ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 9217
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 14:00
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
Spoil
Juve_Joop พิมพ์ว่า:
ก็มีเรื่องราวความเป็นมาผ่านทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดขึ้นลงสลับกันไปน่ะครับ แฟนๆร่วมสมัยจะรู้ดีแต่มันเรียบเรียงคำพูดได้ยากไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ผลงานในยุโรปก็เคยยิ่งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1980-2000 ช่วงเวลานี้เคยเข้าชิงยุโรป 3 ปีต่อเนื่อง มีนักเตะได้บัลลงดอร์ 4 ปีต่อเนื่อง เป็นทีมที่มีนักเตะได้บัลลงดอร์เป็นอันดับ 2 ของยุโรปคือ 9 ครั้ง (ซิโวรี่-1 รอสซี่-1 บาจโจ้-1 พลาตินี่-3 ซีดาน-1 เนดเวด-1 คันนาวาโร่-1)

เรื่องดราม่าก็อย่างที่ทราบกันคือโดนปรับให้ตกชั้นและหักแต้มลงไปดิวิชั่น 2 (เซเรียบี) จากข้อหาไปล๊อบบี้ประธานผู้ตัดสิน ให้เลือกผู้ตัดสินที่มีแนวโน้มว่าจะเป่าแล้วเอื้อผลประโยชน์มากที่สุด ซึ่งเคสนี้ไม่ได้จ้างผู้ตัดสินโดยตรง ไม่ได้ติดสินบน ผู้ตัดสินก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกเลือก โค้ชและนักเตะก็เล่นไปตามหน้าที่โดยไม่รู้เรื่องและส่วนเกี่ยวข้องใดๆ) สุดท้ายคือ ลูซาโน่ มอจจี้ ผู้บริหารในตอนนั้นที่มีการเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์ไปหาประธานผู้ตัดสินจริงๆคือผู้มีความผิดคนเดียว แต่ก็ส่งผลให้ยูเว่ทั้งทีมถูกปรับให้ตกชั้นและริบแชมป์สองปีล่าสุดนั้นให้กับรองแชมป์(คืออินเตอร์ และสุดท้ายก็มีการตัดสินว่าอินเตอร์ก็มีความผิดด้วยเช่นกัน แต่คดีนั้นหมดอายุความไปแล้ว)

จากการที่ถูกปรับตกชั้น ทำให้นักเตะแกนหลักขอย้ายถึง 6 คน (ซามบร๊อตต้า ตูรามไปบาร์ซ่า, คันนาวาโร่ เอเมอร์สันไปมาดริด, อิบรา วิเอร่าไปอินเตอร์ แม้แต่โค้ชผู้นำแห่งชัยชนะอย่าง คาเปลโล่ ก็ถูกแทนที่ด้วย ดิดิเย่ร์ เดชองส์) ทีมทำท่าจะแตกเป็นเสี่ยงๆขณะเดียวกันก็มีกลุ่มนักเตะแกนหลักอีกครึ่งหนึ่งยันยืนที่จะอยู่กับทีมต่อไปซึ่งก็คือ เดล บุฟฟ่อน คาโมราเนซี่(แชมป์โลกเวิร์ลคัพ 2006) เทรเซเกต์(รองแชมป์โลกเวิร์ลคัพ 2006) เนดเวด(บัลลงดอร์ 2003) อันเป็นที่กล่าวขานและเข้าไปนั่งลึกอยู่ในหัวใจของแฟนบอลยูเวนตุสทุกคนตลอดกาลครับ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ถ้าไม่มี 5 คนนี้ ทุกวันนี้ยูเว่อาจเป็นแค่ทีมระดับเซเรียบีก็ได้

สภาพทีมที่ล้มลุกคลุกคลาน แต่นักเตะและโค้ชก็ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างมืออาชีพจนกระทั่งผ่านพ้นไป 1 ปีกับแชมป์เซเรียบี ในที่สุดยูเวนตุสก็กลับมาเซเรียอา พร้อมกับเพชรที่ถูกเจียระไนอย่าง เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้ และจอร์โจ้ คิเอลลินี่ โดยที่มี รานิเอรี่ เข้ามาแทนการจากไปของ เดชองส์ แล้วทีมก็ต้องพบกับความผิดหวังเรื่อยมาตลอดสามปีที่กลับมา พวกเราได้แต่นั่งมองความสำเร็จของมิลานและอินเตอร์ ในขณะทีมที่เรากลับแย่ลงทุกที ผู้นำจาก รานิเอรี่ เป็น แฟร์ราร่า จากแฟร์ราร่า มาเป็น ซัคเคโรนี่ จากซัคเคโรนี่ มาเป็น เดลเนรี่ จนกระทั้งมาถึงอันโตนิโอ คอนเต้

