ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 2399
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 7:58 pm
ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก
[fb-video]https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/508209242881692/[/fb-video]
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 1869
ที่อยู่: ตรงไหนก็ได้ ที่ข้างๆณัฐรุจา
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 8:26 pm
[RE]ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก
ในคลิปเค้าขำ แต่ผมน้ำตาจะไหล

ทุกวันนี้ไม่อยากเปิดเพลงLPเลย
0
0


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1671
ที่อยู่: StamFord Bridge
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 8:32 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

ที่ยังมีอยู่ทุกวัน คือความทรงจำดีๆ




เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 11369
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 8:55 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 


เอาใจช่วยครับ

ยินดีไปอยู่ข้างๆนะครับ อร๊ายยยย
1
0
เข้าร่วม: 29 Sep 2008
ตอบ: 1003
ที่อยู่: ดอยเต่า
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 9:08 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 


แล้วหมอให้รักษาอย่างไรครับ ต้องทานยาหรือเปล่า หรือนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมแบบบางคนเขาว่ากัน
0
0
---มาเฟียเต่า ---
[/url]
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1671
ที่อยู่: StamFord Bridge
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 9:18 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
อัศวินตูเช่ พิมพ์ว่า:
Spoil
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 
 


แล้วหมอให้รักษาอย่างไรครับ ต้องทานยาหรือเปล่า หรือนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมแบบบางคนเขาว่ากัน
 


รักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ ให้ยาfluoxetine 20mg 2 x 2 pc ซึ่งเพิ่งได้เพิ่มขนาดรับประทานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

แล้วก็ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เจ้าของไข้

นั่งสมาธิ เข้าวัด ทำไม่ได้ ยิ่งแย่หนักเลย

 
ที่ยังมีอยู่ทุกวัน คือความทรงจำดีๆ




เข้าร่วม: 15 May 2010
ตอบ: 2007
ที่อยู่: หน้าคอม && มือถือ : 12HR/Day
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 9:21 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
อัศวินตูเช่ พิมพ์ว่า:
Spoil
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 
 


แล้วหมอให้รักษาอย่างไรครับ ต้องทานยาหรือเปล่า หรือนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมแบบบางคนเขาว่ากัน
 


รักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ ให้ยาfluoxetine 20mg 2 x 2 pc ซึ่งเพิ่งได้เพิ่มขนาดรับประทานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

แล้วก็ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เจ้าของไข้

นั่งสมาธิ เข้าวัด ทำไม่ได้ ยิ่งแย่หนักเลย

 
 

สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายหน่อยครับว่าเยอะมั้ย ผมว่าผมเหมือนจะเป็น คิดว่าจะไปหาหมออยู่
0
0
| #RIPChesterBennington |
「 Jan Chan | Pun BNK48 | Pop Fever 」




It's Carrick You Know , Hard to Believe it's Not Scholes.
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1671
ที่อยู่: StamFord Bridge
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 9:30 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
D-rKLiTEs.C พิมพ์ว่า:
Smildz พิมพ์ว่า:
อัศวินตูเช่ พิมพ์ว่า:
Spoil
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 
 


แล้วหมอให้รักษาอย่างไรครับ ต้องทานยาหรือเปล่า หรือนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมแบบบางคนเขาว่ากัน
 


รักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ ให้ยาfluoxetine 20mg 2 x 2 pc ซึ่งเพิ่งได้เพิ่มขนาดรับประทานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

แล้วก็ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เจ้าของไข้

นั่งสมาธิ เข้าวัด ทำไม่ได้ ยิ่งแย่หนักเลย

 
 

สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายหน่อยครับว่าเยอะมั้ย ผมว่าผมเหมือนจะเป็น คิดว่าจะไปหาหมออยู่  


ของเราเบิกไม่ได้ไม่มีประกันสังคมนะค่ะ

ค่ารักษา+ยาประมาณ 3200 ต่อเดือน
 
ที่ยังมีอยู่ทุกวัน คือความทรงจำดีๆ




เข้าร่วม: 29 Sep 2008
ตอบ: 1003
ที่อยู่: ดอยเต่า
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 9:32 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
อัศวินตูเช่ พิมพ์ว่า:
Spoil
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 
 


