อยากรู้กันไหม…!?
ทำไมค่าทางด่วน ที่ประเทศญี่ปุ่น
จึงแพงมากกกกกก !!
.
ประเทศญี่ปุ่น ได้ชื่อว่า เป็นอีกประเทศ
ที่มีค่าทางด่วนแพงมากพอสมควร
ใครได้มีโอกาสไปท่องเที่ยว หรือเรียนต่อ
คงจะทราบกันดี ว่าเริ่มต้นประมาณ 24 เยน/กม.
(ประมาณ 8 บาท/กม.) ซึ่งคราวนี้
เราจะมาลองดูกันว่าทำไมถึงแพงขนาดนี้
...................





1. ก่อสร้างโดยวิศวกรรมเทคโนโลยีระดับสูง
ทางด่วนญี่ปุ่นนั้น สร้างครอบคลุมพื้นที่หลายแบบ
ทั้งภูเขา ทะเล อุโมงค์ จึงมีการออกแบบ
ให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ เป็นอย่างดี
ซึ่งนอกจาก จะต้องออกแบบให้รถวิ่งเร็วแล้ว
ยังต้องสร้างเพื่อป้องกันภัย จากธรรมชาติ
เช่น แผ่นดินไหว คลื่นซัด ดินถล่ม
ซึ่งใช้เทคนิควิศวกรรมในระดับสูง
.







2. ทางด่วนครอบคลุมทั่วประเทศ
ญี่ปุ่นนั้นสร้างทางด่วน ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของผู้คน
ให้ไปมาหาสู่กันอย่างสะดวก
ตั้งแต่เหนือสุดจนใต้สุดของประเทศ
มีทางด่วนยาวรวมกันกว่า 9,000 กิโลเมตรเลยล่ะ
.






3. ค่าใช้จ่ายในการดูแลทางด่วนอย่างดี
ทางด่วนในประเทศญี่ปุ่น จะได้รับการดูแลอย่างดี
ไม่ว่าจะมีสีลอก ผนังเป็นรอย หรือร้าวเล็กน้อย
เนื่องจากเป็นประเทศ ที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย
รอยร้าวเพียงนิดเดียว ก็อาจจะเกิดหายนะตามมาได้
การดูแลรักษาจึงต้องใส่ใจ และใช้งบประมาณ
ค่อนข้างสูง แม้แต่ผนังกั้นเสียงของทางด่วน
ก็ต้องดูแลไม่ให้เสียงไปรบกวนบ้านคนข้างเคียงด้วย
.






4. งบประมาณพัฒนาทางด่วน
นอกจากจะดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีแล้ว
หน่วยงานยังมีการทดลอง พัฒนา
เพื่อการสร้างทางด่วนในระดับสูง
เพื่อให้รองรับการเดินทางได้มากขึ้น
ปลอดภัยข้ึน ทั้งการค้นคว้าวิจัยและการปฏิบัติจริง
เพื่อหาแนวทางพัฒนาทางด่วนใหม่ๆให้ออกมาดีที่สุด
.





5. จุดพักรถระดับโรงแรม
อีกหนึ่งสิ่ง ที่ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงคือจุดพักรถ
เพราะสร้างเป็นจุด สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
ของคนเดินทาง บางแห่งมีบริการระดับโรงแรม
ร้านอาหารหรู พร้อมสถานพักผ่อนหย่อนใจ
บางแห่งสร้างติดทะเลไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
เล่นน้ำทะเลก็มีเช่นกัน แสดงให้เห็น
ถึงความใส่ใจคนเดินทาง ที่ขับรถมาเมื่อยล้า
และต้องการพักผ่อนอย่างดี
.




6. ศูนย์ควบคุมดูแลทางด่วนมาตรฐาน
ศูนย์ควบคุมทางด่วน จะมีหน้าที่ดูแล
และควบคุมความเป็นไปของทางด่วนให้ปกติ
มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่แสดงสภาพเส้นทางทั้งหมด
พร้อมรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นในจุดต่างๆ
และแก้ไขได้ทันที ทำให้คนมั่นใจได้เลย
ว่าแม้จะมีปัญหารถเสีย หรืออุบัติเหตุ
ก็จะสามารถผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว
.




ทั้ง 6 มาตรฐานนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ทำให้ทางด่วนประเทศญี่ปุ่นมีคุณภาพสูง
ปลอดภัย สะดวกสบายต่อการเดินทาง
แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
ซึ่งคนญี่ปุ่นหลายๆคนก็เต็มใจจะจ่าย
เพราะได้รับบริการที่คุ้มค่าน่าพอใจนั่นเองล่ะครับ.
....