ตอนเต้นั้นแตกต่างจากโค้ชหลายๆคนก่อนหน้านี้ในเรื่องของแพชชั่นและการทำงานหนัก เขาหล่อหลอมรวมพลังให้ทีมกลับขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดอีกครั้งโดยการเป็นแชมป์ไร้พ่ายเฉลิมฉลองสนามแห่งใหม่ของพวกเขาเอง ตลอดเวลาสามปีคอนเต้ได้เสริมสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเสริมสร้างทัศนคติของผู้ชนะให้กับนักเตะทุกคน และส่งไม้ต่อให้อัลเลกรี้ และก็เป็นอัลเลกรี้ที่เข้ามาเติมเต็มให้ทีมสมบูรณ์แบบมากขึ้น เวลาผ่านไปหลายปีตำนานผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขต่างก็ร่วงโรยสังขารไปตามวัย เหลือเพียง บุฟฟ่อน มาร์คิซิโอ คิเอลลินี่ ที่อยู่ฝ่าฟันอุปสรรคมากับทีมจนถึงตอนนี้เคียงข้างไปกับยอดนักเตะรุ่นใหม่ที่ถูกเสริมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดบุฟฟ่อนก็โบกมือลาไปตามวิถีของฟุตบอล

ปล.เมื่อพูดถึงคดีกัลโช่โปลี แฟนจูฟไม่เคยคิดว่าเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติศาสตร์เลยครับ ตรงกันข้ามพวกเรากลับมองเป็น 1 ในเรื่องราวที่สวยงามและภาคภูมิใจมากกว่าที่ได้รำลึกถึงนักเตะในตำนานทั้ง 5 คนนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่แฟนจูฟไม่พอใจเมื่อมีคนมาแขวะเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเพราะพวกเราโกรธที่มีคนด่าว่าเป็นทีมขี้โกงหรอกครับ แต่เป็นเพราะพวกเราไม่พอใจที่อยู่ๆมีใครไม่รู้ที่ไม่รู้จักเรื่องราว มาเหยียบย่ำความภาคภูมิใจและความทรงจำที่สวยงามของพวกเรามากกว่า

ส่วนความสำเร็จต่างๆก็หาได้จากวิกิครับ มีแค่ UCL ที่ได้รองแชมป์มากกว่าเป็นแชมป์ 555

 
 


เสริมให้เจ้าของกระทู้
เรื่องเดลกับกัลโช่โปลี และประโยคที่ลืมได้ยาก เมื่อเขาปฏิเสธการย้ายไปทีมอื่นๆ

"true gentleman never leaves his lady"
"สุภาพบุรุษที่แท้จริงจะไม่เคยทอดทิ้งผู้หญิงของเขา"

คำตรงนี้มันสวยยิ่งขึ้น เพราะเป็นคำที่มาเล่นกับฉายาของยูเวนตุสในอิตาลี
ซึ่งฉายานั้นคือ "หญิงชรา" (La Vecchia Signora)

แก้ไขล่าสุดโดย Contingency เมื่อ Fri Jul 06, 2018 14:02, ทั้งหมด 1 ครั้ง
8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Jan 2009
ตอบ: 983
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 15:00
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
Contingency พิมพ์ว่า:
Spoil
Juve_Joop พิมพ์ว่า:
ก็มีเรื่องราวความเป็นมาผ่านทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดขึ้นลงสลับกันไปน่ะครับ แฟนๆร่วมสมัยจะรู้ดีแต่มันเรียบเรียงคำพูดได้ยากไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ผลงานในยุโรปก็เคยยิ่งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1980-2000 ช่วงเวลานี้เคยเข้าชิงยุโรป 3 ปีต่อเนื่อง มีนักเตะได้บัลลงดอร์ 4 ปีต่อเนื่อง เป็นทีมที่มีนักเตะได้บัลลงดอร์เป็นอันดับ 2 ของยุโรปคือ 9 ครั้ง (ซิโวรี่-1 รอสซี่-1 บาจโจ้-1 พลาตินี่-3 ซีดาน-1 เนดเวด-1 คันนาวาโร่-1)

