เค้าก็รับสมัครก่อนอยู่แล้วป่ะคับ..

แต่เขตไหนสมัครไม่เต็ม..ก็ต้องใช้เกณฑ์ส่วนที่เหลือเอา (จับใบ)  

ทำไมทหารถึงยังไม่ใช้ระบบสมัครอย่างเดียว?  

ก็คนมันจะไม่พอไงฮะ (อธิบายไปข้างบนแล้วอ่ะ..ถ้าคนมันพอ ก็ไม่ต้องเกณฑ์เพิ่ม) งงรัยเนี่ย  

ท่านไม่เข้าใจผม หรือผมไม่เข้าใจท่าน ชั่งมันเถอะ  

ทำไมทหารถึงยังไม่ใช้ระบบสมัครอย่างเดียว?  

ท่านงงตรงไหนอ่ะคับ..

เอาใหม่ๆๆ..คือถ้า "สมัครอย่างเดียว" คนสมัครมันมีไม่พองัยฮะ..

เค้าเลยต้องเกณฑ์เพิ่มเข้าไป..ให้ครบตามจำนวน..  

แล้วทำไมท่านไม่ไปสมัครละครับ  

ทำไมทหารถึงยังไม่ใช้ระบบสมัครอย่างเดียว?  

คนน้อยไปครับ

คนน้อย = งบมาน้อย

เลยต้องบังคับไงครับ ได้ทั้งส่วนแบ่ง ทั้งแรงงานใช้ฟรี  

ท่านงงตรงไหนอ่ะคับ..

เอาใหม่ๆๆ..คือถ้า "สมัครอย่างเดียว" คนสมัครมันมีไม่พองัยฮะ..

เค้าเลยต้องเกณฑ์เพิ่มเข้าไป..ให้ครบตามจำนวน..  

ไม่เข้าใจอ่ะ ขออีกรอบ  

ตอบงี้เลยหรอพ่อหนุ่ม  

อ่านมาสองหน้าไม่มีใครพูดประเด็นนี้เลย
1 ถ้าไม่อยากเป็นทหารเกณท์และไม่ได้เรียน รด คิดว่าคนนั้นจะทำอย่างไรที่ไม่ต้องเสี่ยงจับใบดำใบแดง
2 กรณีที่ถูกเกณท์ทหารแล้ว ถูกฝึกแล้ว อีกปีกว่าๆ ต้องเป็นกำลังพล คิดว่ามีไหมที่กลับมาอยู่บ้านเลย โดยมีวิธีคือ..
"ไม่รับเงินเดือน"
สองข้อ ตอบได้ ก็เข้าใจว่าทำไมถึง "ต้องเกณท์ทหาร"
และ อย่ามาถามว่าเอาหลักฐานที่ว่ามาซิ..
ผมฝันแล้วมาตอบครับ นี่ผมละเมอ  

อันนี้ต้องนับถือเลยครับ ว่าคิดได้ยังไงเนี่ย "เกณฑ์ทหาร เพื่อของบ...!!!!!!"
ลองศึกษาดูครับ ว่าทางยุทธวิธี 1 หมู่ 1 หมวด 1 กองร้อย จัดวางตำแหน่งยังไง ดำเนินการตามยุทธวิธียังไง

และศึกษาต่อไปนิดนึงว่าวงรอบปีของทหารเกณฑ์ทำอะไรบ้าง นอกจากใช้แรงงาน
ผมเล่าให้ฟังคร่าวๆแล้วกันนะ สำหรับทหารราบที่ผมเคยสังกัดนะ

