บ่อเหล็กน้ำพี้ เป็นแหล่งสินแร่เหล็กตามธรรมชาติ
ตั้งอยู่ที่ บ้านน้ำพี้ หมู่ 1 ตำบลน้ำพี้
อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ประมาณ 56 กิโลเมตร
โดยเป็นบ่อเหล็กกล้า มีอยู่ด้วยกันหลายบ่อ
และปรากฏเตาถลุงเหล็กโบราณนับพันๆ แห่งในพื้นที่
หลายตารางกิโลเมตร แต่บ่อที่สำคัญ
และสงวนใช้สำหรับพระมหากษัตริย์มีอยู่ 2 บ่อ
คือ บ่อพระแสง และ บ่อพระขรรค์ มีการนำแร่เหล็ก
จากบ่อเหล็กน้ำพี้ ไปถลุงทำอาวุธเพื่อใช้ในการศึกสงคราม
มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ดังปรากฏหลักฐานทางประวัติศาตร์มากมาย
ถึงความสำคัญของเหล็กน้ำพี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
มีความเชื่อมาแต่โบราณว่า เหล็กจากแหล่งแร่เหล็กน้ำพี้
มีความแข็งแกร่งและมีความศักดิ์สิทธิ์ มีอาถรรพ์ในตัว
โดยจัดให้เหล็กน้ำพี้ อยู่ในโลหะธาตุตระกูลเดียวกับเหล็กไหล
ปัจจุบันบ่อเหล็กน้ำพี้ ได้รับงบประมาณ จากองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นจัดสร้างอาคารและปรับภูมิทัศน์
โดยจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านบ่อเหล็กน้ำพี้
เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทุกวัน
เมื่อกล่าวถึง เหล็กน้ำพี้ หลายคนต้องนึกถึงเมืองอุตรดิตถ์
อันเป็นถิ่นกำเนิดที่รู้จักกันมาอย่างช้านาน
โดยยังไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าใคร เป็นผู้ค้นพบเป็นคนแรก
แต่มีความเชื่อกันทั่ว อย่างแพร่หลาย ทั่วไปว่า
ทนสิทธิ์ คือมีดีมีความขลังความศักดิ์สิทธ์
มีอาถรรพณ์ ป้องกันคุณไสยเสนียดจัญไรต่างๆ
มีพุทธคุณดีในตัวเองทุกด้าน ถ้ามีไว้ในบ้าน
มีอาถรรพณ์ป้องกันคุณไสยเสนียดจัญไรต่างๆ
คนโบราณประจักษ์กันว่า เป็นเหล็กกล้าเนื้อดี
ที่นำมาตีเป็นดาบเป็นอาวุธที่วิเศษ ชั้นดีเลิศ
เหล็กน้ำพี้ ได้ชื่อว่าเป็นเหล็ก ที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย
มีความแข็งแกร่งและเหนียวเป็นพิเศษ
เมื่อตีเป็นดาบหรืออาวุธต่างๆ จะมีสีเขียววาว
เหมือนสีปีกแมลงทับ ดาบคู่มืออันลือชื่อ
ของพระยาพิชัยดาบหักที่มีชื่อว่า “ดาบนันทกาวุธ”
นั้นก็ตีจากเหล็กน้ำพี้ พระเครื่องชั้นยอดของไทย
เช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า ก็มีส่วนผสมของเหล็กน้ำพี้เป็นสำคัญ
และเมื่อ “พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 7
เถลิงถวัลยราชสมบัติ หลวงจริงราชษฎ์เจริญ นายอำเภอตรอน
จังหวัดอุตรดิตถ์สมัยนั้นได้นำแร่เหล็ก จากบ่อพระแสงตำบลน้ำพี้
มอบให้พระยาวิเศษถาชัย ข้าหลวงประจำจังหวัดอุตรดิตถ์(2469-2471)
นำไปตีเป็นพระแสงดาบ แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย
ซึ่งเป็นพระแสงศาสตราวุธมาจนทุกวันนี้
ปัจจุบันเหล็กน้ำพี้ ใช่เป็นเพียงเหล็กชั้นเยี่ยม ของประเทศไทยเท่านั้น
แต่เป็นเหล็กชั้นเยี่ยม หนึ่งในโลกก็ว่าได้
จากชื่อเสียงและความต้องการ ทางด้านอุตสาหกรรม
ทำให้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
กระทรงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการพลังงาน
มีความสนใจสืบค้นหลักฐานประวัติศาสตร์ ความเป็นมา
และจัดตั้ง คณะทำงานเดินทางมายังบ่อเหล็กน้ำพี้
ต้นตอของเรื่องทีเดียว หลังจากได้นำแร่เหล็กจากบ่อพระแสงี่
บ้านน้ำพี้ ไปทำการวิเคราะห์ มวลสารแล้ว ได้ยืนยันว่า
เหล็กน้ำพี้มีองค์ประกอบ ของแร่ธาตุที่หาได้ยาก
มีความแข็งและเหนียวเป็นพิเศษ มีคุณลักษณะอ่อนในแข็งนอก
ซึ่งนักปกครอง และนักวัสดุศาสตร์ในไทยได้ค้นพบ
โดยประสบการณ์ มานับร้อยปีแล้วเป็นโลหะ
ที่มีความสำคัญยิ่งต่อการอุตสาหกรรม
และเมื่อทางสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ
นำผลวิจัยและวิเคราะห์นั้นมาสังเคราะห์สร้างขึ้นใหม่
ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการผสมวัตถุ
ที่ค้นพบตามสัดส่วน นำการหลอมเหล็กออกมา
ก็สามารถที่จะนำไปสร้างเป็นอุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้
โดยขณะนี้ ได้ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก
ดำเนินการผลิตตัวอย่างมีดทหาร และเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆ
จะได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้กับเอกชนในภายหลัง
เพื่อประโยชน์ในการอุตสาหกรรมต่อไปด้วย
บทความทางวิชาการ จากรายงานวิเคราะห์แร่เหล็กน้ำพี้
และโลหะเหล็กน้ำพี้ ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ที่ทันสมัย
ของภาควิชาวิศวกรรมโลหการ คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก โดยการนำเอาตัวอย่าง
สินแร่จากบ่อพระแสง และบ่อพระขรรค์
ตำบลน้ำพี้ อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์
มาวิเคราะห์หาคุณสมบัติต่างๆ สรุปได้ว่า
แร่เหล็กที่ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
เป็นแร่เหล็ก ที่มีคุณภาพดีที่สุดของเมืองไทย
ควรนำวิทยาการสมัยใหม่ ทำการประยุกต์ผลิตเหล็ก
ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับเหล็กน้ำพี้ เป็นเครื่องใช้
และเครื่องมือสำคัญ ก็ช่วยประหยัดงบประมาณ
ของประเทศได้อย่างมาก คุณพิเศษของแร่เหล็กน้ำพี้
มีองค์ประกอบของแร่หลายชนิด เช่น เหล็กแมงกานิส , ซิลิคอน ,
อลูมิเนียมและไทเทเนียม ส่วนธาตุอื่นๆมีอยู่ถึง ๒๐ ธาตุ
พบว่ามีธาตุแปลกๆเช่น เซอร์โคเมียม, โบรอน ,อาร์เซนิค ,
ดีบุก ,ไนโอเนียม ,โดบอลต์ คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ
มีความแข็งแรงและเหนียวอีกทั้งไม่เป็นสนิม
มีสีเขียวเหมือนปีกแมงทับ เชื่อว่าเกิดจากอ๊อกไซร์ของเหล็ก
ขณะเผาแล้วตี อ๊อกไซร์เหล่านี้ จะเกิดขึ้นบริเวณผิวเกาะกันหนา
ทำให้มองเห็นเป็นสีเขียว กันไม่ให้เกิดสนิมเช่นอลูมิเนียมอ๊อกไซร์
และโครเมียมอ๊อกไซร์เป็นต้น
ข้อสังเกตุในการตีดาบโบราณ กับการตีดาบในปัจจุบัน
ในอดีตนั้น การตีดาบแต่ละเล่ม จะใช้เนื้อเหล็กแท้ๆ
โดยการเผาแล้วขูดเอาขี้ตะคันเหล็ก ออกจนหมด
เมื่อได้เนื้อเหล็กแล้ว จึงมาตีเป็นดาบหรือเครื่องใช้
คุณสมบัติก็คือ เนื้อดาบจะมันเงาไม่เป็นสนิม
และมีความคมกริบ แทบไม่ต้องฝนเลย
ต่างกับการตีดาบในปัจจุบัน ที่แร่เหล็กที่นำมาตีนั้น