เรื่องดราม่าก็อย่างที่ทราบกันคือโดนปรับให้ตกชั้นและหักแต้มลงไปดิวิชั่น 2 (เซเรียบี) จากข้อหาไปล๊อบบี้ประธานผู้ตัดสิน ให้เลือกผู้ตัดสินที่มีแนวโน้มว่าจะเป่าแล้วเอื้อผลประโยชน์มากที่สุด ซึ่งเคสนี้ไม่ได้จ้างผู้ตัดสินโดยตรง ไม่ได้ติดสินบน ผู้ตัดสินก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกเลือก โค้ชและนักเตะก็เล่นไปตามหน้าที่โดยไม่รู้เรื่องและส่วนเกี่ยวข้องใดๆ) สุดท้ายคือ ลูซาโน่ มอจจี้ ผู้บริหารในตอนนั้นที่มีการเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์ไปหาประธานผู้ตัดสินจริงๆคือผู้มีความผิดคนเดียว แต่ก็ส่งผลให้ยูเว่ทั้งทีมถูกปรับให้ตกชั้นและริบแชมป์สองปีล่าสุดนั้นให้กับรองแชมป์(คืออินเตอร์ และสุดท้ายก็มีการตัดสินว่าอินเตอร์ก็มีความผิดด้วยเช่นกัน แต่คดีนั้นหมดอายุความไปแล้ว)

จากการที่ถูกปรับตกชั้น ทำให้นักเตะแกนหลักขอย้ายถึง 6 คน (ซามบร๊อตต้า ตูรามไปบาร์ซ่า, คันนาวาโร่ เอเมอร์สันไปมาดริด, อิบรา วิเอร่าไปอินเตอร์ แม้แต่โค้ชผู้นำแห่งชัยชนะอย่าง คาเปลโล่ ก็ถูกแทนที่ด้วย ดิดิเย่ร์ เดชองส์) ทีมทำท่าจะแตกเป็นเสี่ยงๆขณะเดียวกันก็มีกลุ่มนักเตะแกนหลักอีกครึ่งหนึ่งยันยืนที่จะอยู่กับทีมต่อไปซึ่งก็คือ เดล บุฟฟ่อน คาโมราเนซี่(แชมป์โลกเวิร์ลคัพ 2006) เทรเซเกต์(รองแชมป์โลกเวิร์ลคัพ 2006) เนดเวด(บัลลงดอร์ 2003) อันเป็นที่กล่าวขานและเข้าไปนั่งลึกอยู่ในหัวใจของแฟนบอลยูเวนตุสทุกคนตลอดกาลครับ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ถ้าไม่มี 5 คนนี้ ทุกวันนี้ยูเว่อาจเป็นแค่ทีมระดับเซเรียบีก็ได้

สภาพทีมที่ล้มลุกคลุกคลาน แต่นักเตะและโค้ชก็ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างมืออาชีพจนกระทั่งผ่านพ้นไป 1 ปีกับแชมป์เซเรียบี ในที่สุดยูเวนตุสก็กลับมาเซเรียอา พร้อมกับเพชรที่ถูกเจียระไนอย่าง เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้ และจอร์โจ้ คิเอลลินี่ โดยที่มี รานิเอรี่ เข้ามาแทนการจากไปของ เดชองส์ แล้วทีมก็ต้องพบกับความผิดหวังเรื่อยมาตลอดสามปีที่กลับมา พวกเราได้แต่นั่งมองความสำเร็จของมิลานและอินเตอร์ ในขณะทีมที่เรากลับแย่ลงทุกที ผู้นำจาก รานิเอรี่ เป็น แฟร์ราร่า จากแฟร์ราร่า มาเป็น ซัคเคโรนี่ จากซัคเคโรนี่ มาเป็น เดลเนรี่ จนกระทั้งมาถึงอันโตนิโอ คอนเต้

