[RE: [LIVE] : ข่าวเด็กๆติดถ้ำ]
https://www.facebook.com/prarttana/posts/2165494626811414
https://www.facebook.com/mono29prach/posts/1282766268525320
ถ้ำไทย ทำไมใช้แผนที่ฝรั่ง?
พี่หิน วน.44 นักสำรวจถ้ำรุ่นบุกเบิก ของกรมอุทยานฯ มีคำตอบ
จากปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เห็นได้ว่าทีมค้นหาทุกหน่วยงานใช้ความรู้การสำรวจจากนายเวิร์น อันสเวิร์ธ และ และแผนที่ของนายมาร์ติน เอลลิส ผู้เคยสำรวจถ้ำหลวงฯ เป็นหลัก
นายชลธร ชำนาญคิด (พี่หิน) วน.44 ผู้อำนวยการอนุรักษ์ทรัพยากร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อดีตนักสำรวจถ้ำรุ่นแรกของไทย ระบุว่า ประเทศไทยได้มีการสำรวจถ้ำไว้เช่นกัน โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2537 ที่นายจอห์น สปีส์ นักสำรวจถ้ำชาวออสเตรเลียเข้ามาจุดประกาย จนเกิด “คณะทำงานจัดการถ้ำและภูมิประเทศเขาหินปูน” ตั้งแต่ปีนั้น แต่หยุดการทำงานไปประมาณปี 2550
การสำรวจครั้งนั้นมีการทำสัญลักษณ์ถ้ำไว้ 3 ประเภทคือ
Show cave (ถ้ำที่คนทั่วไปเที่ยวได้)
Adventure cave (ถ้ำสำหรับนักผจญภัย ต้องโรยตัว)
Wild cave (ถ้ำต้องอนุรักษ์ ปิดห้ามคนเข้า)
บางถ้ำมีทั้ง 3 ประเภทรวมกันแบ่งระยะตามความลึก เช่น ถ้ำหลวงฯ
พี่หิน บอกว่า การสำรวจทำไทยที่ทำกันสมัยนั้น สำรวจกันไม่เกิน 2 กิโลเมตร เพราะเป็นระยะของ “โชว์ เคฟ” สามารถเปิดการท่องเที่ยวให้คนทั่วไปได้ แผนที่จึงไม่ครบสมบูรณ์ทั้งถ้ำ
สาเหตุที่แบ่งถ้ำเป็น 3 ประเภท พี่หินบอกว่า ถ้ำหินปูนส่วนมากในไทย หรืออาจจะทั้งหมด ยังไม่เป็นถ้ำตาย คือ ยังมีน้ำไหลผ่านช่วงหน้าฝน เพราะธรรมชาติการเกิดถ้ำมาจากน้ำกัดเซาะ หากบนถ้ำยังมีป่าที่สมบูรณ์ และส่วนมากคือ พ.ค.- ต.ค. ถ้ำที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตวนอุทยานอุทยานแห่งชาติจะปิดไม่ให้คนเที่ยว เพราะน้ำกำลังท่วม
ส่วนแผนที่ของนายมาร์ติน ที่มีความละเอียดกว่าของไทย เพราะทั่วโลกจะมี 2 สมาคมใหญ่ในการสำรวจถ้ำ คือของอังกฤษ กับ ออสเตรเลีย ที่ทำวารสารถ้ำทั่วโลกมาแล้วหลายเล่ม ไทยเองก็ใช้วารสารของ 2 สมาคมนี้เป็นข้อมูล เพราะคณะทำงานสำรวจถ้ำไทยหยุดทำงานไปกว่า 10 ปีแล้ว พี่หินเชื่อว่ายังมีอีกกว่า 1,000 ถ้ำที่ยังไม่ได้สำรวจ
ย้อนกลับมาที่ประเด็นการสำรวจเพื่อทำแผนที่ของนักสำรวจไทย ซึ่งทำมาตั้งแต่พ.ศ. 2537 หลังนายจอห์น สปีย์ นักสำรวจถ้ำชาวออสเตรเลีย เบื้องลึกคือ นายจอห์น ไปจุดประกายตั้งคำถามลงในนิตยสารฉบับหนึ่งว่า ไทยขาดข้อมูลการศึกษาเรื่องถ้ำ ทั้งที่คนไทยรู้จักถ้ำมาก่อนชาวต่างชาติ แต่ไม่มีการจดบันทึก ทำข้อมูล ทำให้กรมป่าไม้ในสมัยนั้นตั้งคณะทำงานขึ้นมา ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี แต่หลังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจัดตั้งขึ้นในปี 2545 ก็รับหน้าที่ดูแลต่อ
แต่ปัญหาของการทำแผนที่ ที่ไม่สามารถทำให้สมบูรณ์ได้ถึงซอกซอยของถ้ำในไทย เพราะการสำรวจในสมัยนั้น เลือกที่จะสำรวจเป็น 1 กิโลเมตรแรก คือ show cave โดยการสำรวจแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
1 สำรวจเพื่อทำแผนที่หยาบๆ สร้างสเก๊ตภาพตามทที่เห็นแล้วออกมาถ่ายทอด
2 สำรวจแบบศึกษา สิ่งมีชิวิตและความหลากหลายของระบบนิเวศในถ้ำ
3 สำรวจอย่างละเอียดเพื่อทำแผนที่สร้างสเกลถ้ำ แต่ไทยมักจะจบที่ขั้นตอนแรก
จนตอนนี้การสำรวจถ้ำในไทยที่จัดทำโดยนักสำรวจไทย มีข้อมูลเรื่องถ้ำเพียง 300 กว่าถ้ำเท่านั้น ยังเหลืออีกกว่า 1 พันถ้ำที่ยังไม่เคยจดบันทึก และถึงเวลาแล้วที่จะรื้อคณะทำงานนี้ขึ้นมาใหม่ เพราะจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รู้เลยว่า ไทยไม่มีความรู้เรื่องถ้ำไทยเท่ากับชาวต่างชาติ
การสำรวจถ้ำแต่ละครั้งต้องใช้เวลา และมีเวลาจำกัด เพราะฤดูกาลในการสำรวจถ้ำจะอยู่ที่หน้าแล้ง เฉลี่ย 1 ปี ทำงานได้ 6 เดือนตั้งแต่พฤศจิกายน ถึง พฤษภาคม และปีต่อมาอาจเปลี่ยนชุดทำงาน ไม่ใช้ทีมเดิม ซึ่งช่วงกลางคืนในถ้ำจะหนาวและชื้นมาก ส่วนช่วงบ่ายอากาศจะอบอ้าว จึงเป็นการทำงานที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงทั้งสุขภาพ และสัตว์มีพิษอันตราย รวมทั้งภัยธรรมชาติ
///////////////////////
#เสพติดชีวิตเปื้อนฝุ่น
#PPTVHD36