ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 25 Sep 2013
ตอบ: 14426
ที่อยู่: Ashburton Grove
โพสเมื่อ: Thu Nov 23, 2017 7:22 pm
อู๋ The Yers โปรดิวเซอร์ "แสงสุดท้าย G19"



“ ในค่ำคืนที่ฟ้าท้าทายใจคนอยู่ตรงนี้ ฉันยังคงก้าวไป “


ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กธรรมดาๆคนหนึ่ง จะได้มีโอกาสโปรดิวซ์งานให้กับศิลปินที่คนทั้งประเทศรักพร้อมๆกันถึง 20 วง/ศิลปิน ผมเองในฐานะโปรดิวเซอร์ (ซึ่งจริงๆแล้วผมห่างไกลกับคำๆนี้มากๆ ผมหลีกเลี่ยงที่จะเรียกตัวเองด้วยคำๆนี้เสมอ) ได้มีโอกาสดูแลและเรียบเรียงเพลงธีมของคอนเสิร์ต G19 ซึ่งเรียกได้ว่าน่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งโจทย์ที่ได้รับมอบหมายในครั้งนี้คือเพลง “แสงสุดท้าย” ของ “Bodyslam” เพลงที่คนทั้งประเทศรัก เพลงที่คนทั้งประเทศร้องได้ เพลงที่ให้กำลังใจคนมานักต่อนัก และเป็นเพลงที่ดีที่สุดอีกเพลงของค่ายจีนี่เรคคอร์ด วันแรกที่ผมรู้ว่าผมจะต้องรับภารกิจนี้ สารภาพว่ามือผมสั่น ในใจก็สั่น งานที่ทำอยู่ก็ไม่ได้โฟกัส เพราะในใจมัวแต่กังวลว่า “แน่ใจแล้วใช่ไหมที่ตอบตกลงรับงานนี้”

แน่นอน ถ้ามันเป็นเพลงคัฟเวอร์ธรรมดาๆทั่วไป ผมคงไม่มานั่งพิมพ์สเตตัสนี้ให้ทุกคนอ่านให้แน่ๆครับ ถ้ามันเป็นแค่เพลงที่วงผมคัฟเวอร์กันเอง เรียบเรียงกันเองแค่สี่คนในวง แล้วสุดท้ายผมก็มาอัดร้อง ก็คงจบง่ายๆแค่นั้น แต่งานนี้ไม่ใช่ครับ ผมต้องเรียบเรียงเพลงนี้ใหม่ให้กับศิลปินที่เป็นขวัญใจมหาชนทั่วประเทศร้อง ศิลปินที่เป็นไอดอลของคนทั้งประเทศ รวมถึงตัวผมเองก็เคยเป็นแฟนพันธ์แท้ของพวกพี่ๆเค้าตอนเด็กๆ และที่สำคัญที่สุดคือ “เจ้าของเพลง” จะมาร้องในเพลงนี้ด้วย...

“ทำยังไงไม่ให้โดนด่า” คือโจทย์ข้อแรกที่ผมตั้งเอาไว้ก่อนจะเริ่มลงมือทำทุกอย่าง ( เป็นโจทย์เดียวกับที่พี่โน่ตั้งบรรทัดฐานเอาไว้ให้กับเพลงความเชื่อ G16 ) เพราะอย่างที่บอกว่านี่คือเพลงที่คนทั้งประเทศรัก และคิดว่าน่าเป็นคัฟเว่อร์เวอร์ชั่นที่ทุกคนรอคอย แถมทุกๆคนหลงรักเวอร์ชั่นออริจินัลไปแบบเต็มประตูแล้ว (แน่นอนผมเองก็หลงรักเพลงนี้มากเช่นกัน) นอกเหนือจากนั้นเรื่องที่ผมกังวลมากที่สุดคือจะทำยังไงให้แฟนคลับของพี่ๆศิลปินแต่ละคนไม่ผิดหวัง สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากไตร่ตรองอยู่นานคือ “การแบ่งร้อง” แบ่งท่อนร้องยังไงให้สมดุลมากที่สุด ให้จำนวนประโยคที่ร้องเท่าเทียมกันมากที่สุด ให้มีความโดดเด่นของแต่ละท่อนเท่ากันมากที่สุด เนื่องจากศิลปินในค่ายเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็น 20 ศิลปิน ( จาก G16 แค่ 14 ศิลปิน ) โดยผมได้จำนวนเฉลี่ยของประโยคที่พี่ๆแต่ละคนจะได้ร้อง คือ 2-3 ประโยคต่อ 1 คน แต่จากการคำนวนแล้วจะต้องมีคนนึงใน 20 คน ที่ต้องเสียสละร้องเพียงประโยคเดียวทั้งเพลง เพื่อให้พี่ๆทุกคนได้ร้องมากกว่า 1 ประโยค ผมได้คำตอบแล้ว ก็คือไอแว่นหัวทองๆนั่นแหละ น่าจะเหมาะสมสุดแล้ว...เพราะมันเด็กสุด ประสบการณ์ในวงการนี้ก็น้อยสุด

