"อย่างไปเป็นผู้จัดการทีมเรอัล มาดริดน่ะมันง่าย อย่าเข้าใจผมผิด พวกเขาคือสุดยอดสโมสรแต่หากประสบความสำเร็จที่ท็อตแน่มได้มันเจ๋งกว่าที่เรอัล มาดริดเยอะซึ่งเขาก็เห็นด้วย"

"เมาริซิโออยากประสบความสำเร็จในลักษณะนี้ ได้รับการจดจำเช่นนี้ เป็นตัวละครหลัก ซึ่งที่สโมสรแห่งนี้เขาเป็นได้ กับสโมสรอื่นๆบางแห่งประธานคือตัวหลักแต่ที่นี่มันไม่ใช่ ผมแทบไม่ออกหน้า ผมอยากให้เขาเป็นตัวเด่น"
 

อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย

เมื่อ 15 ปีที่แล้วเวงเกอร์ก็เผชิญเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ เป็นโค้ชในช่วงสร้างทีม สร้างรากฐานของทีม ใช้เงินต้องประหยัด ขายนักเตะทุกปี ถึงขนาดธนาคารจะไม่ปล่อยกู้ถ้าเวงเกอร์ไม่ต่อสัญญา (เพราะกลัวมาดริดจะดึงไปคุมทีม)

สุดท้ายก็ได้สนามสุดสวยงามมา 1 สนามซึ่งสามารถเก็บค่าตั๋วได้แพงที่สุดในอังกฤษจนถึงทุกวันนี้

เวลานั้นเวงเกอร์เป็นยิ่งกว่าฮีโร่ แต่หันมามองดูทุกวันนี้เวงเกอร์โดนแฟนปืนด่ายิ่งกว่าที่เด็กผีด่า เดวิด มอยส์ เสียอีก

ไม่อยากให้สุดท้ายพอชต้องเผชิญรอยเดียวกันกับเวงเกอร์ โค้ชทุกคนในโลกใบนี้อยากใช้เงิน ขนาดคนทั่วไปเล่นเกมสิ่งแรกๆที่ทำก็คือการซื้อนักเตะ โค้ชก็อยากใช้เงินทุกคนนั่นแหละ

สร้างสนามอย่างน้อยก็ต้องใช้หนี้ไปอีกเป็นสิบปี รัดเข็มขัดไปอีกนาน ถ้าวันนั้นเริ่มโดนแฟนบอลกดดันเรื่องความสำเร็จในสนามด้วยแล้ว?....

เคสอย่างแมนยูที่เซอร์อเล็กซ์พาทีมกลางตารางมาเป็นสโมสรที่มีรายได้สูงที่สุดในโลกคงไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้ว อย่าไปทำหลายพอชด้วยคำพูดทำนองนี้เลย