ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 1699
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:31 am
ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
จากกระทู้นี้ http://www.soccersuck.com/boards/topic/1599414

ขออนุญาตเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นวิทยาทานกับเพื่อน ๆ สมาชิคทุกท่านนะครับ

ม.ปลาย ผมเป็นเด็กเกเรมากครับ อยู่สายวิทย์-คณิต แต่ตกเคมี ฟิสิกส์ และคณิตตลอด (รอดแค่ชีวะ เพราะมันท่องจำ)

เตะแต่บอล ตัวดำ ไร้อนาคตไปวัน ๆ

ช่วงนั้นเป็นช่วงเข้ามหาลัย การสอบในตอนนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายจากระบบเอนท์ ไปสู่โอเน็ต ต่อเนื่องมาแกทแพท

ด้วยคะแนน และพฤติกรรมของผม ผมเข้าได้แค่ราชมงคลแห่งหนึ่ง

ใจนึงก็กลัว มันจะรับน้องเถื่อนไหม มันจะมีคนตายหรือเปล่า ตอนนั้นกลัวไปหมด แต่จะไปเรียนเอกชนก็ไม่ไหว ฐานะที่บ้านยากจนเกินไป

พอผมไปเรียนจริง ๆ ผมได้เกรดดีมากเลยครับ รู้สึกมันง่าย อะไรก็สะดวกไปหมด มิดเทอมได้ทอปเกือบทุกวิชา

...โดยเฉพาะแคลคูลัส

จบเทอม 1 ผมได้ 4.00 เลย ทั้งที่ม.ปลาย ผมแทบจะตกทุกวิชาด้วยซ้ำ

จากที่เป็นคนไม่เคยมั่นใจในตัวเองเลย คิดว่าอนาคตอนางอคงมาได้แค่เท่านี้ ผมรู้สึกมั่นใจตัวเองขึ้นเยอะ ว่ากูก็ทำได้นิหว่า

กอปรกับตอนนั้นหนังรถไฟฟ้ามหานะเธอดังมาก ผมโคตรกรี๊ดพี่เคนเลย อยากหล่อ อยากวิศวกรแบบเขา อยากเท่ (เพื่อให้หญิงชอบ) แบบเขา ไม่ได้คิดเลยครับว่าวิศวมันเป็นอย่างไร คิดว่าได้ใส่ชอปกูหล่อแล้ว

ผมเลยตัดสินใจลาออกครับ เพื่อออกมาสู้อีกครั้ง เพื่อเอนท์เข้าวิศวแบบที่พระเอกมันทำได้

...สรุปผมเข้าได้ครับ

ช่วงแรกของการเรียนนั้น มี culture shock พอสมควร ทุกคนที่ม.หล่อ สวย รวย มีรถหรู และที่สำคัญ พวกเขาหัวไบร์ทกันสุด ๆ

ผมจากที่เป็นตัวทอปจากม.เก่า แคลคูลัสที่นี้ ทำเอาที่เรียนทั้งเทอมจากม.เดิม ให้จบในคาบเดียว

การปรับตัวเป็นไปอย่างยากลำบาก ความไม่มั่นใจเริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่

จบเทอมแรกด้วยเกรด 2.86 ผมค่อนข้างภูมิใจกับตัวเองมาก

ญาติผู้ใหญ่ถาม หนูเรียนที่ไหน คณะอะไร ผมก็บอกได้อย่างเต็มภาคภูมิ จากเด็กที่ไม่เคยมีอนาคต ตอนนี้ผมกำลังมีอะไรดี ๆ รออยู่ข้างหน้า

ผมรู้สึกว่าคิดถูกที่ย้ายออกมา และคิดว่าเราเก่งขึ้นเยอะ เมื่อมีอาจารย์ที่ดี และเพื่อนร่วมคณะที่ฉลาดสุด ๆ

กระทั่งจบมหาลัย ผมจบมาด้วยเกรดที่ค่อนข้างดี

ช่วงนั้น การหางานง่ายมากครับ บ.ดังที่สุดของแต่ละสายงาน รอรับผมอยู่

หน่วยงานที่ผมเข้าไป มีเด็กม.ดัง ๆ ตัวท๊อปของแต่ละคณะ แต่ละภาควิชารวมตัวกันไปหมด มันพลอยทำให้เราคิดว่า เราก็มีดีเหมือนกันนะ จากจุดเริ่มต้นมา มาได้ไกลขนาดนี้เลยหรอ

ที่ผมสามารถยืนยันกับเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านได้คือ คนพวกนี้เขาเก่งจริง ๆ ไม่ใช่แค่ทฤษฏี เหล้าแม่งก็กินเก่ง เที่ยวก็เก่ง

เขาไม่ได้มีแค่ IQ เขามาพร้อม EQ ที่สูงด้วย

ผมเคยถามเจ้านายว่า ทำไมไม่ลองรับเด็กจากม.ที่พิกัดต่ำลงมา แกบอกว่าแกลองให้โอกาสแล้ว แต่มันไม่ได้จริง ๆ ขณะที่.ที่ผมจบ รุ่นพี่สร้างผลงานดี ๆ ไว้เพื่อรุ่นหลังอย่างผมมากมาย

เอกชนจะรับเฉพาะพวกที่ประสบการณ์ และผลงานชัดเจนแล้วเท่านั้น

แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีพวกคลั่งสถาบัน คนละแผนกกับผมก็มี รับสีชมพูล้วน ๆ แต่จะทำไงได้ ในเมื่องานมันเดินได้ดีเป็นปกติ จะไปว่าเขาก็ไม่ได้ ในเมื่อผลงานเชิงประจักษ์เห็น ๆ อยู่

เวลาน้อง ๆ หรือใคร ๆ มาขอคำแนะนำจากผม ผมถึงบอกเสมอว่าเข้าม.รัฐให้ได้

เรามีโอกาสพบพานเพื่อนร่วมชั้นเก่ง ๆ อาจารย์ดี ๆ เครื่องมือการสอนที่ครบครัน และหญิงแม่งก็เด็ดมากด้วย

แถมตอนทำงาน เราก็หางานง่าย เพราะรุ่นพี่สร้างความประทับใจไว้ในองค์กรนั้น ๆ จนได้รับความเชื่อมั่นไปแล้ว

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับผมนะครับ ผมแค่เล่ามุมมอง และประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเองให้ท่านฟัง เผื่อใครมีโอกาสเอาไปปรับใช้ ก็ถือเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ของผมไป

ขอบคุณฮะ

เข้าร่วม: 19 Jul 2006
ตอบ: 2571
ที่อยู่: Midori farm / พนักงานเลี้ยงม้าให้เทพลูคัส
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:42 am
ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
จากที่ผมสัมภาษณ์เด็กมา รับคนเข้าทำงานมาจำนวนนึง

ถ้างานที่ต้องได้ภาษาผมจะเลือกมหาลัยนิดนึง

งานใช้วิชาการ อันนี้ผมเรียกหมด ให้โอกาส แต่วัดกันตอนสัมภาษณ์

ที่เลือกไม่ใช่อะไรนะครับ ลดการเสียเวลาทั้งคนสัมภาษณ์และผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ การเดินทางไปสัมภาษณ์งานมีต้นทุนนะครับ บางคนทำงานอยู่ต้องลางาน

คนที่เค้าสัมภาษณ์เค้าก็มีงานอื่นต้องทำ แทนที่จะสัมภาษณ์ 4-5 คนละได้เลย เทียบกับบางทีสัมภาษณ์ร่วม 15คนละยังไม่ได้

บางที manager ใบสั่งมาให้ Hr เลย เค้าไม่อยากเสียเวลา


แต่จากที่เป็นข่าว Hr คนที่ตอบเมลล์มาสมควรโดนไล่ออก เพราะทำลายภาพลักษณ์องค์กรสุดๆแทนที่จะใช้คำว่า คุณสมบัติเบื้องต้นไม่ผ่าน
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 15339
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:46 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ถ้าผมมีลูกผมจะเข็นให้เข้า ม ดีๆให้ได้เลย
0
0


เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 9825
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:48 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมไม่ได้จะดูถูกหรืออะไรนะ การทำงานพวกบริษัทต่างๆเนี้ย ชื่อชั้นมหาลัยมีผลอย่างมาก
ถ้าผมเป็น เจ้าของบริษัท ผมก็คัดหาแต่ พวกเก่งๆ เก่งในที่นี้รู้ได้ไงว่าเก่ง
เราไม่รู้หรอกว่า ไอพวกที่จบมาใหม่เนี้ย มันทำงานเก่งหรือไม่ เพราะฉะนั้นมันมีทางเดียวที่ดูได้คือคุณจบมาจากที่ไหน เพราะ การที่เข้า ม. ระดับท๊อปๆ ของประเทศได้ มันไม่ใช่ไก่กาแน่นอน




ปล.ผมไม่ได้ จบจาก ม.ดังนะ
ผมเป็นลูกหม้อกระทรวงที่พี่ตูนวิ่ง 5555
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 7509
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:49 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ใคร ๆ ก็อยากเข้า ม.รัฐ ดัง ๆ ทั้งนั้นครับ ผมคนนึงที่สอบเข้าไม่ได้ ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป จบ ป.ตรี มาหางานทำ มีเงินเดือนที่พอจะเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้เขาสบายได้ ถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จแล้วครับ

ปล.ยินดีกับ จขกท ด้วยที่ชีวิตประสบความสำเร็จครับ
0
0
เข้าร่วม: 12 Oct 2008
ตอบ: 4766
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:50 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมว่า ม.รัฐ นี่ทำให้มีมาตรฐานระดับนึงนะครับ

อีกส่วนก็อยู่ที่คนว่าจะได้ดีกว่าหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งจริงๆบริษัทเค้าก็รับเพราะมาตรฐานนี้นี่แหละ ใครตกเค้าก็เอาออก

ส่วนพวกราชมงคล อาจต้องพิสูจน์ตัวเองมาจากที่อื่นก่อน หรือต้องมีอะไรดีๆที่ทำให้เค้ามองว่ามีมาตรฐานที่สูงได้ครับ

ใครไม่ได้จบ ม.รัฐอาจจะเหนื่อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีหนทาง
1
0
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 28143
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:52 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
การจัดอันดับในด้านต่างๆ

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
0
0
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3581
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:52 am
[RE]ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ถ้าจบจากม.รัฐดังๆเกรด2ต้นๆ กับม.ราชมงคลหรือราชภัฏเกรด3กว่า เค้าจะเลือกใครอะครับ


เข้าร่วม: 22 Sep 2013
ตอบ: 3324
ที่อยู่: Bkk
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:53 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ถ้า ผช เรียน มหาลัย รัฐ ม ดัง ส่วนใหญ่จะจบ เกรดนิยมกัน 55555+
0
0
MY LIVERPOOL!!!!
FORZA NAPOLI!!!!



เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6590
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:54 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
คือออกจากราชมงคลมาเข้าที่ไหนหรอครับ
0
0


เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 8491
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:54 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Little DraKe V.4 พิมพ์ว่า:
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ถ้าจบจากม.รัฐดังๆเกรด2ต้นๆ กับม.ราชมงคลหรือราชภัฏเกรด3กว่า เค้าจะเลือกใครอะครับ  


จากประสบการ เลือกรัฐมากกว่า ยิ่งวืศวะด้วยนะ

ผมเรียนวิศวะ ค่ายใบไม้
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 2588
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:54 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
คือคนที่บอกว่าจบจากไหนก็เหมือนกันคือเค้าไม่มองโลกตามความเป็นจริงเลยหรอ หรือไม่ได้ใช้ชีวิตในบ้านเมืองนี้ ต่างม.ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็ต่างกันแล้ว วิชาการ แนวคิดต่างๆมันปลูกฝังแทรกซึมในสังคมที่อาศัยอยู่ ยังไม่รวมถึงคอนเนคชั่นนะ
0
0
เข้าร่วม: 01 Jan 2014
ตอบ: 6349
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:55 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมก็คนนึงนะที่เรียนมหาวิทยาลัยตามที่เป็นข่าว

มหาวิทยาลัยของรัฐสอบติดแต่ต่างจังหวัดพ่อแม่ไม่อยากให้ไป กลัวกินเหล้าจนไม่จบ 55

ก็ยอมรับตรงๆเลยว่าผมรู้สึกว่าเรียนง่ายพอสมควร

โดยเฉพาะตอน ปี1ปี2 นี่แทบไม่ต่างจากเรียน ม.ปลาย (บางวิชาง่ายกว่า)

แต่เป็นคนที่ไม่ได้สนใจแต่ความรู้ในห้องเรียน เลยมีโอกาสเอาทั้งในและนอกห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ในงานปัจจุบัน
1
0

30 ปีที่รอคอยสิ้นสุดสักที
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 9798
ที่อยู่: STAMFORD BRIDGE
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:55 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
สิ่งเดียวที่เค้าสู้ไม่ได้คือความมั่นใจครับ
ชอบรู้สึกว่าตัวเองห่วย ตัวเองกาก ทั้งๆที่พวกเค้าก็ทำได้เหมือนกัน
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3581
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 9:58 am
[RE]ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
MiTH พิมพ์ว่า:
Little DraKe V.4 พิมพ์ว่า:
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ถ้าจบจากม.รัฐดังๆเกรด2ต้นๆ กับม.ราชมงคลหรือราชภัฏเกรด3กว่า เค้าจะเลือกใครอะครับ  


จากประสบการ เลือกรัฐมากกว่า ยิ่งวืศวะด้วยนะ

ผมเรียนวิศวะ ค่ายใบไม้  

ค่ายเดียวกันเลยครับ


เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 15339
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:00 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Little DraKe V.4 พิมพ์ว่า:
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ถ้าจบจากม.รัฐดังๆเกรด2ต้นๆ กับม.ราชมงคลหรือราชภัฏเกรด3กว่า เค้าจะเลือกใครอะครับ  

ผมว่ารัฐครับ


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1496
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:00 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ช่วงเริ่มต้นงานหลังเรียนจบ ชื่อชั้นของ ม. มีผลมากจริงๆครับ
แต่ถ้าหลังจากนั้นไปซัก 5-10 ปี จะเป็นยังไง อยู่ที่ตัวคุณเองแล้ว

ผมเห็นด้วยกับการพยายามเข้า ม. ดีๆให้ได้ เพราะอย่างน้อยก็เหมือนเป็นเครื่องการันตีให้กับตัวเองแล้วระดับนึง แต่สุดท้ายแล้ว คนที่เก่งเท่านั้น ที่จะอยู่รอดและเติบโต

เหมือนเราจะซื้อของยี่ห้อใหม่ๆ made in china กับ made in japan ถามว่าจะเลือกอันไหนถ้าราคาเท่ากัน?

ยินดีด้วยกับ จขกท.ครับ สุดยอดมากๆ
0
0
เข้าร่วม: 08 Jan 2008
ตอบ: 3523
ที่อยู่: N/A
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:00 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
เรื่องสีในองค์มันแรงครับ พอได้ทำงานจริงๆ จะรู้เลย

ผมแอนตี้เรื่องนี้ แต่ก็เป็นแค่คนตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้

0
0
เข้าร่วม: 24 May 2011
ตอบ: 809
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:01 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
มันคือความล้มเหลวของระบบการศึกษาสุดๆ เรียนเนื้อหาคนละระดับ บุคลากรคุณภาพต่างกันมาก แล้วก็ค่อยมาคัดกันตอนสมัครงาน เหมือนแบ่งชนชั้นกันตั้งแต่เข้าม. ละมันเป็นงี้มาตั้งแต่โรงเรียนประถม มัธยม เลย
0
0
เข้าร่วม: 27 Oct 2010
ตอบ: 2048
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:02 am
ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
นับถือความพยายามของ จขกท ครับ
ผมเชื่อว่า จขกท ตัดสินใจถูกละครับ
ม.รัฐดังๆคือสิ่งสำคัญใน resume ครับ
ตอน ม.ต้น ผมเรียนได้เกรดเฉลี่ย 2.80 เกือบไม่ได้ต่อ ม.ปลาย พอเรียน ม ปลาย ผมเลือกเรียนสายศิลป์คำนวณ จบได้เกรดเฉลี่ย 3.50 ผมสอบตรงติดคณะสายบริหาร ของ ม.รัฐ ที่ถือว่าดังด้านสายสังคมแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ยังไม่จบ ม.6 ตอนผมเรียนมหาลัย โดดเรียนกระจาย กินเบียร์เหล้าวันเว้นวันเลยก็ว่าได้ จบออกมาได้เกรดเฉลี่ย 2.60 กว่าจะหางานทำใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
ได้งานที่แรกเพราะพี่ที่เป็น Gm จบสถาบันเดียวกัน ส่วนงานที่ทำอยู่ปัจจุบันได้ก็เพราะพี่เป็นผู้จัดการจบสถาบันเดียวกับผมอีก ทำให้ผมรู้เลยว่าสถาบันมีผลมากๆ
อย่างตำแหน่ง CEO บางบริษัทแห่งหนึ่งเหมือนเขาล็อคเลยว่าคุณต้องจบวิศวะสีชมพู แต่ต้องยอมรับครับว่าวิศวะสีชมพู เก่งจริง

Connection มหาลัยสีเดียวกันนี้สำคัญมากจริงๆครับในสังคมไทย
0
0
เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 10521
ที่อยู่: anfield road
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:03 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมเรียน ม.รัฐ 2 ม.

ถ้าต้องไปสมัครงานการผ่าน ม.รัฐ มันก็ สำคัญขึ้นบ้าง
แต่ถ้าไม่ได้ต้องไปสมัครงาน รับช่วงกิจการ ม.อื่นๆไม่มีปัญหาเลย จบไหนก็ได้

ปล. อีกมิติหนึ่งคือ ม.ต่างประเทศไปเลย เหนือกว่า ม.ไทยแน่นอน
เด็กไทย ลูกเจ้าของกิจการทุกคนอยากไปที่นั่น มันก็จะอีกระดับไปอีก

การเข้า ม.รัฐ ม.ดีๆ นอกจากได้เรียน ได้ฝึกอย่างดี อีกอย่างคือเพื่อน
คุณจะมีเพื่อนเป็นเจ้าของกิจการ ร้านทอง ค้าวัสดุ ทำงานในโรงพยาบาลใหญ่ พ่อค้าข้าว ( ปล. อาชีพเหล่านี้อันนี้เพื่อนผมเอง )

แต่สุดท้าย มันอยู่ที่คนมากกว่า ม.ด้วย คือ ถ้าเค้ามองเห็นว่า เก่งจริง ทำเงินให้บริษัทได้ ยังไงก็รับแน่ๆ เช่น ล่ามแปลภาษาที่เก่ง วิศวกรคอมพิวเตอร์ที่เก่ง
แต่ต้องมีอะไร ให้เค้าเห็น เช่น ผลงาน พอร์ต ประวัติ รับแน่ มาจากไหนก็เถอะ( รับก่อนม.ต่างประเทศ ที่ไม่เคยได้ทำอะไรด้วย

Spoil

แต่สุดท้ายอยู่ที่คนจริงๆ คนไม่เลือกงาน คนไม่อายทำกิน ยังไงก็มีเงิน
เพื่อนผม ราชภัฏ ราชมงคลเยอะแยะ หาเงินได้เพียบเลย ไม่ติดกับดักความคิดนี้

อยู่ที่ตัวเรา สำคัญสุด
 
การไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนาในบางคราว ก็เป็นพรอันประเสริฐ - องค์ทะไลลามะ
Ps.
Liverpool Champions Fifa club world Cup 2019
Champions Eufa Supercup 2019
Champions Eufa Champions League 2018-2019
Champions PremierLeague 2019-2020

