ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 7850
ที่อยู่: กทม
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 00:05
ปริศนาลึกลับ.. เกี่ยวกับ “มนุษย์เงา” .. !! มันคือ ผี สสาร พลังงาน อะไรกันแน่ !?


ปริศนาลึกลับ.. เกี่ยวกับ “มนุษย์เงา” .. !!
มันคือ ผี สสาร พลังงาน อะไรกันแน่ !?
.
แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลก
เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งเร้นลับ หลากหลาย
ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ยังต้องยอมรับว่าในโลกใบนี้
ยังมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ อีกมากมาย
ที่กฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ ในยุคนาโนเทคโนโลยี
ไม่สามารถ ... หาคำตอบได้…. !?
.
มีคำถามว่า ?
เหตุใดสิ่งเร้นลับ จึงผุดเกิดขึ้นมากมาย ในระยะนี้
คำถามนี้ เคยมีนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำให้คำอธิบายไว้ว่า
เป็นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนั่นเอง
ทำให้เรารับรู้ ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน
.
เช่นดวงตาของเรา ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
มีวัฒนาการน้อยกว่า ดวงตาของหมึกยักษ์
เช่น หมึกพอล เสียอีก (แม้จะอำลาโลกไปแล้ว )
ดังนั้นเนื้อตาธรรมดา ก็ยอมมองเห็นสรรพสิ่งได้
เฉพาะบางสิ่งบางมิติ หรือ เห็นได้เพราะ
ผู้ที่มีความเจริญวิวัฒนาการมากกว่า ยอมมองเห็นได้ดี
.
กับการปรากฏตัวของ “มนุษย์เงา” นั้น
นับวัน ยิ่งมีคนพบเห็น บ่อยครั้งขึ้นนั้น
มีคำอธิบายว่า น่าจะเกิดจากเหตุผล 2 ประการที่กล่าวมา
ทั้งที่ผู้มาอย่างเร้นลับ ยอมปรากฏตัวให้เห็น
และการใช้กล้องถ่ายภาพ เทคโนโลยีชั้นสูง
หรือแม้แต่กล้อง ธรรมดาที่เราใช้อยู่ทุกวัน ถ่ายภาพเอาไว้ได้
.




นักวิจัย ร็อด เลิฟเลสส์ อายุ 49 ปี ชาวแคนนาดา
ผุ้เชียวชาญด้าน ตามล่าหาความจริง
ต่อปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ มานานหลายปี
และเป็นหัวหน้ากลุ่มนักวิจัยที่เรียกตัวเองว่า
“โกสต์ ออฟ เดอะ เกรท ไวท์ นอร์ธ”
หรือกลุ่มปีศาจขาวแห่งทวีปอเมริกาเหนือกล่าวว่า
.
“ตามข้อเท็จจริงนั้น คนเราสามสามารถ
มองเห็นมนุษย์เงาได้บางโอกาส
เช่น ปรากฏการณ์แว่บเดียว ซึ่งมองด้วยหางตา”
.
นักวิจัย ร็อด อธิบายว่า
“มันเกิดขึ้นบ่อยครั้งที่คนเรามองเห็นอะไรแว่บๆ จากหางตา
.
จากบริเวรแสงสลัวมีแสงน้อย
บางคนรู้สึกว่า มีแรงลมกระทบผิวหนัง
(หรือการอาการเสียวสันหลังขนลุก) ทั้งๆที่ห้องอับลม”
.
“แต่เมื่อเร็วๆนี้ เราได้ รับรายงานว่า
มีคนพบเห็นมนุษย์เงาอย่างจะๆเต็มตา
ได้พบเห็นหลายคนครั้งและหลายคน
ปรากฏการณ์เช่นนี้ บอกให้รู้ว่า เป็นความจงใจ
ของมนุษย์เงา ที่ต้องการให้เราเห็นรูปร่างของพวกเขา
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้”
.
