คืออยากรู้ว่าท่านที่เก่งEng แบบว่าคุยกับฝรั่งรู้เรื่อง ฟังได้ตอบได้ ดูหนังแบบไม่มีซับได้ อ่านได้แบบเข้าใจเนื้อหา ทักษะพวกนี้ได้มายังไงครับ เรียนในรร./มหาลัย ตามหลักสูตรปกติ, เรียนภาษาเพิ่ม, ไปอยู่เมืองนอก, ฝึกเอง หรือยังไงครับ ?

ฝึกฝนครับ สำหรับผมนะ

เริ่มจากชอบ ฟังเพลง อ่านหนังสือ แล้วก้มาเรียนที่มหาลัย

ภาษาเป็นทักษะ เรียนอย่างเดียวไม่ช่วยอะไร ต้องใช้เยอะๆ

ผิดๆ ถูกๆ อย่าไปกลัว ทำบ่อยๆ ก็เก่งครับ

Cheers!

ก็ได้จากกิจกรรมที่ท่านว่านั่นแหละ
คุยกับฝรั่ง ผมคุยในเกม กับตอนเที่ยว
ดูหนัง ได้การพูดแบบทั้งประโยค การออกเสียง
ฟังเพลง ได้คำศัพท์ซะส่วนใหญ่ ผมชอบแปลเนื้อเพลงสากลเวลาว่างๆ

ภาษาอังกฤษจากชั้นเรียน เป็นแค่ตัวเริ่มให้ผมชอบภาอังกฤษเท่านั้นเอง ที่เหลือฝึกเองหมดครับ

ผมไม่ถึงกับเก่งนะครับ แค่เก่งขึ้นกว่าสมัยก่อน ขอตอบในส่วนของผมละกัน

1. อันนี้เป็นขั้นแรกของความสนในภาษาของผมคือพ่อผมชอบฟังเพลงสากล
ผมก็มักจะฟังตามพ่อไปด้วย พอเริ่มฟังบ่อยขึ้นก็เริ่มหาเนื้อเพลงมาแปลเอง

อันนี้ก็ได้ศัพท์กับทักษะการฟังมานิดหน่อย

2. พอเข้ามัธยมก็ชอบภาษาอยู่ ช่วงนี้จะฝึกจากซีรีย์ หนัง เพลง เกมแล้วก็บทความ
เพราะชอบฟุตบอล เวลาตามข่าวหรือบทความทางอังกฤษจะไวกว่า

3. มหาลัยก็เข้าม.ที่มีหลักสูตรอินเตอร์

4. จบมาก็ทำงานกับต่างชาติ ทั้งตอบเมล โต้ตอบซึ่งหน้า

แต่สกิลฟังผมยังกากมาก ยังคงต้องฝึกอีกเยอะะะะะะ

หลายๆอย่างครับ เรียนที่ม.บ้าง ฝึกเองบ้าง หาอ่านหาดูเอาตามในเนต ส่วนดูหนังแรกๆให้ลองเปิดซับก่อนครับ ถ้าฟังเพลงเพื่อฝึกผมไม่แนะนำครับ มันไม่ค่อยใช้ได้ซะส่วนใหญ่ การแต่งเพลงมันบางทีใช้ศัพท์slangบ้างหรือศัพท์ที่มันไม่ค่อยใช้ในชีวิตประจำวันเท่าไหร่อะแถมอีกอย่างคือมันจะโฟกัสไปที่ดนตรีมากกว่า ถ้าให้แนะนำแบบฝึกไปด้วยและได้ความเพลินด้วยผมแนะนำให้ดูvlogในyoutubeเลยครับ มันคือพวกฝรั่งอัดวิดิโอชีวิตประจำวันมันเนี่ยละ ละคุณจะได้พวกศัพท์คำพูดและประโยคที่เค้าใช้กันบ่อยๆ นอกจากนี้ยังได้รู้cultureและบ้านเมืองเค้าด้วยครับว่าเป็นยังไง

ไม่ว่าจะเรียนหลักสูตรเพิ่มมากแค่ไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ใช้เยอะ ๆ ใช้ให้มากที่สุด ใช้ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อย่ากลัวว่าจะใช้ผิด/พูดผิด เพราะถ้าผิดเราก็จะได้เรียนรู้ว่าที่ถูกคืออะไร เอาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางภาษาอังกฤษ แล้วทุกอย่างมันจะเป็นไปโดยธรรมชาติเอง

เช่น หนังก็มีซับไตเติ้ลอังกฤษ เสียงอังกฤษให้ดู ก็ดูไปแบบไม่รู้เรื่องนั่นแหละ ศัพท์ไหนไม่รู้จักก็จดไว้ เพราะอารมณ์กับสีหน้าท่าทางของตัวละครมันก็ช่วยให้เราเดาได้ว่าประโยคนั้นต้องการสื่ออะไร

