ภาพเดียวรู้เรื่อง! ปูดเหตุการณ์เบื้องหลังทัพผี-เรือ ซัดกันนัวในห้องแต่งตัวหลังเกม
ภาพเดียวรู้เรื่อง! ปูดเหตุการณ์เบื้องหลังทัพผี-เรือ ซัดกันนัวในห้องแต่งตัวหลังเกม
(1). มูที่หัวร้อนกับเกมที่จบลง และเมื่อได้ยินแข้งซิตี้ดีใจและตะโกนล้อเลียนดังจนมาถึงห้องแต่งตัวฝั่งเจ้าบ้าน เลยออกจากห้องแต่งตัวและเดินเข้าไปที่ห้องแต่งตัวซิตี้ และตะโกนเฉ่งว่า "ไม่มีความเคารพกันเลย"
(2). มูเข้าไปปะทะคารมกับเอแดร์สันอย่างดุเดือด ซึ่งตอบโต้กันโดยใช้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาโปรตุเกส
- มูบอกเอแดร์สันว่าให้เกียรติกันหน่อย และแขวะเรื่องที่แกล้งเจ็บนานเพื่อถ่วงเวลาหลังเซฟลูกยิงของลูกากูกับมาต้าช่วงห้านาทีสุดท้าย
(3). ใครสักคนในห้องแต่งตัวซิตี้ปาขวดพลาสติกเปล่าใส่หัวมูรินโญ่ และสตาฟฟ์คนนึงของมูรินโญ่ไปแจ้งข่าวกับนักเตะในทีมว่า "หัวหน้าโดนปาขวดใส่"
- ตอนแรกนักเตะแมนยูเข้าใจว่าคนปาขวดคือเอแดร์สัน แต่ความจริงแล้วมันมาจากใครสักคนในห้องแต่งตัวที่ไม่ใช่เอแดร์สัน
(4). มาร์กอส โรโฮ รีบออกไปหาเจ้านายเป็นคนแรก ตามด้วยอันโตนิโอ วาเลนเซีย
(5). อันแดร์ เอร์เรร่า , มาร์คัส แรชฟอร์ด , แอกเซล ตวนเซเบ้ , ลุค ชอว์ คืออีกสี่คนที่ตามไปเสริมทัพสองแข้งละติน
(6). แวงซองต์ กอมปานี เริ่มนำทีมผลักดันนักเตะแมนยูจากห้องแต่งตัว และการไฝว์กันก็เริ่มขึ้น
- ใครสักคนชกไปที่เฟอร์นานดินโญ่ , กอมปานีกับโอตาเมนดี้เข้าไปบวกด้วย ส่วนกุนกับเบอร์นาโด้ ซิลวา ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ
- มีขวดปาใส่มิเกล อาร์เตต้าจนเลือดไหล คนร้ายบอกในเชิงเดียวกันว่าคือลูกากู
(7). ทัพสตาฟฟ์กับนักเตะทั้งสองฝ่ายเปิดฉากบวกกันต่อเนื่อง ว่ากันว่าทั้งสองฝ่ายนับรวมกัน 30 คนมีส่วนในการตะลุมบอนกันเลยทีเดียว มีใครบางคนเฟี้ยงนมใส่มูและทีมงานมูด้วย
- ฟาเบียน เดลฟ์ กับ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาช้ากว่าเพื่อนเพราะไปตรวจสารกระตุ้นกับไปสัมภาษณ์สื่ออยู่
- ตีกันต่อเนื่องราวๆ 2 นาทีกว่าๆ รปภ. ก็เข้ามากู้สถานการณ์
(8). ไมเคิล คาร์ริค อาสาเป็นกาวใจมาหยุดสงครามย่อมๆนี้เอาไว้ แม้จะมีแขวะซิตี้ไปว่าไม่มีความเคารพเลย แต่ก็บอกให้ทัพผีแดงถอยกลับไปห้องแต่งตัวได้แล้ว
- หลังจบอีเว้นท์บวกกันเสร็จ มูรินโญ่บุกเข้าไปที่ห้องแต่งตัวของไมเคิล โอลิเวอร์ต่อ เพื่อขอคำอธิบายว่าทำไมไม่ให้จุดโทษจังหวะอันแดร์ เอร์เรร่าโดนนิโกลัส โอตาเมนดี้ขัดขาล้มอย่างชัดเจน
- แต่ว่าห้องกรรมการโดนล็อกไว้ตลอดตั้งแต่ช่วงใกล้จะมีเรื่องไฝว์กัน และมีตำรวจสองนายคอยคุ้มกันตลอด
- ที่แน่ๆคือเรื่องนี้จะไม่มีการเขียนลงไปในรายงานหลังเกมของกรรมการ เพราะไมเคิล โอลิเวอร์ตอนนั้นอยู่ในห้องตลอดและไม่เห็นเหตุการณ์ตีกันใดๆ
- ทางเดินใต้ดินของโอลด์แทรฟฟอร์ดไม่มีกล้อง เลยทำให้จับภาพอะไรไม่ได้ คล้ายๆกับกรณีที่แข้งผีกับปืนตีกันในปี 2004 และเกิดเหตุการณ์พิซซ่ามหาประลัยที่เพิ่งจะรู้ตัวคนปาเมื่อไม่นานมากนี้เองว่าคือเชส ฟาเบรกาส
- FA ขอให้ทั้งสองทีมทำเรื่องชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว และ FA ขอคำอธิบายเพิ่มเติมกรณีที่แข้งผีไปกดดันเบอร์นาโด้ ซิลวาในจังหวะเตะมุมด้วย
- บรรดาแข้งซีเนียร์ของผีแดงรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจไปบวกกับแข้งซิตี้แบบนั้น พวกเขารู้สึกว่าอยากให้วันนั้นเป็นแรงผลักดันให้ทีมไปเอาคืนให้สาสมที่เอติฮัดมากกว่า
Cr. เดลี่เมล์