ตอนนี้ดูรายการคู่หูบอลไทย ช่อง T-Sport พิธีกรแจ้งว่าหลายทีมเงินเริ่มหมด

ยโสธร อาจไม่ส่งทีมหากขายตั๋วปีไม่ได้หนึ่งหมื่นใบ ใบละ 450 บาทซึ่งทีมจะไม่มีงบพอสำหรับทำทีม
บียูเดโฟ่ ประกาศปีหน้าไม่ส่งทีมเพราะมหาลัยกรุงเทพไม่มีงบแต่หากใครจะเทคโอเวอร์สโมสรก็ติดต่อได้
กระบี่เอฟซีอาจไม่ส่งทีมแข่งบอลถ้วยเพื่อประหยัดงบการทำทีมค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

พอผลงานไม่ดีแฟนบอลก็เริ่มน้อยอยากให้แต่ละทีมลีคล่างเน้นเด็กท้องถิ่นเยาวชนมากกว่าน่าจะยั่งยืนและปลุกแสการเชียร์ทีมบ้านเกิดที่ลูกหลานตัวเองเล่นน่าจะได้แฟนบอลที่เหนียวกับทีมขึ้นเยอะ ลีคล่างผมว่าพวกเด็กนักเรียนเด็กมหาลัยน่าจะปั้นได้ไม่ยากหรือแบบนักบอลแอฟริกาเล่นบอลเพื่อหนีความจนให้ทุนการศึกษาเด็กๆ ด้วยโอกาส ที่พิมพ์ไม่ใช่อะไรหรอกครับคือผมเชื่อว่ากีฬาสามารถสร้างชาติได้ ยิ่งมีนักบอลเก่งๆ ถ้าไปเล่นต่างประเทศได้ประเทศได้เงินภาษีเด็กมีไอดอล อย่างเวลาเราไปดูบอลที่สนามพ่อค้าแม่ค้ามาขายน้ำขายของกินเศรษฐกิจมันก็ดีมีเงินหมุนเวียน ยังไงก็เอาใจช่วยอยากเห็นทีมใหม่ๆ ขึ้นมาบ้างน่าจะสนุก

ปล. ผมนี่เวลาไปดูบอลแค่เฉพาะในกรุงเทพนัดนึงใช้เงินเกือบๆ 500 บาทอยากให้ลดราคาตั๋วมทีมเยือนหน่อยใบละ 200- แพงเกินไปยิ่งได้ไปเชียร์ตามต่างจังหวัดยิ่งชอบมากครับถือว่าได้ไปเที่ยวด้วย

ผมว่าถ้าคนเข้าสนามเยอะๆ ก็น่าจะช่วยให้สโมสรไปรอดได้บ้าง

แต่เศรษฐกิจฝืดขนาดนี้ ถ้าฟอร์มไม่ดี ผมก็เข้าใจนะถ้าคนจะไม่เข้าสนาม

ส่วนเรื่องปั้นเด็กที่ผมเห็นด้วยมากๆ แต่การวางโครงอเคเดมี่ก็ใช้เงินมากเหมือนกัน

แล้วนายทุนส่วนใหญ่บ้านเราก็เป็นพวกใจร้อน เขารอไม่ไหวหรอกครับกับผลตอบแทนที่ช้าขนาดนั้น

โปรแกรมถี่เกินก็มีผลนะ ติดกันเกินจนคนดูเอียน แถมพุธเสาร์พุธเสาร์ไปดูทีก็ใช้เงินไม่ใช่น้อยๆ ทำให้คนเลือกจะไปดูแต่แมตช์ใหญ่ๆ

อยากให้ลดราคาค่าตั๋วลงนะ ทุกลีคเลย ไม่เฉพาะลีคล่าง อยากให้เน้นปริมาณคนดูมากกว่า โดยเฉพาะพวกทีมกลางตารางที่ไม่มีอะไรให้ลุ้น แชมป์ก็ไม่ได้ ตกชั้นก็ไม่ต้องกลัว มันไม่มีแรงจูงใจให้คนอยากเข้าไปดูจริงๆนะ

เงินอุดหนุนจากรัฐ / กกท ไม่มีแล้วนะครับ

มีแต่ของสมาคม 1ล้านบาท เท่านั้นที่ยังอยู่

เงินจากนักการเมือง ก็น้อยลง เพราะยุคนี้ นักการเมืองไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมทางสังคม

และเงินนักการเมืองก็หมด เพราะไม่มีเลือกตั้งมานายแล้ว เงินจากฝ่ายการเมือง ถึงหายไปในหลายจังหวัดขนาดเล็ก

เศรษฐกิจไม่ดี ขอเงินผู้สนับสนุนยากขึ้น

การอยู่รอดของจังหวัดเล็กคือ ใช้เด็กในท้องถิ่นบริหารตามงบที่พอมี ทำปีต่อปีไปก่อน
อนาคตค่อยว่ากัน

อยากให้แฟนบอลเยอะ แต่ไม่ดูประเทศตัวเองเลย

เปิดลีคเกือบๆหน้าร้อน เตะบอลถ้วยช่วงหน้าฝน จบลีคกำลังจะเข้าหน้าหนาว อากาศดีที่สุด เหมาะแก่การเตะบอล โดยเฉพาะเชียงราย บอกตรงๆว่าบรรยากาศพรีเมียร์ลีคมากๆ

ช่วงหนาวๆ 10 องศา อากาศโคตรแจ่ม จิบเบียร์ดูบอล แต่ไม่มีบอลดู

แล้วคิดดูคนต่างจังหวัด 80% ไปดูบอลก็ขี่มอไซไปเพราะสะดวก หาที่จอดง่าย แต่ฝนตกใครจะอยากออกบ้านวะ

แล้วก็มาบ่นแฟนบอลหายๆๆ นี่แค่ 1 ปัญหานะ เรื่องภายในทีมยังมีอีกเยอะ

คือไอ้เรื่องคนดูน้อย โปรแกรมแข่งเยอะ บอลมันเฟ้อ อะไรพวกนี้มันเป็นเรื่องปลีกย่อย เป็นแค่ประมาณ 5% ของปัญหา ปัญหาหลักคือพื้นฐานการทำทีมสโมสรอาชีพของลีกระดับล่าง(ผมให้ T2 ลงไป) มันกลวงข้างใน มันไม่ใช่พื้นฐานสโมสรไม่ดีนะ แต่บางที่คือมันไม่มีเลย มันกลวงแบบนั้นมาตั้งแต่แรก ที่เหลือคือรอวันล้ม ผมเคยเขียนไปแล้วว่าสโมสรที่จะอยู่ได้ในระยะยาวคือสโมสรมืออาชีพ ที่บริหารแบบมืออาชีพ เหมือนบริหารบริษัทๆนึง ไม่ใช่ธุรกิจ เงินเข้าจากไหน วางเป้ายังไง มีนักบริหารมืออาชีพมาดูแลมั๊ย บัญชีการเงินไปทางไหนยังไง ทีมบอลบ้านเราหลักๆบ้านเรามันกลวงข้างใน คือพอให้แยกองคืประกอบเป็นส่วนๆมันไม่มีอะไรเลย เงินหมดทีมก้แตกทันที ตัวใครตัวมัน บางทีมที่อยู่รอดได้ก็คือมาเรียนรู้เอาทีหลังว่าต้องทำอะไรยังไง การบริหารทีมฟุตบอลยึดตามสโมสรยุโรปมันก็เหือนกับการบริหารองค์กรๆนึง เค้าถึงจ้างนักการเงินมืออาชีพมาบริหาร แล้วบ้านเราครึ่งนึงมันทีมของนักการเมือง แล้วนักการเมืองประเทศนี้มันเก่งขนาดนั้นเหรอครับ นอกจากคอร์รัปชั่นเป็นอาชีพ

ก็ต้องเปิดปิดลีกตามปฏิทินของ AFC นะครับ

ไม่งั้นจะไปซ้อนทับกับรายการของ AFC

หน้าฝนประเทศไทยเริ่ม พ.ค - ต.ค เกินเวลาเกือบ 5 เดือน จะจัดยังไงให้เลี่ยงหน้าฝนได้

ไม่ทราบ จะปิดฤดูกาลซัก 5 เดือนไปเลยไหมล่ะ เพราะบอลลีกขั้นต่ำมันต้องแข่งเกินเวลา

อย่างน้อย 6-7 เดือนอยู่ล่ะ แล้วก็อย่าลืมว่ามันมีเรื่องการส่งรายชื่อเล่นบอลเอเชียด้วย

