กฎฟีฟ่า กับ ดราม่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลก 2018 ที่คนไทย (อาจ) ไม่รู้
เอาสาระเรื่องบอลโลกมาฝากครับ กระแสปันี้บอลโลกเงียบจริงๆ
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เป็นองค์กรกลางที่ดำเนินการในกีฬาฟุตบอลระหว่างประเทศ และเป็นผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 และขายลิขสิทธิ์ให้กับประเทศต่างๆ
ประเทศต่างๆจะดูบอลโลกได้ต้องมี Official Broadcaster ผู้ถือสิทธิ์ถ่ายทอดสด และต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ฟีฟ่า (รู้มาว่ารวมภาษีแล้วถือว่าปีนี้แพงขึ้นกว่าที่ผ่านมามากทีเดียว)
ฟีฟ่าจะเลือกเซ็นสัญญา กับ Official Broadcaster ของแต่ละประเทศ เพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งต้องเป็น Broadcaster ที่เคยมีประสบการณ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกมาก่อน (ไทยมีผู้ประกอบการแค่ 2 รายเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์)
เมื่อเซ็นสัญญากับฟีฟ่าแล้ว Official Broadcaster ต้องเป็นผู้ดูแลกติกาทั้งเรื่องการออกอากาศ การดูแลการละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ และการจัดกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลโลก ให้เป็นไปตามที่ฟีฟ่ากำหนด (หากผิดพลาดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และจะมีผลในการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดในอนาคต)
ปีนี้ Official Broadcaster ของไทย คือ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป โดยใช้เงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจาก 9 สปอนเซอร์ภาคเอกชน (คิงเพาเวอร์, เครือเจริญโภคภัณฑ์, ไทยเบฟเวอเรจ, บีทีเอส, กสิกรไทย, กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี, พีทีที โกลบอล เคมิคอล, บางจาก และ คาราบาวแดง)
ผู้เจรจาและเซ็นสัญญากับฟีฟ่า (ก็คือ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป) ถือเป็น Broadcast Sponsor ซึ่งจะได้สิทธิ์การโฆษณาในช่วงถ่ายทอดสดเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกไปทำเชิงพาณิชย์ได้ (หากอยากนำลิขสิทธิ์ไปทำเชิงพาณิชย์ ต้องขอเป็น Event Sponsor อย่างเช่น McDonald's, Coca-Cola, Adidas)
ตามปกติ Broadcast Sponsor จะมีสิทธิ์ขาดในการขายโฆษณาช่วงถ่ายทอดสดได้ แต่สำหรับในประเทศไทยปีนี้ สปอนเซอร์ภาคเอกชนแต่ละรายจะได้สิทธิ์โฆษณาตามสัดส่วนที่ลงขันมา โดย ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ไม่มีการขายโฆษณา
และด้วยเงื่อนไขที่ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป เป็นผู้เซ็นสัญญากับฟีฟ่า ทำให้สื่อในเครือทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป เช่น ทรูโฟร์ยู ช่อง24, ทรูไอดี, ทรูวิชั่นส์ ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ทันที
แต่เนื่องจากมีสปอนเซอร์ภาคเอกชนหลายรายและไทยอยากถ่ายทอดสดหลายช่อง ผู้ที่เป็น Official Broadcaster จึงต้องทำ Sub-license กับฟีฟ่า อีก 1 ฉบับ เพื่อขออนุญาตถ่ายทอดสดในอัมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 และช่อง 5
ฟีฟ่ายินยอมให้ อัมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 และช่อง 5 ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ได้ ทำให้การแข่งขันรอบสุดท้ายทั้ง 64 แมตช์ ถูกแบ่งไปฉายในดิจิทัลฟรีทีวี ทั้ง 3 ช่อง
คงต้องปรบมือให้กับ รัฐบาล โต้โผใหญ่ในการรวมพลังครั้งนี้ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินการเซ็นสัญญากับฟีฟ่า และ 9 สปอนเซอร์ภาคเอกชนที่ลงขันจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ทำให้คอบอลชาวไทยได้ดูฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายตลอดทัวร์นาเมนต์
ที่มา: เซียนบอลในตำนานท่านหนึ่ง