ระหว่างเข้าเว็บ SS เมียก็พูดถึงครูที่โรงเรียนไปด้วย ทำให้รู้ว่าโรงเรียนของแฟน เริ่มจะไม่น่าอยู่เหมือนเมื่อก่อนละ คงต้องปรับตัวกันอีกเยอะสำหรับครูวัยกลางคน

เรื่องก็มีอยู่ว่า ช่วงสองปีมานี้ ที่โรงเรียนรับครูจบใหม่มาสิบกว่าคน บางคนเป็นเพื่อนกัน เมื่อสอบได้ก็ให้เลือกมาลงที่โรงเรียนนี้เลย

แรกๆ ก็ยังไม่มีอะไรเพราะว่าต่างคนต่างมา แต่ด้วยความที่เป็นเด็กเพิ่งจบทั้งหมด จึงเริ่มแบ่งเป็นกลุ่ม คนมาใหม่ก็เข้ากลุ่มนี้ ปัจจุบันกลุ่มนี้จะมีประมาณ 10 กว่าคนซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในโรงเรียน ฉะนั้นคนที่อยู่ก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นกลุ่มเล็กไปเลย

จะมองว่าเป็นปัญหาก็ได้หรือไม่เป็นก็ได้ครับ คือถ้ามีประชุมหรืออะไรก็ตาม กลุ่มนี้จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก็เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยโดยทั่วไป ฉะนั้นเวลาทำอะไรจะต้องอยู่บนพื้นฐานการตัดสินใจของเด็กใหม่แทบจะทุกเรื่อง คือเมียผมบอกว่า ถ้าเป็นเรื่องดีก็ดีไป แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดี เราจะห้ามไม่ได้เลย คือเด็กกลุ่มนี้จะมองเราเป็นคนแปลกหน้า

เช่น ถ้า ผอ.แจ้งว่าจะใส่เสื้อสี เขียว เหลือง ซึ่งเป็นสีของโรงเรียนในงานกีฬาสี แต่ถ้าเด็กพวกนี้ไม่ชอบ อยากใส่สีชมพู ผอ.ก็จะขัดไม่ได้เลย เพราะ เด็กพวกนี้จะไม่ฟัง และถ้าเปิดโหวตก็จะแพ้ เพราะกลุ่มนี้มีจำนวนคนเยอะกว่านั่นเอง


การอยู่เวรก็เช่นกัน เมื่อก่อนคือครูจะอยู่เต็มวัน แต่ถ้าเป็นเด็กใหม่บางทีก็ไม่มาอยู่เวรเลย แต่พอใครถามเค้าก็จะบอกว่าเห็นมาอยู่เวรนะ ซึ่งเมียผมรู้เพราะต้องอยู่เวรคู่กัน จะบอกว่าไม่มาก็ไม่ได้ เหมือนสถานการณ์มันบังคับ เมียผมบอกว่าเมื่อก่อนไม่เคยเรื่องแบบนี้ ครูทุกคนจะรู้ความรับผิดชอบของตัวเอง มาหลังๆ นี่ไม่ไหวละ มันบ่อยเกินไป โรงเรียนแทบไม่มีครูอยู่เวร

ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ไอ้เราก็ไม่ได้รู้วัฒนธรรมขององค์กรนี้ ถือว่าตัวเองเป็นคนนอก ก็ได้แต่บอกแฟนว่า ทนๆ ไปแล้วกัน เพราะว่าจะไปเข้ากลุ่มเค้ามันก็แปลกๆ เพราะเราเป็นครู ขนาดทำงานยังแบ่งเป็นกลุ่ม จะสอนเด็กสามัคคีกันได้อย่างไร

ใครพอมีไอเดียไหมครับ เรื่องการทำงานกับกลุ่มแก๊งค์อื่นๆ เนี่ย บริษัทผมก็เป็นนะ แต่ผมอาศัยว่า อยู่คนละสาขา ไม่ได้เจอกันทุกวัน งานส่วนงาน เรื่องส่วนตัวส่วนเรื่องส่วนตัว

คือมันก็แบ่งกลุ่มกันทุกองค์กรอยู่แล้วเปล่า ทั้งที่โรงเรียน มหาลัย ที่ทำงาน
ขนาดเครือญาติยังแบ่งกลุ่มกันเองเลย เรื่องแบบนี้มันแก้ยาก เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์