ไม่อยากรู้

เอาจริงๆผมอยากให้ไทยเก็บแบบแพงๆไปเลยนะ ทุกวันนี้รถติดบนทางด่วนบ่อยมาก แต่คงโดนประท้วงแน่นอน

SUGOI

มันติดเพราะนโยบายของรัฐนี่แหละครับ ที่รถติดรัฐทำตัวเองเท่านั้น ขนส่งสาธารณะไม่ปรับปรุงบ้างหละ ไปส่งเสริมให้คนซื้อรถเงี้ย มันจะไม่รถเยอะได้ไง

ตอนผมไปดูงานเค้าพาขึ้นทางด่วน ตรงด่านไม่มีคนเก็บค่าทางด่วนนะคับ ไม่มีไม้กั้น อารมเหมือนเป็นด่านอีซี่พาส ซึ่งเค้าบอกว่ารถทุกคันติดอีซี่พาสมาจากโรงงานเลย ผมเดาว่าอยากขึ้นทางด่วนเท่าไหร่ก็ขึ้นไป ค่าทางด่วนรวบไปจ่ายตอนต่อภาษีรถทีเดียว(เดานะฮะ)

เคยขึ้น 1 ครั้งจาก คาวากูจิโกะ เมืองตากอากาศ

เข้ามาที่ โตเกียว รถไม่ติดเลย จนมาถึงตอนลง ท่ารถในเมือง คราวนี้ติดจริงจัง

ถ้าจะเลียนแบบ ระบบถนนเมืองไทยต้องเปลี่ยนละครับ ทั้งแผนพัฒนาทาง ทั้งผังเมือง ทั้งคุณภาพพื้นผิว ทั้งคุณภาพแนวถนน ปัญหาเรื้อรังของไทยคือราชการไทยไม่ได้ใส่ใจคุณภาพพวกนี้ดีพอ บางที่ให้พวก อบต.สร้างก็สร้างตามเศษงบ บางที่แม้กรมซึ่งเป็นราชการกลางสร้างเองยังด้อยคุณภาพ เหมือนคุ้นๆ ว่าใน ss เคยเอารูปเกาะกลางถนนมาลง ที่ก่อสร้างผิดแบบและกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ลักษณะแบบนี้แหละครับทำให้ลดความน่าเชื่อถือในคุณภาพการผลิตของฝ่ายรัฐไทย นี่ไม่รวมรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่มีเสียงปู๊นไๆ ซึ่งดูด้อยคุณภาพมากๆ นะครับ

ทำลายแล้วสร้างใหม่ง่ายกว่าครับ

อีกกี่ร้อยปีประเทศไทยจะให้ได้อย่างเค้า

คนใทย 95% มีความรับผิดชอบและใส่ใจแบบคนญี่ปุ่นก่อนนะ ถึงจะเหมือนเค้าใด้

รีบโล๊ะ ผู้ใหญ่ๆ วัย 40+ ที่ความคิด เผด็จการแบบโง่ๆ คิดว่าอายุมากกว่าแล้วฉลาดกว่าเก่งกว่าออกใปก่อนเลย (ส่วนตัวเจอมาเยอะ)

ประเทษไทย ไม่ได้วางผังหรือเตรียมพร้อมกันมาแต่แรกนะผมว่า ถ้าจะทำจริงๆต้องรื้อสร้างใหม่ แถมบางพื้นที่อาจโดนเวนคืนที่ดินกันอีก

หลักๆ ก็เพื่อให้มันด่วนจริงๆ นี่แหละ

หันมาดูไทยแล้ว

เอาเท่าที่รู้นะครับ ส่วนบ้านเราขอไม่แตะละกัน(น่าจะรู้ๆกัน)

1.หลักการทางด่วน(หรือถนนที่มีการเก็บเงิน)ทั่วโลกคือต้องเก็บตังค์แพงๆเพื่อจำกัดปริมาณรถให้อยู่ในเกณฑ์ความเร็วที่กำหนดได้ (โอเคละว่าค่าก่อสร้าง+บำรุงแพงก็ส่วนนึง แต่แพงไปก็ไม่ได้)

2.วิธีการเก็บเงินมีหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่trendทั่วโลกเค้ากำลังเลิกใช้คนเก็บเงินแบบ100%แล้ว บางที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับจากเสา แต่ที่ญี่ปุ่นใช้การ์ดRFID(อีซี่พาสบ้านเรา)ตัดที่ด่านเก็บเงิน แต่ที่เทพคือเค้ามีเครื่องนี้ติดมาตั้งแต่ออกจากโรงงานแล้ว คนขับแค่เสียบบัตรเครดิตกันไป แล้วความเร็วสูงสุดที่เครื่องอ่านได้คือ80km/hr (แต่บ้านเราความเร็วเซฟๆที่ไม้กั้นเปิดอยู่ที่30km/hr)

3.ค่าผ่านทางที่เก็บได้ ส่วนนึงบ.ที่ดูแลทางด่วนแต่ละเส้น(ที่ได้สัมปทานมาดูแล)จะเก็บไว้เพื่อปรับปรุงระบบของตัวเอง อีกส่วนจะส่งให้รัฐเอาไปพัฒนาระบบขนส่งอื่นล้วนๆ

4.ศูนย์ควบคุมฯ เป็นสิ่งที่ต้องมีทุกที่ บ้านเราก็มีอยู่หลายจุดแต่ก็ไม่เทียบเท่าซักที

จากที่เคยนั่งรถบนทางด่วนช่วงเช้าเย็นของที่เกาหลี-ญี่ปุ่น ค้นพบว่าที่โน่นก็ติดเหมือนกัน แต่เค้าติดแค่ประมาณ15-45นาที (ขณะที่บ้านเราขึ้นไปจอดเล่นเกือบชม.)

ปล.จริงๆโพสต้นทางน่าจะให้เครดิตรายการJapanologyซักหน่อยนะ ล่อเนื้อหา+รูปมาซะเกินครึ่งเลย