คุณอาจจะเปลี่ยนภรรยาได้, เปลี่ยนความคิดทางการเมืองได้, เปลี่ยนศาสนาก็ได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนทีมที่คุณเชียร์ได้

(ไม่อยากจะบอกเลยว่าคนพูดคือ เอริค คันโทน่า อยากบอกว่าคิดเอง)

เข้าร่วม: 03 Dec 2010
ตอบ: 1882
ที่อยู่: บนโลกแห่งความจริง ทุกสิ่งที่วุ่นวาย
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:03 am
[RE]ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
ความฝันผมก็อยากเข้ามอรัฐให้ได้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นเรายังไม่ชัดแจนพอ มัวแต่เหยาะๆแหยะๆ เลยไม่เอ็นไม่ติด ผมเคยอ่านความเห็นของท่านใดท่านหนึ่งในนี้แหละ ประมาณว่า การก้าวเข้าสู่มหาลัยแล้วเรียนให้จบไปวันๆ มันก็เหมือนโดมิโน่ที่รอวันพัง ถ้ามันพังทีมันจะพังทั้งแทบ

ปล.ถ้ามีเด็กรุ่นใหม่ที่จะเตรียมเอ็นเข้ามาอ่านผมแนะนำให้คุณเตรียมตัวให้เต็มที่ไปกับสอบเข้ามหาลัยไปเลย คุณเลือกมอดังๆไปเลย อย่าทำตัวชิวไปวันๆถ้าบ้านคุณไม่รวยพอ การอ่านหนังสือสอบ 2-3เดือนสำหรับเด็กที่ไม่เคยตั้งใจเรียนในห้องมันไม่พอหรอก
...........................ทรงพระเจริญ....................
เข้าร่วม: 12 Oct 2010
ตอบ: 20821
ที่อยู่: Thammasat Rangsit
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:03 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมนี่จบจากม.ดัง แต่ยื่นไปที่ไหน แทบไม่เคยโดนโทรเรียกไปสัมภาษณ์เลย

เพื่อนผมที่จบจากม.ไม่ดังมากแต่ได้งานโคตรเร็ว
As a Lakers fan since July 2018 I can’t even put into words how much this all means to me
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 88
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:05 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
เป็นที่ตัวบุคคลล้วนๆครับ อย่าเอามหาลัยไม่ว่าจะที่ไหนมาก็ตามมาเทียบเลยครับ

ถ้าคนมันดิ้นรน+คิดดี คิดบวก มันมีทางให้ไปอยู่แล้ว

เพราะราชมงคลที่ผมเรียน ก็มีผสมทั้งคนดีเเละไม่ดี

แต่หลักสูตรที่เรียนไม่แพ้พวก พระจอมต่างๆแน่นอน

เด็กจากพระจอมโอนเกรดมาเรียนมาเรียนยังขอดรอปเลย

บางวิชาตัดเกรดเคี่ยวมากคะเเนน 49 ไม่ปัดให้ผ่าน ถึงจะลงเรียนมา 4-5 รอบแล้วก็ตาม

ส่วนเรื่องทำงานก็อยู่ที่ ดิ้นรน+EQ ความรู้มันอยู่ที่เราจะขวนขวายเพิ่มมากแค่ไหน

เพื่อนผมจบวิศวะลาดกระบังเกรด 3.9 ยังได้เงินเดือนน้อยกว่าคนจบเกรด 2.1-2.2 เลย

ดิ้นรนล้วนๆครับ โอกาศจะมาอยู่ตรงหน้าให้แก่คนที่พยายามเท่านั้น



0
0
เข้าร่วม: 27 Oct 2010
ตอบ: 2048
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:08 am
ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
Little DraKe V.4 พิมพ์ว่า:
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ถ้าจบจากม.รัฐดังๆเกรด2ต้นๆ กับม.ราชมงคลหรือราชภัฏเกรด3กว่า เค้าจะเลือกใครอะครับ  

ม.รัฐ เกรด 2 ต้นๆครับ
0
0
เข้าร่วม: 15 Jan 2009
ตอบ: 755
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:14 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
เป็นกระทู้ที่ดีครับ เพราะเจ้าของกระทู้ได้ลองทั้งสองอย่าง และเปรียบเทียบได้ชัดเจน
เวลามีดราม่าเรื่องบริษัทหรือหน่วยงานไม่รับคนที่จบเอกชน ราชภัฎ ราชมงคล
คนมักจะพาลว่าทำไมเป็นแบบนี้ เลือกปฏิบัติ แต่มองมุมกลับ บริษัทต้องการอะไรที่เป็น
มาตรฐานและเค้าคงมีประสบการณ์จึงได้ตั้งเกณฑ์อะไรแบบนั้น สิ่งสำคัญ คือ
มาตรฐานทางการศึกษาระหว่าง ม.รัฐ ม.เอกชน ราชภัฎ ราชมงคล ต่างกันมาก
อย่างไรก็ดี บางสาขาก็ไม่สามารถเอามหาวิทยาลัยมาเทียบได้ เช่น
นิติศาสตร์หรือรัฐศาสตร์ ม.เอกชนอย่าง ม.กรุงเทพ เก่งมาก ๆ เพราะศาสตร์พวกนี้อ่านเองได้ ขึ้นอยู่กับผู้เรียน แต่ถ้าเป็นศาสตร์ที่พึ่งเทคนิค ความชำนาญของผู้สอนอย่างพวกวิศวะ
ม.รัฐ จะได้เปรียบมาก ๆ

แทนที่จะเถียงกันว่า ทำไมไม่รับเราเพราะไม่ได้จบ ม.รัฐ แต่ควรหาวิธีเพิ่มทักษะให้ตัวเอง แก้ปัญหามาตรฐานการศึกษา ไม่ใช่โทษบริษัท
0
0
เข้าร่วม: 28 Nov 2013
ตอบ: 5078
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:14 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
D.Dave พิมพ์ว่า:
ผมนี่จบจากม.ดัง แต่ยื่นไปที่ไหน แทบไม่เคยโดนโทรเรียกไปสัมภาษณ์เลย

เพื่อนผมที่จบจากม.ไม่ดังมากแต่ได้งานโคตรเร็ว  


คล้ายๆกันเลย แถวพระราม7 เพื่อนผมจบไปเกรด 2 ต้นๆ ส่วนผมจบ 2 ปลายๆเฉียด 3

เพื่อนผมเินเดือน 20+ ตัวเองยัง 15 16 อยู่เลย 55555555555
0
0
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 3331
ที่อยู่: LONDON
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:19 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมนี่จบ ม.ราชมงคลธัญบุรี เกรด 2.13 ผมไม่เห็นมีปัญหาเรื่องสมัครงาน

ไปสมัครไม่เห็นใครดูเกรดผมสักที ดูแค่ เรซูเม่ ผลงาน ประวัติงาน

จริงที่มหาลัยมีส่วน แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่ตัวบุคคล ว่าขวนขวาย พยายาม ตั้งใจได้แค่ไหน

เวลาผมสัมภาษณ์พนักงานใหม่

ผมดูตามนี้ 1.สาขาที่เรียน 2.บุคลิกภาพ 3.มนุษย์สัมพันธ์ 4.ทัศนคติ 5.ประสบการณ์

0
0


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:20 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ถ้าเป็นวงการการศึกษา จะเห็นได้ชัดเลยนะ
ม.ที่มีคณะครุศาสตร์-ศึกษศาสตร์ดังๆเนี่ย
มาตรฐานมันห่างกับ ม.อื่นมากเลยนะ
คือผมครุสามย่านได้เกรดเฉลี่ยรวมยังไม่ถึง 3 เลย
แต่เพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกันวิชาเอกเดียวกันคนละมอ
ได้เกรดสูงกว่าผมเยอะ 3.5+
แต่พอเวลาสอบบรรจุทีไรครุสามย่านมาอันดับต้นๆตลอด
0
0
เข้าร่วม: 26 Nov 2009
ตอบ: 2741
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:20 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมก้เปนคนเรียนกลางๆมาตลอด จะว่าผมโชคดีก็ได้นะที่เอ็นติดมอดัง

ตอนแรกเห็นเพื่อนได้โคต้ากันหมดผมยังแอบใจแป้ว

ผมเป็นพวกจับหนังสือได้แค่สามสิบนาทีก็หลับละ

เรียนมหาลัยมอดังๆมันยากกว่าที่คาดไว้มากเทอมแรกที่เข้าไปผมได้เกรดแค่2.3เอง

จากที่เคยเรียนวันๆต้องเริ่มหากลุ่มเพื่อนนัดติวกันก่อนสอบ จึงรอดตัวจบสี่ปีมาได้ด้วยเกรดกลางๆ งานก้ไม่ได้หายากมากนะชื่อมหาลัยมีผลจริงๆ

นอกจากนี้ผมว่าสังคมในรั้วมหาลัยก็มีผลมากอย่างที่เจ้าของกระทู้บอกแหละ พอไปอยู่ในที่ที่มีคนเก่งเยอะๆ มันเหมือนหล่อหล่อมให้เราต้องถีบตัวเองให้อยู่รอดให้ได้ เจอเพื่อนมาหลายแบบทั้งพวกอัจฉะริยะ ไม่เข้าเรียนก็สอบผ่าน ไปจนถึงพวกขี้เหล้า เมาเนื้อ ก็พยายามประคองกันมาจนจบสี่ปีได้

0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 988
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:22 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ขอเสริมนิดหน่อยนะครับ

อันที่จริง ราชมงคลและราชภัฏ ก็เป็นของรัฐฯ เหมือนกันนะครับ

ที่สามประเภทคือ มหาวิทยาลัย ราชมงคล ราชภัฏ มีจุดประสงค์ในการจัดตั้ง(เมื่อสมัยก่อน)แตกต่างกันนะครับ เน้นความชำนาญกันไปคนละด้าน เพื่อบาลานซ์ชนิดและประเภทของคนที่จะป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน

แต่ในปัจจุบันมันเดินไปมั่วซั่วผิดวัตถุประสงค์กันไปหมดนะครับ ราชมงคลและราชภัฏ ที่เมื่อก่อนไม่ใช่มหาวิทยาลัย ก็เปลี่ยนมาเป็นมหาวิทยาลัยกันหมด เนื่องจากเหตุผลทางด้านงบประมาณและการสนับสนุนจากทางภาครัฐฯ ทำให้ภาพและจุดประสงค์ต่างๆที่วางไว้ในอดีตผิดรูปกันไปหมดครับ

ไม่ได้ว่าหรือดูถูกใครนะครับ แต่ผมว่ายังไงเราก็ต้องยอมรับถึงความเป็นจริงในแง่มุมของคุณภาพการศึกษา(เชิงวิชาการ)ทั้งคนเรียนและคนสอน ครับว่าในประเทศไทยมันแตกต่างกันจริงๆครับระหว่างมหาวิทยาลัยของรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงที่ทุกคนรู้จักกัน กับมหาวิทยาลัยราชมงคล หรือมหาวิทยาลัยราชภัฏครับ
เข้าร่วม: 26 Nov 2009
ตอบ: 2741
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:23 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
RachainTK พิมพ์ว่า:
ถ้า ผช เรียน มหาลัย รัฐ ม ดัง ส่วนใหญ่จะจบ เกรดนิยมกัน 55555+  
ตามนี้ ส่วนมากจะขยันก่อนสอบประมาณอาทิตสองอาทิตย์ ติวกันข้ามวันข้ามคืน
0
0
เข้าร่วม: 23 May 2008
ตอบ: 22
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:36 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมเห็นต่างนิดนึงครับ อาจจะเนื่องด้วยยุคสมัยกำลังเปลี่ยน ผมรู้สึกว่า เด็กรุ่นใหม่ตอนนี้ ความสามารถระหว่าง ม.ดัง กับ ม. ธรรมดา กำลังขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นจนแทบไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างครับ ม.ดัง มีโอกาสได้คนที่เก่งมีความสามารถสูงกว่าก็จริงครับ แต่จากประสบการณ์ที่สัมภาษณ์คนเข้ามาทำงาน ปรากฏว่า อีโก้จาก ม.ดัง บังความสามารถดีๆไปเยอะ ตรงกันข้ามคนที่มาจาก ม.ธรรมดา กลับถ่อมตัว แล้วยินดีเรียนรู้มากกว่า ซึ่งแน่นอนแบบหลัง ผมจะให้ภาษีดีกว่ามากครับ ดังนั้นผมไม่อยากให้เกิดความรู้สึกเอนเอียงมากเกินไปจนปิดโอกาสจากคนที่มาจาก ม.ที่ไม่ดัง คนที่มีความสามารถแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เข้า ม.ดังๆ ไม่ได้มีอยู่อีกเยอะครับ

ดังนั้นโดยส่วนตัว ม.ดังๆ ไม่สำคัญเท่ากับเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเอง ถ้าผมสอนลูกหลาน ผมคงพยายามผลักดันให้เขาเข้าใจว่า ควรพยายามเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง และรับผิดชอบต่อพ่อแม่ที่ส่งเราเรียนเพื่ออนาคตของเขาครับ
เข้าร่วม: 30 Oct 2010
ตอบ: 10069
ที่อยู่: The Theatre of Dreams
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:40 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
เรื่องจริงครับ ไม่งั้นมันจะแย่งกันเข้าทำไม
การที่เราถูกรายล้อมด้วยสภาพแวดล้อม อย่างไร เราย่อมจะต้องปรับตัวให้ทันกับสภาพนั้น

อยู่กับคนเก่งๆ ถึงเราจะไม่เก่งที่สุด แต่ก็พัฒนาได้มาก

ขนาดผมเรียนเอกชน ชื่อดัง ยังรู้สึกว่าคุณภาพนักศึกษายังสู้ มหาลัยรัฐต้นๆ ไม่ได้เลย
ถึงแม้ประสบการณ์จะสำคัญมากที่สุด แต่มหาลัยดีๆผมถือว่าเป็นกุญแจสำคัญ
ที่เอาไว้เปิดประตูแห่งโอกาสบานแรกของการทำงานได้เลย

เพราะฉะนั้นน้องๆที่มีโอกาสมาอ่าน ก็ตั้งใจเถอะครับ มันไม่เกินความสามารถเราหรอก
ไอ้ที่บอกจบ ม ไหน ก็เหมือนกัน อย่าไปเชื่อมาก มันปลอบใจตัวเอง
0
0
ถึงยุคทมิฬมาร จะครองเมืองด้วยควันปืน
ขื่อแปจะพังครืน และกลิ่นเลือดจะคลุ้งคาว
แต่คนย่อมเป็นคน ในสายธารอันเหยียดยาว
เคียงคู่กับเดือนดาว ผงาดเด่นในดินแดน


เข้าร่วม: 10 Jan 2011
ตอบ: 14255
ที่อยู่: CNX
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:45 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Little DraKe V.4 พิมพ์ว่า:
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ถ้าจบจากม.รัฐดังๆเกรด2ต้นๆ กับม.ราชมงคลหรือราชภัฏเกรด3กว่า เค้าจะเลือกใครอะครับ  


จุฬา2.5 ดีกว่า ราชมงคล ราชภัฏ 4.00 ตามที่เห็นHR ฝรั่งเลือกนะ






คหสต.เกลียดคำว่าม.รัฐเข้ายากออกง่าย
ม.เอกชนเข้าง่ายออกยาก

คือม.รัฐก่อนเข้าก็ต้องตั้งใจเรียน และเก่งระดับนึง ซึ่งไม่แปลกเขาจะเรียนจบกันเป็นส่วนใหญ่

ม.เอกชน เอาแค่ปีแรก มาบ้างไม่มาบ้างกันเยอะแล้ว จะจบได้ไง
เข้าร่วม: 23 May 2011
ตอบ: 1493
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:46 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Knowledge69 พิมพ์ว่า:
เป็นที่ตัวบุคคลล้วนๆครับ อย่าเอามหาลัยไม่ว่าจะที่ไหนมาก็ตามมาเทียบเลยครับ

ถ้าคนมันดิ้นรน+คิดดี คิดบวก มันมีทางให้ไปอยู่แล้ว

เพราะราชมงคลที่ผมเรียน ก็มีผสมทั้งคนดีเเละไม่ดี

แต่หลักสูตรที่เรียนไม่แพ้พวก พระจอมต่างๆแน่นอน

เด็กจากพระจอมโอนเกรดมาเรียนมาเรียนยังขอดรอปเลย

บางวิชาตัดเกรดเคี่ยวมากคะเเนน 49 ไม่ปัดให้ผ่าน ถึงจะลงเรียนมา 4-5 รอบแล้วก็ตาม

ส่วนเรื่องทำงานก็อยู่ที่ ดิ้นรน+EQ ความรู้มันอยู่ที่เราจะขวนขวายเพิ่มมากแค่ไหน

เพื่อนผมจบวิศวะลาดกระบังเกรด 3.9 ยังได้เงินเดือนน้อยกว่าคนจบเกรด 2.1-2.2 เลย

ดิ้นรนล้วนๆครับ โอกาศจะมาอยู่ตรงหน้าให้แก่คนที่พยายามเท่านั้น





 

พวกพระจอมที่ถึงขนาดต้องโอนไปเรียน ม.ของท่านคือพวกที่เรียนไม่ไหวแล้วครับ พวกปลายแถว คือเรียนวิชานั้นในพระจอมไม่ไหวแล้วจริงๆ เรียนที่พระจอมยังไงก็ตก เลยถอดใจไปเรียนกับ ม. ท่านให้ไปสู้กับตัวท็อปของที่นั้นก็คงเป็นอย่างที่ท่านบอก ผมไม่ได้ดูถูก ม. ท่านนะครับคือมันเป็นแบบนี้จริงๆ

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจบที่ใหนมา มันก็อยู่ที่ตัวเราครับ ถ้าไครพัฒนาอยู่เรื่อยๆดิ้นมีความพยายาม คนนั้นคือคนที่เก่งจริงและอยู่รอด พวกม.ดังๆทำไรไม่เป็นก็เยอะ ม.ไม่ดั้งเทพๆก็เยอะ




เข้าร่วม: 10 Jan 2011
ตอบ: 14255
ที่อยู่: CNX
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 10:54 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
preawza พิมพ์ว่า:
เรื่องสีในองค์มันแรงครับ พอได้ทำงานจริงๆ จะรู้เลย

ผมแอนตี้เรื่องนี้ แต่ก็เป็นแค่คนตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้

 


ไม่เกี่ยวนะ HR ผมเป็นฝรั่งเขาก็เลือก จุฬา มธ มหิดลก่อน ที่เหลือถ้าเกรดไม่3.5 แทบจะไม่มอง
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 988
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:00 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
hugokung พิมพ์ว่า:
ผมเห็นต่างนิดนึงครับ อาจจะเนื่องด้วยยุคสมัยกำลังเปลี่ยน ผมรู้สึกว่า เด็กรุ่นใหม่ตอนนี้ ความสามารถระหว่าง ม.ดัง กับ ม. ธรรมดา กำลังขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นจนแทบไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างครับ ม.ดัง มีโอกาสได้คนที่เก่งมีความสามารถสูงกว่าก็จริงครับ แต่จากประสบการณ์ที่สัมภาษณ์คนเข้ามาทำงาน ปรากฏว่า อีโก้จาก ม.ดัง บังความสามารถดีๆไปเยอะ ตรงกันข้ามคนที่มาจาก ม.ธรรมดา กลับถ่อมตัว แล้วยินดีเรียนรู้มากกว่า ซึ่งแน่นอนแบบหลัง ผมจะให้ภาษีดีกว่ามากครับ ดังนั้นผมไม่อยากให้เกิดความรู้สึกเอนเอียงมากเกินไปจนปิดโอกาสจากคนที่มาจาก ม.ที่ไม่ดัง คนที่มีความสามารถแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เข้า ม.ดังๆ ไม่ได้มีอยู่อีกเยอะครับ