พ.ค. - ก.ค. = ฝึกทหารใหม่ ผลัด 1
พ.ค. - มิ.ย. = ส่วนที่เหลือออกฝึกภาค หมู่ ตอน หมวด ในป่าเมืองกาญจนบุรี
มิ.ย. - ก.ค. = ล้างทำความสะอาดอาวุธทั้งหมดที่ออกฝึกและเลอะโคลน ให้อยู่ในสภาพใหม่พร้อมใช้งานสำหรับครั้งต่อๆไป
ก.ค. - ส.ค. = พัก (ปล่อยทหารผลัดกันลาพักร้อนยาว)
ส.ค. - ก.ย. = ฝึกภาคกองร้อย ในป่า(ยกกองร้อยออกฝึก)
ก.ย. - ต.ค. = ล้างทำความสะอาดอาวุธทั้งหมดที่ออกฝึกและเลอะโคลน ให้อยู่ในสภาพใหม่พร้อมใช้งานสำหรับครั้งต่อๆไป
ต.ค. - พ.ย. = พัก (ปล่อยทหารผลัดกันลาพักร้อนยาว)
พ.ย. - ม.ค. = ฝึกทหารใหม่ ผลัด 2
พ.ย. - ธ.ค. = ส่วนที่เหลือ ฝึกสวนสนามราชวัลลภ เพื่อพร้อมสำหรับเดินสวนสนามต่อหน้าพระพักตร์ (ทุกคนภูมิใจมากกับโอกาสนี้)
ธ.ค. - ม.ค. = ส่วนที่เหลือ เคลียร์และพัฒนาพื้นที่ในหน่วย
ม.ค. - ก.พ. = พัก (ปล่อยทหารผลัดกันลาพักร้อนยาว)
ก.พ. - มี.ค. = ฝึกภาคกองพัน ในป่า(ยกกองพันออกฝีก)
มี.ค. - เม.ย. = ล้างทำความสะอาดอาวุธทั้งหมดที่ออกฝึกและเลอะโคลน ให้อยู่ในสภาพใหม่พร้อมใช้งานสำหรับครั้งต่อๆไป
เม.ย. - พ.ค. = พัก (ปล่อยทหารผลัดกันลาพักร้อนยาว)
***แล้วเริ่มวงรอบใหม่***

ดูวงรอบแล้วเหมือนจะ เกณฑ์มาเอางบ กับใช้แรงงานอย่างที่ท่านบอกเลยนะครับ  

ถามเพราะมองเลข 6 กับเลข 9 คนละด้าน ก็เข้าใจนะครับ
สงครามไม่มีหรอกครับ สหรัฐกับจีนกับรัสเชียเลยฝึกทหารเยอะขึ้น เพราะสงครามไม่เกิด ? ผลิตอาวุธมากขึ้น
ประเทศเพื่อนบ้านก็ฝึกกับนำเข้าอาวุธมากมาย เพราะสงครามไม่เกิด? ใช่มันไม่เกิดสงคราม แต่ถ้ามันเกิดความมั่นคงมันสำคัญแต่เราไม่รู้ว่ามันสำคัญยังไง ไม่ต้องเปรียบเทียบประเทศ แค่บ้านข้างบ้านกันก็พอแล้วทะเลาะกันข้างบ้านมีปืนใครมั่นคงกว่า ย้อนกลับมา ทำไมถึงไม่เอาแบบสมัครอย่างเดียว เราคนไทยคิดถึงตัวเองก่อนง่ายๆเลย ถ้าเลือกได้จะเป็นหรือไม่เป็น อยากลำบากหรือสบาย...  

รับสมัครผมว่าคนพร้อมจะเป็นเยอะนะ แต่ไม่ใช่ทำกับเค้าเหมือนหมูเหมือนหมา ให้เงินเดือนน้อยนิดแบบนั้น ใครมันจะอยากเป็นครับ  

ก็ไม่ทุกหน่วยนะครับ ของหน่วยผมผลัดสองฝึกและสวนสนามเสร็จขึ้นกองร้อยก็ตัดหญ้ารัวๆเลยครับ ผลัด 1 ขึ้นมารอเกือบเดือน ไปหมู่ตอนหมวด กลับมาก็ตัดหญ้าอยู่กองร้อย งานอดิเรก ตัดหญ้าบ้านผู้พัน ตัดหญ้าสนามกองร้อย ปลูกผักช่วยหมู่ เลี้ยงควาย ไปรับใช้บ้านนาย กองเกียรติยศเวลาทหารเสียชีวิต กองเกียรติยศต้อนรับนายจากหน่วยเหนือ ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องพูดถึงครับ จัดว่าห่วย ส่วนพวกนายสิบบางคนก็วุฒิภาวะต่ำด้วยความที่อาจจะพึ่ง 20 ต้นๆ ทำไรไม่เป็น มาเข้าเวรเปิดหนังดูทั้งวัน นั่งๆนอน อารมณ์ไม่ดีก็เป่ารวมซ่อมบ้าง แกล้งบ้าง ก็ว่ากันไปตามนิสัยแต่ละคน ดีนะที่ผมเป็นแค่ปีเดียว เหอะๆ ความภูมิใจที่พูดต่อๆกันมาว่ารับใช้ชาติ ผมขำทุกทีที่ได้ยิน (อันนี้หน่วยผมนะครับ ที่อื่นอาจจะดีก็ได้)