แล้วหมอให้รักษาอย่างไรครับ ต้องทานยาหรือเปล่า หรือนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมแบบบางคนเขาว่ากัน
 


รักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ ให้ยาfluoxetine 20mg 2 x 2 pc ซึ่งเพิ่งได้เพิ่มขนาดรับประทานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

แล้วก็ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เจ้าของไข้

นั่งสมาธิ เข้าวัด ทำไม่ได้ ยิ่งแย่หนักเลย

 
 


อ่อ เข้าใจครับ แสดงว่าโรคนี้ให้อยู่กับความคิดตัวเองมากๆไม่เหมาะสินะครับ

เอาใจช่วยครับ ขอให้อาการดีขึ้นในเร็ววัน
1
0
---มาเฟียเต่า ---
[/url]
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10495
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 9:48 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่นมากๆ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าลึกๆข้างในมันเจ็บปวดแค่ไหน
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 2736
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2017 10:21 pm
[RE]ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 


เป็นกำลังใจให้นะครับ
1
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1052
ที่อยู่: ข้างๆกายเน่
โพสเมื่อ: Thu Sep 21, 2017 10:25 am
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 


สู้ๆครับ
1
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1052
ที่อยู่: ข้างๆกายเน่
โพสเมื่อ: Thu Sep 21, 2017 10:32 am
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 


ถ้าว่างลองนั้งฟังเพลงนี้ดูนะครับ มีคำแปลให้ เวลาที่ผมรู้สึกแย่มักจะเปิดเพลงนี้ฟังเสมอๆ
เพลงดีๆของคนที่จากไปแล้ว เพื่อคนที่ยังอยู่ ...hideto
1
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1671
ที่อยู่: StamFord Bridge
โพสเมื่อ: Thu Sep 21, 2017 10:36 am
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
saukung พิมพ์ว่า:
Spoil
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 
 


ถ้าว่างลองนั้งฟังเพลงนี้ดูนะครับ มีคำแปลให้ เวลาที่ผมรู้สึกแย่มักจะเปิดเพลงนี้ฟังเสมอๆ
เพลงดีๆของคนที่จากไปแล้ว เพื่อคนที่ยังอยู่ ...hideto  


ขอบคุณมากๆนะ
0
0
ที่ยังมีอยู่ทุกวัน คือความทรงจำดีๆ




เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 743
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 21, 2017 11:44 am
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 


เป็นกำลังใจให้นะครับ

เพื่อนผมที่เป็นหมอก็ให้ผมลองไปหาจิตแพทย์อยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าสติแตกมากกว่า แต่ก็จะลองไปดู
1
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1671
ที่อยู่: StamFord Bridge
โพสเมื่อ: Thu Sep 21, 2017 11:53 am
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Danai_ds พิมพ์ว่า:
Spoil
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 
 


เป็นกำลังใจให้นะครับ

เพื่อนผมที่เป็นหมอก็ให้ผมลองไปหาจิตแพทย์อยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าสติแตกมากกว่า แต่ก็จะลองไปดู  


แนะนำให้ลองโทรไปปรึกษาก่อน แล้วจองคิวไว้จะลดเวลาได้ดีค่ะ

หากไม่คิดมากแนะนำ ศรีธัญญา เพราะมีหมอที่เกี่ยวกับโรคเฉพาะทางเก่งๆหลายท่าน

เรายังคิดว่าหากอาการเรายังแย่ลงต้องพึ่งยาไปเรื่อยๆคงต้องเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง
0
0
ที่ยังมีอยู่ทุกวัน คือความทรงจำดีๆ




เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 743
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 21, 2017 1:25 pm
[RE: ภาพวีดิโอสุดท้ายก่อน เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะลาโลก]
Smildz พิมพ์ว่า:
Danai_ds พิมพ์ว่า:
Spoil
Smildz พิมพ์ว่า:
เราขอเล่าในส่วนของเราหน่อยนะค่ะ

