ขออีกมู้นึงครับ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร อายุไม่เกิน 18 ปี

คือเรื่องเพศศึกษาในสมัยนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเปิดเผยครับ ทุกโรงเรียนหรือสื่อต่างๆทางอินเตอร์เน็ตมีการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาต่างมุ่งเน้นไปถึงเรื่องของการป้องกันโรค และการตั้งครรภ์ เป็นส่วนใหญ่ และมีการอธิบายถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอายุ ซึ่งทำให้คนที่ได้รับรู้สิ่งเหล่านี้มีความเข้าใจมากขึ้น

ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องนะครับ และในปัจจุบันนี้สื่อสังคมออนไลน์ได้มีบทบาทอย่างมากในการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา ซึ่งดีกว่าสมัยผมมากด้วยซ้ำ ปัจจุบันเด็กๆเยาวชนส่วนใหญ่รับรู้และเข้าใจถึงผลกระทบและวิธีการต่างๆมากมาย แต่พอเอาเข้าจริงๆเยาวชนบางคนก็ยังขาดจิตสำนักในการป้องกันและจัดการอยู่ดี ซึ่งก็เหมือนเข้าใจแต่ไม่ทำตามนั่นเอง อาจจะด้วยสถานการณ์ อารมณ์ ความพร้อม ฯลฯ สุดท้ายก็นำมาสู่ปัญหาโรคติดต่อและการตั้งครรภ์ตามมา

ผมเลยมานั่งคิดดูว่าปัจจัยหนึ่งของปัญหาเหล่านี้ อาจจะมาจากการที่เรามองข้ามเรื่องที่สำคัญแต่กลับเหมือนไม่สำคัญนั่นเอง นั่นคือ "กฎหมาย" ซึ่งด้วยตัวบทเองได้กล่าวถึงไว้ทั้งหมดแล้ว แต่กลับไม่ถูกหยิบยกออกมาถึงผลกระทบด้านกฎหมายเลย ไม่ว่าจะเป็นสื่อทางอินเตอร์เน็ต สังคมออนไลน์ หรือสถาบันการศึกษา และคดีความที่เกี่ยวข้องเป็นคดีอาญาด้วย ในกรณีเกิดการฟ้องร้องนี้ขึ้น ซึ่งจุดนี้ หากมีการเผยแพร่ข้อมูลทางด้านนี้ไปพร้อมๆกับข้อมูลที่ได้เผยแพร่อยู่แล้ว น่าจะมีส่วนช่วยให้เยาวชนมีจิตสำนึกในการยับยั้งชั่งใจได้ไม่มากก็น้อย

สรุปคือ สื่อต่างๆเกี่ยวกับเพศศึกษานำเสนอข้อมูลได้ดีแล้วเพียงแต่ถ้าเพิ่มข้อกฎหมายเข้าไปด้วยจะทำให้เยาวชนที่ได้รับสื่อเหล่านี้ระมัดระวังมากขึ้นด้วยครับ

เยี่ยมเลยครับ

เรื่องนี้ผมงงๆนะ คือผมไปเกาหลีกับจีนมา ถุงยางขายอยู่ในเชลว์ขายของเหมือนของทั่วๆไปเลยครับ ไม่ได้ขายอยู่หน้าเคาร์เตอร์เหมือนบ้านเราเลยครับ

วัยอันควรคือเท่าไรใครกำหนดครับ

สมัยก่อนนี่มีลูกกันตั้งแต่เด็กๆ เลยนะ

เอาแต่ห้ามมันไม่มีทางแก้ได้หรอกครับ

ยอมรับแบบจริงๆ และให้เรียนรู้ที่จะป้องกันดีกว่า

ไม่ใช่สอนๆ แต่ก็ยังห้ามไม่ให้มี

สมัยผมเรียนมีครูห้องปกครองด่านักเรียนบนเวทีว่าไปซื้อถุงยาง

สรุปที่สอนมาทั้งหมด เป็นแค่พ่นคำพูดสวยหรูเฉยๆ แต่พอเด็กปฏิบัติตาม

กลับโดนตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดี

เหมือนว่าเซเว่นจะย้ายที่ขายแล้วมั้ง ไม่ได้วางเคาร์เตอร์แล้ว แต่ผมว่าร้านขายยาอะ ดีสุดละ ถูกกว่าด้วย คนไม่เยอะอีก