หายาก จึงนำเอาขี้ตะคันมาหลอมใหม่ แล้วจึงนำมาตี
แต่ก็ยังคงมีเนื้อเหล็กหลงเหลืออยู่บ้าง
การตีดาบในสมัยนั้น ต้องมีพิธีกรรมเริ่มจากการนำแร่
การหาของผสมให้ครบการก่อเตา ตีดาบการขุดเอาแร่
ผู้ขุดจะต้องทำตัวให้บริสุทธิ เช่น ถือศีลเป็นเวลา ๗ - ๑๕ วัน
นุ่งขาวห่มขาว หาฤกษ์วันเวลาในการบวงสรวงเจ้าที่
เพื่อขออนุญาติเจ้าที่ ในการขุดตัดแร่เหล็ก น้ำพี้
ซึ้งต้องทำพิธีตัดแร่กันในวันดับคือแรม ๑๕ ค่ำ
เพราะเชื่อว่าจะได้แร่เหล็กที่ดีที่สุด และทำพิธีล้อมแร่
เพื่อป้องกันแร่ธาตุหนี
(พิสูจน์แร่เหล็กน้ำพี้ได้
โดยการนำแม่เหล็กมาใกล้ๆจะดูดติดทันที ไม่ว่าจะเป็นดาบ
หรือลูกประคำ คนที่นับถือจะนำมาสักการะในรูปแบบต่างกันออกไป
เช่นนำไปบูชานำไปคล้องคอ เพื่อเป็นสิริมงคลและเชื่อว่า
จะสามารถป้องกันไม่ให้สิ่งร้ายๆเข้ามาใกล้ตัวได้)
เหล็กน้ำพี้ของดีเมืองอุตรดิตถ์ที่ได้มีการบอกเล่ามา
หลายชั่วอายุคน มีตำนานเรื่องเหล็กน้ำพี้ ดาบน้ำพี้
ของนักปกครองไทยแต่สมัยโบราณ รวมทั้งศาสตราวุธ
ของพระมหากษัตรย์ที่ทำด้วยเหล็ก ได้ผ่านจากบ่อพระแสง
และได้รับการยืนยันทางวิทยาการ เป็นครั้งแรก
เหล็กน้ำพี้โดยการตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์
ของสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
แล้วพบหลักฐานยืนยันได้ กล่าวคือ มีคุณสมบัติเยี่ยมไม่แพ้เหล็กกล้าชั้นดี
ของประเทศต่างๆ เลย รวมทั้งให้แนวคิดด้านอารยะธรรมด้วย เช่น
ญี่ปุ่น มี ดาบซามูไร แสดงศิลปอารยธรรม ของชนชั้นปกครอง
อาหรับ มี ดาบวงพระจันทร์ หรือ ดาบดามัสกัส
แสดงศิลปะอารยธรรม ของชนชั้นปกครอง
ไทย ได้รับการยืนยันอย่างแน่นอนว่า
ดาบน้ำพี้ คือเครื่องหมายที่แสดงถึงศิลปะอายธรรม
ของชนชั้นปกครองของ ไทยแต่โบราณ
เหล็กน้ำพี้ เรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่สืบเนื่อง
แห่งศิลปะอารยะธรรมไทยสมัยอยุธยาที่สูญหายเป็นช่วงๆ
ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อีกอย่างหนึ่ง หมู่บ้านน้ำพี้
แห่งเมืองพิชัย-เมืองตรอนตรีสินธุ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ในอดีต
คาดว่าเป็นคลังแสงสรรพาวุธ ของอาณาจักรไทย
สมัยสุโขทัยและสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ได้สร้างอาวุธนานาชนิด
ขึ้นกู้ชาติบ้านเมืองและป้องกันประเทศ อย่างมีประสิทธิภาพ
นับร้อยๆปีแล้ว ควรแก่การระลึกถึง หลักฐานเบื้องต้น
หลายอย่างทำให้คิดว่าบ้านน้ำพี้ การตีเหล็กน้ำพี้
ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
เป็นแหล่งผลิตอาวุธที่สำคัญก็คือ พบเตาหลอมเหล็กในพื้นที่ต่างๆ
จำนวนมากนับเป็นพันๆเตาในพื้นที่หลายตารางกิโลเมตร
นอกจากนี้ ความรู้ทางวัสดุศาสตร์ จากเหล็กน้ำพี้
เป็นกุญแจไขความลับในอดีตที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้
กับคนรุ่นปัจจุบันได้อีก หลายประการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ลดดุล การนำเข้าเครื่องมือเครื่องใช้ ที่ประกอบด้วย
เหล็กที่เราสามารถสร้างขึ้นเองได้ เช่น มีด พร้า เสียม จอบ
หัวไถ สิ่ว ขวาน ค้อน และไขควง เป็นต้น.
...