ดังนั้นโดยส่วนตัว ม.ดังๆ ไม่สำคัญเท่ากับเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเอง ถ้าผมสอนลูกหลาน ผมคงพยายามผลักดันให้เขาเข้าใจว่า ควรพยายามเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง และรับผิดชอบต่อพ่อแม่ที่ส่งเราเรียนเพื่ออนาคตของเขาครับ  


ผมมองอีกมุมนะครับ ไม่ใช่ว่ามุมมองของคุณผิดครับ

มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ผมว่าเราต้องยอมรับถึงคุณภาพการศึกษาที่สูงกว่านะครับ รวมทั้งโอกาสที่เปิดกว้างกว่าในการทำงานของสังคมไทยครับ

ส่วนเรื่อง อีโก้ การอ่อนน้อมถ่อมตน ยินดีที่จะเรียนรู้ไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว การรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบต่อสังคม ต่างๆนานา ที่พูดถึง ผมว่ามันเป็นส่วนหนึ่งจากการหล่อหลอมมาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์นะครับ มันเป็นบุคลิคภาพและ EQ ส่วนบุคคลมากกว่านะครับ

ถ้าเด็กคนนั้นใฝ่รู้ รับผิดชอบตัวเองได้ ยินดีที่จะเรียนรู้ มีความรับผิดชอบในหน้าที่ แสดงว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกที่ดี ได้รับการบ่มเพาะมาดี มี EQ ที่ดี พร้อมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ถ้าเป็นแบบนั้น ตั้งใจแบบนั้น ก็คงไม่พลาดโอกาสได้เรียนในคณะ ในมหาวิทยาลัยที่เขามุ่งหวังหรอกครับ และถ้าเด็กมี EQ ที่ดีตามีท่กล่าวมา เขาก็จะรู้ตัวเองและเข้าใจตัวเองละครับ ว่าเขาควรที่จะเลือกเรียนอะไรที่มันเหมาะสมกับตัวเองเขาเองครับ

0
0
เข้าร่วม: 02 Dec 2008
ตอบ: 462
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:00 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ส่วนตัวผมเฉยมาก และผมก็จบจาก ม.เอกชน ย่านรังสิต

แต่ผมก็เข้าใจอย่างดี และเห็นด้วยว่า ม.รัฐ มันดีกว่าจริงๆ

บางคนก็หลักลอจิกเพี้ยนๆไปหน่อย เช่น

"สอบเข้า ม.รัฐ ไม่ได้เพราะคะแนนต่ำ แต่ จบม.อื่นก็ได้งานดีๆเงินเดือนเยอะๆเหมือนกัน"
- ใช่ แต่มันก็แปลว่าคนที่เรียน ม.รัฐ ได้คะแนนสูงว่าคุณ ก็คือเก่งกว่า ขยันกว่า รับผิดชอบมากกว่าคุณนิ ก็ถูกแล้วนิ ที่บริษัทเค้าจะเลือก ม.รัฐก่อน

"จบ ม.ไหน ก็ได้ อยู่ที่การทำงาน การพยายาม ฝีมือในงานต่างๆ"
-เด๋วนะ การรับคนโดยเลือกจาก ม.เนี้ย ส่วนหนึ่งที่ต้องเลือกแบบนี้ เพราะเค้าไม่เห็นงานคุณไง โดยเฉพาะพวกจบใหม่ คุณมีอะไรไปรับประกันเค้าได้ละ ตย.เหมือนดาราหญิงสวยไฮโซ ทำไมต้องไปเลือกคบชายจนๆหรือชนชั้นกลางด้วย ในเมื่อเลือกพวกไฮโซด้วยกันหรือ คนที่มีมากกว่านั้นได้สบายๆ บริษัทก็เช่นกัน เลือกสีได้ก็ต้องเลือกสีชมพู สีเขียว สีแดงเหลืองไรงี้ก่อนอยู่แล้ว มันแปลกตรงไหน

แล้วผมเชื่อว่า พวกที่ไม่ได้เรียน ม.รัฐหรือ ม.ดังๆ ต้องรู้ตัวเองดีอยู่แล้วรึป่าวว่าการเข้า ม.ดัง มันยากแค่ไหน แต่วันนี้กลับมาบอกว่ามันไม่ต่าง ย้อนแย้งไปนิดนะผมว่า

เหนือสิ่งอื่นได้คือเราต้องรู้ตัวเอง เราต้องหาอะไรที่มีให้ได้มากกว่า หรือเท่ากับคนพวกนั้น เช่น สกิลอื่นที่หลากหลายและมีประโยชน์ในการทำงาน ผมอยู่สายงาน Marketing และ Ads. แรกๆก็สู้พวกนิเทศสีชมพูไม่ได้เหมือนกัน เค้ามาแน่นจริงๆ แต่ผมฝึกฝนโปรแกรมต่างๆ adobe นี่ใช้งานได้คล่องทั้งตระกูล เรียนรู้หลักการ digital MKT อย่างหนัก จนตอนนี้ ผมมีสกิลมากมายที่คนเหล่านั้นไม่มี ซึ่งผมจะบอกว่ามันต่างจากวันที่เลือกเข้ารับมาทำงานครั้งแรก ร่วม 10ปี กว่าคุณจะพิสูจท์ให้เห็นได้ว่าดีพอ
เข้าร่วม: 03 Apr 2008
ตอบ: 9578
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:04 am
ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
ผบจบราชมงคลเกรด2ปลายๆ จบได้ก็ดีแล้ว
0
0
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 1950
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:13 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมชอบกระทู้นี้นะ คือประเทศ แบบ ไทยแลนด์มันก็งี้แหละครับ ต้องเข้า ม. ดัง รร มัธยมดัง เพราะ อะไร เพราะ มาตรฐาน มัน ไม่เท่ากันทั่วประเทศครับ คือ โอเค ที่ เมกา อังกฤษ เค้าก็ ไม่ได้ เท่ากันเป๊ะๆหรอก แต่ เค้า ไม่ได้ ทิ้ง ห่าง กัน แบบ บ้านเรา เด็ก บ้านเค้า ไม่ต้องดิ้น รน เข้า ม ปลาย ดังๆ เพื่อจะต่อยอดเข้า ม ดัง เพราะ คุณภาพ การสอน มันสูสีมาก เอาตรงๆนะ บ้านเรา มัน พังตั้งแต่รากฐาน เพราะ งั้น ถ้ามีโอกาศ เข้าม ดัง พยายามเถอะครับ เพราะ เราเปลี่ยน รากฐาน ไม่ได้ จิงๆเดี๋ยวนี้ ผมว่า เรียน มปลาย มีไว้เพื่อ หาเพื่อนนะ เพราะ สุดท้าย คนที่ มีกำลัง ก็ อัดเรียนพิเศษกันหมด
0
0
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 77
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:15 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมจบมาทั้ง 2 แบบ ก็เหมือนที่คุณบอก มาตรฐาน สังคม สภาพแวดล้อม
ค่อนข้างต่างกันชัดเจน สำคัญที่สุดมันคือตัวเราเองจริงๆ
ยุคนี้มันยุคสมัยของเทคโนโลยี ความรู้มันไม่ได้อยู่แค่ในมหาวิทยาลัย
การเรียนรูปแบบอย่าง MOOC ก็ทำให้คุณเรียนกับ อ. จากมหาลัยดังๆได้
แต่ถ้าตอบตรงๆ ต้องยอมรับว่าสังคมไทยเรามันตัดสินกันที่หน้าตา ชื่อเสียง
เป็นอันดับแรกการที่เด็กๆรุ่นใหม่แข่งกันเข้า ม.ดังๆ ให้ได้
มันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
0
0
เข้าร่วม: 22 Sep 2013
ตอบ: 3324
ที่อยู่: Bkk
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:19 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
MazZ_chester_U พิมพ์ว่า:
RachainTK พิมพ์ว่า:
ถ้า ผช เรียน มหาลัย รัฐ ม ดัง ส่วนใหญ่จะจบ เกรดนิยมกัน 55555+  
ตามนี้ ส่วนมากจะขยันก่อนสอบประมาณอาทิตสองอาทิตย์ ติวกันข้ามวันข้ามคืน  


จริง คือถ้ายันเช้าวันสอบนี่ห้ามนอนเลยนะ 55555555555
MY LIVERPOOL!!!!
FORZA NAPOLI!!!!