หรือถ้าไม่อยากให้ใครรู้เลย สั่งออนไลน์ไป 12กล่อง เป็นชุด ถูกกว่าเยอะ

สมัยผม ผมไม่อายนะ ผมหน้าด้าน

เดินไปซิื้อหนังสือลุงกังฟู ในร้านเหมือนเป็นชมรมเลยนะ
เล่มนี้อ่านแล้ว เล่มนี้ยังไม่อ่าน เอ้า!..เอามาเปลี่ยนกัน

ยิ่งยุคซีดีนี่ยิ่งสบายเลย 3 แผ่นร้อย เอาแผ่นมาเปลี่ยนเหลือ 50
แต่แผ่นต้องดีนะ เป็นรอยไม่ได้เด็ดขาด ปกไม่มีไม่เป็นไรบอกชื่อดาราก็พอ

ตอนนั้นคุยกับลุงๆในร้านนี่โคตรสนุกเลยฮะ แต่ละคนสอนหมด
ไม่มีกั๊ก ต้องทำอย่างนี้นะ ต้องแบบนี้นะ เรื่องศีลธรรมก็สอนนะ
อย่าไปทำแบบนั้น ควรทำแบบนี้

ผมเลยค่อนข้างเปิดกว้างกับเรื่องพวกนี้ แต่ก็นะ บางคนโตมาอีกแบบ
ก็เลยมองผมเป็นคนทะลึ่งไป แต่พออยากได้ซีดีหรือหนังสือล่ะ
วิ่งมาหาผมกันทุกคน

วัยอันควร คำนี้ ก็แล้วแต่ดุลพินิจคุณเลยครับว่า ถ้าเรามีลูกแล้วอายุเท่าไหร่ เราถึงจะยอม ในกรณีที่มีทั้ง ผู้ ญ ผู้ ช นะครับ แล้วก็น่าจะเป็นอายุที่สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายครับ

เอาจริงๆตอนนี้มันตีกันนะครับ บอกว่าสอนแต่ไม่ให้มี พอมี แล้วถุกจับได้ พ่อแม่ฟ้องร้องเป็นคดีอีก สรุป มึนครับ แต่เอาจริงๆมันก็อยู่กับจิตสำนึกจริงๆแหละครับ

ในความเป็นจริงถ้าเด็ก vs เด็ก ในด้านกฎหมายจริงๆมันก็ไม่มีการบังคับใช้ขนาดนั้น
ส่วนมากก็ตกลงกันระหว่างผู้ปกครองอยู่แล้ว (กรณีเต็มใจทั้ง 2 ฝ่าย)

ส่วนตัวผมก็มีน้องสาวอายุห่างกัน 10 ปี ไม่เคยขู่หรือห้าม
แต่ไปในเชิงให้ป้องกันให้ระวังมากกว่า ผมว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปห้าม
แถมวัยอันควรแต่ละคนก็ตีความยากนะ

พวกครูอาจารย์เก่าแก่บางคนนี่ล่ะตัวการเลย
จากประสบการณ์ที่เคยต้องไปให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน ละโดนพวกเขาหักหน้าเลยหลังจากให้ความรู้เสร็จ

วัยอันควร สำหรับผมคือต้องพร้อมมีลูกได้ครับ ถ้าพลาดท้องขึ้นมาก็ไม่เสียอนาคต
เพราะไม่มีการป้องกันแบบไหนที่จะป้องกันได้100%ครับ ใส่ถุงยาง กินยาคุม แต่พลาดท้องจนเสียอนาคตมาก็เยอะแล้ว
สมัยก่อนมีลูกกันเร็ว ก็เพราะเขาไม่ต้องเรียนสูงกันมากเท่าปัจจุบันไงครับ จบประถม ม.ต้น ก็หางานดีๆทำได้

ตอนพ่อไปส่งเข้าหอวันแรกตอนเรียนมหาลัย แตอนกำลังกลับพ่อพูดกับผมตรงๆ ครั้งแรกและน่าจะเป็นครั้งเดียวเรื่องนี้

"ทำอะไรป้องกันโตแล้ว ถ้าพลาดมีลูกขึ้นมาไม่เท่าไรยังเลี้ยงได้ แต่ถ้าติดโรคอนาคตดับเลยนะ คิดเอา"