เกม ถ้าเมนูภาษาอังกฤษมีก็ใช้ภาษาอังกฤษ จะได้รู้ว่าเมนูพวกนี้เขาใช้ศัพท์แบบไหนกัน หรือเวลาประโยคสนทนาในเกมก็หัดอ่านไปเรื่อย ๆ จะได้รู้จักศัพท์แสลงหรือภาษาพูด

พอเริ่มคล่องก็ไปหัดอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ตรงนี้จะได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ค่อนข้างเยอะ ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน ถ้าเริ่มอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษรู้เรื่องก็แสดงว่าเราเริ่มเข้าใจภาษาอังกฤษในระดับนึงแล้ว

ถ้าอยากจะฝึกทักษะการฟัง ก็ไปหัดฟังข่าวภาษาอังกฤษ หรือดูรายการทีวีที่ใช้ภาษาอังกฤษเยอะ ๆ พอเราเริ่มชินก็จะค่อย ๆ แยกออกว่าประโยคนี้เขาพูดคำไหน หรือสื่ออะไร

ดังนั้นทุกอย่างมันเริ่มได้ง่าย ๆ แค่สิ่งรอบตัว อย่าไปคิดว่าจะเก่งได้ จะรู้เรื่อง ต้องเรียนจากหลักสูตรในห้องเรียนที่มีอาจารย์เป็นคนสอนเท่านั้น อันนั้นมันแค่หนึ่งตัวช่วยแต่ไม่ใช่หัวใจหลัก

ของผมตอนอยู่ไทย(ก่อนไปเรียนต่อ) ภาษาก๊องแก๊งมากพูดได้แบบเบสิคสุดๆผมเลยไป เรียนภาษาที่ซิดนีย์หลังจากนั้นก็ติดลมลงเรียนอื่นๆต่อยาวเลย ใช้ชีวิตอยู่ที่นั้น 6 ปีเรียน/ทำงาน มันใช้ทุกวันพูดได้เองโดยอัตโนมัติอะ แต่ถ้าให้ผมแปลอังกฤษเรียบเรียงเป็นไทยผมทำไม่ได้จริงๆนะ แต่ถ้าสนทนาแบบอังกฤษก็คุยแบบไม่ต้องมาประมวลผลคำแปลจากไทยเป็นอังกฤษก่อนอะ ความรู้สึกจะคล้ายๆเราพูดภาษาไทยใส่กัน แต่พอกลับมาไทยก็ยอมรับว่าพอไม่ได้ใช้ก็มีลิ้นแข็งแล้วก็ลืมๆบางคำไปบ้างเวลาคุยงาน

เรื่องการฟัง ตอนผมเรียนภาษาที่นู่นแรกๆอาจารย์จะแนะนำว่าถ้าฟังไม่ทันทั้งประโยคให้คุณพยายามจับ Key words ของประโยคก็จะพอเข้าใจ

ผมตอนเด็กถึงมอต้นโคตรโง่อังกฤษ
หลังจากนั้นมอปลายผมตั้งใจศึกษามาก
พอเข้ามหาลัยผมเรียนอินเตอร์ ซึ่งเพื่อนฝรั่งเยอะ
ได้ใช้ทุกวันๆๆๆ จนตอนนี้เรียกได้ว่าคล่องครับ
แม้จะไม่รู้คำศัพท์เฉพาะหรือพวกสำนวนมาก
แต่ถ้าคุยปกติหรือเรื่องธุรกิจพวกนี้ผมโอเคครับ
จุดสำคัญผมว่าไม่ว่าทฤษฏีจะแน่นแค่ไหน
ถ้าไม่ได้ใช้บ่อยๆ ลืมแน่นอนครับ

ผมใช้วิธีเริ่มจากดูหนัง ตอนแรกดูแบบเสียงต้นฉบับ + ซับไทยก่อนครับ จากนั้นก็ไปแบบซับอังกฤษและปิดซับ

จากนั้นก็เป็นการคุยกับต่างชาติโดยตรงทั้งที่เป็นอังกฤษแบบแท้ ๆ เช่น อเมริกา อังกฤษรวมถึงพวกที่ไม่ใช่อังกฤษโดยตรง เช่น อินเดีย สเปน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

จากประสบการณ์ตรงผมพบดังนี้ครับ

- ชาติที่คุยอังกฤษแท้ ๆ แล้วปวดหัวสุด : อังกฤษ โดยเฉพาะสำเนียงแบบนิวคาสเซิลหรือลิเวอร์พูล (แบบที่เจมี่คาร์แรกเกอร์พูด) ผมฟังแล้วแปลแทบไม่ไ้ด

- ชาติที่คุยอังกฤษแท้ ๆ แล้วสบายสุด : อเมริกา ออสเตรเลีย

- ชาติที่อังกฤษไม่แท้ที่คุยแล้วปวดหัวสุด : อินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน

- ชาติที่อังกฤษไม่แท้คุยแล้วสบายสุด : ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

ตามจัสตินบีเบอ นี่แหละ ถ้าคุยหาเพื่อนฝรั่ง แฟน

ดูหนังอ่านสือ ก็ยังไม่คล่องอยุ่ดี แหละ

มาอยู่เมืองนอก

เรียนอินเตอแต่เด็กอ่ะ ผมว่าเกมช่วยได้เยอะนะ fm เป็นตัวอย่าง

เพือนผมส่วนใหญ่ไม่ชอบบีเบอร์กันทั้งนั้น

แต่ก่อนผมกะไม่ชอบ ตอน เพลง เบบี่

งะแต่เพลงหลังๆๆมามันเพราะ ดี ผมฟังบอย

ผมไม่เก่งพูดนะ ออกตัวก่อน เพราะถนัดอ่านกับเขียนมากกว่า แต่พอสื่อสารได้

จุดสำคัญที่ทำให้พูดได้ คือความกล้าก่อนเลยครับ ก่อนที่ผมจะสื่อสารได้ถึงวันนี้ ตอนนั้นผมไปรับงานกับลูกค้าต่างชาติ ที่พูดไทยไม่ได้เลย (เป็นคนเยอรมัน) และต้องนั่งทำงานข้างๆเขาทุกวัน เกือบปีเต็มๆ (ทั้งๆที่ตอนแรกกะจะไม่เอาละ เพราะภาษาพูดผมห่วยบรม)

ซึ่งผมจะมีการบ้านให้ตัวเองทุกวัน ว่าวันนี้จะเอาอะไรไปคุยกับเขา (นอกเหนือจากเรื่องงาน) ผมก็จะหาคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องไปคุย ถูกมั่ง ผิดมั่ง แล้วเขาก็จะช่วยสอนผมอีกที

นอกนั้นก็จะเป็นพวกหนังแหละครับ ผมเป็นคนชอบดูหนัง และผมดูแต่พากษ์ eng และเรื่องไหนที่ซื้อมาเก็บใน itunes มันจะมีซับหลายภาษาหน่อย ผมก็เปลี่ยนเป็นซับ eng บ้าง ฝึกไปในตัว พ ดูบ่อยๆ มันก็ชินไปเองครับ

ส่วนเพลง ผมก็ฟังแต่ไม่เยอะ เพราะผมชอบฟังลูกทุ่ง

ส่วนทริคที่ผมใช้ในการสื่อสารก็คือ จับประโยคในคำพูดของคู่สนทนาว่ามีคำศัพท์ไหน ที่พอคุ้นๆ แล้วเดาไปเลยว่าเขาน่าจะพูดเรื่องไหน ถ้าผิดก็บอกเขาไปว่า I don't understood, try again please. เป็นคำพูดติดปากผมเลย ไวยากรณ์ถูกหรือเปล่าไม่รู้ 555

ดูหนัง 3 รอบ

รอบแรกซับไทย

รอบ 2 ซับอิง

รอบ 3 ปิดซับ



เดี๋ยวนี้ดูพอดูแบบปิดซับได้แล้ว ถ้าไม่เข้าใจค่อยเปิดซับอิงเอา

อันนี้เป็นเทคนิคที่ อ.คริส สอนมา

เรียนหนังสือ เรียนมาตั้งแต่ประถม มัธยม
มันก็ได้ไปเองแหละครับ

ผมก็ไม่เก่งมากมาย พอฟังรู้เรื่องตอบได้ (ถ้าช้าๆ)

เขียนแกรมม่าปกติก็พอใจตัวเองในระดับนึง

ที่เป็นได้แบบนี้เพราะจำได้ว่าตอนป1 ขี้แตกคาบอังกฤษแล้วลงไปเปลี่ยนชุด กลับมาทำงานเสร็จไวกว่าชาวบ้าน โดนคุณครูแอนชม เลยชอบมาตั้งแต่ตอนนั้น

ขี้เปลี่ยนชีวิต

ไปนอกต้องไปเรียนด้วยครับถึงจะใช้ภาษาเป็น
เเต่ถ้าจะใช้เเค่คุยงูๆปลาๆไปทำงานนอกมันก็โอเคครับ