https://www.facebook.com/jingjungfootball/posts/2015863141962259

ซีดาน บารมีถึง ทุกคนเชื่อฟัง ความสำเร็จก็ตามมา
สุดยอด จริงๆ เพจนี้ อ่านเพลินเลย เขียนถึงซีดาน เขียนดี หลายอันละ

ราฟาทำลายสมดุลในทีม แกพยามจะดันเบลขึ้นมาแทน ดันไม่ว่า ดันไปทะลึ่งดรอปโด้ เละเทะเลยทีนี้(ดูเอ็นริเก้เป็นตัวอย่าง ทะลึ่งไปดรอปเมสเกือบกระเด็นเหมือนกัน) บารมีก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่จะไปงัดข้อกับนักเตะ แล้วพอไปแพ้4ลูกในเอลกลาซิโก้แฟนๆก็ไม่เอาล่ะ
(บาสเกสมันมาตั้งแต่ราฟาอยู่นะ ราฟาแกซื้อมาเองจะบอกว่าเด็กเส้นราฟาเลยก็ได้ ดันบาสเกสใหญ่เลย ตอนแรกๆแฟนมาดริดยี้จะตาย)

ตรงกาแลคติกอสภาคแรกที่ล้มเหลวในเชิงฟุตบอล การเสียมาเกเลเล่ไปไม่ใช่เหตุผลเดียว แต่เวลาคนไม่ได้ตามดูมักจะพูดถึงแต่มาเกเลเล่ประจำ จริงๆยังมีอีกหลายเหตุผล อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือการจากไปของเอียโร่ จริงอยู่ปีท้ายๆเอียโร่เริ่มดรอปลงมามากแล้ว แต่ก็ยังเป็นผู้นำในแนวรับ พอเสียผู้นำในแนวรับไป แผงหลังมาดริดก็เละเทะกว่าเดิม กลางรับก็หายไปด้วย แล้วพวกสตาร์อย่างซีดาน r9 อื่นๆ พวกนี้ก็ไม่ได้ลงมาช่วยเกมรับ ไหนจะการเสริมทัพแบบเน้นแต่ชื่อของเปเรซอีก เรียกว่าหลายปัจจัย สุดท้ายเปเรซก็ต้องออก(แล้วความชิบหายก็มาเยือนเมื่อ กัลเดร่อนกลับมา)

มาพูดถึงซีดาน

ความเก่งของซีดาน 1เลย บารมีล้นพ้น ดรอปโด้ได้ ราฟาทำตรงนี้ไม่สำเร็จ บารมีไม่พอแล้วก็คงไม่ให้เหตุผลด้วย แต่ซีดานพูดคุยแบบตรงๆและจริงใจ

การคุมทีมระดับโลก บารมีเผลอๆจะสำคัญกว่าแทคติคเสียอีก ย้อนกลับไปดูราฟาสักนิด คนนี้แทคติคดี แต่คุณพูดอะไรไป นักเตะมันก็ไม่ฟังอยู่ดี เพราะมันไม่น่าเชื่อถือ กลับกัน ซ๊ดานอาจจะไม่ต้องพูดมากมาย แต่นักเตะโอเค ผลลัพธ์คนละเรื่องเลย

เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน เพราะอันเช่ก็เคยพูดไว้ว่าตอนแกคุมมาดริด แกไม่ได้ใส่ใจกับแทคติค แทคติคสำคัญเป็นอันดับ2 อันดับแรกคือทำยังไงก็ได้ให้นักเตะมีความสุข

2 บริหารจัดการทีมได้ดี โรเทตนักเตะแบบกำลังพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป

3 สร้างสมดุลในห้องแต่งตัวได้ดี ตรงนี้ราฟาล้มเหลว เรื่องนี้ซีดานอาจจะเรียนรู้ตอนเป็นผู้ช่วยอันเช่ อันเช่เก่งเรื่องนี้ ไม่มีใครงัดข้อกัน

4 กล้าใช้งานพวกตัวประกอบอย่าง บาสเกส นาโช่ อื่นๆ

5 มีกึ๋นด้านแทคติคพอตัว ลองใช้แผนอื่นๆ ลองปรับทีม

ส่วนข้อเสีย ก็ตามประสาโค้ชมือใหม่ คือแทคติคยังไม่แน่น การแก้เกมยังไม่เท่าพวกประสบการณ์สูง

ในucl เลคสองที่เจอยูเว่ นั่นก็พลาด รวมทั้ง2เลคเลยที่เจอบาเยิร์น ตัวนักเตะก็พอๆกับบาเยิร์น แต่รูปเกมบาเยิร์นดีกว่า (ฝีมือของโค้ชให้ดูรูปเกมนี่แหละ) ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเจอกับระดับปู่จุ็บ

แต่ซีดานก็เก่ง อะไรที่แกพลาดแล้วแกเรียนรู้จากความผิดพลาด ตรงนี้น่าชื่นชม

ส่วนในลีค ที่ปีนี้หมดลุ้นแชมป์เร็ว เพราะสำรองปล่อยไปแต่ละตัว เทียบกับที่มีอยู่คุณภาพลดลงชัดเจน รวมทั้งอาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลัก ช่วงกลางซีซั่นก็มีิิอาการแทคติคตันไปสักพัก(คล้ายๆตอนอันเช่คุม) ปีหน้าแกคงต้องเสริมตรงนี้ เพื่อให้คุณภาพตัวสำรองมันดีขึ้น

รวมๆแล้วถือว่าซีดานเป็นโค้ชที่มีฝีมือมากพอตัว แต่จะไปถึงขั้นยอดโค้ชรึเปล่านั้น มันอยู่ที่การยืนระยะ

สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของนักเตะทุกคน ไม่ใช่การงัดฟอร์มเทพ แต่เป็นการรักษาความสม่ำเสมอ

เช่นเดียวกันกับโค้ช ถ้าสามารถทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอ การจะเป็นยอดโค้ชก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

สวัสดีครับแอดมินเพจ

เพจนี้การันตีสาระมากมายจริงๆ ผมชอบงานเขียนเพจนี้มากๆ

ดีกว่าคลิปข่าวที่มีคนลงครั้งที่แล้วเยอะเลย พูดซ่ะเหมือน ซีดานอยากให้แฟนบอลวอร์กันยังไงยังงั้น

ผมว่าซีดานไม่น่าจะอ่านภาษาไทยออก

ราฟาทำลายสมดุลในทีม แกพยามจะดันเบลขึ้นมาแทน ดันไม่ว่า ดันไปทะลึ่งดรอปโด้ เละเทะเลยทีนี้(ดูเอ็นริเก้เป็นตัวอย่าง ทะลึ่งไปดรอปเมสเกือบกระเด็นเหมือนกัน) บารมีก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่จะไปงัดข้อกับนักเตะ แล้วพอไปแพ้4ลูกในเอลกลาซิโก้แฟนๆก็ไม่เอาล่ะ
(บาสเกสมันมาตั้งแต่ราฟาอยู่นะ ราฟาแกซื้อมาเองจะบอกว่าเด็กเส้นราฟาเลยก็ได้ ดันบาสเกสใหญ่เลย ตอนแรกๆแฟนมาดริดยี้จะตาย)

ตรงกาแลคติกอสภาคแรกที่ล้มเหลวในเชิงฟุตบอล การเสียมาเกเลเล่ไปไม่ใช่เหตุผลเดียว แต่เวลาคนไม่ได้ตามดูมักจะพูดถึงแต่มาเกเลเล่ประจำ จริงๆยังมีอีกหลายเหตุผล อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือการจากไปของเอียโร่ จริงอยู่ปีท้ายๆเอียโร่เริ่มดรอปลงมามากแล้ว แต่ก็ยังเป็นผู้นำในแนวรับ พอเสียผู้นำในแนวรับไป แผงหลังมาดริดก็เละเทะกว่าเดิม กลางรับก็หายไปด้วย แล้วพวกสตาร์อย่างซีดาน r9 อื่นๆ พวกนี้ก็ไม่ได้ลงมาช่วยเกมรับ ไหนจะการเสริมทัพแบบเน้นแต่ชื่อของเปเรซอีก เรียกว่าหลายปัจจัย สุดท้ายเปเรซก็ต้องออก(แล้วความชิบหายก็มาเยือนเมื่อ กัลเดร่อนกลับมา)

มาพูดถึงซีดาน

ความเก่งของซีดาน 1เลย บารมีล้นพ้น ดรอปโด้ได้ ราฟาทำตรงนี้ไม่สำเร็จ บารมีไม่พอแล้วก็คงไม่ให้เหตุผลด้วย แต่ซีดานพูดคุยแบบตรงๆและจริงใจ

การคุมทีมระดับโลก บารมีเผลอๆจะสำคัญกว่าแทคติคเสียอีก ย้อนกลับไปดูราฟาสักนิด คนนี้แทคติคดี แต่คุณพูดอะไรไป นักเตะมันก็ไม่ฟังอยู่ดี เพราะมันไม่น่าเชื่อถือ กลับกัน ซ๊ดานอาจจะไม่ต้องพูดมากมาย แต่นักเตะโอเค ผลลัพธ์คนละเรื่องเลย

เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน เพราะอันเช่ก็เคยพูดไว้ว่าตอนแกคุมมาดริด แกไม่ได้ใส่ใจกับแทคติค แทคติคสำคัญเป็นอันดับ2 อันดับแรกคือทำยังไงก็ได้ให้นักเตะมีความสุข

2 บริหารจัดการทีมได้ดี โรเทตนักเตะแบบกำลังพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป

3 สร้างสมดุลในห้องแต่งตัวได้ดี ตรงนี้ราฟาล้มเหลว เรื่องนี้ซีดานอาจจะเรียนรู้ตอนเป็นผู้ช่วยอันเช่ อันเช่เก่งเรื่องนี้ ไม่มีใครงัดข้อกัน

4 กล้าใช้งานพวกตัวประกอบอย่าง บาสเกส นาโช่ อื่นๆ

5 มีกึ๋นด้านแทคติคพอตัว ลองใช้แผนอื่นๆ ลองปรับทีม

ส่วนข้อเสีย ก็ตามประสาโค้ชมือใหม่ คือแทคติคยังไม่แน่น การแก้เกมยังไม่เท่าพวกประสบการณ์สูง

ในucl เลคสองที่เจอยูเว่ นั่นก็พลาด รวมทั้ง2เลคเลยที่เจอบาเยิร์น ตัวนักเตะก็พอๆกับบาเยิร์น แต่รูปเกมบาเยิร์นดีกว่า (ฝีมือของโค้ชให้ดูรูปเกมนี่แหละ) ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเจอกับระดับปู่จุ็บ

แต่ซีดานก็เก่ง อะไรที่แกพลาดแล้วแกเรียนรู้จากความผิดพลาด ตรงนี้น่าชื่นชม

ส่วนในลีค ที่ปีนี้หมดลุ้นแชมป์เร็ว เพราะสำรองปล่อยไปแต่ละตัว เทียบกับที่มีอยู่คุณภาพลดลงชัดเจน รวมทั้งอาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลัก ช่วงกลางซีซั่นก็มีิิอาการแทคติคตันไปสักพัก(คล้ายๆตอนอันเช่คุม) ปีหน้าแกคงต้องเสริมตรงนี้ เพื่อให้คุณภาพตัวสำรองมันดีขึ้น

รวมๆแล้วถือว่าซีดานเป็นโค้ชที่มีฝีมือมากพอตัว แต่จะไปถึงขั้นยอดโค้ชรึเปล่านั้น มันอยู่ที่การยืนระยะ

สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของนักเตะทุกคน ไม่ใช่การงัดฟอร์มเทพ แต่เป็นการรักษาความสม่ำเสมอ

เช่นเดียวกันกับโค้ช ถ้าสามารถทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอ การจะเป็นยอดโค้ชก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