ตอนแรกก็เชื่อ แต่ก็มีบ้างที่ไม่ใส่ แล้วไปเจอกับตัวเองคืดเมนส์แฟนไม่มา บอกเลยโคตรเครียด จนผ่านตอนนั้นมาได้ ใส่ตลอดเลย แลกกับความสบายใจ

สื่อสมัยนี้มันเร็วมาก เน้นให้ป้องกันดีกว่าห้าม

แต่ถ้าลูกเป็นผญ.นี่ก็คงเครียด คงสอนให้ลูกจักคุณค่าของตัวเองมากกว่า

วัยอันควร = ความพร้อมจะดีกว่า ประเทศเรามันไม่พร้อมขนาดนั้น ตปท หรืรอ ไทยเราบางคนเกิดมาทำงานได้ยืนด้วยตัวเองได้ รีบมีมันก็ดี นักบอล ตปท มีกันตั้งแต่ 18 19 เยอะแยะ

ต้องเลิกมองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องต้องห้ามเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ง่ายๆคือเลิกดัดจริตแล้วมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แล้วก็สอนวิธีป้องกันแบบต่างๆให้เป็นเรื่องเป็นราวไม่ใช่ทำให้มันดูเหมือนเป็นเรื่องเลวร้าย จนบ้างครั้งทำให้ดูว่าการเดินเข้าไปซื้อถุงยางอนามัยเป็นเรื่องประหลาดเป็นเรื่องน่าอาย

แล้วแต่ความคิดคุณเลยครับ

แต่ถ้าผมมีลูกผมจะไม่ห้ามมี เจอลูกพกถุงยางจะชมไม่ใช่ด่า

คนมันอยากจะทำยังไงมันก็ทำครับ ห้ามไป บอกให้รอวัยอันควรของคุณยังไงก็ห้ามไม่อยู่

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งทำให้เด็กรู้สึกผิดในการมีเซ็ก ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ

จนไม่กล้าแม้กระทั้งซื้อถุงยางมาใช้ กลายเป็นตัวเราเองที่พลักดัน

ให้เค้าเจอปัญหาท้องในวัยเรียน


ผมคิดว่าผมโชคดีนะ โตมาในครอบครัวที่ไม่ปิดกั้นเรื่องนี้

ขอแค่ให้รู้จักป้องกัน การเรียนผมก็ไม่ได้ตก ได้โควต้าเรียนดี

มีที่เรียนให้เลือกตั้งเเต่ต้นเทอมแรกของ ม.6 เลยนะถ้าจำไม่ผิด

และผมคิดว่ามันไม่เยอะเลยนะ คนที่มีความรู้ถูกต้องและตั้งใจป้องกันจะพลาดท้องง่ายๆ

แต่ที่เจอท้องๆ กันนี่คือไม่ได้ป้องกัน ใช้ความเชื่อเรื่องแตกนอก พวกนี้มากกว่าที่เจอเยอะ

คุณเป็นผู้ชายน่ะไม่เท่าไหร่ครับ พลาดมาก็ไม่ต้องแบกอะไรถ้าไม่อยากแบก
แต่มีลูกสาวนี่เครียดนะครับ ญาติผมเป็นจิตแพทย์เล่าให้ฟังว่าเจอเด็กสาวที่มีปัญหาท้องในวัยเรียน จนเสียอนาคต กลายเป็นเด็กซึมเศร้ามามากมายแล้วครับ

อีกหน่อยถ้าคุณมีลูกสาว ผมมั่นว่าคุณจะต้องแนะนำลูกในอีกแบบหนึ่งแน่ครับ ผมมั่นใจว่าคุณจะไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองมี sex ในวัยเรียน
ถึงคุณจะไม่ห้าม แต่ถ้าให้เลือกได้ผมว่าคุณก็ต้องไม่อยากให้ลูกประพฤติตัวแบบนั้น
ไม่ใช่การห้าม แต่ผมเรียกว่าการแนะนำสั่งสอนลูกดีกว่าครับ ว่าควรจะทำตัวอย่างไร
ส่วนลูกจะทำตามหรือไม่ ก็อยุ่ที่ความใฝ่ดีของเด้กเองล่ะครับ

