[SpoiL] Downsizing เหมาะสำหรับคนดูแล้ว
หลังจากดูหนังตัวอย่างก็ไม่คิดว่าจะน่าสนใจอะไรมาก น่าจะเป็นหนังตลก
อาจจะมีความเป็นไซไฟ ทริลเลอร์ผสมอยู่บ้างล่ะมั้ง อ้างอิงจากแมตต์ เดม่อน
กลับเป็นหนังที่ดูเรื่อยๆ น่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆถึงเบื่อจนขั้นสุด เบื่อจนอยากเลิกดู
แต่ตอนจบกลับเป็นหนังที่ทำให้มองเห็นถึงตัวเราที่เป็นมนุษย์มากขึ้น
เป็นหนังที่ลึกกว่าที่คิด ไม่ใช่ตลกไร้สาระจนหาอะไรดีไม่ได้
------------------------------------------------------------------------------------
คำเตือน : จากนี้จะเป็นสปอยแบบละเอียด ยังไม่ดูควรปิด
-------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มต้นมาก็พูดถึงการประสบความสำเร็จของนักวิทยาศาสตร์แแห่งนอร์เวย์
ที่สามารถทำการลดขนาดของมนุษย์ได้สำเร็จ เพื่อช่วยโลกใบนี้
จากหลายๆปัจจัยที่เป็นปัญหาอยู่เช่น ปริมาณอาหาร แร่ธาตุ ก๊าซ
ประเด็นที่นักวิทย์ยกมาก็คือการช่วยโลก แต่ประชาชนชาวโลกทั่วไป
กลับไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้สักเท่าไหร่ กลับไปชูเรื่องลดค่าใช้จ่าย
ค่าครองชีพต่างๆ ทั้งค่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร ค่าภาษีสังคมทั้งหลาย
อย่างที่บอกว่าหนังมันน่าเบื่อมากๆ ผมนั่งดูไปเรื่อยๆจนถึงฉากที่
พอล(แมตต์ เดมอน)เมายาจากการไปปาร์ตี้ของเพื่อนบ้านน่ารำคาญ
ดูชาน
ผมนั่งถามตัวเองทันที ดูอะไรอยู่วะกู จะได้อะไรจากเรื่องนี้วะ
คือปกติผมดูหนังมักจะคิดว่าจะได้อะไรจากหนังที่ดู แง่มุม ความคิด ไอเดีย
แต่เรื่องนี้ผมดูมาเกือบจะกลางเรื่อง(คิดว่านะ) ผมก็ยังจับประเด็นไม่ได้
คิดไปถึงว่าหนังจะจบยังไง เล่นดำเนินเรื่องแบบนี้
มาถึงฉากนึงที่
ดูชาน พอล และง็อก แลน(นางเอกสาวเวียดนาม)
ไปถึงต้นกำเนิดของคนตัวเล็ก ที่นั่นพอลได้ค้นพบว่าตัวเองมีประโยขน์อะไร
พอลตั้งใจจะลงไปอยู่ใต้ดินกับเหล่าต้นกำเนิด เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์สืบไป
นักวิทย์ที่เป็นเจ้าของผลงานการย่อส่วนมนุษย์ คิดว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบ
ดังนั้นจึงสร้างเรือโนอาห์ขึ้นมา เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ต่างๆบนโลกเอาไว้
ด้วยการไปอยู่ใต้ดินเป็นเวลาแปดพันปี ตามการคำนวณของนักวิทย์เอง
หลังจากถูกออเดรย์แฟนสาวหลอกให้ย่อส่วน พร้อมขอโทษ
พอล
และบอก
พอลว่าให้นึกถึงเค้าบ้าง เค้ายังมีครอบครัวและเพื่อน
แน่นอน
พอลต้องโมโห ถามกลับแล้ว
พอลล่ะใครจะนึกถึง
พอลบ้าง
หลังจากนั้นก็ต้องเซ็นใบหย่าพร้อมแบ่งทรัพย์สิน จากที่คิดว่า
