เพราะมีหลายๆคดีที่คนก่อน่าจะมีปัญหาทางจิตแน่ๆไม่มากก็น้อย อย่างพวกพ่อที่ข่มขืนลูก, พวกฆ่าข่มขืนเด็กอายุน้อยๆหรือพวกฆ่าอย่างทารุนอย่างนั่งยางเผาทั้งเปนหรือหั่นศพ
พวกท่านคิดเห็นกันว่ายังไงบ้างครับ?

ลดได้แน่นอน รวมถึงการฆ่าตัวตายด้วย

ไอ้ลุงที่ชอบโวยวายควรไปตรวจก่อนเลย

ผมว่าไม่ช่วยเลยอ่ะนะ ข่มขืนมันเกี่ยวกับสิ่งเร้า เห็นเด็กมันอยาก เรื่องฆ่าคนมันก็มีปัจจัยจากปัญหา อารมณ์ร้อนมากระตุ้น
ไอ้ที่อ้างธรรมะ พุทธแท้ ไล่ธรรมกาย ลองคิดดูดีๆกับสิ่งที่เขามั่นใจว่าถูก มันไม่ได้ช้วยเรื่องสติหรืออารมณ์เลยนะ กลับยิ่งบอกว่าหลักธรรมคำสอนความเชื่อ ทำให้หัวร้อนด้วยซ้ำ ฮา

ผมว่าควรจะมีนะ บางสิ่งบางอย่างในชีวิตมันกดดันคนเราไม่เท่ากัน บางคนก็เก็บไว้ลึกๆในใจทำให้สะสมจนเป็นโรคซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว แต่ปัญหาเลยผมว่าตอนนี้ คลีนิคสุขภาพจิต มีน้อยมากในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ไม่ใช่ กทม.

คนที่เห็นเด็กไม่ถึง 10 ขวบแล้วเกิดอารมณ์นี่ผมมองว่าจิตต้องไม่ปกติแน่ๆครับ

เรื่องเกิดอารมณ์ มันก็เป็นรสนิยมส่วนบุคคลได้นิครับ
ก็ยกตัวอย่างประเภทหนังเอวีญี่ปุ่น มันมีไม่รู้กี่แนว เด็กเล็กยันแก่
ถ้าจะอ้างถึงเด็กเล็ก ผมมองแค่ว่าพวกนั้นอยากหาที่ลง หน้ามืดตามั่ว หรือเสพยาไรก็ด้วย
แต่ถ้าเพิ่มพวกเรื่องสำเร็จความใคร่ โชว์ของลับ ขโมยชุดชั้นใน ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงดีอีกละ

ผมว่าคนจิตค่อนๆไปทางไม่ปกตินี่เยอะนะ แต่แค่มันไม่ได้ออกมาชัดขนาดพวกที่เป็นข่าว

ช่วยได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าแก้ปัญหาได้ทั้งหมด

การศึกษา ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยเศรษฐกิจ ปากท้องต่างๆ ต้องส่งเสริมทัศนคติต่อการศึกษาสายต่างๆ ให้รอบด้าน ส่งแรงงานเข้าระบบ

ขยายโอกาสด้านสาธารณสุขให้ครอบคลุมและทั่วถึง รวมทั้งด้านสุขภาพจิตด้วย แก้ไขทัศนคติต่อการไปพบแพทย์ทางจิต ว่าเป็นเรื่องปกติ ใช้พรีเซนเตอร์ที่ทุกคนรักและรู้จัก (ใครดีล่ะ โป๊บ เบลล่ามั้ย)

ช่วยได้แง่ที่ว่าถ้ารู้ตัวว่าป่วย จะได้รักษา แต่ปัญหาอาชญากรรมมันก็มีที่มาหลากหลาย เพราะงั้นก็เป็นสิ่งนึงในหลายล้านสิ่งที่ต้องทำ แต่มีแล้ว ดีกว่าไม่มีแน่ๆครับ

ก่อนอื่นควรมีการจัดการ "ให้ความรู้" กับประชาชนทั่วไปก่อนครับ
ทุกสายอาชีพ หรือการเรียน ควรได้เรียนวิชาจิตวิทยาเบื้องต้น
เหมือนที่ได้เรียนพละ เรียนศิลปะ หรือพุทธศานา คริสตศาสนา

เพราะว่า ...
1. คนไทยมีความรู้ทางจิตวิทยา "น้อย"
2. หรือรู้แค่ทฤษฎี แต่ไม่ได้ฝึกฝน การพูดคุย การเข้าใจคนที่มีปัญหาทางจิต
3. และบางคนมองว่า "ทุกโรคทางจิต" หายได้ด้วยตัวเองและการปรับความคิด