ถ้าเพื่อนสนิท เพื่อนในกลุ่ม หรือแม้นกระทั่งเพื่อนสมาชิกในยูส SS หลายๆท่าน

กลุ่มลับSSที่เราอยู่ ถ้าเราบอกว่าเราถูกแพทย์วินิจฉัยและรับรองว่าเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลายๆคนจะตกใจและพูดขึ้นว่า ห๊ะ อย่างสมายเนี่ยนะจะเป็น ออกจะร่าเริง

แต่นั้นคือตอนที่อยู่กับเพื่อน กับผู้คน กับคนอื่น เราพยายามข่มตัวเอง ข่มใจ บางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ พยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราปกติ

มันเลยแสดงออกมาว่าเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรา

แต่เมื่อเราเดินออกมาจากกลุ่มคน ไม่ว่าจะทำอะไร อาบน้ำ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง

เราร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็มีแต่ความคิดในหัวว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเศร้า รู้สึกว่าไร้ค่า ที่ทำทุกอย่าไปไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ จมอยู่กับความคิดเดิมๆ

จนถึงจุดๆหนึ่ง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง มันมืดไปหมด หันหาใครไม่เจอ รู้สึกว่า พอแล้วเหนื่อยมามากแล้วนะ เรายอมแพ้

แต่เหมือนว่ายังพอมีความโชคดีที่เรายังสามารถมานั่งพิมพ์ข้อความตรงนี้

และเมื่อเราเจอผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ว่าจะคนรู้จัก คนที่เราผ่านมาเจอ เราจะพยายามเข้าไปให้กำลังใจ พยายามบอกว่าเราเข้าใจกันนะ เรามาสู้ด้วยกันนะ

ไม่ได้ขอมาให้หลายๆคนเห็นใจ แต่เราแค่อยากมาเป็นเสียงๆหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยไม่อยากให้ใครมาสงสาร

ผู้ป่วยต้องการแค่ คนข้างๆเข้าใจ พวกเค้าก็พร้อมที่จะสู้กับโรคนี้และพร้อมจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

และอีกเรื่องที่อยากจะพูด ที่เราบอกว่า ผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครทำเพราะเรียกร้องความสนใจ

เพราะเราพยายามบอกคนข้างๆว่าเราคล้ายจะเป็นโรคนี้ เราเริ่มทรมานกับความคิด แต่ก็ได้กลับมาคือ ทำอะไร เรียกร้องความสนใจ?

มีหลายๆเคสในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น จะผูกคอตาย กรีดข้อมือ คนเหล่านี้อาจทำเพื่อเรียกให้สังคมสนใจ แต่ที่ตัดสินใจทำลงไปก็เพราะความกดดันจากสังคม

แต่ในกรณีของผู้ป่วยนั้น พวกเค้าจะไม่บอกใคร ไม่พูดกับใคร อยากอยู่แค่คนเดียว อยากคิดคนเดียวมากกว่าจะส่งเสียงในใครได้ยิน

ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องการเรียกร้องอะไร ขอแค่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นก็พอค่ะ

 
 


เป็นกำลังใจให้นะครับ

เพื่อนผมที่เป็นหมอก็ให้ผมลองไปหาจิตแพทย์อยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าสติแตกมากกว่า แต่ก็จะลองไปดู  


แนะนำให้ลองโทรไปปรึกษาก่อน แล้วจองคิวไว้จะลดเวลาได้ดีค่ะ

หากไม่คิดมากแนะนำ ศรีธัญญา เพราะมีหมอที่เกี่ยวกับโรคเฉพาะทางเก่งๆหลายท่าน

เรายังคิดว่าหากอาการเรายังแย่ลงต้องพึ่งยาไปเรื่อยๆคงต้องเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง
 


ขอบคุณครับ
1
0