เข้าร่วม: 23 May 2008
ตอบ: 22
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:26 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
hugokung พิมพ์ว่า:
ผมเห็นต่างนิดนึงครับ อาจจะเนื่องด้วยยุคสมัยกำลังเปลี่ยน ผมรู้สึกว่า เด็กรุ่นใหม่ตอนนี้ ความสามารถระหว่าง ม.ดัง กับ ม. ธรรมดา กำลังขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นจนแทบไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างครับ ม.ดัง มีโอกาสได้คนที่เก่งมีความสามารถสูงกว่าก็จริงครับ แต่จากประสบการณ์ที่สัมภาษณ์คนเข้ามาทำงาน ปรากฏว่า อีโก้จาก ม.ดัง บังความสามารถดีๆไปเยอะ ตรงกันข้ามคนที่มาจาก ม.ธรรมดา กลับถ่อมตัว แล้วยินดีเรียนรู้มากกว่า ซึ่งแน่นอนแบบหลัง ผมจะให้ภาษีดีกว่ามากครับ ดังนั้นผมไม่อยากให้เกิดความรู้สึกเอนเอียงมากเกินไปจนปิดโอกาสจากคนที่มาจาก ม.ที่ไม่ดัง คนที่มีความสามารถแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เข้า ม.ดังๆ ไม่ได้มีอยู่อีกเยอะครับ

ดังนั้นโดยส่วนตัว ม.ดังๆ ไม่สำคัญเท่ากับเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเอง ถ้าผมสอนลูกหลาน ผมคงพยายามผลักดันให้เขาเข้าใจว่า ควรพยายามเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง และรับผิดชอบต่อพ่อแม่ที่ส่งเราเรียนเพื่ออนาคตของเขาครับ  


ผมมองอีกมุมนะครับ ไม่ใช่ว่ามุมมองของคุณผิดครับ

มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ผมว่าเราต้องยอมรับถึงคุณภาพการศึกษาที่สูงกว่านะครับ รวมทั้งโอกาสที่เปิดกว้างกว่าในการทำงานของสังคมไทยครับ

ส่วนเรื่อง อีโก้ การอ่อนน้อมถ่อมตน ยินดีที่จะเรียนรู้ไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว การรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบต่อสังคม ต่างๆนานา ที่พูดถึง ผมว่ามันเป็นส่วนหนึ่งจากการหล่อหลอมมาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์นะครับ มันเป็นบุคลิคภาพและ EQ ส่วนบุคคลมากกว่านะครับ

ถ้าเด็กคนนั้นใฝ่รู้ รับผิดชอบตัวเองได้ ยินดีที่จะเรียนรู้ มีความรับผิดชอบในหน้าที่ แสดงว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกที่ดี ได้รับการบ่มเพาะมาดี มี EQ ที่ดี พร้อมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ถ้าเป็นแบบนั้น ตั้งใจแบบนั้น ก็คงไม่พลาดโอกาสได้เรียนในคณะ ในมหาวิทยาลัยที่เขามุ่งหวังหรอกครับ และถ้าเด็กมี EQ ที่ดีตามีท่กล่าวมา เขาก็จะรู้ตัวเองและเข้าใจตัวเองละครับ ว่าเขาควรที่จะเลือกเรียนอะไรที่มันเหมาะสมกับตัวเองเขาเองครับ

 


ผมเห็นด้วยเช่นกันครับ คุณภาพ สภาพแวดล้อมต่างกันจริงๆ ซึ่งในมุมที่ผมสื่อคือ ก็มีโอกาสที่จะเจอ คนที่อีโก้สูงมากขึ้นตามสถาบันเช่นกันเท่านั้นแหละครับ ในฐานะคนที่ต้องคัดเลือกคนเข้ามาทำงานด้วย มันเลือกยากมากเลยว่า จะได้คนแบบไหนเข้ามา

ผมชอบกระทู้คุณภาพแบบนี้นะ แลกเปลี่ยนความคิดกัน มีเหตุมีผล ไม่เหยียดคนเห็นต่าง ไม่ล่าแม่มด
0
0
เข้าร่วม: 05 Aug 2010
ตอบ: 12635
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:27 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
จากประสบการณ์การทำงาน เพื่อนร่วมงาน และในส่วนที่ได้สัมภาษณ์เอง

การรับเด็กจบใหม่ มหาลัยดูมีความสำคัญมาก เพราะยังไม่มีอะไรมาพิสูจน์ว่าใครทำอะไรเป็น

ยกเว้น กรณีเทพจริงๆ ที่เคยรับ ก็เด็ก ราษภัฎ ที่มีผลงานการทำงานนอกเวลา มีผลงานเป็นรูปเป็นร่างให้เห็น ก็ได้รับการเรียกมาสัมภาษณ์ เมื่อสัมภาษณ์และเห็นว่าทำเองจริง มีฝีมือจริงก็ได้งาน

แต่จบ ม รัฐดีๆ ก็จะได้เปรียบตรงที่มีสิทธิ์ได้สำภาษณ์ แม้จะไม่ได้มีพอร์ทอะไรให้ดู (แต่ได้งานหรือไม่ได้งาน ไม่เกี่ยวกับมหาลัย เกี่ยวแค่สิทธิ์การได้สัมภาษณ์)

ส่วนถ้าทำงานมาแล้วสักพัก ไม่มีผลแล้ว มหาลัย อยู่ที่ฝีมือล้วน

นั่งรอบๆ ตัวผมมีทุกแบบ ม.ดัง ม.เอกชน ม.ราษภัฎ ม.ราชมงคล เงินเดือนหลักแสนกันทุกคน

สรุปคือ จบใหม่ สำคัญที่ได้สิทธิ์สัมภาษณ์ง่ายกว่าถ้าจบ ม.ดัง ส่วนสิทธิ์การได้งานไม่ค่อยมีผล

ปล. โปรไฟล์ผม วิศวะค่ายสีเขียวครับ
0
0
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 1555
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:28 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ข้ออ้างของพวกไม่ตั้งใจสอบเข้ามหาลัยดีๆไง ตัวเองเข้ามอดีๆไม่ได้ก็ต้องยอมรับสภาพแล้วใช้ความสามารถอื่นสู้แทนดิ ไปทำงานที่อื่นก่อนก็ได้พอเทพแล้วค่อยหาใหม่ ไม่ขยันตอนสอบเข้ามหาลัยเองจะโทษใคร
#GGMU
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 777
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:34 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Internal2Afair พิมพ์ว่า:
คือคนที่บอกว่าจบจากไหนก็เหมือนกันคือเค้าไม่มองโลกตามความเป็นจริงเลยหรอ หรือไม่ได้ใช้ชีวิตในบ้านเมืองนี้ ต่างม.ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็ต่างกันแล้ว วิชาการ แนวคิดต่างๆมันปลูกฝังแทรกซึมในสังคมที่อาศัยอยู่ ยังไม่รวมถึงคอนเนคชั่นนะ  


ผมก็คิดเหมือนท่านเลย เรื่องไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต แนวคิด ของแต่ละ ม มันต่างกัน ซึ่งอันนี้นี่แหละคือตัววัดคุณภาพของ ม ดังเลย ที่บริษัทรับ ม ดังก็เพราะเราถูกสังคมคุณภาพหล่อหลอมมา สังคมสร้างบุคคลคุณภาพมากกว่าวิชาการด้วยซ้ำ แต่คนไทยหลายคนไม่เก็ตจริงๆ
เข้าร่วม: 20 Apr 2009
ตอบ: 24621
ที่อยู่: KIM JISOO
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:35 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
รู้สึกโชคดีที่ไม่เลือกไปราชภัฏ

ตอนนั้นผมยังไม่มีที่เรียนเลยสักที่ ตอนแรกติดพาณิชยนาวีที่ค่ายเขียวแล้ว แต่มันไกลบ้านเลยไม่ไปเลยปฏิเสธ

ละทีนี้ก็เลยไปสอบครูราชภัฏ ข้อสอบง่ายชห. คือหลับตากายังไงก็ติดอ่ะ สุดท้ายก็ติดจริงๆ

แต่มันประกาศผลพร้อมกับโครงการเรียนดีของค่ายม่วงพอดี ก็เลยไปค่ายม่วงแทน

เรียนๆไปเรื่อยๆก็ไปกินเหล้าบ้างอะไรบ้าง เพื่อนๆมัธยมที่เรียนเข้าขั้นแย่อยู่ราชภัฏนี่เกือบ 4 จุดทุกคน แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะข้อสอบมันง่ายมากจริงๆ
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 988
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:35 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
hugokung พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
hugokung พิมพ์ว่า:
ผมเห็นต่างนิดนึงครับ อาจจะเนื่องด้วยยุคสมัยกำลังเปลี่ยน ผมรู้สึกว่า เด็กรุ่นใหม่ตอนนี้ ความสามารถระหว่าง ม.ดัง กับ ม. ธรรมดา กำลังขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นจนแทบไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างครับ ม.ดัง มีโอกาสได้คนที่เก่งมีความสามารถสูงกว่าก็จริงครับ แต่จากประสบการณ์ที่สัมภาษณ์คนเข้ามาทำงาน ปรากฏว่า อีโก้จาก ม.ดัง บังความสามารถดีๆไปเยอะ ตรงกันข้ามคนที่มาจาก ม.ธรรมดา กลับถ่อมตัว แล้วยินดีเรียนรู้มากกว่า ซึ่งแน่นอนแบบหลัง ผมจะให้ภาษีดีกว่ามากครับ ดังนั้นผมไม่อยากให้เกิดความรู้สึกเอนเอียงมากเกินไปจนปิดโอกาสจากคนที่มาจาก ม.ที่ไม่ดัง คนที่มีความสามารถแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เข้า ม.ดังๆ ไม่ได้มีอยู่อีกเยอะครับ

ดังนั้นโดยส่วนตัว ม.ดังๆ ไม่สำคัญเท่ากับเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเอง ถ้าผมสอนลูกหลาน ผมคงพยายามผลักดันให้เขาเข้าใจว่า ควรพยายามเข้า ม.ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง และรับผิดชอบต่อพ่อแม่ที่ส่งเราเรียนเพื่ออนาคตของเขาครับ  


ผมมองอีกมุมนะครับ ไม่ใช่ว่ามุมมองของคุณผิดครับ

มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ผมว่าเราต้องยอมรับถึงคุณภาพการศึกษาที่สูงกว่านะครับ รวมทั้งโอกาสที่เปิดกว้างกว่าในการทำงานของสังคมไทยครับ

ส่วนเรื่อง อีโก้ การอ่อนน้อมถ่อมตน ยินดีที่จะเรียนรู้ไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว การรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบต่อสังคม ต่างๆนานา ที่พูดถึง ผมว่ามันเป็นส่วนหนึ่งจากการหล่อหลอมมาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์นะครับ มันเป็นบุคลิคภาพและ EQ ส่วนบุคคลมากกว่านะครับ