อยู่ที่กึ๋มของผู้บริหารโรงเรียนแล้วครับ

ปัญหาอยู่ที่ผอ.ละครับ

ฟอร์ซผอ.เข้าไป

เรื่องผอ.นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ เมียผมบอกว่า เนื่องจากผอ. ทำงานแค่ 4 ปีในแต่ละที่ เรื่องแบบนี้ ผอ. จะทำเป็นหูทวนลมซะ แกไม่สนใจเลย เพราะเข้มมาก เด็กก็ไม่ทำงานให้

มันอยู่ที่ผอ.นะ ผอ.จัดการไม่ดีมันก็เป็นงี้แหละ

อย่างโรงเรียนแม่ผมเค้าอยู่กันเป็นครอบครัว

ขั้นเงินเดือนก็ไม่ได้พิจารณาตามผลงาน แต่ใช้การเวียนเป็นคนๆไปให้ได้ครบทุกคน

ทำอะไรไม่ได้ครับ ผอ.ครับต้องทำ

ถ้าจะมาบอกว่าเข้มไม่ได้ กลัวเด็กไม่ทำงานให้ แปลกๆนะครับ

รร.ระดับมัธยมหรือเปล่าครับ หรือประถม ผมเป็นครูรร.มัธยมอยู่ ทุกฝ่ายแบ่งหน้าที่กันชัดเจนนะครับ

ท่านต้องทำใจครับ แฟนผมก็เป็นแต่แฟนผมอยู่คนละฝั่งกับผอ.ฝั่งผอ.มีคนเยอะกว่าฝั่งแฟนผมทำอะไรก็ดูขัดๆยิ่งเรื่องขั้นนี่อย่าหวัง กันยานี้เขาก็เกษียณละแฟนผมต้องซ้อมรำวันเกษียณ ถึงจะเกษียณหรือไม่ก็คงไม่มีผลมากมายเพราะบ้านแกอยู่หน้ารร.

แบ่งข้างให้ชัด แล้ววัดกันไปเลยครับ ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติของสังคม

โรงเรียนอยู่ที่ ผอ ครับ
ถ้าออกคำสั่งไม่ได้ก็ลาออกไป

โรงเรียนเมียผมตอนเข้ามาแรกๆ เป็นแบบนี้เลยครับ ไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัยหาแค่ครูบางคนที่ไม่ชอบกัน นอกนั้นก็ happy ดี แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เลย

โรงเรียนประถมครับ

ผมก็บอกใันทำใจอย่างเดียวครับ

ผมมีเพื่อนคนนึงก็เจอปัญหาแบบนี้แหละครับ แต่คนละปัญหา เพื่อนผมมีปัญหาโดนครูเก่ากดขี่ข่มเหง เพื่อนผมเลยแก้ปัญหาโดยการไปเรียนบริหาร จากนั้นก็สอบมาเป็นผอ. โรงเรียนเดิม มาเป็นหัวหน้าพวกที่เคยทำอะไรไว้ แต่ก็ไม่ได้เอาคืนอะไรนะครับ ตอนนี้โรงเรียนก็พัฒนาไปไกลดี เห็น post face อย่างอารมย์ดีทุกวัน ต่างจากช่วงที่เป็นครู

พ่อผมก็เป็นครูครับ เท่าที่ฟังแฟนท่านเป็นคนมีจิตสำนึกที่ดีครับ แต่องค์กรแบบนี้เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามครับ ทำดีเกินไปก็ไม่ดีครับเพราะจะมีคนอิจฉา เอาแค่พอดีๆครับ รอผู้บริหารเค้าเห็นเองจะดีกว่า เกิดเรารายงานไปมีคนรู้เข้าก็จะหาว่าฟ้องอีก. รอวันเก๋าครับหรือไม่ก็ต้องพัฒนาตัวเองแบบเพื่อนท่าน. ผมเคยคุยกับพ่อผมเค้าก็บอกผมว่ารอวันเก๋านี่แหละ ตอนนี้พ่อผมเกษียรแล้ว ผอ.คนก่อนๆก็เพื่อนๆพ่อทั้งนั้น ช่วงห้าหกปีก่อนเกษียรดูแกมีความสุขมากออกตีไก่กับผู้อำนวยการทุกเสาร์อาทิตย์เลย บางเสาร์เบื่อๆก็ตั้งวงไฮโล ผอ.นี่มากินเหล้าบ้านผมประจำ

