ถ้ามีคนมายื่นข้อเสนอดีๆ เพื่อขอซื้อบ้านของคุณตอนนี้ คุณจะขายหรือไม่ ? หลายคนอาจจะตอบว่าไม่ เพราะรักบ้านที่ตัวเองอยู่ตอนนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ถ้าราคาที่ขอเสนอซื้อมาสูงกว่าราคาบ้านหลายเท่าล่ะ คุณจะยอมตัดใจหรือไม่ ? และถ้าคุณถูกกดดันจากองค์กรหรือรัฐบาลที่มีอำนาจ คุณจะดื้อแพ่งต่อไปอีกหรือเปล่า ? เชื่อเหลือเกินว่ายังมีคนประเภทนี้อยู่ คนที่ทำยังไงก็ไม่ยอมขายบ้านที่ตัวเองอยู่ เหมือนกับคุณปู่คาร์ลในเรื่อง Up นั่นเอง

และวันนี้จะขอพามาชมบุคคลที่ถือว่าโคตรอึดสุดๆ เพราะไม่ยอมขายบ้านไปอยู่ที่อื่น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกกดดันจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวหรือจากอะไรก็ตาม มาดูกันว่าแต่ละคนจะอึดขนาดไหน




อีดิธ เมซฟิลด์ คุณยายผู้ที่ปฏิเสธจะขายบ้านของเธอ แม้จะได้รับข้อเสนอเป็นเงิน 1 ล้านเหรียญ (33 ล้านบาท) ต่อมาเธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Up นั่นเอง










แมรี คุก ปฏิเสธที่จะขายบ้านทรงแคบของเธอในขณะที่เพื่อนบ้านของเธอทั้งหมดขายบ้านและโดนทุบทิ้งไปสร้างตึกสูงทั้ง 2 ที่ประกบบ้านเธออยู่ ณ ตอนนี้










เวรา โคกกิง ปฏิเสธที่จะขายบ้านของเธอให้กับ บ๊อบ กุชชิโอเน ที่ต้องการจะสร้างคาสิโนตรงนี้ ต่อมาเธอได้ปฏิเสธ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการซื้อพื้นที่ตรงนี้เช่นกัน











รัฐบาลจีนตัดถนนหลวงผ่านรอบบ้านของเจ้าของหัวดื้อผู้นี้ ถึงแม้เจ้าของบ้านจะย้ายออกไปก็ตาม แต่เขาไม่ยอมขายบ้านและปล่อยมันทิ้งไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการสร้างถนนแห่งนี้










เจ้าของบ้านในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่ปฏิเสธจะขายบ้านให้กับเจ้าของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ จนต้องออกแบบตึกให้เป็นรูปทรงตามที่เห็น












เจ้าของบ้านในวอชิงตันดีซีผู้นี้ ปฏิเสธเงิน 3 ล้านเหรียญ (100 ล้านบาท) แต่ต่อมาเขาขายบ้านหลังนี้ไปในราคา 4 ล้านเหรียญ (133 ล้านบาท)












เจ้าของบ้านรายหนึ่งในโตรอนโต ปฏิเสธที่จะขายบ้านของเธอ (ซึ่งมีบ้านคู่ติดกันกับอีกหลัง) จนกระทั่งบ้านอีกหลังถูกขายไป เจ้าของใหม่จึงตัดบ้านออกครึ่งหนึ่งอย่างที่เห็นในภาพนี้










เจ้าของแฟลตหลังนี้ในกว่างโจวไม่ยอมขาย ถึงแม้รัฐบาลจะมีโครงการสร้างถนนวงแหวนรอบพื้นที่บริเวณนี้










บ้านอีกหลังที่เจ้าของบ้านไม่ยอมย้ายหนีไปไหน แม้จะถูกตัดทางด่วนข้ามบ้านแบบเฉียดฉิว










เจ้าของบ้านหลังนี้ในนิวยอร์ค โดนสร้างพิพิธภัณฑ์ล้อมรอบแบบนี้ หลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงโดนสร้างพื้นที่เหนือบ้านขึ้นไปได้










ครอบครัวชาวจีนครอบครัวหนึ่งไม่ยอมย้ายหลุมศพบรรพบุรุษของเขาหนีไปไหน จนกลายเป็นเนินดินสูง 10 เมตรตั้งอยู่แบบนี้นานหลายเดือน สุดท้ายพวกเขาก็ยอมรับเงินชดเชยไป










เจ้าของบ้านปฏิเสธที่จะขายบ้านให้กับโรงแรมแห่งนี้ โรงแรมจึงสร้างตึกล้อมรอบไว้ทั้งหมด ส่วนเจ้าของบ้านเปลี่ยนบ้านของเขาให้กลายเป็นร้านขายของที่ระลึกแทน










บ้านเก่าหลังนี้ เจ้าของบ้านไม่ยอมขายบ้านของเขาให้กับโครงการบ้านจัดสรรหรู









นางหวู่ ปิง คือคนเดียวจากบ้านทั้งหมด 241 หลัง ที่ปฏิเสธจะขายบ้านของเธอ เธอต่อสู้กับเรื่องนี้ในชั้นศาลมานานเกือบ 3 ปี ก่อนที่จะต้องย้ายออกไปพร้อมเงินชดเชย 7 ล้านหยวน (สูงกว่าราคาประเมิน 3 เท่า)