“เรียบเรียงดนตรี” คือขั้นตอนต่อไปหลังจากแบ่งไลน์ร้องเสร็จ ผมทำเดโม่ขึ้นมาคนเดียวลำพังตามสไตล์ อะไรเล่นได้ก็เล่นคนเดียวไปก่อน ผมเลือกใช้คีย์เพลงเดิมๆ คอร์ดเดิมๆ ด้วยความที่ไม่ได้เช็คความสูงต่ำของย่านร้องของพี่ๆแต่ละคนมาก่อน เลยตัดสินใจใช้คอร์ดแบบเดียวกับ Original Version เพื่อตัดปัญหาการนั่งหาคีย์ใหม่ที่เหมาะสม ( ก่อนหน้านี้ตอนแบ่งร้อง ผมแอบแบ่งตามความสูงต่ำของโน้ตที่พี่ๆแต่ละคนพอจะร้องได้แล้วคร่าวๆ “ถ้ามีปัญหาอาจจะเปลี่ยนท่อนร้องหน้างาน” คือสิ่งที่ผมโน้ตไว้กับเดโม่แรกที่ส่งให้พี่ๆทุกคนฟัง ) เมื่อเดโม่แรกเสร็จ คือการเฟ้นหานักดนตรีในค่ายจีนี่มาร่วมคิดไลน์ของตัวเองและร่วมถึงบันทึกเสียง

ผมฟังเดโม่แรกที่ทำคนเดียววนไปวนมา จนภาพในหัวเกิดขึ้นมาทีละนิดว่า ศิลปินคนไหนน่าจะมาบรรเลงในเพลงๆนี้บ้าง เริ่มต้นที่กลอง ผมเห็น “พี่เบิร์ธ Retrospect” และแน่นอนผมเลือกไม่ผิดคนครับ พี่เบิร์ธถือว่าเป็นคนเปลี่ยนเกมส์ของเพลงๆนี้มากๆ จากเดโม่แรกที่ผมทำ ที่ตอนแรกคิดว่าน่าจะเดือดดาลพอประมาณอยู่แล้ว แต่เปล่าเลย ไลน์กลองของพี่เบิร์ธพาให้เพลงไปอยู่ในที่ๆเดือดกว่าและไกลออกไปยิ่งกว่า เทคนิคทุกท่อนที่พี่เบิร์ธบรรเลง นำพามาสู่วิธีการเล่นของเบสและกีต้าร์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งคนที่ผมคาดเดาว่าคนที่เหมาะกับไลน์เบสมากที่สุดคือ “โบ้ท The Yers” ด้วยจังหวะที่ค่อนข้างเข้ามือและ Rhythm ที่ผมกะโบ้ทคุ้นเคยในสไตล์ร๊อคๆแบบ The Yersๆหน่อย โบ้ทใช้เวลาไม่นานในการบันทึกเสียง ส่วนพาร์ทกีต้าร์คงต้องเป็น “พี่แป๊ป Sweet Mullet” กับ “พี่นัท วงKlear” ผมอยากเห็นส่วนผสมที่น่าจะเข้ากันได้ดีระหว่าง ป๊อปและร๊อค แต่น่าเสียดายที่ ณ เวลานั้น พี่นัทติดทัวร์คอนเสิร์ตระยะยาว เลยไม่สามารถมาร่วมบรรเลงในเพลงนี้ได้ กลายเป็นพี่แป๊ปต้องจัดการกับไลน์กีต้าร์ทุกไลน์ในเพลงนี้ และทำให้ผมเองมีโอกาสมาเติมส่วนที่เหลือของไลน์กีต้าร์นิดๆหน่อยๆไปด้วย