ไหนลองจัดโปรแกรมลีกเลี่ยงหน้าฝนมาให้ดูหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่าจะจัดยังไง

ผมไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมทีมถึงอยู่ไม่ได้ ผมเคยมีโอกาสพูดคุยกับพวกผู้บริหารและทีมการตลาดของลีคล่างอังกฤษ และลีคเยอรมัน สิ่งแรกที่พวกเค้าทำตอนที่ตั้งสโมสรคือ สร้างฐานแฟนบอลในจังหวัดครับ คือก่อนเค้าจะตั้งเค้าจะมีการรีเสิจก่อนว่าคนที่นี่บ้าบอลพอไหม ถ้าบ้าพอเค้าจะสร้างกลุ่มที่เหนียวแน่นขึ้นมาสร้างวัฒนธรรมทีม ส่วนนี้จะเป็นเงินรายได้หลักและไม่หายไปไหน วิธีสร้างของพวกเค้าคือ ทำ Football academy ให้โรงเรียนครับคือเข้าไปหาเด็กและให้เด็กเริ่มเล่นฟุตบอลโดยมีนักบอลจริงๆเข้าไปสอน ทีนี้พ่อแม่ก็ชอบ เด็กก็บ้าบอล ได้ประโยชน์หมด อันนี้เป็นแค่วิธีและตัวอย่างเบื้องต้นนะครับจริงๆมีเยอะมากที่เค้าสร้างแต่ผมพิมไม่ไหว พิมผ่านโทรศัพท์ แหะๆ

ขอค้านว่านักเตะไปเล่นต่างประเทศ ประเทศเราได้ภาษีไม่เยอะหรอก เพราะภาษีจ่ายที่ประเทศที่รับเงิน และถ้าไม่ได้พำนักในไทยถึง 180 วันก็ไม่ได้เสียภาษีประเทศไทย ซึ่งถ้าเตะต่างประเทศยังไงก็อยู่ไม่ถึังอยู่แล้ว ที่พอจะได้บ้างคือถ้าจ้างคนไทยหรือบริษัทไทยเป็นเอเย่นต์หรือทีมงานเท่านั้นครับ

เดียวปีหน้า หรือ ปี2ปี

ก็กลับมา บูมขึ้น ครับ ปีนี้ กร่อยๆ จริง ด้วยอะไรหลายๆอย่าง

ถ้าเราลดขนาดลีคลงเหลือ 16 ทีม 1 ปีเราก็จะมีแข่งรวมบอลถ้วยแล้วก็ 8-9 เดือนได้มั้ง สมมุตลีคเริ่มซัก ตุลายาวไปถึงมิถุนา รวม 9 เดือน เราก็จะเจอฝนแค่ไม่กี่เดือน

รายชื่อไป AFC ผมไม่แน่ใจว่าส่งกันแบบใหน แต่ลีค ออสเตรเลียเค้าก็จัดโปรแกรมคล้ายๆที่ผมวางไว้นะ เค้าส่งได้ เราก็น่าจะส่งได้เหมือนกัน เพราะออสเตรเลียเค้าหนีหนาว

ลีคซาอุก็เริ่ม สิงหาเค้าหาช่วงอากาศที่ดุที่สุด ไม่ร้อนเกินไป

อาจจะหลบได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็หาช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เหมาะสมได้

ลองเปิดตาเปิดใจใช้ความคิดดูครับ

ผมเข้าใจท่านนะครับ ที่แสดง คห.ที่พยายามจะแก้ปัญหา แต่..มันติดอยู่ที่ โปรแกรมของ AFC นี่แหละครับผม ทั้งบอลสโมสรและทีมชาติ ช่วงเบรก มันเลยต้องสอดคล้องกัน ไหนจะการส่งรายชื่อทั้งในลีก หรือ ระดับเอเชีย มันจะทับซ้อนกันอะครับ เพิ่มอีกนิด สัญญาของนักเตะด้วยครับผมที่หมดตอนไหน ซึ่งถ้าคล้ายแบบที่ท่านว่าแล้วต้องเล่นถ้วยเอเชีย มันจะกลายๆเปน 1 ฤดกาลครึ่ง แทนที่จะเป็น ซีวั่นต่อซีซั่น