ตอนเต้นั้นแตกต่างจากโค้ชหลายๆคนก่อนหน้านี้ในเรื่องของแพชชั่นและการทำงานหนัก เขาหล่อหลอมรวมพลังให้ทีมกลับขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดอีกครั้งโดยการเป็นแชมป์ไร้พ่ายเฉลิมฉลองสนามแห่งใหม่ของพวกเขาเอง ตลอดเวลาสามปีคอนเต้ได้เสริมสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเสริมสร้างทัศนคติของผู้ชนะให้กับนักเตะทุกคน และส่งไม้ต่อให้อัลเลกรี้ และก็เป็นอัลเลกรี้ที่เข้ามาเติมเต็มให้ทีมสมบูรณ์แบบมากขึ้น เวลาผ่านไปหลายปีตำนานผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขต่างก็ร่วงโรยสังขารไปตามวัย เหลือเพียง บุฟฟ่อน มาร์คิซิโอ คิเอลลินี่ ที่อยู่ฝ่าฟันอุปสรรคมากับทีมจนถึงตอนนี้เคียงข้างไปกับยอดนักเตะรุ่นใหม่ที่ถูกเสริมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดบุฟฟ่อนก็โบกมือลาไปตามวิถีของฟุตบอล

ปล.เมื่อพูดถึงคดีกัลโช่โปลี แฟนจูฟไม่เคยคิดว่าเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติศาสตร์เลยครับ ตรงกันข้ามพวกเรากลับมองเป็น 1 ในเรื่องราวที่สวยงามและภาคภูมิใจมากกว่าที่ได้รำลึกถึงนักเตะในตำนานทั้ง 5 คนนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่แฟนจูฟไม่พอใจเมื่อมีคนมาแขวะเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเพราะพวกเราโกรธที่มีคนด่าว่าเป็นทีมขี้โกงหรอกครับ แต่เป็นเพราะพวกเราไม่พอใจที่อยู่ๆมีใครไม่รู้ที่ไม่รู้จักเรื่องราว มาเหยียบย่ำความภาคภูมิใจและความทรงจำที่สวยงามของพวกเรามากกว่า

ส่วนความสำเร็จต่างๆก็หาได้จากวิกิครับ มีแค่ UCL ที่ได้รองแชมป์มากกว่าเป็นแชมป์ 555

 
 


เสริมให้เจ้าของกระทู้
เรื่องเดลกับกัลโช่โปลี และประโยคที่ลืมได้ยาก เมื่อเขาปฏิเสธการย้ายไปทีมอื่นๆ

"true gentleman never leaves his lady"
"สุภาพบุรุษที่แท้จริงจะไม่เคยทอดทิ้งผู้หญิงของเขา"

คำตรงนี้มันสวยยิ่งขึ้น เพราะเป็นคำที่มาเล่นกับฉายาของยูเวนตุสในอิตาลี
ซึ่งฉายานั้นคือ "หญิงชรา" (La Vecchia Signora)

 


ถ้าพูดถึง Moment หล่อๆ ของป๋าเดล

ผมมีอีกเรื่องอยากแชร์ ครั้งแรกที่อ่านเมื่อ 6 ปีก่อนนี่ยังคิดเลยว่าคนอะไรจะหล่อได้แบบนี้

นั้นคือตอนที่ป๋าออกจากยูเว่ บอร์ดบริหารได้เสนอว่าจะรีไทร์เสื้อเบอร์ 10 เพื่อเป็นเกียรติให้แก่กัปตันผู้เป็นที่รักของแฟนบอล แต่ป๋าเดลกลับปฏิเสธแล้วตอบว่า

"I hope that the number 10 can be less of a burden after me. I hope that whoever wears it can begin a glorious career like mine and perhaps even greater. I've really had so much that I would never want it to be retired, this way, every child can dream of day of wearing it"