ผมประเมินพี่แป๊ปได้ทันทีที่เข้าห้องอัดว่าพี่แป๊ปคือมือกีต้าร์ปีศาจ ความคึกคักและน่าสนใจทั้งหมดของเพลงนี้ พูดได้เลยว่าเสียงกีต้าร์คืออาหารหลักที่ทำให้รสชาติของเพลงอร่อยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ฝีมือของพี่แป๊ปคือมือกีต้าร์ที่เรียกได้ว่าเป็นมือปืนห้องอัดมืออาชีพ เล่นได้ทุกแบบ แถมมีความคิดสร้างสรรค์ตลอดเวลา หลังจากนั้น ผมนึกถึงเสียงเปียโนพริ้วๆสวยๆ แน่นอน ทุกคนน่าจะปิ๊งไอเดียขึ้นมาเหมือนผมแน่ๆ คนเดียวที่จะเติมเต็มสิ่งนั้นได้คือ “พี่ปอ Instinct” พี่ปอจัดการส่งไลน์เปียโนที่ตัวเองอัดมาให้จากที่บ้าน แค่ดราฟท์แรกก็สร้างความสมบูรณ์ไพเราะและเพิ่มความนุ่มนวลให้กับเพลงได้โดยทันที สุดท้ายคือผมต้องการความนุ่มนวลเพิ่มอีกหน่อยจากกีต้าร์โปร่ง โชคดีที่ผมบันทึกเสียงอัลบั้มใหม่ของ The Yers ที่เป็นอัลบั้มอคูสติคอยู่พอดี ผมจึงเลือกคนใกล้ตัวที่กำลังฝึกฝนกีต้าร์อคูสติคอย่างหนักหน่วงและคล่องแคล่ว นั่นก็คือ “ต่อ The Yers” ซึ่งแน่นอนต่อใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็เติมอรรถรสของเพลงให้นุ่มขึ้นมาได้ในทันที

เมื่อดนตรีทุกพาร์ทเสร็จ ผมต้องอัดเสียงร้องไกด์เพื่อเป็นตัวอย่างให้พี่ๆนักร้องทุกคนฟัง ขั้นตอนนี้ลำบากใจไม่น้อยครับ เพราะผมกำลังจะต้องอัดร้องไกด์ให้นักร้องมืออาชีพฟัง และแน่นอนมันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต ในระหว่างที่บันทึกเสียงร้องไกด์นี้นี่เอง เนื้อเพลงของพี่โปและพี่กบ Big Ass มันจุดประกายและทำให้ผมสามารถก้าวผ่านความกลัวของตัวเองได้อย่างน่ามหัศจรรย์ จากที่ผมเคยร้องเพลงนี้แบบผ่านๆเอามันส์อย่างเดียว แต่พอได้มองตัวหนังสือแล้วร้องตามไปด้วย มันเกิดความรู้สึกฮึมเหิมอะไรในใจบางอย่างที่บอกเป็นตัวอักษรไม่ถูก ตอนนี้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า ทำไมเพลงนี้ มันถึงมีคุณค่าต่อจิตใจใครหลายๆคนยิ่งนัก ขอคารวะพี่โปและพี่กบมา ณ ที่นี้ครับ รวมไปถึงเมโลดี้ร้องของพี่ตูนที่ทรงพลังและส่งผลกระทบอย่างรุนแรง(ในแง่บวก)ไม่แพ้กันครับ : )

มาถึงวันที่จะต้องบันทึกเสียงร้อง... เป็นอีกวันที่ผมเครียดมากถึงมากที่สุด ผมอาจจะลืมบอกไปว่า ถึงแม้ผมอาจจะหน้าตาดูไม่เด็กซักเท่าไหร่(และอาจจะดูแก่กว่าพี่ๆเค้าหลายคน 55) แต่เชื่อผมเถอะครับ ผมเป็นนักร้องนำที่เด็กที่สุดในค่ายจีนี่เรคคอร์ด แม้ว่าพี่ปั๊ป พี่ตูน พี่มี่ พี่แพท พี่เจ๋ง และพี่ๆอีกหลายๆคน จะยังคงเรียกผมว่า “พี่อู๋” เสมอก็ตาม แต่ยังไงพี่ๆทั้ง 19 คน ก็เป็นรุ่นพี่ผมหมดทุกคนอยู่ดี และผมมักจะเป็นคนที่เกรงใจรุ่นพี่เสมอๆไม่ว่าจะทำอะไร จนกระทั่งมาในวันนี้ผมต้องมาคุมอัดร้อง ต้องสั่งคัท ต้องสั่งเทค ต้องดีไซน์และสั่งอารมณ์การร้องให้กับพี่เค้าๆ ...บอกตรงๆว่านึกภาพไม่ออกครับ