เท่าที่อ่านมันพังที่ระบบการโหวตแหละครับ ไม่ได้คิดถึงกรณีเป็นเพื่อนๆแล้วมาลงด้วยกัน ควรแบ่งตาม ป.1 มีสิทออกเท่านี้ๆ ป2 เท่านี้ๆ แบ่งวิธีโหวตเป็นแบบอื่น เพราะถ้าพวกมากลากไปมันจะเกิดปัญหา คือผมว่าจะไปโทษเด็กจบใหม่ก็ไม่ได้นะ เขาก็ทำดีที่สุดที่เขาคิดว่าดีแล้วแหละครับ

เรื่องครูใหม่ ๆ ผมว่าน่าจะมีปัญหาในหลาย ๆ โรงเรียนที่มีมาพร้อมกันหลาย ๆ คน

สิ่งที่สัมผัสได้ในหน่วยงานของผมคือ ขาดจิตอาสา ไม่เสียสละ เห็นแก่ตัว เนื่องจาก ส่วนใหญ่จะมีแฟน มีครอบครัว ภาระหนี้สิ้นเริ่มมีตั้งแต่บรรจุ มุ่งเน้นที่จะทำผลงาน 95% ในหน่วยงานผม ทำชำนาญการพิเศษ จ้างกันทั้งนั้น โดยเฉพาะรุ่นใหม่ ๆพอรู้ว่าเกณฑ์ใหม่จะใช้งานปีหน้า ปีนี้เพิ่งผ่านชำนาญการ จ้างกันให้วุ่น

ทำใจครับ เด็กรุ่นใหม่ เราก็รู้เขาโตมากับอะไรบ้าง ... ทำรายงานแบบคัดลอก วาง ลอกการบ้านผ่านไลน์ สื่อลามกหาดูได้ง่ายกว่า ว่าง ๆ เล่นเกม มากกว่าช่วยงานพ่อแม่ ฯลฯ

เจ๋งอ่ะ

เมียผมบอกว่า โหวตนี่จะใช้เมื่อหาทางออกไม่ได้จริงๆ ซึ่ง...เราก็รู้ผลกันอยู่แล้วว่าจะออกมาทิศทางไหน แต่ยังไงก็ต้องยอมรับมัน เด็กจบใหม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ มันดีตรงที่จะทำอะไรมันก็จะดูเป็นส่วนใหญ่ กลายเป็นว่าครูเก่าๆ ต่างหากที่ดูแปลกแยกในบางเรื่อง

เรื่องเอกสารก็เหมือนกันครับ แฟนผมบอกว่า เด็กใหม่ทำเอกสารส่งเขตการศึกษานี่คำผิดเยอะมาก เพราะแฟนผมเป็นคนตรวจ กว่าจะแก้เสร็จก็นานอยู่ เอกสารส่งช้า โดนดุอีก

ผอ สั่งไม่ได้ทุกเรื่องหรอกครับ เวลามีปัญหาคนที่มาตัดสิน เขาจะเข้าข้างฝั่งที่ตำแหน่งเล็ก
กว่าก่อน

อ้อ...ผอ.โรงเรียนแปลกอีกอย่างครับ
ชอบคนหน้าตาดี
ใครที่หน้าตาดีจะเอาใจเป็นพิเศษ เช่น ซื้อของมาให้ในวันต่างๆ และมักจะชมออกหน้าออกตา มีอยู่วันนึง เค้าชมต่อหน้าผู้ปกครองว่าคนนี้เรียนจบ ป.โท ทั้งๆ ที่เพิ่งจบป.ตรี เล่นเอาครู งง กันหมดว่าไปเรียนโทตอนไหน

ส่วนใครหน้าตาไม่ดี รถเค้าก็ไม่มีสิทธิ์นั่งครับ ให้ไป taxi แทน อันนี้แฟนผมอยู่ในรถด้วย ได้ยินเต็มสองหู


ปล. เหมือนเมียผมจะเล่าเรื่องโรงเรียนเยอะเกินไปละครับ 555