"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาระอันยิ่งใหญ่ในฐานะผู้สวมเสื้อเบอร์ 10 จะได้รับการแบ่งเบาหลังจากที่ผมจากไป...และผมก็ปรารถนาจากใจจริงว่าผู้ใดก็ตามที่ได้สวมเสื้อตัวนี้ต่อจากผมจะประสบพบเจอกับเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ในอาชีพ เฉกเช่นเดียวกันกับผมหรือแม้กระทั่งยิ่งใหญ่กว่าตัวของผม.... ผมมีปณิธานอันแน่วแน่ว่าผมไม่ต้องการให้เสื้อตัวนี้ถูกรีไทร์....ด้วยหนทางนี้เด็กทุกๆ คนจะได้สามารถฝันถึงวันที่จะสวมใส่เสื้อตัวนี้ได้"

และนี่เป็นสาเหตุหนึงที่แฟนบอลยูเว่หลายคนไม่พอใจเมื่อ ป๊อกบามาใส่เสื้อเบอร์ 10 ได้ปีนึง แล้วก็จากไปพร้อมกับวลีทิ้งท้ายที่บอกว่า "มาพักร้อน" เพราะกับแฟนยูเว่แล้ว เสื้อเบอร์ 10 มันไม่ใช่แค่เสื้อธรรมดาๆ ตัวนึงที่นักฟุตบอลคนสำคัญหลายๆ คนในสโมสรเคยใส่ แต่มันเป็นเสมือนตัวแทนของความหวัง และเกียรติยศของของสโมสร

ออนไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Feb 2011
ตอบ: 10927
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 15:01
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
เป็นทีมที่มีนักเตะได้บัลลงดอร์ทั้งหมด 8 ครั้ง เป็นรองเเค่บาซ่ากับมาดริดเท่านั้น บาซ่ามาดริดเพิ่งมาเเซงตอนยุคโด้-เมส
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
- DCU -

ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 5594
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 15:14
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jun 2010
ตอบ: 2475
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 15:39
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
ชุดสีน้ำเงินที่มีรูปดาวสีเหลืองตรงหัวใหล่ สปอนเซอร์น่าจะโซนี่รึป่าว มันคลาสสิคและติดตาจริงๆ เป็นเสื้อฟุตบอลที่ผมชอบที่สุดตั้งแต่ดูมา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 9217
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 15:48
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
saylom14 พิมพ์ว่า:
ชุดสีน้ำเงินที่มีรูปดาวสีเหลืองตรงหัวใหล่ สปอนเซอร์น่าจะโซนี่รึป่าว มันคลาสสิคและติดตาจริงๆ เป็นเสื้อฟุตบอลที่ผมชอบที่สุดตั้งแต่ดูมา
 


http://classic-shirts.com/eng_pl_1997-98-JUVENTUS-SHIRT-S-32422_1.jpg

https://assets.catawiki.nl/assets/2017/7/14/8/4/3/8437bba6-fca9-4492-9008-b36fb0fdc9c0.jpg
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Oct 2008
ตอบ: 15718
ที่อยู่: Southport
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 16:20
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
คุณ เจี๊ยวหอมเลี่ยมทอง

เขาเป็นไรของเขาอะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
SPx
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 6473
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 17:05
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
แฟนยูเว่เขาก้ไม่ได้มีเรื่องอะไรกับลีกอื่นเลย
ยังจะไปดูถูกเขา แล้วบอกล้อเล่น แตะไม่ได้ มันใช่ข้ออ้างหรอครับ สมควรโดนแล้วเรื้อนจนโดนแบน
แก้ไขล่าสุดโดย SPx เมื่อ Fri Jul 06, 2018 17:05, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: คิดถึงยอดหฤทัยใจจะขาด
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 20185
ที่อยู่: ทวีวัฒนา
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 17:16
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
ไปอีกหนึ่ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
[img]

via GIPHY

[/img]
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Dec 2009
ตอบ: 30588
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 19:14
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
อื้อหือ มาไม่ทันหว่ะ ไปทำงานแต่เช้า กลับมา งงเลย

เห็นไอ่เจี๊ยวพุดอย่างงี้ หยอกๆแซวๆขำๆใช่ไม๊ กรุอยากเกรียนมากครับ

ไหนพุดว่าไงหน่ะ "จุฟ โดน โด้ว ไปกี่ลุกไม่รู้ ได้ standing ovation"

งั้นมาดริดเอ็ง ก็โดน เดล ยิงไปกี่ลุกไม่รุ้เหมือนกัน ทั้งเหย้าทั้งเยือน ทั้งเบิ้ล ในซานติเอโก้ เบอร์นาบิว แถม Standing Ovation" ด้วย