แต่สุดท้าย สถานการณ์กลับไม่เป็นแบบนั้น เชื่อมั้ยครับว่าพี่ๆทั้ง 19 คนที่ผมต้องคุมอัดร้อง พูดเป็นประโยคเดียวกันโดยที่ไม่ได้นัดหมายคือ “จะเอายังไงบอกได้เลยนะครับพี่อู๋ เอาจนกว่าพี่อู๋จะชอบ” ประโยคง่ายๆแค่นี้เลยครับที่ทำให้การทำงานของผมเป็นไปอย่างราบรื่น : ) ประโยคง่ายๆที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของพี่ๆเค้าแต่ละคน จากที่ผมกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับคนมีชื่อเสียงระดับประเทศ ทุกอย่างกลับตรงกันข้ามไปซะหมด พี่ๆทั้ง 19 คน ไม่มีใครซักคนที่ถือตัว ไม่มีใครที่ทนงตัว ไม่มีใครมีความคิดว่าตัวเองคือนักร้อง”รุ่นใหญ่” แม้แต่คนเดียว กลับกันคือผมได้เห็นนักร้องมืออาชีพทั้ง 19 คน ที่ทำการบ้านในแต่ละท่อนของตัวเองมาอย่างดีเยี่ยมและใช้เวลาอัดเพียงคนละไม่กี่นาทีเท่านั้น ผมเห็นนักร้องมืออาชีพทั้ง 19 คน ที่มีเสียงร้องที่โคตรจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่ไม่มีใครเหมือน และไม่แปลกใจที่ว่าทำไมพวกเค้าถึงประสบความสำเร็จและมีคนรักคนชอบมาจนทุกวันนี้ ผมเห็นนักร้องทั้ง 19 คน ที่กำลังสั่งสอนผมถึงข้อสำคัญและวิธีในการเป็น“มืออาชีพ”ที่แท้จริง โดยที่พวกเค้าเองก็ยังไม่รู้ตัว

หลังจากบันทึกเสียงเสร็จครบทุกอย่างแล้ว ผมส่งไฟล์เพลงทั้งหมดให้น้อง “ฮาย Paper Planes” เป็นคนรับหน้าที่มิกซ์เสียง ฮายใช้เวลาแป้บเดียวก็ปรุงแต่งเสียงให้ออกมาอย่างที่ผมจินตนาการไว้ ฮายน่าจะเป็นวัยรุ่นอายุน้อยที่น่าจับตามองของวงการอีกคน นอกจากร้องเพลงเล่นกีต้าร์เก่งแล้วยังมิกซ์เพลงดังๆในค่ายจีนี่มาเยอะแยะมากมายอีกด้วย

สุดท้ายขอบคุณโอกาสดีๆจากพี่นิคและพี่ๆจีนี่ทุกคนมากๆครับ ( ไอเดียในการใส่เพลงความเชื่อมาผสมกับเพลงแสงสุดท้าย คือไอเดียจากพี่นิคและพี่สันครับ ) ที่ให้โอกาสเด็กธรรมดาๆคนนึง ได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่เกินตัวมากๆ ขอบคุณคำแนะนำจากพี่โน่ รุ่นพี่ที่เคยทำมาตรฐานของ G16 ไว้สูงมาก 55 แต่มันเป็นแบบอย่างที่ดีในการเดินรอยตามครับ ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆศิลปินทุกคนที่มาร่วมบรรเลงให้ พี่ๆนักร้องทั้ง 19 คนที่ไว้เนื้อเชื่อใจเด็กคนนี้ ขอบคุณคำชื่นชมเล็กๆน้อยๆจากพี่ตูนที่เป็นกำลังใจให้มหาศาล พี่วู้ดดี้เอนจิเนียร์ที่ช่วยให้การอัดร้องราบรื่น และขอบคุณทุกคนที่ยอมรับเพลงแสงสุดท้ายเวอร์ชั่นเด็กง่อยๆคนนี้นะครับ อย่างที่บอก...จริงๆผมไม่ต้องมานั่งเขียนอะไรแบบนี้ก็ได้ สำหรับพี่ๆโปรดิวเซอร์คนอื่นอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาๆมากกับโปรเจกต์อะไรแบบนี้ แต่สำหรับผมแล้ว ประสบการณ์ในการทำงานครั้งนี้ คือหนึ่งในหน้าที่การรับผิดชอบในชีวิต ที่ผมจะไม่มีวันลืมแน่ๆครับ...




เข้าร่วม: 30 Dec 2013
ตอบ: 5735
ที่อยู่: มอดอว์
โพสเมื่อ: Thu Nov 23, 2017 8:37 pm
[RE: อู๋ The Yers โปรดิวเซอร์ "แสงสุดท้าย G19"]
สุดยอดครับพี่ ผมฟังครั้งแรก นึกถึง The Yer ทั้งที่ไม่เคยรู้มาก่อน
0
0
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 26714
ที่อยู่: CRINGE
โพสเมื่อ: Thu Nov 23, 2017 8:59 pm
[RE: อู๋ The Yers โปรดิวเซอร์ "แสงสุดท้าย G19"]
ส่วนตัวแล้วชอบมากๆครับ เวอร์ชั่นนี้
0
0