ระหว่าง

1. ขับรถชนคนตายจริง

2. ไม่ได้ขับรถชนคนตาย หลักฐานที่เอามาสู้คดีก็เป็นจริงตามนั้น แต่แพ้

3. ไม่ได้ขับรถชนคนตาย แต่หลักฐานไม่มี เลยจำเป็นต้องสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา

ไม่รู้ครับ ไม่เห็นเหตุการณ์

ศาลตัดสินมาว่าไงก็ว่างั้นเพราะมันเป็นระบบที่เรายอมรับกันภายในรัฐธรรมนูญ

เห็นว่ากำลังจะโดนข้อหาขบวนการหลอกลวงอะไรนี่แหละ

ถ้าเธอบริสุทธิ์จะได้เงินเท่าไร
ได้เงินบริจาคเท่าไร
หมาเกาะกระแส ได้อะไร เท่าไร

ข้อเท็จจริงก็พิสูจน์ตามกระบวนการไปหมดแล้วนี่

ตอนนี้จะโดนตามพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องตั้งหน้าตั้งตาปั้นพยานเท็จมารับผิดแทนเนี่ย รอดูผลข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงอะไรมันจะ สับสนขนาดนั้น

พยานหลักฐาน ถ้ามีก็เอาออกมา คนที่เค้าตัดสิน กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่คนไม่รู้เรื่อง

ถึงแม้แต่ก่อนอาจจะมีการมั่วเกิดขึ้น เข้าใจ สมัยก่อน ถ้าเกิดกับเราคงคิดไม่ตก พึ่งใครไม่ได้


แต่ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ศาล โซเชี่ยล สื้อ แทบจะทุกที่ไปมาเกือบหมด นายก ทหารตำรวจ ร้องไปเถอะครับ ถ้าพยานหลักฐานมี อะไรมันก็น่าจะชัดเจนขึ้น นี้ไม่เลย

สุดท้ายก็ต้องตามพยานหลักฐาน

ไม่กล่าวถึงปัจจัยอื่นๆ

ไม่รู้ครับ

รู้แค่ว่ากระบวนการยุติธรรมของเราใจุดอ่อนตรงที่ศาลมีหน้าที่รับหลักฐานเท่านั้น ไม่มีหน้าที่สืบ

คนธรรมดาที่ไม่รู้กฏหมายแพ้ในศาลเพราะเรื่องนี่เยอะมาก เพราะหลายๆคนไม่รู้ว่าต้องนำสืบให้รู้ได้ว่าตัวเองไม่ผิด

หลักฐานที่ฝ่ายครูนำไปสู้ตอนหลังให้น้ำหนักไปที่ป้ายทะเบียนไม่มีการเสียรูป
รถไม่ได้ชน ซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
(แม้จะมีข้อสงสัยว่าได้มีการเปลี่ยนทะเบียนไปหรือไม่
ซึ่งขนส่งก็ไม่สามารถยืนยันได้เพราะเอกสารได้ถูกทำลายไปแล้ว)

แต่อย่างไรก็ตามนี่คือหลักฐานเก่า
ซึ่งเดิมไม่ได้สู้ในประเด็นนี้ จึงไม่สามารถยกขึ้นมาสู้ใหม่ได้
ศาลไม่รับฟังเพราะไม่ใช่หลักฐานใหม่
ตามที่ท่านถามมา ผมเชื่อว่าเป็นข้อ 2 ครับ

เรื่อง จ้าง คนรับผิดแทน อันนี้ มีชัวแน่ๆ ผมตามข้อมูลด้านนี้มีตัวละครโครตเยอะ
นาย สับ นายเสิรท สส ที่สำคัญมีบันทึกประจำวัน พยานเก่าที่ตอนหลังไม่เอาแล้ว ด้วย

ผมฟันธงได้แน่นอน ว่าอันนี้ จ้างมารับผิด


แต่ ชนเองหรือเปล่าผมไม่ขอฟันธง เพราะมีหลายเรื่องมันยังดูค้านๆสายตา

ซึ่งบางเรื่อง ก็เหมือนครุจะเป็นคนชน เช่น เวลา ในการคืนรถ วันที่เกิดเหตุ

ด้านที่คิดว่า จะไม่ชน ก้เช่น รถไม่มีรอยชนด้านที่ชน สีีรถคนละสีกับรอยจักรยาน

หรือแม้กระทั้ง เพราะอะไร ถึงไม่ยอมหานายเก่งๆใช้สุ้คดี ตั้งแต่ศาลชั้นต้น ชะล้าใจว่าตัวเองไม่ทำเปล่าเลยคิดว่าไงก็ไม่ผิด

ชนหรือไม่ชนอันนี้เลยไม่ฟันธง และในหัวเองก็ไม่ได้ คิดไปทางไหนด้วย

เพราะไม่รุ้จริงๆ

ต่อให้ไม่ผิด ไม่ได้เป็นคนขับชน แต่ไม่มีหลักฐานว่าไม่ได้ทำ ศาลก็ตัดสินว่าผิดเพราะดูตามหลักฐาน

ขอเพิ่มอีกช้อยได้มั้ย ครูไม่ได้ชนแต่สามีชน พอพ้นโทษออกมาแล้วแค้นจะไปบอกว่าสามีทำมันก็กลัวสามีติดคุก เลยหาตัวละครมารับผิดโบ้ยไปให้ สุดท้ายตัวละครนั้นกลัวติดคุกเลยไม่ไปศาล แถมตัวครูก็อาจโดนเล่นกลับรอตำรวจรวบรวมหลักฐานใครเป็นคนจ้างรับผิด
มโนล้วนๆ

คือแพ้ที่พยานหลักฐาน เรื่องสำคัญเลยคนเราเลยไม่อยากขึ้นศาล ไม่อยากมีคดี อีกคดีคือนักข่าวไทยรัฐ ที่ติดคุกเพราะมั่นใจว่าไม่ผิด สุดท้ายแพ้พยานยืนยันว่าสั่งให้ฆ่า ซึ่งศาลเชื่อพยานฝั่งโจทย์ มีเงินเยอะได้ทนายดีๆช่วยได้เยอะถ้าโดนคดี

ข้อ 2