โอเครแม๊ะ? ตาต่อตาแล้วกัน แซวเล่นขำๆหว่ะ ขำไม๊

สมัยนั้นก็มี รามอส แล้วด้วย แต่ยืนแบ็ก ไม่ใช่เซ็นเตอร์ อย่างทุกวันนี้ ก็แพ้ทีมของ คิเอลลินี่ เช่นกัน
ผลงานเก่าเขาก็มี ทำให้ดุเป็นตัวอย่างแล้ว แต่เขาไม่คุยมากไง เขาไม่ต้องการ ไปทับถมคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดุสุงขึ้น
แต่ในเมื่อนาย โจมตีทีมเรา เราก็จำเป็นต้องปกป้องทีมเรา โอเครไหม?
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Oct 2013
ตอบ: 8987
ที่อยู่: ตู้เพลง
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 19:43
ถูกแบนแล้ว
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
Xander พิมพ์ว่า:
อื้อหือ มาไม่ทันหว่ะ ไปทำงานแต่เช้า กลับมา งงเลย

เห็นไอ่เจี๊ยวพุดอย่างงี้ หยอกๆแซวๆขำๆใช่ไม๊ กรุอยากเกรียนมากครับ

ไหนพุดว่าไงหน่ะ "จุฟ โดน โด้ว ไปกี่ลุกไม่รู้ ได้ standing ovation"

งั้นมาดริดเอ็ง ก็โดน เดล ยิงไปกี่ลุกไม่รุ้เหมือนกัน ทั้งเหย้าทั้งเยือน ทั้งเบิ้ล ในซานติเอโก้ เบอร์นาบิว แถม Standing Ovation" ด้วย

โอเครแม๊ะ? ตาต่อตาแล้วกัน แซวเล่นขำๆหว่ะ ขำไม๊

สมัยนั้นก็มี รามอส แล้วด้วย แต่ยืนแบ็ก ไม่ใช่เซ็นเตอร์ อย่างทุกวันนี้ ก็แพ้ทีมของ คิเอลลินี่ เช่นกัน
ผลงานเก่าเขาก็มี ทำให้ดุเป็นตัวอย่างแล้ว แต่เขาไม่คุยมากไง เขาไม่ต้องการ ไปทับถมคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดุสุงขึ้น
แต่ในเมื่อนาย โจมตีทีมเรา เราก็จำเป็นต้องปกป้องทีมเรา โอเครไหม?
 


อย่าทะเลาะกันเด็กๆ.อีกไม่กี่วันก็เชียร์ทีมเดียวกันแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย โคเย่ส์กินแมงโก้ เมื่อ Fri Jul 06, 2018 19:43, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
โค้ช A-License
Status: ไม่ได้มากมายเลย !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 38769
ที่อยู่: เกาะแคนดี้
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 19:59
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
โคเย่ส์กินแมงโก้ พิมพ์ว่า:
Xander พิมพ์ว่า:
อื้อหือ มาไม่ทันหว่ะ ไปทำงานแต่เช้า กลับมา งงเลย

เห็นไอ่เจี๊ยวพุดอย่างงี้ หยอกๆแซวๆขำๆใช่ไม๊ กรุอยากเกรียนมากครับ

ไหนพุดว่าไงหน่ะ "จุฟ โดน โด้ว ไปกี่ลุกไม่รู้ ได้ standing ovation"

งั้นมาดริดเอ็ง ก็โดน เดล ยิงไปกี่ลุกไม่รุ้เหมือนกัน ทั้งเหย้าทั้งเยือน ทั้งเบิ้ล ในซานติเอโก้ เบอร์นาบิว แถม Standing Ovation" ด้วย

โอเครแม๊ะ? ตาต่อตาแล้วกัน แซวเล่นขำๆหว่ะ ขำไม๊

สมัยนั้นก็มี รามอส แล้วด้วย แต่ยืนแบ็ก ไม่ใช่เซ็นเตอร์ อย่างทุกวันนี้ ก็แพ้ทีมของ คิเอลลินี่ เช่นกัน
ผลงานเก่าเขาก็มี ทำให้ดุเป็นตัวอย่างแล้ว แต่เขาไม่คุยมากไง เขาไม่ต้องการ ไปทับถมคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดุสุงขึ้น
แต่ในเมื่อนาย โจมตีทีมเรา เราก็จำเป็นต้องปกป้องทีมเรา โอเครไหม?
 