นัดนึงอย่างต่ำ500+ ไปกับแฟนก็บวกไปอีก จบเกมฝนตกเช้ามาไปทำงาน

บียูเดโฟ่ ด้วยหรอ ขนาดใช้นักเตะในมหาลัย กับได้เสี่ยถังมาทำทีมละนะ

หน้าฝนไม่เหมือนกันน่ะครับ อย่างภาคใต้ตอนนี้กำลังเข้ามรสุมขณะภาคอื่นเข้าช่วงหน้าหนาว หน้าฝนตั้งแต่พฤษภาจนถึงธันวา

บอลลีกไทยถ้าจะให้เหมาะ ต้องมกราคม-กันยายน แต่เอเชียนคัพเตะต้นปี สมาคมจึงต้องเปิดลีกเหมือนชาติอื่นๆ

กลับมาเรื่องการเงิน บอลไทยกลวงในครับ ต่อให้เศรษฐกิจดีก็เถอะ ตราบเล่นยังเป็นแบบทุกวันนี้มันก็พร้อมล้มตลอดเวลา เพราะ ยังเป็นสมัครเล่น เป็นของเล่นของพวกเอาหน้า คนทำฟุตบอลหวังแค่หน้าตา ไม่ได้คิดจะทำให้เป็นอาชีพ ฟุตบอลอาชีพต้องทำแบบยั่งยืน ไม่ใช่จะทำแค่ฉาบฉวย หรือพึ่งพาเงินนายทุน ลองไปดูทีมใหญ่ๆชิ เขาชื้อก็จริงแต่เยาวชนเขาก็มีเยอะที่จะก้าวขึ้นมาเล่นอาชีพ ต่อให้ขึ้นชุดใหญ่ไม่ได้ก็ขายไปทีมอื่นๆได้น่ะครับ

แค่ทีมตกชั้นบางทีมยุบทีมน่ะครับ

สมาคมฟุตบอล กกท รัฐ ช่วยได้เรื่องสปอนเซอร์ โดยไม่ต้องออกเงินเอง ดึงบริษัทห้างร้านมามีส่วนร่วมให้มากกว่าทุกวันนี้ ขายชื่อสนาม

เศรษฐกิจแค่ปัจจัยรองเพราะทั่วโลกก็เศรษฐกิจแย่อยู่ตอนนี้ ญีปุ่นยังปลดพนักงานกันอยู่ตอนนี้ เมกาพยายามขายอาวุธ และเครื่องบินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อียูก็กระอักเลือดมาหลายปี เศรษฐีน้ำมันตอนนี้ก็หนักเหมือนกัน

ก็ไม่เห็นจะต้องสุดโต่งอะไรขนาดนั้น อย่างน้อยถ้าเลี่ยงได้สักสองสามเดือนมันก็ยังดีกว่าโดนเต็มๆทั้ง5เดือน ถามว่าจัดยังไง มันจัดไม่ได้เร็วๆนี้หรอก เพราะติดปฏิทินafc แต่สมาคมเราสามารถลองคุยกับชาติอื่นๆที่มีปัญหาเดียวกัน รวบรวมสมาชิก แล้วลองยื่นเรื่องไปหา afc เพื่อขยับโปรแกรมให้สอดคล้องกับทัวร์นาเมนต์หลัก ผมมองว่าสองประเด็นหลักที่จะใช้เสนอคือ

1. ทัวร์นาเมนต์หลักอย่างฟุตบอลโลกและโอลิมปิคแข่งกลางปี ซึ่งมันส่งผลต่อการแข่งขันลีคภายในของประเทศในทวีปเอเชียทีาได้ผ่านเข้าไปในช่วงนั้น
2. ช่วงกลางปีหลายประเทศในเอเชียเป็นหน้าฝน ซึ่งมันก็เป็นผลประโยชน์อีกต่อ ที่เอื้อกับข้อแรกด้วย

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายว่าเสนอไปแล้วจะได้รับการตอบรับ แต่มันก็ไม่เสียหายอะไร อาจจะไม่ได้ผล หรือได้ผลก็อาจจะต้องใช้เวลาสัก5ปี10ปี ถึงจะได้รับอนุมัติ แต่ถ้าทำแล้วมันได้ประโยชน์กับประเทศเราก็น่าลองดูไม่ใช่หรอ