จะอยู่อย่างเศรษฐี แต่กลับต้องมาเป็นพนักงานคอลเซนเตอร์เพื่อหาเงิน
และต้องย้ายออกจากคฤหาสน์ในฝันสุดหรูมาอยู่คอนโดเล็กๆ
แถมต้องมาเจอ
ดูชาน เพื่อนบ้านสุดกวนที่มักจะจัดปาร์ตี้ด้วยเสียงกระหึ่ม
ดูชานบอกว่า
พอลเป็นคนดีแต่น่าสมเพช คนดีที่มักจะโดนคนอื่นเอาเปรียบ
แต่ด้วยความดี
ดูชานจึงถูกใจและยกให้เป็นเพื่อนรัก
บทของ
ดูชานคือพ่อค้าของผิดกฏหมาย ขายทุกอย่างที่คนตัวเล็กไม่เคยมี
เช่นซิการ์คิวบาที่แพงแสนแพง ก็เอามาแยกส่วนแล้วทำใหม่ให้เล็กลง
แม้จะไม่ได้เมดอินคิวบา แต่ถ้า
ดูชานบอกว่าคิวบา คนอื่นๆก็ไม่สนใจอะไรแล้ว
แม้จะมีมาดที่กวนแต่ดูชานก็รู้ถึงสันดานของคนตัวเล็ก
คนตัวเล็กส่วนใหญ่ก็คือคนที่มีชีวิตลำบากตอนตัวโต พอตัวเล็ก
เลยอยากจะมีชีวิตที่สบาย งานการไม่ทำ ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ ปาร์ตี้ไปวันๆ
และดูชานปฏิเสธที่จะไปอยู่ใต้ดินด้วยเหตุผลว่า เดี๋ยวมันก็ฆ่ากันเอง
มนุษย์มักจะวนเวียนยู่กับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
จากคำพูดของดูชานนี่เองทำให้ผมเข้าใจหนังทั้งเรื่องโดยทันที
หนังต้องการจะสื่อว่ายังไงก็ตามมนุษย์ก็มักจะมองแต่ตัวเอง
ควานหาแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน
สันดานเสียๆของมนุษย์ก็มักจะถูกแสดงออกมาอยู่เสมอ
ส่วน
ง็อก แลน สาวนักปฏิวัติจากเวียดนามที่โดนกลั่นแกล้งให้ตัวเล็ก
จากฝ่ายที่เสียผลประโยชน์จากม็อบ แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้
ง็อก แลนจึงลักลอบแอบหนีออกมาตายเอาดาบหน้าที่อเมริกา
ง็อก แลนเป็นตัวละครที่ดูไม่เข้ากันที่สุดในหนังเรื่องนี้ แต่กลับเป็นตัวสำคัญ
เป็นตัวทำให้เรื่องทั้งหมดเดินไปข้างหน้า เป็นตัวผลักดัน
พอลอยู่เงียบๆ
เป็นคนที่บอก
พอล ที่กำลังสับสนในชีวิตว่าเค้าเป็นใคร มีประโยชน์อะไร
ด้วยคำที่ว่า
พอล ก็คือ
พอล ทำให้
พอลเริ่มมองสิ่งที่อยู่รอบตัวมากขึ้น
หนังต้องการจะบอกคนที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่ว่าไม่ต้องมองไปไหนไกล
ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวาย หากอยากรู้จักตัวเอง
จงมองสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณเอง สิ่งที่คุณทำ นั่นล่ะ คือสิ่งที่คุณเป็น
สรุปแล้วเป็นหนังที่ดีเรื่องนึงถึงแม้จะไม่ดีมาก เป็นหนังตลกร้าย
ที่เสียดสีได้เนียนมากๆ กว่าผมจะดูหนังรู้เรื่องก็เกือบจะจบแล้ว
---------------------------------------------------------------------
เป็นหนังที่เหมาะกับการดูสองรอบ
เพราะสนุกมากเลยต้องดูสองรอบ ?
ป่าว..รอบแรกดูไม่รู้เรื่อง
ผ่าม ผ่าม ผ้ามมมมม