อย่าทะเลาะกันเด็กๆ.อีกไม่กี่วันก็เชียร์ทีมเดียวกันแล้ว  


มาเสริมโค่หน่อย ถ้าตามเจี๊ยวมานานจะรู้ว่าเขาเชียร์ทีมไร

แต่ที่แน่ๆมาดริดเป็นแค่ทางผ่าน โด้ย้ายแล้วก็จบกัน

อาจมีกลับมาเกาะบ้างแล้วแต่ผลงานทีม


2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7978
ที่อยู่: Barcelona
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 20:20
[RE]ประวัติศาสตร์ยูเว่
Xander พิมพ์ว่า:
อื้อหือ มาไม่ทันหว่ะ ไปทำงานแต่เช้า กลับมา งงเลย

เห็นไอ่เจี๊ยวพุดอย่างงี้ หยอกๆแซวๆขำๆใช่ไม๊ กรุอยากเกรียนมากครับ

ไหนพุดว่าไงหน่ะ "จุฟ โดน โด้ว ไปกี่ลุกไม่รู้ ได้ standing ovation"

งั้นมาดริดเอ็ง ก็โดน เดล ยิงไปกี่ลุกไม่รุ้เหมือนกัน ทั้งเหย้าทั้งเยือน ทั้งเบิ้ล ในซานติเอโก้ เบอร์นาบิว แถม Standing Ovation" ด้วย

โอเครแม๊ะ? ตาต่อตาแล้วกัน แซวเล่นขำๆหว่ะ ขำไม๊

สมัยนั้นก็มี รามอส แล้วด้วย แต่ยืนแบ็ก ไม่ใช่เซ็นเตอร์ อย่างทุกวันนี้ ก็แพ้ทีมของ คิเอลลินี่ เช่นกัน
ผลงานเก่าเขาก็มี ทำให้ดุเป็นตัวอย่างแล้ว แต่เขาไม่คุยมากไง เขาไม่ต้องการ ไปทับถมคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดุสุงขึ้น
แต่ในเมื่อนาย โจมตีทีมเรา เราก็จำเป็นต้องปกป้องทีมเรา โอเครไหม?
 


มันเด็กผีนะ อย่าแซะมาดริดเลยเดียวอีกไม่กี่วันก็เลิกเชียร์มาดริดไปเชียร์ทีมท่านหมดแล้ว
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"มึงไม่เอารัฐประหารแล้วจะเอาอะไร เพื่อไทยหรออีสัส."


ออนไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 16583
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 21:07
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
สมัยเมื่อ สิบปีที่แล้วได้ ผมตัวเกรียนใส่จูฟเลย ด่าเรื่องบอลอุด บอลเน้นผล ล้มบอล บลาๆๆ

เถียงกับแฟนจูฟโคตรบ่อย


แต่เด๋วนี้ ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลย แฟนจูฟส่วนใหญ่ในss ดีเกินจะไปแขวะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
!!เชียร์แมนยู ทีมเดียว!!
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jun 2010
ตอบ: 2475
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 06, 2018 21:19
[RE: ประวัติศาสตร์ยูเว่]
Contingency พิมพ์ว่า:
saylom14 พิมพ์ว่า:
ชุดสีน้ำเงินที่มีรูปดาวสีเหลืองตรงหัวใหล่ สปอนเซอร์น่าจะโซนี่รึป่าว มันคลาสสิคและติดตาจริงๆ เป็นเสื้อฟุตบอลที่ผมชอบที่สุดตั้งแต่ดูมา
 


http://classic-shirts.com/eng_pl_1997-98-JUVENTUS-SHIRT-S-32422_1.jpg

https://assets.catawiki.nl/assets/2017/7/14/8/4/3/8437bba6-fca9-4492-9008-b36fb0fdc9c0.jpg  
ชุดล่างเลยครับ ถ้าจำไม่ผิดวิอัลลี่ชูถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ มันติดตาจริงๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel