“นักซูโม่” ต้องกินวันละ 8,000 แคลฯ และนอนหลับโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ..!!
เปิดวิถีชีวิตของ “นักซูโม่”
ต้องกินวันละ 8,000 แคลฯ
และนอนหลับโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ...!!
.
แม้ว่าหลายคนอาจจะรู้จักคำว่า ‘นักซูโม่’
มาจากการ์ตูนดังช่อง 9 หรือไม่ก็
จากสื่อญี่ปุ่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆ
นอกจาก เอาตัวผลักใส่กันแล้ว
พวกเขาต้องทำอะไรอีกบ้าง?
.
โดยภาพถ่ายทั้งหมดที่เราจะได้ชมนี้
เป็นภาพที่ถูกถ่ายมาจากภายใน
โรงฝึกซูโม่ Tomozuno ในจังหวัดโตเกียว
ซึ่งมีนักกีฬาซูโม่ร่างยักษ์ 11 ชีวิตหมั่นฝึกซ้อมกัน
อย่างขมักเขม่นเพื่อการแข่งขันที่จะมาถึงในไม่ช้านี้
.
บรรดานักกีฬา หรือ ‘ริกิชิ’
เป็นกีฬาที่ต้องทุ่มเททั้งร่างกาย
วิถีชีวิต และสภาพจิตใจ
.
สำหรับซูโม่นั้น ต้องถือว่าเป็นประเพณี
ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เลยทีเดียว
.
เดิมทีเป็นกีฬาของการคัดเลือกนักมวยปล้ำ
จากกองทัพมาสู้กัน เพื่อสร้างความบันเทิง
ให้คนในวัง จนพัฒนามา
เป็นกีฬาอย่างเช่นในปัจจุบันนี้
.
สำหรับที่นี่ ในทุกๆ เช้า
นักซูโม่จะตื่นขึ้นมาฝึกซ้อมกัน
จนถึงเวลา 10.30 นาฬิกา
.
จากนั้นพวกเขาก็จะไปรับประทานอาหารเที่ยง
ที่ถูกจัดเตรียมโดยนักกีฬารุ่นน้อง
อาหารก็จะประกอบไปด้วยต้นหอม
ของย่าง ปลาทอด ข้าวหุง และหม้อไฟจังโกะนาเบะ
.
Kyukotenho นักกีฬาซูโม่รุ่นแรก
ชาวมองโกเลีย ที่กลายมาเป็นหัวหน้า
นักกีฬาซูโม่ ประจำโรงยิมแห่งนี้
.
หลังการฝึกซ้อมอย่างหนัก ตลอดทั้งช่วงเช้าและบ่าย
นักกีฬาจะเข้านอนพักผ่อนเอาแรง
ทว่าด้วยน้ำหนักตัวที่มากเกินไป
ทำให้พวกเขาต้องใช้ สายอ๊อกซิเจนช่วยในการหายใจ
.
นอกเหนือจากการดูแลร่างกาย
เพื่อการแข่งขันแล้ว พวกเขายังต้อง
มีกริยาท่าทางที่ดูสำรวม เมื่อออกไปพบผู้คนข้างนอก
.
แต่ก็น่าแปลกใจที่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่
กลับให้ความสำคัญถึงกีฬาซูโม่น้อยลง
เช่นเดียวกับชาวต่างชาติที่เข้ามา
ให้ความสนใจในกีฬาชนิดนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
.
ในอดีต การเปิดโอกาสให้คนชาติอื่น
เข้ามามีส่วนร่วมในกีฬาชนิดนี้
ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
.
ทว่าปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนกฎกติกา
ให้ต่างชาติสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขันได้
แต่นอกจากการใช้พลังและการกินแล้ว
เหล่านักซูโม่ก็มีมุมพ่อบ้านอยู่เหมือนกันนะ…
.
บ่อยครั้งที่สำนักซูโม่ต่างๆ
มักจะจัดกิจกรรมออกไปเยี่ยมเยือนเด็กๆ
ตามโรงเรียนเพื่อสืบสานประเพณี
วัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป
.
นักซูโม่บางคนอาจเป็นขวัญใจสาวๆ
ในขณะที่นักซูโม่อีกหลายๆ คน
ได้กลายเป็นฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ
ชาวญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
นับว่าเป็นกีฬาที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญานจริงๆ

.