นักวิจัย ร็อด เปิดเผยการจับมนุษย์เงา
ด้วยกล้องถ่ายภาพว่า “เราใช้กล้องถ่ายภาพ
ระบบดิจิตอล และ จับภาพด้วยรังสีความร้อน
ทำให้ให้ได้ภาพมนุษย์เงาค่อนข้างชัดเจนมาก
แต่ภาพที่เราได้มาสร้างความประหลาดใจ
แก่นักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
เพราะสามารถแปรรูปเปลี่ยนสภาพ
ไปตามระดับอุณหภูมิได้
.


ภาพที่ทีมงานของผมถ่ายมาได้
เป็นเงาดำที่ไม่มีรูปร่างแน่นอน
เป็นเงาดำล่องลอยไปเหมือนฟองอากาศ
หากมีช่องว่างในห้องเงาดำนั้น
สามารถลอยลอดออกไปได้
.
โดยการแปรสภาพให้มีขนาดเล็กลง
เพื่อลอดช่องว่างออกไปได้สะดวก”
ห้องทดลองที่ทีมงาน นักวิทยาศาสตร์
ร็อดล่อให้มนุษย์เข้ามาเพื่อถ่ายภาพเป็นหลักฐานนั้น
.
กรุด้วยกระดาษเคลือบสารตะกั่ว
สามารถป้องกันกำมันตภาพรังสีได้
และกักกันมนุษย์เงาไว้ได้เช่นกัน
.
นักวิจัย ร็อด
“เราพบข้อมูลที่น่าสนใจอีกเช่น
บริเวณที่ก่อตัวเป็นเงาดำ และแปรสภาพไปเรื่อยๆ
เหมือนกลุ่มควันไฟนั้น เมื่อวัดอุณหภูมิตรงจุดนั้น
พบว่าต่ำกว่าอุณหภูมิบริเวณอื่นๆ
ในห้องเกือบ 10 องศา ข้อมูลนี้ตรงกับทฤษฎี
การก่อตัวเป็นรูปร่างของดวงวิญญาณ
ต้องอาศัยการดูดซับพลังงานจากรอบ ๆ ตัว
เข้ารวมกันเพื่อสร้างเป็นรูปร่างขึ้น
จึงทำให้อุณหภูมิ โดยรอบลดต่ำลงไปด้วย”
.
“นอกจากพลังงานจากความร้อนแล้ว
ดวงวิญญาณยังต้องอาศัยคลื่นไฟฟ้า
เพื่อทำให้รูปร่างปรากฏชัดชัดยิ่งขึ้น
ตรงนั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์มีข้อสรุปตรงกันกับ
ทฤษฎี ของ ดร.อัลเบิร์ค ไอสไตน์ ในอดีตที่ว่า
ภูตผีดวงวิญญาณมีสภาพเป็นสสารและพลังงาน
ที่ไม่มีรูปกลิ่นเสียง”
.
(ทฤษฎีนี้ตรงกับความเชื่อในพุทธศาสนา
เกี่ยวกับหลักการวิปัสสนากรรมฐาน
หากบรรลุถึงฌานชั้นสูงได้ ก็สามารถทำให้
เห็นกายทิพย์หรือดวงจิต
ปรากฏเป็นกายหยาบหรือตัวตนได้)
.
นักวิทยาศาสตร์กล่าวอีกด้วยว่า
“ด้วยเหตุนี้เองเราจึงมองมนุษย์เงา ด้วยตาเปล่าไม่เห็น
เพราะการก่อตัวเป็นรูปร่างไม่เข้มข้นพอ
และที่ไม่เข้มข้นก็มาจากเหตุผล
ได้รับพลังงานไม่เพียงพอนั้นเอง”
.
“มนุษย์เงามักปรากฏตัวในภาพลักษณ์
หากเป็นชายสวมชุดเสื้อคลุมยาว
สวมหมวกฟิดอร่า (หมวกปีกสักหลาดข้างบนเป็นแอ่ง)
และไม่มีเงาส่วนเท้า เพราะมนุษย์เงา เคลื่อนที่
โดยการล่องลอยไปเหนือพื้น โดยสูงจากพื้น 5-7 นิ้ว”
.