การปปล่อย ให้มาเซโล่ขึ้นเกมส์ ตามใจชอบมันไม่นิสัยการทำทีมที่น่าจะเป็นนะ แต่แค่นักเตะในทีมตัวเก่งมันเยอะเลยลบจุดด้อยไปได้แค่นั้น รีลมาร์ดมาร์ดริดก็เหมือนลิเวอร์พูลในชุดที่ โมเรโน่ สัมปทานบ่อในปีนั้น แต่ที่ต่างคือ นักเตะหงส์แดงคุณภาพที่มีตอนนั้นทำไม่ได้ดีเท่า แค่นั้นเอง ปัญหาของซีดานคือ มาร์เซโล่ นักเตะหงส์แดงมียิ้ม...

ผมไม่รู้ว่าคุณดูบอลหรือดูมาดริดมามากแค่ไหน แต่การแสดงความคิดเห็นของคุณแต่ละอย่างนี้สิ้นคิดมาก มาร์เชโล แบ็คตัวบุก เล่นปีก วิงแบ็ค ก่อนจะมาเป็นแบ็ค ข้อดีคือเติมเกม เติมไปจนสุด

สถิติการ dribble no.1 winrate มากสุดในมาดริดตลอด ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้เติมเกม แล้วการเติมเกมทางซ้ายเป็นจุดเด่นมาช้านาน จนได้คาบาฮาลมาขวา จะมาเปลี่ยนเปรย ลิเวอรืพูล หรือโมเรโน่ไรนั้นก็เกินไปหน่อย

อ่านแล้วก็ขำนะ กล้าเอาไปเทียบ

จริงๆ มาเค ไปก็ยังมีคัมบิอัสโซ่นะ หรือจะกราเวอเซ่น มาสานรอยต่อ ซึ่งมาดริดลองมาหมดละ มันไม่เวิร์คจริงๆ ตอนนั้นคู่เซนเตอร์มีแต่ เฮเกร่า ผมว่าหนักอ่ะ ขาดผู้นำในแดนหลังจริงๆ รามอสตอนนั้นก็ยังเกรียนเล่นแบ็คขวา 555

โดนสวนแต่ละทีไม่มีตัวเบรค เจอแต่กองหลัง

พูดดีตรงใจ

พี่เขาชอบปั่นมาดริดครับ อย่าไปอะไรกับแกเลย

มาร์เซโล ขึ้นเกมบ้าบออะไร มันใช่แบ๊กซ้ายที่ไหน


มันเป็นเพลย์เมกเกอร์กราบซ้าย ตัวรุก 100%
ที่มีน้ำใจมากพอจะลงไปช่วยเกมรับทางซ้ายบางเวลาตะหาก

มาดริด ไม่มีแบ็กซ้ายครับ

เรื่องนี้คนเค้าคุยและสรุปกันมาหลายปีแล้ว

เปรียบซะเหมือนไม่รู้จักมาดริด เลย

คุณเคยดูมาดริดกี่นัดถามจริง ผมจะบอกให้นะ
เมื่อไหร่ที่แบ็คดันสูงมันจะมีตัวซ้อนเสมอ
มันไม่ได้ดันสูงแล้วปล่อยที่ว่างไว้ขนาดนั้น

เกมส์ใหญ่ๆจะเป็นแบบนี้เสมอ
กับทีมเล็กๆ ซ้อนบ้างไม่ซ้อนบ้าง

ส่วนเอาไปเทียบกับนักเตะทีมคุณอะ
บอกเลย "มันคนละชั้น"

แล้วคุณจะได้เห็นว่า มาร์เซโล่จะกล้าเติมไหม และจะมีใครมาซ้อนทันไหม....มาเน่ เฟียมิโน่ ยิ่งชอบ พวกเปิดพื้นที่ หากยังเติมแล้วโดนซาล่าสอยฝั่งนั้น ผมก็ยังมองว่า ซีดานยังชั้นไม่ถึงเช่นกัน รอดูกันครับ