ขออธิบายก่อนว่าสำหรับผู้ที่มีปัญหา มีอาการทางจิต มันเกิดจากความผิดปกติ
ที่มาจากสมอง ทำให้เขารับรู้สภาพแวดล้อม "ไม่เหมือนคนปกติทั่วไป" เลยครับ
เขาไม่คิดเหมือนเรา เขามองคนละอย่าง เขาอยู่ในโลกอีกใบที่เขา "รับรู้อยู่"

พวกเรา เหล่าคนที่ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีอาการ ได้ใช้ "แว่นปกติ" ในการมอง
แว่นที่ว่า หมายถึง ประสบการณ์ส่วนตัว ความคิดส่วนตัว กฎระเบียบตามปกติที่มี
แล้วก็ให้คำแนะนำ "ในแบบที่คนมีอาการ" ไม่อาจจะทำให้ได้ (แต่พวกเขารู้นะ)
ตัวอย่างก็เช่น ครอบครัวที่มีคนมีอาการอยู่ (ไม่รักษา หรือรักษาไม่สม่ำเสมอ)

ได้ใช้วิธีตามปกติ เช่น ตำราด่าเพื่อสร้างแรงผลัก หรือซ้ำเติม ไม่เคยอยู่เคียงข้าง
มีอคติต่อกัน จนไม่เคยฟังความจากใจคนที่มีปัญหา ความหวังดีที่ไม่ถูกจังหวะนี้
ทำให้คนที่มีอาการยอมแพ้ที่จะสู้มาเยอะมากนะครับ

ปกติคนเรา "ฟังเพื่อตอบโต้" มากกว่าที่จะทำความเข้าใจ มันไม่ได้ผิดนะครับ
แต่การใช้สมองฟัง มันอาจไม่ช่วยให้คนที่มีปัญหาในใจเขาทุเลาลงได้เลยครับ
ถ้าอยากดูแลพวกเขา คนรอบข้างควร "ใช้ใจฟัง" ให้มาก ฟังให้ถึงความรู้สึก
ไม่ใช่ว่าฟังเพียงเหตุการณ์ ก็คิด ตัดสิน และนำวิธีให้แล้ว โดยไม่ไถ่ถามตัวเขาว่า

"อยากทำยังไง" เพราะว่าเรากำลังเอา "ตัวเรา" ลงไปยัดใน "ตัวของเขา" ครับ

ถ้าจะให้มีการตรวจเช็คสุขภาพจิตสำหรับคนไทย คนไทยเองก็ควรมีความรู้มากพอ
ที่จะดูแลผู้ที่ไม่อาจใช้ชีวิตได้ตามปกติ เปิดใจให้มาก หัดยอมรับความแตกต่างให้มาก
หยุดตีตรา หยุดแกล้งพวกเขา หยุด Cyber Bullying กันเสียทีครับ

ทุกวันที่คนเหลานี้เขาออกมาทำอะไรร้าย ๆ กัน บางทีอาจเพราะว่าถูก "คนปกติ"
ที่ทำตัว "ไม่ปกติ" ด้วยการไล่ต้อนให้พวกเขาคิดว่าตัวเองไม่มีที่ให้อยู่แล้วก็ได้

ยังไงผมก็อยากเป็น 1 เสียงที่สนับสนุนการดูแลจิตใจของคนนะครับ
เหตุผลมันบอกเราว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แต่จิตใจมันคือความต้องการจากเบื้องลึก
ไม่ว่าจะคนดี คนไม่ดี หรือคนที่ดีแต่นั่งด่าคนตามโพสข่าวอยู่หลังคอมหลังมือถือ

แน่นอนผิดคือผิด หลังรับโทษพวกเขาก็ควรได้กลับสู่สังคม ได้รับการเยียวยา
ืทุกสิ่งที่คนทำ มันออกมาจากความรู้สึก คนที่ด่าคนทำผิด เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็น
คนที่ทำผิดลงไป เขาก็รู้สึกเจ็บปวดจากเหตุการณ์ที่ทำร้ายเขามาก่อนหน้า

ไม่มีมนุษย์หน้าไหน ที่ไม่มีความรู้สึก เต็มที่ก็แค่ "ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนั้นว่ายังไง"

ช่วยได้ แต่ก่อนจะมีควรแก้ทัศนคติที่คนบ้านเราชอบมองว่าการไปหาจิตแพทย์หรือไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้คือคนบ้าก่อนเลย ทัศนคติบ้านเราเรื่องนี้แย่มากปรึกษาจิตแพทย์ถูกมองว่าบ้า แต่ดันชอบเชื่อหมอดูเชื่อร่างทรง

เหมือนลุงแถวๆ บ้านผมเลย

ตรวจสุขภาพจิต เจ้าตัวต้องรู้และเข้าใจก่อนครับว่าตัวเองมีปัญหาสุขภาพจิต จึงจะยอมไปตรวจและยอมรับกับผลการตรวจ

เหมือนกับเราว่าไปคนอื่นบ้า แต่ทั้งที่เจ้าตัวเขาเองไม่ยอมรับว่าตัวเองบ้าแหละ