มาร์กแซล เดอไซญี่ จากมิลานสู่เชลซี!!
ในยุค 90s ที่ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม คือกัลโช่ เซเรีย อา เป็นแหล่งรวมสตาร์ และให้ค่าจ้างสุดแพง ไม่ก็ไปบาร์ซ่า, มาดริด และทีมใหญ่ๆ ใน ลา ลีกา ที่งบเยอะกว่าทีมพรีเมียร์ ลีก มาก
.
เชลซี คือทีมที่มักดึงดาวดังมาร่วมทีมได้เป็นประจำ เรียกว่าถ้าเอากันแค่ชื่อเสียงนอกเกาะอังกฤษแล้วละก็ นักเตะของเชลซีมีตัวดังเพียบ แม้บางรายจะเลยจุดพีคมาแล้ว แต่ใช่พวกนี้จะหมดสภาพซะที่ไหน
.
หนึ่งในคนที่เข้ามาเป็นเสาหลักของเชลซี พร้อมกับส่งต่อประสบการณ์ไปยังรุ่นน้องต่อๆ ไปคือ มาร์กแซล เดอไซญี่
.
เดอไซญี่ ผ่าน น็องต์, มาร์กเซย และ มิลาน ในยุครุ่งเรือง กวาดแชมป์ระดับสโมสรมาเยอะ เด่นทั้งในตำแหน่งกองหลังและมิดฟิลด์ตัวรับ แถมเพิ่งได้แชมป์โลกมาหมาดๆ
.
ซัมเมอร์ 1998 เอซี มิลาน พยายามลดค่าใช้จ่าย หลังเซ็นนักเตะดังตัวต่างชาติใหม่ ทั้ง เยนส์ เลห์มันน์, โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์, โธมัส เฮลเว็ก, โรเบร์โต้ อยาล่า ไหนจะพวก ซโวนิเมียร์ โบบัน, จอร์จ เวอาห์, เลโอนาร์โด้ ที่มีอยู่แล้วอีก
.
ทางออกคือการปล่อยตัวเก่า เดอไซญี่ อยู่ในข่ายนี้ก็พอดี โคลิน ฮัทชินสัน ผู้อำนวยการของเชลซี ติดต่อเข้ามา
.
ให้ตายเถอะในปี 1998 แล้ว เดอไซญี่ ไม่รู้จัก เชลซี ฟุตบอล คลับ ซะงั้น
"เชลซี? เชลซีไหน ? พวกคุณพูดเรื่องอะไรเนี่ย? ผมไม่เคยได้ยินชื่อเชลซีมาก่อนเลยตอนนั้น"
.
ในความเป็นจริง ลิเวอร์พูล ก็อยากได้ตัว เดอไซญี่ เช่นกัน แต่เขาอยากย้ายไปเมืองที่มีโรงเรียนที่สอนเป็นภาษาฝรั่งเศสให้ลูกๆ ซึ่งลิเวอร์พูลไม่มีในขณะนั้น ทางเลือกของ เดอไซญี่ จึงต้องเป็นลอนดอน
.
"เอาล่ะ งั้นก็ลองไปดูสโมสรของคุณกันหน่อยซิ" แล้วในที่สุดก็มีการเซ็นสัญญากัน
.
สำหรับโลกลูกหนังในเวลานั้นรู้ดีว่า มาร์กแซล เดอไซญี่ ในวัย 30คือแนวรับที่เก่งมาก ประสบการณ์ข้นคลั่ก ฝีเท้าเยี่ยม มีความเป็นผู้นำ แน่นอนสำหรับ เดอไซญี่ เองเขาก็มั่นใจเช่นนั้น เขาผ่าน ลีก เอิง และผ่าน กัลโช่ เซเรีย อา ในยุคทองมาแล้ว จะต้องไปกลัวอะไรกับลีกอังกษ ที่ไม่ได้ดีเด่อะไร
.
แต่ปรากฏว่าความผยอง และความมั่นใจในตัว เดอไซญี่ พังพินาศทันที
"ผมหมดท่าเลย อีโก้ผมโดนขยี้แหลก พูดตรงๆ เลย การดวลกับ ดิออน ดับลิน, ดันแคน เฟอร์กูสัน - พวกตัวใหญ่ๆ ลูกโหม่งชง ความใจสู้ เวลาเจอกับทีมอย่าง โคเวนทรี, ซันเดอร์แลนด์ โดนบอลยาวสาดมา ผมทำอะไรไม่ได้เลย"
.
"ในฝรั่งเศส และอิตาลี ผมคือคนแข็งแรง ผมจะมองตาพวกกองหน้าแล้วพวกเขาจะรู้ว่า "วันนี้แกทำอะไรไม่ได้หรอก" พวกนั้นจะหลบตาและยอมรับว่าผมเป็นฝ่ายชนะ แต่ในอังกฤษ ไม่ใช่เลย พวกเขาพร้อมสู้ กองหน้าจะเข้าชนคุณ ผมหดหู่อยู่ถึง 4 เดือน!!"
.
การยอมรับของ เดอไซญี่ ไม่แปลกเลยที่ใครก็ตามชอบอ้างว่า ปรับตัวกับบอลอังกฤษไม่ง่าย มันคือเรื่องจริง มันต่างจากที่อื่น
.
อย่างไรก็ดี เดอไซญี่ ไม่ใช่นักเตะกระจอก เขาค่อยๆ เรียนรู้ปรับตัว เอาวีดีโอ มาศึกษา ก่อนจะตระหนักได้ว่าที่พรีเมียร์ ลีก นี่เขาไม่ใช่คนที่แข็งแรงที่สุด โดดสูงที่สุดแบบไร้เทียมทานอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องไปแย่งโขกทุกลูก ไม่ต้องประกบติดทุกลูก อ่านจังหวะเอา รอดักจังหวะสองเวลาคู่แข่งโขกชง และสถาปนาตัวเองเป็นเสาหลักให้เชลซีได้สำเร็จ
.
มาร์กเซย เดอไซญี่ เล่นกับเชลซีอยู่ถึง 6 ปี อำลาไปหลังจบซีซั่น 2003/04 ด้วยวัย 36 โดยหนึ่งในเด็กหนุ่มที่เขาถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ให้ ท้ายที่สุดขึ้นมาเป็นกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร ...
จอห์น เทอร์รี่ นั่นเอง
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1108750839273834&id=856710254477895
#กองบัญชาการซอคเก้อร์