บ้านที่ตั้งอยู่กลางถนนในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน










บ้านหลังนี้จมอยู่กลางถนนในเมืองหนานหนิง ประเทศจีน เจ้าของบ้านไม่ยอมย้ายออก และไม่สนเงินชดเชยจากเทศบาลท้องถิ่น











อาคารที่ตั้งอยู่ตรงมุมถนนแห่งนี้ กลายเป็นพื้นที่ติดบิลบอร์ดขนาดใหญ่ที่ทำเงินให้พวกเขานับล้านเหรียญ ถือว่าคิดถูกที่พวกเขาไม่ยอมย้ายไปไหน











ผู้รับเหมาได้ขุดสร้างคูน้ำล้อมรอบเจ้าของบ้านหลังนี้ เพื่อบังคับให้พวกเขาย้ายออกไป










เจ้าของฟาร์มที่ปฏิเสธจะขายที่ดินของเขาเพื่อสร้างสนามบินนาริตะ ในประเทศญี่ปุ่น และนั่นทำให้เขาอาศัยอยู่ท่ามกลางรันเวย์เครื่องบิน พร้อมกับเสียงดังและแผ่นดินสะเทือนอยู่ตลอดเวลา










หญิงชาวจีนที่อาศัยอยู่ในบ้านของเธอมานานเกือบปีโดยที่ถูกตัดทั้งน้ำและไฟฟ้า










บ้านหลังเก่าที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวบริเวณลานจอดรถของงาน World Expo 2010 ก่อนที่ไม่กี่วันต่อมาจะถูกทุบทิ้งและเจ้าของต้องย้ายไปอยู่ในหอพักคนงานก่อสร้าง










ถนนมอเตอร์เวย์ในจีนที่สร้างใหม่ต้องตัดเส้นใหม่หนีบ้านหลังนี้ หลังจากเจ้าของปฏิเสธที่จะขายบ้านของเขา










บ้านหลังเก่าที่เจ้าของไม่ยอมย้ายไปไหน โดยมันตั้งอยู่ข้างหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนาน











หลายคนอาจคิดว่า บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา แต่จริงๆ แล้วเจ้าของพื้นที่รอบๆ ขุดดินลงไปรอบๆ เพื่อสร้างพื้นดินใหม่ที่ลึกกว่าของเก่าหลายสิบเมตร










ชาวบ้านมากมายติดอยู่ระหว่างทางด่วน 3 แห่งที่ล้อมบ้านพวกเขาไว้ หลายร้อยครอบครัวอพยพหนีออกไปจนหมด ยกเว้นแต่ครอบครัวนี้เท่านั้น







https://www.boredpanda.com/stubborn-home-owners-refuse-to-sell-property-nail-houses/?page_numb=3

คนอดทน 2017

กฏหมายเวรคืนที่ดินของจีนเป็นยังไงนะ ทำไมถึงมีบ้านที่มาตั้งขวางทางสร้างถนนได้มากขนาดนี้ ดูเป็นอุปสรรค์ต่อการพัฒนามากๆ

ที่มีถนนล้อมบ้าน มันจะนอนหลับมั้ย

เห็นหลาย ๆ บ้านในจีนแล้วนึกสงสัย
ไหนว่าจีนเป็นคอมมิวนิสต์ไงหว่า

ทำไมถึงมีเหตุการณ์แบบนี้ได้

ถ้าเป็นเมืองไทยแล้วมีคอนโดมาขนาบข้างนะ

ทำมาหากินสบาย

แลวพี่เค้านอนหลับลงได้ไงหว่า

ตอนเขาก่อสร้างขนาบข้างๆนี่อยู่กันยังไง ทรมานชิบเป๋งเสียงดังทั้งวันเป็นปีเลยมั้ง

อันอื่นพอเข้าใจ
แต่บางบ้านขวางถนนแบบนี้ คิดว่าเกินไป คิดถึงแต่ตนเองเกินไป
ขวางทางสาธารณะ สร้างความลำบากให้ส่วนรวม

เป็นผม ต่อให้ไม่อยากขายแค่ไหน กรณีอื่นๆอาจไม่ยอมขาย
แต่ ถ้าเจอถนนสาธารณะตัดผ่าน ยังไงผมก็ยอม
เพราะมันลำบากทั้งตนเองและคนหมู่มาก ได้ไม่คุ้มเสีย

พวกที่โดนปรับความสูงของพื้นที่รอบๆบ้าน

แล้วบ้านตัวเองกลายเป็นอยู่บนยอดเขาเล็กๆแบบนั้นนี่ เขาขึ้นลงหรือออกจากบ้านกันยังไงนิ

กฎหมายเวรคืนที่ดินของพี่จีนเนี่ย มองได้ 2 มุม คือ

1. แคร์ประชาชนมาก กับ

2. กฎหมายการเวรคืนมีปัญหา ควรต้องรีบชำระล้างกฎหมายเพื่อแก้ไขโดยเร็ว

เป็นในไทยโดนนายทุนส่งกุ๊ยมารังควานจนต้องย้ายหนีล่ะมั้ง

นึกว่าคนจีนไม่มีสิทธิ์ในพื้นที่ซะอีก

ของฝรั่งนี่กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยไปอีกแบบนะ

ของจีนนี่ดูเกรียนไปหน่อย คอมมิวนิสต์แน่ป่ะวะ

ของไทยนี่ ไอ้สะพานลอยสร้างทับสายไฟนี่พีคแล้ว

รู้สึกส่วนมากจะเป็นจีน

ส่วนใหญ่พี่จีนทัง้นั้น

เหอๆ ตอนข้างๆสร้างท่าจะเสียว