ถ้าเด็กคนนั้นใฝ่รู้ รับผิดชอบตัวเองได้ ยินดีที่จะเรียนรู้ มีความรับผิดชอบในหน้าที่ แสดงว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกที่ดี ได้รับการบ่มเพาะมาดี มี EQ ที่ดี พร้อมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ถ้าเป็นแบบนั้น ตั้งใจแบบนั้น ก็คงไม่พลาดโอกาสได้เรียนในคณะ ในมหาวิทยาลัยที่เขามุ่งหวังหรอกครับ และถ้าเด็กมี EQ ที่ดีตามีท่กล่าวมา เขาก็จะรู้ตัวเองและเข้าใจตัวเองละครับ ว่าเขาควรที่จะเลือกเรียนอะไรที่มันเหมาะสมกับตัวเองเขาเองครับ

 


ผมเห็นด้วยเช่นกันครับ คุณภาพ สภาพแวดล้อมต่างกันจริงๆ ซึ่งในมุมที่ผมสื่อคือ ก็มีโอกาสที่จะเจอ คนที่อีโก้สูงมากขึ้นตามสถาบันเช่นกันเท่านั้นแหละครับ ในฐานะคนที่ต้องคัดเลือกคนเข้ามาทำงานด้วย มันเลือกยากมากเลยว่า จะได้คนแบบไหนเข้ามา

ผมชอบกระทู้คุณภาพแบบนี้นะ แลกเปลี่ยนความคิดกัน มีเหตุมีผล ไม่เหยียดคนเห็นต่าง ไม่ล่าแม่มด  


มันเป็นเสียงสะท้อนมาจากทุกที่ละครับ (ทั้งในภาคมหาวิทยาลัย และภาคอุตสาหกรรม) ถึงเรื่องแนวโน้มของเด็กยุคใหม่ สมัยใหม่ เจนใหม่ ที่มันเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ในสายตาของคนที่มีอายุเยอะๆแล้ว (อย่างผม)

อย่างหนึ่งคงปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่าส่วนหนึ่งมันเป็นความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย ที่มันแย่มาตั้งแต่ในระดับอนุบาล (ที่มุ่งหวังแต่จะพัฒนา IQ เพื่อจะให้สอบเข้า ป.1 ในโรงเรียนดังๆได้ จนลืมถึงการพัฒนา EQ และพัฒนาการต่างๆที่เด็กควรจะได้รับในช่วงอายุนั้น) ตลอดจนถึงกระบวนการคัดเลือกเด็กเข้ามหาวิทยาลัยที่ล้มเหลวในปัจจุบันครับ
0
0
เข้าร่วม: 19 Jul 2006
ตอบ: 2571
ที่อยู่: Midori farm / พนักงานเลี้ยงม้าให้เทพลูคัส
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:40 am
ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล
Internal2Afair พิมพ์ว่า:
คือคนที่บอกว่าจบจากไหนก็เหมือนกันคือเค้าไม่มองโลกตามความเป็นจริงเลยหรอ หรือไม่ได้ใช้ชีวิตในบ้านเมืองนี้ ต่างม.ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็ต่างกันแล้ว วิชาการ แนวคิดต่างๆมันปลูกฝังแทรกซึมในสังคมที่อาศัยอยู่ ยังไม่รวมถึงคอนเนคชั่นนะ  

นี่แหละครับโลกแห่งความเป็นจริง

อย่างที่ผมพิมพ์บอก คนที่มาสัมภาษณ์เด็ก ก็ระดับหัวหน้างาน ผู้จัดการ งานเค้าน่าจะยุ่งพอตัวครับ

ละถ้าสัมภาษณ์ แบบ 4-5 คนแล้วได้ที่ต้องการ กับ สัมไป สิบกว่าคนแทบไม่เข้าเค้า


เค้าจะเลือกทางไหนหล่ะครับ
เข้าร่วม: 08 Jan 2008
ตอบ: 3523
ที่อยู่: N/A
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:45 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Stratos พิมพ์ว่า:
preawza พิมพ์ว่า:
เรื่องสีในองค์มันแรงครับ พอได้ทำงานจริงๆ จะรู้เลย

ผมแอนตี้เรื่องนี้ แต่ก็เป็นแค่คนตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้

 


ไม่เกี่ยวนะ HR ผมเป็นฝรั่งเขาก็เลือก จุฬา มธ มหิดลก่อน ที่เหลือถ้าเกรดไม่3.5 แทบจะไม่มอง  


ถ้าทำงานวงการราชการไทยๆคุณจะเข้าใจครับ คำถามแรกคือคุณจบที่ไหนมา
0
0
เข้าร่วม: 07 Nov 2006
ตอบ: 480
ที่อยู่: ท่ามกลางศัตรู
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 11:55 am
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ผมว่าอยู่ที่เราจะเลือกสายไหน ถ้าอยากทำงานเอกชน ก็ต้อง ม.ดังๆ ครับ

แต่ถ้าอยากเป็นข้าราชการ ม.อะไรก็ได้

เพราะต้องไปสอบ กพ. หรือจบนิติอย่างผม ก็ไปเรียนเนติ ให้จบ ทุกอย่างก็เท่ากันหมด หน่วยงานไหนเปิดสอบก็ไปสอบ เดี๋ยวก็ได้ครับ

ป.ล. ผมจบ มช. เกรดเฉลี่ย 2.45 ครับ 555+
0
0
"ยอมรับผลการแข่งขัน คือ สปิริตของนักกีฬาและกองเชียร์"
เข้าร่วม: 11 Aug 2009
ตอบ: 417
ที่อยู่: ไม่บอก
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 12:15 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
ม.นเรศวร นี่ถือว่าเป็น ม.รัฐไหมครับ
0
0
หนูจริงๆนะ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 988
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 12:48 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
หนูจริงๆนะ พิมพ์ว่า:
ม.นเรศวร นี่ถือว่าเป็น ม.รัฐไหมครับ  


เป็นของรัฐฯ นะครับ
0
0
เข้าร่วม: 10 Jan 2011
ตอบ: 14255
ที่อยู่: CNX
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 12:48 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
preawza พิมพ์ว่า:
Stratos พิมพ์ว่า:
preawza พิมพ์ว่า:
เรื่องสีในองค์มันแรงครับ พอได้ทำงานจริงๆ จะรู้เลย

ผมแอนตี้เรื่องนี้ แต่ก็เป็นแค่คนตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้

 


ไม่เกี่ยวนะ HR ผมเป็นฝรั่งเขาก็เลือก จุฬา มธ มหิดลก่อน ที่เหลือถ้าเกรดไม่3.5 แทบจะไม่มอง  


ถ้าทำงานวงการราชการไทยๆคุณจะเข้าใจครับ คำถามแรกคือคุณจบที่ไหนมา  


ไม่ต้องราชการหรอก บริษัทใหญ่ๆก็คัดนะ
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 88
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 1:53 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
I_Moo-Mew พิมพ์ว่า:
Knowledge69 พิมพ์ว่า:
เป็นที่ตัวบุคคลล้วนๆครับ อย่าเอามหาลัยไม่ว่าจะที่ไหนมาก็ตามมาเทียบเลยครับ

ถ้าคนมันดิ้นรน+คิดดี คิดบวก มันมีทางให้ไปอยู่แล้ว

เพราะราชมงคลที่ผมเรียน ก็มีผสมทั้งคนดีเเละไม่ดี

แต่หลักสูตรที่เรียนไม่แพ้พวก พระจอมต่างๆแน่นอน

เด็กจากพระจอมโอนเกรดมาเรียนมาเรียนยังขอดรอปเลย

บางวิชาตัดเกรดเคี่ยวมากคะเเนน 49 ไม่ปัดให้ผ่าน ถึงจะลงเรียนมา 4-5 รอบแล้วก็ตาม

ส่วนเรื่องทำงานก็อยู่ที่ ดิ้นรน+EQ ความรู้มันอยู่ที่เราจะขวนขวายเพิ่มมากแค่ไหน

เพื่อนผมจบวิศวะลาดกระบังเกรด 3.9 ยังได้เงินเดือนน้อยกว่าคนจบเกรด 2.1-2.2 เลย

ดิ้นรนล้วนๆครับ โอกาศจะมาอยู่ตรงหน้าให้แก่คนที่พยายามเท่านั้น





 

พวกพระจอมที่ถึงขนาดต้องโอนไปเรียน ม.ของท่านคือพวกที่เรียนไม่ไหวแล้วครับ พวกปลายแถว คือเรียนวิชานั้นในพระจอมไม่ไหวแล้วจริงๆ เรียนที่พระจอมยังไงก็ตก เลยถอดใจไปเรียนกับ ม. ท่านให้ไปสู้กับตัวท็อปของที่นั้นก็คงเป็นอย่างที่ท่านบอก ผมไม่ได้ดูถูก ม. ท่านนะครับคือมันเป็นแบบนี้จริงๆ

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจบที่ใหนมา มันก็อยู่ที่ตัวเราครับ ถ้าไครพัฒนาอยู่เรื่อยๆดิ้นมีความพยายาม คนนั้นคือคนที่เก่งจริงและอยู่รอด พวกม.ดังๆทำไรไม่เป็นก็เยอะ ม.ไม่ดั้งเทพๆก็เยอะ  


ไม่ใช่ปลายแถวหรอกครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกคนมีความรู้ตอนเริ่มเท่าเทียมกัน

แต่ถ้าท่านหมายถึง คนที่ไม่มีความพยายาม = พวกปลายแถว อันนี้โอเค

เพราะมันอยู่ที่ความพยามยาม(ส่วนบุคคล)แบบที่ท่านบอก

เพราะผมผ่านมาทั้งพระจอม ทั้งราชมงคล ยืนยันได้จากเพื่อนผมคนนึง

เพื่อนผมหัวทื่อแบบโง่โคดๆๆ เอาง่ายๆ มันแปล Fresh Water ว่าไรรู้มั้ยคับ

"น้ำปลา" Fresh = ปลา คือแบบ.. ถึงแปลตรง น้ำปลาเค้าก็ไม่ใช้คำนี้กัน

และอีกหลายๆอย่างที่เป็นอังกฤษมันแปลมั่วหมดเลย แต่วิศวะเรียนโจทย์ Text ENG ล้วน

แถมบ้านจน กู้เรียน พิการ นิ้วมีแค่ข้างละ 2-3 นิ้ว แต่ด้วยความพยายาม

ก็จบวิศวะเครื่องกลลาดกระบัง เงินเดือนแตะ 30,000 ทำงานหนักจน ปลูกบ้านใหม่ให้พ่อแม่ ซื้อรถ ปลดหนี้หมดทุกอย่าง

