ประเทศต้อนรับอย่างสวยงามอ่ะ ประชากรคุณภาพแท้ 4.4 ล้านคน ต้อนรับอบอุ่น

ตัดภาพกลับไปเมืองที่ได้แชมป์โลก



 

...ไม่เสียใจที่รักเธอ...

ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทีมฟุตบอลโครเอเชียเลยทั้งที่ผมเริ่มเชียรมาตั้งแต่ปี 1994 .. แมทชiรอบคัดเลือกยูโร 96 ที่โครเอเชียเอาชนะอิตาลีไปได้ 2-1 .. แล้วผมก็เชียรเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้.. 24 ปีเต็ม...

สมหวังสุดก็คืออันดับสามฟร๊องซ 98 แต่ครั้งนี้คือที่สุดกว่ากับอันดับสองในรัสเซีย 2018

เลยอยากขอระบายความในใจบ้างว่า

เห็นทีมที่เรารัก และตามเชียรมาเนิ่นนานมาได้ไกลขนาดนี้ต้องบอกว่าไม่เคยเสียใจ แต่เอาเข้าจริงการแพ้ไปอย่างน่าเจ็บใจ 4-2 มันทำให้ค่อนข้างทำใจลำบาก .. หากเป็นการแพ้แบบหมดรูป สู้ไม่ได้ คงไม่เสียดาย แต่นี่สู้ได้สร้างความหนักใจให้กับทีมทุกทีมที่เจอได้ .. บอกตรง ๆ ว่าทำใจค่อนข้างลำบาก

น้ำตาผมไหลตั้งแต่แมทชที่เอาชนะอังกฤษด้วยความตื้นตัน .. แล้วก็เป็นน้ำตาอีกครั้งที่ไหลเพราะความพ่ายแพ้ในแมทชชิง .. ไม่ได้เสียใจที่ร้องไห้นะ แต่เสียดายที่มันน่าจะได้ดีกว่านี้..

ย้อนกลับมาในส่วนของหน้าที่การงานของผม ประจวบเหมาะให้เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้าผมได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานที่ประเทศในฝันของผม "โครเอเชีย" นี่แหละ(ผมทำงานเป็นช่างภาพ) ได้เดินทางตั้งแต่เมืองทางตอนเหนืออย่าง Zagreb > แคว้น Dalmatia > Sibenik > Trogir > Split > Dubrovnik เมืองทางตอนล่างสุด.. ประเทศนี้มีขอบชายแดนติดทะเลเอเดรียติคที่สวยงามน้ำใสตั้งแต่ในฝั่งพ้นออกไปไม่ถึง 2 เมตรก็น้ำใสแล้ว..

เมืองทุกเมืองมีประวัติศาสตรมากมาย แต่ละเมืองที่ผมได้ไปมาเป็นเมืองมรดกโลกแทบทั้งสิ้น แล้วอะไรหรือที่ทำให้ประเทศในฝันนี้ยิ่งงดงาม.. คำตอบคือ รอยยิ้ม ความเป็นระเบียบของบ้านเมือง ความสะอาด ที่ประเทศมีชื่อเสียงหลายแห่งในยุโรปอย่างปารีส หรือกรุงโรม ก็ยังมีความเป็นระเบียบและสะอาดไม่เท่า .. หลายสิ่งหลายอย่างทำให้รู้สึกยิ่งรัก และผูกพันมากขึ้นกว่าเดิมเพราะโอกาสที่ได้สัมผัสมา

กลับเข้าเรื่องการเฉลิมฉลอง พอมาเห็นคลิปวิดีโอที่โพสจากทางสหพันธฟุตบอลของโครเอเชียเอาลงแล้วบอกได้คำเดียว "น้ำตาซึมครับ" ..

ปล. ส่วนนี่คือเพจของสหพันธุ์ https://www.facebook.com/cff.hns/ ใครอยากไปให้กำลังใจ หรือติดตามขุนพลหมากรุกกันต่อไปก็เข้าไปพิมพกันได้เนาะ.. ผมเองพิมพไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วพิมพไปน้ำตาซึมไป