ผมยังหัวโบราณอยู่

ถ้าผมมีลูก ลูกก็เหมือนลูกจ้างผม เพราะเค้ารับเงินจากผมใช้ไง

เพราะฉะนั้น ผมจึงมีอำนาจในการสั่งลูกทุกอย่าง

ถ้ามีผมลูก ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ลูกผมจะไม่มีสิทธิ์ในการมีอะไรกับใครโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากผม

และการจะได้รับอนุญาต ก็คือต้องลาออกจากการเป็นลูกจ้างของผมก่อน นั่นก็คือไม่ต้องพึ่งผมอีกต่อไปแล้ว

ถึงตอนนั้นผมก็ไม่อยากให้ลูกมีอะไรกับใครเหมือนเดิม แต่เค้าไม่ใช่ลูกจ้างผมแล้ว ผมจึงไม่มีสิทธิ์ไปสั่งเค้าได้

อย่าคิดแทนผมสิครับ ผมไม่ก่าวก่ายความคิดคุณนะ จะคิดยังไงเรื่องของคุณ

แต่ผมคิดของผมแบบนี้ ไม่ว่าจะหญฺิงหรือชาย แล้วคุณได้ถามญาติคุณมั่งมั้ยครับ

ว่าเด็กที่ท้องนั้น ท้องจากป้องกันถูกต้องทุกอย่าง หรือเพราะไม่ได้ป้องกัน

ถ้าคำตอบเป็นอย่างหลัง การห้ามลูกยุ่งกับเรื่องพวกนี้ก็มีส่วนในการส่งเสริมให้เด็ก

ท้องเช่นกัน คิดว่าที่ผ่านมาไทยที่มีปัญหาท้องในวัยเรียนอันตับต้นๆ ของโลก

นี่พ่อเเม่เด็กสนับสนุนพร้อมให้ความรู้ในการป้องกัน หรือห้ามไม่ให้มีเลย

อย่างไหนมากกว่าครับและสิ่งที่พ่อแม่เด็กในอดีตทำ มันช่วยให้อะไรดีขึ้นมั้ยครับ

วันมาส่ง แม่เซ็นรับ สมบูรณ์แบบ

ผมว่าผมพูดไปชัดเจนแล้วนะครับว่า "ไม่ได้ห้าม"
แต่ถ้าผมมีลูกสาว ผมจะแนะนำและสั่งสอนลูกสาวของผม ว่าวัยไหน ที่เหมาะสมที่สุดที่จะพร้อมมี sex
และลูกสาวผมจะทำตามหรือไม่ ก็อยู่ที่ความใฝ่ดีของเขาเองครับ

แต่ผมเข้าใจ พ่อแม่ที่ห้ามลูกสาวตัวเองมี sex ในวัยเรียนนะ
เพราะเขาไม่อาจจะไว้ใจได้เลยไงครับว่า ไอ้ฝั่งผู้ชาย มันจะได้รับการสอนมาดีแค่ไหน
ถึงท่านจะแนะนำสั่งสอนลูกสาวท่านให้ป้องกันเป็นอย่างดี แต่ท่านจะไว้ใจอีกฝั่งได้มากแค่ไหนล่ะครับ ว่าเขาจะมีความรอบคอบดีแบบลูกท่าน ?
ผู้ชายเวลาหน้ามืดมันพลาดได้ง่ายครับ ยิ่งวัยรุ่นวัยเรียน มันก็คือกระทิงคะนอง อยากเล่นสดๆเพราะมันส์กว่า ผู้ชายมันสะใจเมื่อได้แ-กในขนาดไหน ท่านอ่าน SS ท่านคงรู้ดีอยู่แล้วนะครับ
ผู้หญิงรอบคอบป้องกันดีแค่ไหน ถ้าเจอผู้ชายที่มันเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความมันส์ โอกาสพลาดก็มากครับ
ยิ่งสมัยนี้มีการถ่ายคลิปเวลาเอากันได้ง่าย ยิ่งควรห้ามครับ เพราะวันดีคืนดีไปเจอคลิปหลุดลูกสาวตัวเอง ลูกก็แทบหมดอนาคตล่ะครับ