อย่าแต่ลีกล่างเลย ทีมใหญ่ๆยังจะเริ่มหมดเงินเลย

ทำทีมแบบใช้เงินนายทุนตลอดพอนายทุนเบื่อทีมก็แตกดังโป๊ะ

หลบฝนหลบร้อนยังไงครับ บางปีหนาวไม่ถึงเดือนนอกนั้นร้อนกับฝน

ท่านอย่าลืมนะครับว่าภาคใต้มีแค่2ฤดู ร้อนกับฝน หน้าฝนลากยาวตั้งแต่กรกฎายันธันวาโน่นเลย ฤดูหนาวภาคอื่นที่ใต้ไม่หนาวนะครับ ช่วงตุลาพฤศตินี่หน้ามรสุมเลยน้ำท่วมตลอด มันจัดช่วงนั้นไม่ได้หรอก แถมมีรายการ AFF อีกที่ชอบจัดพฤศจิกา-ธันวา

ปัญหาอยู่ที่การบริหารงานมากกว่าครับ มืออาชีพเงินน้อยก็บริหารแบบเงินน้อย
ส่วนใหญ่คนทำทีม ไม่ได้ใจรักจริงมากกว่า เน้นเอาหน้า แบบนักการเมือง

แสดงว่าต่อให้เลื่อนไม่เลื่อนภาคใต้ก็โดนอยู่ดี ไม่ใชว่าไม่แคร์ภาคใต้ การจัดงานสเกลใหญ่แบบนี้ยังไงมันก็ต้องมีได้มีเสีย ผมมองว่ายังไงก็ต้องเอาภาพรวมทั้งประเทศเป็นหลักมาก่อนอะ ผมลองเสนอไอเดียไว้ในเม้นต์บนอ่ะท่าน ยังไงลองแชร์กันได้

คือถ้ามรสุมภาคใต้มันเลวร้ายมากครับท่าน มันไม่ใช่ว่าจะให้ภาคใต้เสียสละอะ คือมันจะกลายเป็นว่าภาคใต้จะเตะไม่ได้เลยอะดิ

ผมคิดว่าตารางเดิมเนี่ย เหมาะแล้ว มันดีกว่านี้ได้ยากแล้ว ไม่งั้นประเทศอื่นเปลี่ยนกันหมดแล้ว นี่เค้าก็เตะตามตารางแบบนี้กันหมด กุมภา - ตุลา ทำได้มากสุดก็คือเลื่อนมาเตะมกรา - กันยาไรงี้อะ

เผื่อเขาไม่เห็นภาพ


นี่ยังดีน่ะครับที่พายุมี2ลูก ชึ่งลูกหลังมันใหญ่กว่าทำให้ดึงกระแสลมกลับไป ทำให้พายุดีเปรสชันสลายตัวในอ่าวไทย แต่เวียดนามกลายเป็นไต้ฝุ่น

เรื่องฝนตก น้ำท่วม ผมนี่เข้าใจภาคอื่นน่ะ เพราะภาคใต้มันท่วมทุกปี เมษาน้ำยังท่วมเลย ภาคอื่นโดนพายุ แต่ไม่ได้โดนโดยตรงโดนแค่ฝน แต่ภาคใต้ทั้งพายุทั้งฝนที่โดนเต็มๆ

เพียงแต่สมัยนี้มันท่วมไม่ยาวเหมือนสมัยก่อน ทุ่งนา สวน น้ำท่วมยาวเหมือนยุธยา แต่บ้านเรือนแค่2-3วัน เพราะเขาลือกสร้างบ้านในที่สูงเป็นหลัก

ฟุตบอล ภาคใต้ควรเตะแยกจากภาคอื่นด้วยซ้ำ ก่อนตุลาคมลีกภูมิภาคภาคใต้ต้องจบแล้ว

ฝนมันไม่ใช่ปัจจัยหลักหรอก อาจจะมีส่วนแต่ไม่มาก อยู่ที่การบริหารจัดการมากกว่า

เห็นด้วยครับ

ชอบครับ เสนอความคิดที่ตัวเองคิด คนตอบก็มีเหตุผลที่ยากจะปฎิเสธได้