้หลุดเดี่ยวยิงชนคาน
ลิเวอร์พูลอดขึ้นนำห่างอีกประตูเมื่อสเตอร์ริดจ์ล็อคอย่างสวยก่อนแทงให้โอโจ้หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าแต่ดันยิงไปติดขาของฮิตซ์ก่อนบอลกระดอนชนคานเกอิต้าปรี่เข้าซ้ำไม่ถึงโดนเคลียร์ทิ้งไปก่อน
พูลิซิชเรียกโทษยิงเอง 1-1
ดอร์ทมุนด์มีโอกาสตีเสมอเมื่อพูลิซิชลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนล็อคหนีคลาวานแล้วโดนเกี่ยวล้มกรรมการเป่าทันทีเป็นพูลิซิชลุกขึ้นมายิงเองไปตรงกลางไม่พลาดเสมอกัน 1-1
เผาไม้ซัดตรงโกล
วู้ดเบิร์นได้โอกาสสองครั้งคราวแรกเกอิต้ากระชากเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลให้แต่จับห่างไปไม่ได้ยิงแล้วจังหวะต่อมาเจ้าหนูเผาไม้กลับตัวยิงหน้าปากเขตโทษแต่บอลไปตรงตัวฮิตซ์
โกเมซโขกเข้ามือฮิตซ์
ลูกกลางอากาศดอร์ทมุนด์สู้ไม่ได้จริงๆคราวนี้ลิเวอร์พูลเตะมุมทางขวามิลเนอร์โยนมาทางเสาไกลโกเมซได้โขกแต่บอลไม่หนีมือฮิตซ์ที่คว้าเอาไว้ทัน
พูลิซิชอีกดอก!เสือเหลืองแซง 2-1
การสวนกลับของดอร์ทมุนด์ทำให้พวกเขาได้ประตูอีกแล้วเป็นการทำชิ่งกลางสนามก่อนชเมลเซอร์หลุดโล่งโจ้งขึ้นมาทางซ้ายแล้วไหลเข้ากลางพูลิซิชจับก่อนยิงเสียบโคนเสาซ้ายมือไม่เหลือ 2-1
อู๊ดปัดเข้าทางลาร์เซ่นซ้ำ 3-1
ดอร์ทมุนด์มาได้อีกประตูเมื่อพูลิซิชลากมายิงด้วยซ้ายบอลพุ่งแรงคาริอุสปัดมาเข้าทางปืนของบรุน ลาร์เซ่นซ้ำในกรอบหกหลาไม่เหลือ 3-1 และเป็นประตูปิดกล่องในเกมนี้
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
Starting Formation: 4-1-4-1
4.
อับดู ดิอาโล่
46'
6
8.
นูริ ซาฮิน
46'
6
45.
โซเรน เดี๊ยคมันน์
46'
6
43.
เดนเซล บาดูอัดเย
46'
6
19.
มาห์มูด ดาฮูด
46'
6
7.
ยาดอน ซานโช่
46'
6
27.
มาริอุส โวลฟ์
46'
6
20.
มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์
46'
6
ตัวสำรอง
29.
มาร์เซล ชเมลเซอร์
46'
6
10.
มาริโอ เกิทเซ่
46'
6
32.
เซนิส บูร์มิช
46'
6
22.
คริสเตียน พูลิซิช
46'
8
34.
ยาค็อบ บรุน ลาร์เซ่น
46'
6.5
17.
เซร์คิโอ โกเมซ
46'
6
14.
อเล็กซานเดอร์ ไอชาค
46'
6
42.
อามอส ปีเปอร์
46'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Mon Jul 23, 2018 06:45, ทั้งหมด 17 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