แล้วท่านจะไว้ใจสอนลูกสาวท่าน ว่าอยากมี sex ก็ทำไปเลย แบบนั้นดีแล้วเหรอครับ
ท่านอาจจะคิดว่าดีครับ
แต่คนส่วนใหญ่เขาก็จะยังคงสอนลูกสาวตัวเองให้รักนวลสงวนตัวในวัยเรียนมากกว่าอยู่ดี และเป็นการสอนให้ทำให้สิ่งที่เหมาะสมที่สุดครับ
ท่านลองสังเกตเถอะครับ พวกเพลย์บอย เสือผู้หญิง เวลามีลูกสาวเขาหวงลูกสาวขนาดไหน กว่าเขาจะปล่อยลูกสาวให้อิสระเรื่องนี้ก็ต้องโตบรรลุนิติภาวะกันทั้งนั้น
เพราะเขารู้ธรรมชาติผู้ชายดีไงครับว่ามันเห็นแก่ตัวขนาดไหน

แล้วเด้กที่แอบมีกันด้วยความพึงพอใจอีกตั้งมากมายอ้ะ พวกนั้นบางทีไม่มีใครรู้หรอก อาจจะมีเพื่อนรู้บ้าง แต่ผู้ใหญ่รุ้อีกทีก้ท้องละ
กฎหมายถ้าบังคับใช้ได้หมายความว่าเรื่องเกิดไปแล้ว มันเป้นบทลงโทด แต่ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อเด้กหรอก
ยังไงซะสอนวิธีป้องกันดีที่สุด ไม่ใช่แค่สอนแต่ควรปลูกจิตสำนึกเลย แบ้วต้องไม่ทำเหมือนคนที่มีแบบป้องกันเป้นเรื่องน่าอาย
ตามปกติฮอร์โมนส์เพศมันก้จะพลุ่งพล่านเป้นพิเสดช่วงวัยรุ่นนั่นแหล่ะ ตั้งแต่หลัง13จนอาจจะช่วง20ต้นๆ
แล้วกฎหมายห้ามแค่ก่อน18เท่านั้น แต่เด้ก18 19 มีลูกขึ้นมาก้ยังไม่พร้อม เสี่ยงเป้นปัญหาสังคมยุดี ครั้นจะห้ามว่าหลัง20ก้คงไม่ใช่ ความพร้อมแต่ละคนมันเริ่มไม่พร้อมกัน เพราะงั้นยังไงซะวิธีที่ดีที่สุดไม่ใช่บังคับใช้กฎหมายหรอก แต่เป้นการสอนและปลูกจิตสำนึกต่างหาก และเชื่อสิ ที่มียุทุกวันนี้ยังไม่ดีพอหรอก

การกำหนดวัยอันควรไว้สูงลิบแบบนั้นมันไม่ห้ามยังไงครับ

ไม่ห้ามลูกแต่สอนว่าไม่ควรทำ ย้อนแย้งดีนะครับ

อีกอย่างผมไม่ได้ถึงขั้นสนับสนุนว่าลูกต้องไปมีอะไรกับใครนะ

ขอแค่ถึงเวลาที่เค้าตั้งใจจะทำจริงๆ ต้องมีอะไรไว้ป้องกัน

แต่ก็แล้วคุณเลยครับ ถ้าคิดว่าการเลี้ยงลูกแบบเก่ามันแก้ปัญหาได้ดี

เรื่องของคุณผมคงไม่ยุ่งด้วย ผมแค่เสนอความคิดในมุมของผม

ตามสบายครับ คุยแบบนี้ไปก็เสียเวลาเปล่า

แต่คุณก็ลองไปดูในสังคมจริงๆก็แล้วกันครับ เด็กที่ได้รับการสอนมาดี เขาก็ใฝ่ดี ทำในสิ่งที่เหมาะสม ในปัจจุบันก็มีเยอะแยะครับ

ดูพวกเด็กที่เรียนในโรงเรียนที่คะแนนดีๆ สอบเข้ามหาลัยดีๆ คณะสูงๆ ส่วนมากเขาไม่ได้หมกมุ่นกับเรื่อง sex ตั้งแต่เด็ก
เขาจึงมีเวลาศึกษาหาความรู้ได้เต็มที่ ไม่วอกแวกไปกับสิ่งที่ทำให้ใจแตกครับ

แน่นอนผมไม่ได้เหมารวมทุกคน แต่ถ้านับค่าเฉลี่ยโดยรวม เด็กที่หมกมุ่นเรื่อง sex ยังไงอนาคตก็สู้เด็กที่มุ่งมั่นเรื่องการเรียนไม่ได้ครับ

