บันทึกของ “น้องเมย”
นี่เป็นบันทึกไดอารี่ที่เขียนด้วยลายมือของ “น้องเมย” นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นการเขียนถึงชีวิตประจำวัน และความรู้สึกของการใช้ชีวิตภายในรั้วโรงเรียนเตรียมทหาร ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 60
วันนี้เขาจากครอบครัวไปแล้ว หากน้องเมยยังมีชีวิตอยู่พ่อแม่คงได้เห็นความสำเร็จ เติบโตในหน้าที่ราชการอย่างที่เขามุ่งมั่น
โรงเรียนเตรียมทหารต้องปลูกฝังวัฒนธรรมแบบทหารที่ต้องมีวินัย ซึ่งย่อมไม่ใช่การ “ทำร้ายร่างกาย”
แต่ในวันที่ 26 พ.ค. 60 น้องเมยได้เขียนว่า “เช้ามาก็โดนต่อยท้องไปหมัดนึงจุกโครตเลย แถมตกกลางคืนมามีลงนรกอีก เหนื่อยมาก”
ในท้ายไดอารี่ น้องเมยเขียนย้อนไปถึงความภาคภูมิใจที่ผ่านการทดสอบพละรอบ “สถานีดึงข้อ” ได้คะแนนเต็ม ท่อนสุดท้ายเขาเขียนถึงกำลังใจจากครอบครัว ใจความว่า
“ผมบอกพ่อไว้ว่าวันสอบพละจะถึง 20 ครั้งให้ดู และแล้วก็ถึงคิวผม (ก่อนหน้าคิวผมคือใจผมสั่นแรงมาก) ผมก็ขึ้นราวดึงข้อ พอกรรมการให้สัญญาณว่าปล่อยตัวลงดิ่ง ผมก็ปล่อย พอกรรมการบอกเชิญดึง ผมดึงแบบไม่สนใจกรรมการเลย เพราะเราดึงถูกท่า ผมทำตามที่พ่อสอน 14 ทีแรกดึงรวดเดียว พอทีที่ 15 ขึ้นไปผมเริ่มแรงจะหมด เข้าทีที่ 18 แรงกลับมาได้ทีที่ 19 แม่ตะโกนมา “เมยได้อีก” เท่านั้นแหละได้ทีที่ 20 เลย”
ที่อ้างว่า ร่างกายของน้องไม่แข็งแรง ก็ดูเอาที่น้องเขียนแล้วกันว่าหัวใจแกร่งแค่ไหน เมื่อไปดูประวัติการรักษาที่ครอบครัวเอาให้ผมดู มีแต่ปวดหัวตัวร้อน ไม่มีอะไรที่บ่งบอกอาการ ยกเว้นหลังวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ที่ไปโดนเรื่อง “ธำรงวินัย” (ถูกซ่อม หรือ โดนแดก)
ท้ายสุด ครอบครัวของน้องเมยทิ้งคำถามไว้ให้โรงเรียนเตรียมทหารอันเก่าแก่ ซึ่งผลิตบุคลากรไปทำหน้าที่รับใช้ชาติมายาวนานว่า
“ความจริงที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของน้องเมยคืออะไร?”
แล้วหากครอบครัวตัดสินใจเผาร่างของน้องเมยไป แต่ไม่ได้ “สมอง” และ “หัวใจ” ที่ทำให้เขาได้เข้าโรงเรียนเตรียมทหารคืนมา
ครอบครัวจะรู้สึกอย่างไร? ช่างยากเกินคำบรรยายจริงๆ
ใครว่าน้องขี้โรค
ถึงขี้โรคจริงเป็นขี้โรคที่ เข้มแข็งมากทีเดียว
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/photos/pcb.1650467048333351/1650448421668547/?type=3&theater
ซ้อมจนเกือบตาย
ใครบอกว่าน้องมันอ่อนแอ อ่านแล้วคิดใหม่ได้นะผมว่า
ประเด็นที่สงสัยคือ
การที่ กองทัพ ไม่บอกญาติล่ะ ว่าเก็บ ชิ้นอวัยวะส่วนไว้
มีท่านบางคนบอก ว่าไม่ต้องรอญาติ มารับรุ้ก็ได้ แค่ตำรวจบอกให้ หมอผ่า
จริงๆก็น่าจะ แจ้งญาติก่อน แบบนี้ใครตายก็ผ่าได้เลยซินะ จะยัดอะไรเข้าไปก็ได้ระซิ
หรือผ่าเพื่อตรวจสอบ ทำไมไม่บอกว่า เอาเครื่องในออก
ทำไมต้องให้ญาติ ไปผ่าอีก ถึงรู้ ว่าไม่มีเครื่องใน
ยังไง ผมว่าเรื่องนี้ก็เงียบอีกตามเคย
หลายคนบอกว่าน้องไม่สบายมีโรคประจำตัว
ผมก็เคยสอบเตรียมทหารแต่ไม่ติด ถึงจะสอบข้อเขียนได้ ผ่านหมดพอมาถึงขั้นตอนการตรวจ ร่างกาย ถ้ามีโรคประจำตัว เขาจะให้สอบตก เลยนะ
ตกลงที่บอกน้องเป็นโรคหัวใจมีโรคประจำตัว แสดงว่ากองทัพไม่ตรวจสอบประวัติการแพทย์เลยหรา
ยังไงคดีนี้ผมว่ายังก็เงียบอยุ่ดี