วันนั้นกาก้าท็อปฟอร์มด้วยนะ แต่พอราฟาส่งฮามันลงมากาก้าถึงดรอปลง  

อิสตันบูลซิ ปัจจัยลิเวอร์พูลตอนนั้นเสียเปรียบยอดทีมอย่างมิลานแบบคนละชั้นสุดๆ ยิ่งกว่าลิเวอร์พูลกับมาดริดตอนนี้อีกนะ

ที่สุดของปาฏิหาริย์
- โดนนำ 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ใครจะไปคิดว่าครึ่งหลังมิลานจะโดน 3 ลูกรวดกับทีมที่มียอดนักเตะมากมาย เครสโป เชฟเชโก้ กาก้า !!!
- การเซฟลูกยิงเชฟเชโก้อย่างเหลือเชื่อของดูเด็ค .. ซึ่งถ้าโดนลูกนั้นไปดับฝันแน่นอน !!
- ไม่พอเท่านั้นกับดูเด็คยังเซฟช่วงดวลจุดโทษได้อีก 2 ลูก !! ทั้งที่ฟอร์มในลีกตอนนั้นก็ออกหาปลาอยู่ แต่เหมือนมีเฮลิคอปเตอร์ไปรับกลับฝั่งแบบกระทันหัน !!
- การเดินทางที่ยาวไกลของแฟนบอลพร้อมส่งเสียงเชียร์ไม่มีหมดกลบแฟนมิลานตลอดเกม แม้แต่พักครึ่งทีมตามอยู่ 3-0 แฟนบอลก็ยังไม่หมดศรัทธราร้องเพลงเชียร์ให้กำลังใจไม่มีหยุด จนเป็นเรื่องราวแสนวิเศษที่ถูกกล่าวขานในห้องพักระหว่างพักครึ่ง
- เป็นปีที่พึ่งเสียนักเตะสุดยอดที่สุดของทีมในตอนนั้นให้มาดริดไป นักเตะบังลงดอร์คนเดียวของอังกฤษ “ไมเคิล โอเว่น” และกองหน้าในตอนนั้นคือ มิลาน บารอส ที่ทดแทนกันไม่ได้เลย !!
- ก่อนถึงรอบชิงก็เกือบตกรอบไปแล้วจากโอลิมเปียกอส แต่ก็ทำพรีปาฏิหาริย์ก่อนมาทำปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในอิสตัลบูล !!

ลิเวอร์พูลไม่เคยเป็นทีมที่ดีพร้อมเลยสักฤดูกาลตั้งแต่ได้แชมป์ครั้งสุดท้าย แต่มักเป็นทีมที่สร้างปาฏิหาริย์สุดจดจำได้อยู่เรื่อยๆให้เห็นกัน ล่าสุด .. คือการเจอดอร์ทมุนในยูโรป้าไง !!  

ผมชอบคัมนูนะ มันเหมือนฝันอ่ะ โดนนำเร็ว แล้วก็โดนสวนเจียนอยู่เจียนไปรอมร่อ ต่อเวลาเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยง เปรี้ยง แล้วชนะเลย
ส่วนอิสตันบุล ตอนไล่มา 2-3 ผมกับเพื่อนที่ดูด้วยกัน บอกเลยว่าลิเวอร์พูลชนะแน่ โมเมนตั้มเทมาฝั่งหงษ์เเบบสุดๆ ทีมมิลานแต่ล่ะคนหน้าตาตื่นหมดแล้ว
คือถ้าเป็นมวยแมนยูก็แพ้คะแนนหลุดลุ่ย ยกสุดท้ายต่อยหมัดเดียวน็อคชนะเลย
ส่วนลิเวอร์พูล 6 ยกแรกมิลานต่อยดีกว่าแต่ 6 ยกหลังลิเวอร์พูลต่อยดีกว่ากลับมาชนะคะแนนแบบเหลือเชื่อ