ที่พิมพ์กันมาผมเพิ่งเห็นด้วยกับคุณประโยคเดียวนี่แหละครับ คือเสียเวลาที่จะคุย

ผมก็ไม่รู้นะ คุณยืนมองสังคมในมุมไหน ถึงไม่เห็นว่าปัจจุบันมันเป็นยังไง

และยังคิดว่าการทำให้เด็กเห็นว่าเซ็กเป็นเรื่องผิด

ทำให้เด็กอายที่จะป้องกันเป็นเรื่องถูก

แล้วไอ้ที่คุณยกมา มันไม่มีอะไรสุดโต่งหรอกครับ คนบ้าอะไรจะคิดแต่สืบพันธุ์ทั้งวัน

ผมตอบคำถามท่านแค่ประเด็นเดียวละกันครับ ว่าผมมองว่าสังคมปัจจุบันเป็นอย่างไร
ผมมองว่ามันเหลวแหลกกว่าสมัยก่อนมากครับ สถาบันครอบครัวก็เปราะบางลงมาก เด็กเจนใหม่ก้าวร้าว รุนแรง เสียผู้เสียคนในเปอร์เซ็นมากกว่าสมัยก่อนเยอะ

และผมไม่ชอบปล่อยผ่านครับ เพราะผมเชื่อว่าการหล่อหลอมคนให้เติบโตมาดีมีคุณภาพ ใฝ่ดี สิ่งแรกคือการปลูกจากครอบครัวจะต้องดีก่อนอย่างอื่นครับ
สิ่งนี้มีผลมากสำหรับเด็ก ในการเติบโตมาให้ถูกเส้นทางและทำตัวให้เหมาะ
แน่นอนครับว่ามันไม่ได้ 100 % เพราะคนที่ดื้อไม่เชื่อฟังมันก็มี แต่คนที่พร้อมเชื่อฟังก็มีเยอะครับ ผมถึงได้บอกไงว่าเด็กจะทำตามหรือไม่อยู่ที่ความใฝ่ดีของเขาเอง
เรามีหน้าที่แนะนำสั่งสอนและปลูกฝังในสิ่งที่เหมาะสมกับวัยของเขาเท่านั่น บอกถึงข้อดีข้อเสียและผลร้ายผลดีต่างๆที่จะตามมาในการกระทำของเขา
จากนั้นขึ้นอยู่กับเขาเองครับว่าเขาจะเลือกทำอย่างไร แต่ผมเชื่อว่าเด็กที่พร้อมจะเชื่อฟังคำสอนครอบครัว ในปัจจุบันก็ยังมีเยอะครับ โดยเฉพาะเด็กที่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีตัวอย่างที่ดีเป็นแบบอย่าง เขาก็มีโอกาสเติบโตไปเป็นคนใฝ่ดีสูง
โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงควรจะได้รับการปลูกฝังที่ดีมากเป็นพิเศษขึ้นไปอีก

ถ้ารู้จัก ป้องกัน ก็ไม่มีปัญหาหรอก
กล้าทำ ต้องไม่อายที่จะป้องกันครับ

อยู่ที่คนสองคนแล้วก็ครอบครัวของทั้งคู่มากกว่าครับว่าจะให้การสนับสนุนไม๊หลานผมท้องตอน20ตอนนี้ลูกก็โตน่ารักพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ช่วยกันดูแลดี ผัวก็ทำงานปลูกผักเมียก็เลี้ยงลูกเงินขาดพ่อแม่ก็คอยช่วยเหลือถามว่ารวยไม๊ก็ไม่แต่คือขยันมีหนี้สินบ้างช่วงฤดูลงทุนก็ใช้คืนตอนขายผัก ไม่จำเป็นต้องมีงานหลักแหล่งขอแค่มีความรับผิดชอบกับเด็กที่จะเกิดมารึเปล่า

สำหรับผม ขอแค่ถ้าเกิดท้องขึ้นมา ก็ต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองให้ได้ ถึงแม้จะต้องออกจาก รร. หรือมหาลัย และอย่าไปรบกวนพ่อแม่ เพราะทำให้เด็กเกิดมาได้ ก็ต้องเลี้ยงเองให้ได้