สุดท้ายเค้าก็จากไปอย่างมีคุณค่า




0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 38527
ที่อยู่: Leo stadiam
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 1:58 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
อยากรู้ชีวิตของเด็กม.ดังเรียนเก่งๆว่าเขาเที่ยวพับมั่งมั้ย กินเหล้าบ่อยมั้ย
0
0
เข้าร่วม: 06 Feb 2009
ตอบ: 5658
ที่อยู่: Bangkok, Thailand
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 3:02 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Gameyz พิมพ์ว่า:
อยากรู้ชีวิตของเด็กม.ดังเรียนเก่งๆว่าเขาเที่ยวพับมั่งมั้ย กินเหล้าบ่อยมั้ย  


เพื่อนๆผมเที่ยวน้อยมาก อย่างมากคือดื่มตอนกินข้าวอาจจะมีเบียร์คนละขวดแล้วกลับบ้าน มีน้อยคนที่ไปผับ จนเมื่อก่อนตอนผมเที่ยว ผมเที่ยวกับเพื่อนที่เจอในผับมากกว่า (ซึ่งเป็นพวกที่เรียนเอกชน) เพื่อนในรุ่นส่วนใหญ่เรียนแล้วเดินห้างนิดๆหน่อยๆก็กลับบ้านกันหมดละ

ช่วงใกล้ๆสอบนี่ห้องสมุดมหาลัยเต็มทุกโต๊ะ ติวหนังสือโต้รุ่งมีแทบทุกคณะทุกช่วงการสอบ เสียเงินซื้อชีทเรียนกันโคตรเยอะ

ส่วนผมนี่แกะดำเลย เพราะทั้งเที่ยว เล่นเกม กินเหล้า เกือบโดนไทร์
0
0

เข้าร่วม: 23 May 2011
ตอบ: 1493
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 3:14 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Knowledge69 พิมพ์ว่า:
I_Moo-Mew พิมพ์ว่า:
Knowledge69 พิมพ์ว่า:
เป็นที่ตัวบุคคลล้วนๆครับ อย่าเอามหาลัยไม่ว่าจะที่ไหนมาก็ตามมาเทียบเลยครับ

ถ้าคนมันดิ้นรน+คิดดี คิดบวก มันมีทางให้ไปอยู่แล้ว

เพราะราชมงคลที่ผมเรียน ก็มีผสมทั้งคนดีเเละไม่ดี

แต่หลักสูตรที่เรียนไม่แพ้พวก พระจอมต่างๆแน่นอน

เด็กจากพระจอมโอนเกรดมาเรียนมาเรียนยังขอดรอปเลย

บางวิชาตัดเกรดเคี่ยวมากคะเเนน 49 ไม่ปัดให้ผ่าน ถึงจะลงเรียนมา 4-5 รอบแล้วก็ตาม

ส่วนเรื่องทำงานก็อยู่ที่ ดิ้นรน+EQ ความรู้มันอยู่ที่เราจะขวนขวายเพิ่มมากแค่ไหน

เพื่อนผมจบวิศวะลาดกระบังเกรด 3.9 ยังได้เงินเดือนน้อยกว่าคนจบเกรด 2.1-2.2 เลย

ดิ้นรนล้วนๆครับ โอกาศจะมาอยู่ตรงหน้าให้แก่คนที่พยายามเท่านั้น





 

พวกพระจอมที่ถึงขนาดต้องโอนไปเรียน ม.ของท่านคือพวกที่เรียนไม่ไหวแล้วครับ พวกปลายแถว คือเรียนวิชานั้นในพระจอมไม่ไหวแล้วจริงๆ เรียนที่พระจอมยังไงก็ตก เลยถอดใจไปเรียนกับ ม. ท่านให้ไปสู้กับตัวท็อปของที่นั้นก็คงเป็นอย่างที่ท่านบอก ผมไม่ได้ดูถูก ม. ท่านนะครับคือมันเป็นแบบนี้จริงๆ

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจบที่ใหนมา มันก็อยู่ที่ตัวเราครับ ถ้าไครพัฒนาอยู่เรื่อยๆดิ้นมีความพยายาม คนนั้นคือคนที่เก่งจริงและอยู่รอด พวกม.ดังๆทำไรไม่เป็นก็เยอะ ม.ไม่ดั้งเทพๆก็เยอะ  


ไม่ใช่ปลายแถวหรอกครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกคนมีความรู้ตอนเริ่มเท่าเทียมกัน

แต่ถ้าท่านหมายถึง คนที่ไม่มีความพยายาม = พวกปลายแถว อันนี้โอเค

เพราะมันอยู่ที่ความพยามยาม(ส่วนบุคคล)แบบที่ท่านบอก

เพราะผมผ่านมาทั้งพระจอม ทั้งราชมงคล ยืนยันได้จากเพื่อนผมคนนึง

เพื่อนผมหัวทื่อแบบโง่โคดๆๆ เอาง่ายๆ มันแปล Fresh Water ว่าไรรู้มั้ยคับ

"น้ำปลา" Fresh = ปลา คือแบบ.. ถึงแปลตรง น้ำปลาเค้าก็ไม่ใช้คำนี้กัน

และอีกหลายๆอย่างที่เป็นอังกฤษมันแปลมั่วหมดเลย แต่วิศวะเรียนโจทย์ Text ENG ล้วน

แถมบ้านจน กู้เรียน พิการ นิ้วมีแค่ข้างละ 2-3 นิ้ว แต่ด้วยความพยายาม

ก็จบวิศวะเครื่องกลลาดกระบัง เงินเดือนแตะ 30,000 ทำงานหนักจน ปลูกบ้านใหม่ให้พ่อแม่ ซื้อรถ ปลดหนี้หมดทุกอย่าง

สุดท้ายเค้าก็จากไปอย่างมีคุณค่า




 


ปลายแถว ของผมหมายถึงพวกที่ไม่เอาอะไรไม่ตั้งใจเรียนครับ เรียนในห้องอาจาร์ยก็แค่สอนส่วนหนึ่งที่เหลืองเราต้องไปอ่านเพิ่มเติมเอาเอง แต่พวกนี้ไม่เข้าเรียนยังไม่พอยังไม่ใส่ใจที่จะศึกษาเพิ่มอีก ไม่มีทางที่จะเรียนที่พระจอมไหวครับ(ไม่ใช่แค่พระจอมหรอกที่ใหนก็ไม่ไหว)

ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้ดูถูกสถาบันอื่น ไม่ว่ามอดังหรือมอไม่ดัง รัฐหรือเอกชน เพราะผมมีเพื่อนร่วงงานเกือบทุกที่ที่พูดมา บางคนเก่งกว่าผมด้วยช้ำ

ม.ดัง ไม่ดัง หรือม. ราชมงมล อะไรสุดท้ายแล้วมันก็ไม่เกี่ยวกันหรอก มันวัดแค่ตอนจะสอบเขา มหาลัยพวกนี้ตอนนั้นเราตั้ง ใส่ใจทุ่มเทกับมันแค่ใหน เข้า ม.รัฐได้ ก็อาจจะเป็นเพราะเค้าขยันเอาใจใส่ในการเรียนมีความรับผิดชอบ แต่คนที่สอบเข้าไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ใส่ใจ

สุดท้ายเรียนจบมา ไม่ว่า ม.ใหน ที่ใหน เราก็ต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเพื่อน จะพัฒนาตัวเองอยู่ดี จบ ม.รัฐ ไม่ศึกษาหาความรู้เพิ่ม แต่อีกคนจบ เทคนิคหรือราชมงคล แต่คอยพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายแล้วหลังยังไงก็เก่งกว่าคนที่หยุดอยู่กับที่

ปล.สั้นๆง่ายๆสุดท้ายแล้วจบ ม.อะไรมาก็ไม่เกี่ยว พื้นฐานจบมาอาจจะไม่เท่ากัน แต่ว่าไครที่หยุดพัฒนาก่อนคนนั้นแพ้




เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 1699
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 3:25 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Gameyz พิมพ์ว่า:
อยากรู้ชีวิตของเด็กม.ดังเรียนเก่งๆว่าเขาเที่ยวพับมั่งมั้ย กินเหล้าบ่อยมั้ย  


กินเหมือนกันหมดอะครับ เพื่อนผมกินเหล้า ดูดบุหรี่กันเก่งทุกคน

แต่เวลาสอบมันก็ตั้งใจทำ เท่านั้นเอง

ใครบอกว่าเรียนเก่ง แล้วไม่กินเหล้า นี่ผิดเลยแถว จุลา มธ เกษตร ร้านเหล้าเพียบ
0
0
เข้าร่วม: 23 May 2011
ตอบ: 1493
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 26, 2018 3:26 pm
[RE: ความแตกต่างของม.รัฐ - ราชมงคล]
Gameyz พิมพ์ว่า:
อยากรู้ชีวิตของเด็กม.ดังเรียนเก่งๆว่าเขาเที่ยวพับมั่งมั้ย กินเหล้าบ่อยมั้ย  

เพื่อนผม ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์อยู่ร้านเหล้าเกือบทุกอาทิตย์ เล่นกัญชาด้วย เที่ยวหญิงด้วย เกรดมันก็2ปลายๆ

ส่วนตัวผมก็เที่ยวบ้างกินเหล้าบ้าน เดือนละทีสองทีเพราะที่บ้านไม่มีตัง ผมว่าใช้ชิวิตไม่ต่างกันหรอก
0
0