ชิพ เบอร์เนตต์ 1 ในทีมงานวิจัยและได้ชื่อว่า
เป็นนักวิจัยจับผีชาวอเมริกัน ที่มีเชื่อเสียง
มากที่สุดคนหนึ่งกล่าวว่า.......
.
“ผมเคยพบด้วยตัวเองเป็นเงาร่างผู้ชาย
สวมหมวกฮูต (หมวกฮูตรับปริญญา)
และร่างเงาที่ปรากฏขึ้นมานั้น
ไม่ว่าผู้หญิง ผู้ชายเหมือนหนัง ขาว ดำ
ไม่มีสีอื่นๆ มาแซม”
.


ข้อมูลที่สำคัญยิ่ง แม้ปรากฏเป็นรูปทรงของหัว
เหมือนหัวคน แต่ใบหน้าไม่เคยมีใครเห็นชัดเจน
เป็นเงาสีดำที่มืดมากกว่าทุกส่วนก็ว่าได้
ซึ่งตรงนี้เรากำลังหาข้อมูลมาวิเคราะห์กันว่า
เหตุใดมนุษย์เงา จึงจงใจปกปิดใบหน้าของตัวเอง
หรือเป็นเพราะว่า เป็นสิ่งเร้นลับที่ไม่มีใบหน้าไม่มีรูปร่าง
เพียงแต่เป็นพลังงานเข้าไปในเสื้อผ้าของคนเรา
แล้วดันให้โป่งพองเป็นรูปร่างเท่านั้น
.
นักวิจัย ร็อด และทีมงานได้ตั้ง ทฤษฎี
เพื่ออธิบายความเป็นมาของมนุษย์เงา
ออกเป็น 3 ทฤษฎี
1. เป็นภูตผีดวงวิญญาณ
2. เป็นผู้อยู่ต่างมิติ และ
3.เป็นพลังงานรูปแบบที่ไร้ตัวตน
ไร้สี ไร้กลิ่น หรืออาจเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ได้
.
“ผมมีข้อสมมติฐานว่า หากดวงตาเนื้อของคนเรา
วิวัฒนาการไปอีกสัก 5 แสนปี
เราอาจมองเห็นผู้ที่อยู่ต่างมิติได้
หรืออาจมองเห็นตัวเชื้อโรคได้”
.
“มนุษย์เงาต้องรับรู้ดีว่า มนุษย์โลก
ไม่อาจมองเห็นพวกตน ด้วยตาเปล่าได้
ดังนั้นการปรากฏตัวให้เห็นมนุษย์เงา
ต้องเพิ่มความเข้มข้นของมวลสารที่ประกอบขึ้น
เป็นรูปร่างขณะเดียวกันก็ต้องแลก
กับการสูญเสียพลังงานเพิ่มขึ้นไปด้วย”
.
“พวกเราต่างรู้กันว่า สสารดำรงอยู่ได้
เพราะได้รับการหล่อเลี้ยงจากพลังงาน
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ว่าเหตุใด
มนุษย์เงาจึงไม่อาจปรากฏตัว
ให้เราเห็นอย่างชัดเจนได้ เพราะต้องใช้พลังงานมาก”
.
อย่างไรก็ตามนักวิจัย ร็อด
ตั้งความหวังว่าเมื่อใดที่วงการวิทยาศาสตร์ของโลก
ได้พัฒนาถึงขั้นค้นพบ “สะพานแห่งมิติ”
ถึงเวลานั้นดวงตาธรรมดาๆ ของมนุษย์
ก็อาจสามารถมองเห็นผู้ที่อยู่ต่างมิติได้
.
“ผมให้เวลาอีกไม่เกิน 10 ปี แล้วเราจะรู้ว่า
ที่แท้ผี ดวงวิญญาณ และมนุษย์เงา
คืออะไรกันแน่” นักวิจัยร็อด กล่าวทิ้งท้าย !!
.
Spoil
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel