ผมดีผมได้อ่านข่าวนี้ แล้วก็เล่าให้ภรรยาฟัง เพราะเค้าเป็นพยาบาล OR CVT ซึ่งเป็นคนทำงานสายตรงด้านนี้ เลยลองถามเค้าว่าจะผ่าเคส TAA แบบนี้ต้องมีอะไรบ้าง ภรรยาผมบอกว่า

- มีหมอ CVT ที่ถนัดด้านหลอดเลือด
- มีวิสัญญีแพทย์
- มีพยาบาลส่งผ่าตัด CVT
- มีเจ้าหน้าที่เครื่องปอดหัวใจเทียม
- มีเครื่องปอดหัวใจเทียม
- มีห้องผ่าตัดที่รองรับเคสได้
- เครื่องมือครบ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อพร้อมใช้
- มีเส้นเลือดเทียม
- มีเตียง ICU พักฟื้นหลังผ่าตัด (ไม่สามารถพักห้องพักแบบทั่วๆไปได้)
- มีเลือดและสารอื่นๆสำรองเพียงพอ
- และอาจจะต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจด้วย

ซึ่ง รพ​. ที่จะมีพร้อมหมดทุกอย่างที่เล่ามามีน้อย และถ้าขาดอะไรไปอย่างใดอย่างนึงก็ไม่สามารถผ่าตัดได้ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมคนไข้และญาติต้องรอ จนท. หาโรงพยาบาลนาน เพราะบางที่โทรไปอาจจะมีห้องไม่มีหมอ บางที่มีหมอไม่มีเครื่องมือ บางที่มีเครื่องมีมีหมอแต่ ICU เต็ม ฯลฯ

เลยลองถามเค้าว่าอีกว่า สมมุติว่าถ้ามีของที่ว่าครบหมดเลย จะใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะเริ่มผ่าตัดได้ เค้าบอกว่าประมาณ 1 ชม. ผ่าได้เลย ถ้าเส้นเลือดยังไม่แตก "โอกาสรอดแต่ขึ้นกับตำแหน่งที่โป่งพอง" และถ้าแตกแล้ว "แทบไม่มีโอกาสรอด"

เค้าปิดท้ายว่า ต่อให้มีคนเส้นเลือดโป่งพองหน้าห้องผ่าตัดที่เค้าทำงานพอดี มี จนท. พร้อมทุกคน เครื่องมือพร้อม ทุกอย่างพร้อม เรียกว่ายกขึ้นเตียงผ่าได้เลย โอกาสรอดยังไม่สูง เพราะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เส้นเลือดแตกอีก ถ้าแตกใกล้หัวใจ ส่วนใหญ่ก็ไม่รอดเหมือนกัน ส่วนถ้าแตกแล้วก็แทบไม่รอดเช่นกัน

สรุป .... สงสารน้องครับ กรณีนี้น่าสงสารจริงๆ โอกาสรอดยากจริงๆ

สรุปคือถ้ามาแบบระยะสุดท้ายจริงๆยังไงก็รอดยากปะครับ

ท่านไม่ต้องพิมยาวๆก็ได้ครับ ส่วนใหญ่เค้าไม่ค่อยอ่านกัน บางคนเค้าฝังหัวไปแล้วว่า หมอเลว หมอพยาบาลไม่เสียสละ กินภาษีพวกเค้า ผมเหนื่อยที่จะเถียงและอธิบายกับพวกนี้แล้วครับ โดยเฉพาะตามเฟสตามเพจใหญ่ๆ. แต่ผมเชื่อว่าในนี้ยังมีคนเข้าใจบริบทและการทำงานของพวกเราอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย

เสียใจกับน้องและครอบครัวด้วยครับ ดันโชคร้ายเป็นโรคที่เกิดขึ้นยากและรักษายากอีก

ส่วนใหญ่คนที่รอดคือแตกระหว่างผ่าตัด คือเปิดหน้าอกไปแล้ว ทำเคสอยู่แล้วแตก อันนี้ยังพอทันครับ แต่ถ้านั่งๆอยู่แตก ส่วนมาก (มากๆ) ไม่รอดครับ

ใน FB ผมไม่พิมพ์เลยครับ ไร้ประโยชน์ แต่ในเว็บโป๊ที่มีข่าวบอลผมว่าเรายังมีสาระกันครับ

ให้ความรุ้ไปก้เท่านั้นครับ

เหมือนบางคนเข้าใจว่ามนุษย์ไม่สามารถตายได้ ยกเว้นหมอเลว หรือไม่ก็ รพ. แย่

ในเฟสนะ ในนี้ยังไม่เคยเห็น

เห็นใจทั้งเด็กทั้งหมอ

ถ้ามันแตกแล้ว แตกหน้าห้องผ่าตัดก็ตายครับ

ป้องกัน เฝ้าระวัง สังเกตอาการ ตั้งแต่เริ่มๆยังไง


โรคนี้รุนแรงเกิ๊น เหมือนโคตรซวยอ่ะใครเป็นแบบนี้

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ คนในสังคมที่มีสติและเหตุผลยังมีอีกมาก เพียงแต่เขาใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ใช้ชีวิตออนไลน์ในโซเชี่ยลมีเดียสักเท่าไหร่ เมื่อมีการออกมาอธิบายเหตุคนที่พร้อมรับฟังและเข้าใจก็มีมาก แต่คุณไม่สามารถวัดจำนวนคนแบบนี้ได้เพราะชอบอยู่กันเงียบๆ ไม่แสดงตัวตนไลท์กระจายหรือคอมเมนท์ถี่ๆสักเท่าไหร่

แต่เชื่อเถอะมีคนอ่านสิ่งที่คุณนำเสนอและเข้าใจมันแน่ๆ อย่างน้อยก็ผมก็คือหนึ่งในนั้นครับ

อาการนี้ในเด็กบอกยากมากจริงๆครับ เว้นแต่จะมีความผิดปรกติ เช่นเป็นมาร์แฟนซินโดรม จะต้องตรวจอยู่แล้วเพราะมีโอกาสเป็นสูง

โรคนี้ ความโหดของมันคือ ส่วนใหญ่ท่านจะไม่มีอาการผิดปกติอะไรเลย จนกว่ามันจะแตกครับ ที่ตรวจเจอก่อนส่วนมากเป็นการตนวจเจอโดยบังเอิญ เช่นเป็นไข้ ไอ หมอจับเอ็กซ์เรย์ปอด สงสับปอดบวม แล้วก็ไปเห็นว่าเงาหลอดเลือดแดงใหญ่มันดูโตๆผิดปกติอะไรงี้อ่ะ

ใครเป็นนี่โคตรโชคร้าย

อย่างที่ จขกท. ว่าอะครับ น้องคนนี้เป็นแรร์เคสจริงๆ แฟนผมทำงานห้องฉุกเฉินมาสิบเอ็ดปี ถ้าไม่ได้เกิดอุบัติเหตุมา ไม่เคยเจอเคสแบบนี้ในเด็กเลย กว่าจะวินิจฉัยได้ต้องใช้เวลาพอสมควร และยิ่งถ้าเส้นเลือดแตกแล้วโอกาสรอดแทบไม่มีเลย

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลแฟนผมมีเคสคล้ายๆน้องเค้า แต่เกิดจากอุบัติเหตุ ตอนมาถึงโรงพยาบาลมีอาการแค่เจ็บหน้าอก แต่สักพักอาการทรุดไป ทางโรงพยาบาลที่แฟนผมอยู่ยังเตรียมผ่าให้ไม่ทันเลยครับ ขนาดว่าที่โรงพยาบาลแฟนผมผ่าเคสแบบนี้ได้นะ

เอาจริงๆ แตกตอนยืนในห้องผ่าตัดโรงเรียนแพทย์ข้างๆอาจารย์หมอ CVT ยกไปผ่าได้เลย เผลอๆยังไม่รอดอ่ะถ้าเป็นโรคนี้

อ่านคนด่าหมอในเฟส ผมยังน้อยใจแทนหมอเลย ทำไมคนไทยยังเข้าใจอะไรยากแบบนี้ เท่าที่รู้จักเพื่อนที่เป็นหมอมา เค้าทำงานหนักมาก ถ้าเลือกได้เค้าขอเวลาว่างมากกว่า เรื่องเงินไม่ได้สำคัญเหมือนที่คนด่ากัน
ผมอยากไปตอบกลับพวกสักแต่จะด่าตามเพจต่างๆว่า พวกเมิงก็ไปเรียนหมอเรียนพยาบาลกันสิ แล้วผมจะรอดูว่าทำได้อย่างที่ด่าเค้ากันมั้ย รอหมอ 4 ชม ตรวจไม่กี่นาทีด่าหมอซะหยาบคาย ถ้าเค้าตรวจนาน เมิงจะรอแค่ 4 ชม มั้ย มนุษย์โซเชียลที่ทำเหมือนโลกหมุนรอบตัวมัน แถมชอบโชว์ความหยาบ ยิ่งด่าหยาบยิ่งได้ like

ลองเข้าไปอ่านเพจ อีจ่า ดราม่าดูครับ ที่นั่นบอกไว้หมดแล้ว

เส้นเลือดแดงใหญ่ที่ช่องอกโป่งพองครับ ปรกติโรคนี้มักจะเป็นในผู้ใหญ่ แต่น้องคนนี้น่าจะมีความผิดปรกติอื่นทำให้เป็นตั้งแต่เด็กครับ

ทุกวันนี้บอกแฟนตลอดว่าข่าวที่เห็นในสื่อออนไลน์
ให้รออย่างน้อย24ชั่วโมงในการที่จะแสดงความคิดเห็น
พวกเพจก็อปข่าวทั้งหลายมันเน้นข่าวเร็ว แรง ดราม่า และไร้ซึ่งการตรวจสอบข้อมูลก่อน

จริงครับ ปรกติก็ดูยากมากๆแล้ว ยิ่งตามข่าวบอกว่าชีพจรปรกติด้วย ยิ่งดูยากเข้าไปใหญ่

ส่วน รพ. ภรรยาผม มีหมอ CVT หลายคน แต่ภรรยาผมก็บอกผ่าโรคยากแบบนี้ได้ไม่กี่คนเอง เพราะบางคนถนัดทางปอด บางคนถนัดหัวใจ ยิ่งถ้าน้องคนนี้เป็นมาร์แฟนจริงๆนะ ยิ่งยากมากกกกกกก

แค่ให้อ่านให้เกิน 8 บรรทัดยังยากเลยครับ
ไม่ว่าจะอธิบายเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ถูกใจก็ด่าอยู่ดี
แม้แต่เพจที่อธิบายให้ความรู้ที่ถูกแม่มยังไปเม้นด่าไปประชด
แล้วสุดท้ายก็เชิดชูหมอเป่ากันว่าคือคนช่วยชีวิต

มีอาจารย์เคยสอนว่าถ้ามันแตกแล้ว 90%ตายก่อนมารพ. 90%ของที่มารพ.จะตายอีก90%

ผมเห็นเขาแชร์ข่าวนี้แล้วเลื่อนคีย์บอร์ดผ่านเลยครับ
ไม่อยากอ่านคอมเม้นต์กลัวอดใจด่าพวกหมอคีย์บอร์ดไม่ได้ เก่งกันจังพูดยังกะมันรักษากันเองได้

ข่าวบางสื่อก็แย่นะ เขียนหัวข้อข่าวให้คนเข้ามาดูเยอะๆ เรียกเรตติ้ง โดยไม่สนความจริงอะไรเลย ยิ่งข่าวหมอพยาบาล นี่โดนว่าตลอด

ผมอ่านโรคมาแฟนซินโดรมแล้วก็ไม่เข้าใจอะ
อ่านตามลิ๊งไอจ่า ที่มันแปะมา

อยากรู้ว่ามันเป็นกันขนาดไหน อาการจำเพาะ อะไรแบบนี้ครับ
แล้วมาแฟนนี่มันเป็นโรคที่เกิดเอง หรือเป็นแต่กำเนิดครับ

อันที่จริงมันก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายนั่นแหละครับ

สำรับผมยอมรับว่าไม่ได้ติดตามโดยละเอียด แต่พอเห็นข่าวแบบนี้ทีไรก้มีกระแสที่พูดถึง

ความบกพร่องของโรงพยาบาลหรือหมอเกือบทุกทีไป

ในความรู้สึกจริงๆหากคนไข้ได้รับการตรวจการรักษาอย่างเต็มที่ แล้วทราบสาเหตุของ

อาการที่เป็นแล้วไม่สามารถรักษาได้ทัน ด้วยเหตุผลของโรคและเงื่อนไขเวลาการรักษา

มันก็ไม่น่าจะมีอะไรให้ดราม่ากันนะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจได้

แต่มันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลย ถ้าเหตุการคือ คนไข้ไม่ได้รับการตรวจและดูแล

อย่างทันท่วงที อย่างที่ควรจะเป็น ให้ทราบถึงสาเหตุของโรค ไม่ว่าจะด้วยเหตุติดขัดอะไร

แล้วทำให้เสียโอกาสในการรักษาไป จนถึงขึ้นเสียชีวิต ประจวบเหมาะกับมันเป็นโรค

ที่รักษายาก เลยจะสรุปว่ายังไงก็ต้องตาย อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับ

เพราะถ้าเป็นเคสนี้ ต่อให้ไม่เป็นโรคนี้ ก็สามารถทำให้คนไข้ตายได้

สาเหตุหนึ่งที่กระแสมันดัง มันก็สะท้อนมาจากภาพของการรักษาและการบริการของ

โรงพยาบาลหลายๆแห่งบ้านเรานั่นแหละครับ ซึ่งผมเชื่อว่าลึกๆแล้วเราต่างรู้ปัญหากันดี

เชื่อสิครับว่ายามที่คนเจ็บป่วย มากๆ จะรอดไม่รอดมันไม่ได้จบที่ว่าส่งถึงโรงพยาบาล

อย่างเดียว มันขึ้นกับว่าโรงพยาบาลไหนด้วยครับ แค่ที่อยู่ต่างกันโอกาสรอดก็ต่างกัน

แล้วมันแสดงให้เห็นว่าจุดบอดในเรื่องนี้มันเยอะมาก บางครั้งเราก็ควรต้องยอมรับเพื่อ

ป้องกันไม่ให้มันเกิดเหตุการเหมือนกันขึ้นอีก โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้เป้นโรคนี้

เพราะมันน่าเศร้าจริงๆนะครับถ้ามันเป็นแบบนั้น

มีบางเม้นผมอ่านแล้วขึ้นมาก มีคนไปยายามอธิบายดีๆ ก็ไม่ฟัง จนคนเริ่มประชดว่าให้ไปเรียนหมอแล้วมารักษาเอง หมอกำลังขาดแคลนมาก ไอนั่นก็ด่ากลับว่าพออธิบายไม่ได้ก็มาไล่ให้เป็นหมอ (คนอื่นเค้าพิมพ์อธิบายกันเยอะแล้ว แต่เมิงนั่นแหละไม่คิดจะเข้าใจ) มนุษย์โซเชี่ยลนี่ทำผมหงุดหงิดแทบทุกข่าวเลยครับ ตัวเองไม่มีความรู้อะไรเลย แต่ไปด่าคนอื่นเหมือนรู้ดี คนพยายามมาอธิบายก็ไม่คิดจะทำความเข้าใจ เอาแต่หาว่ามาแก้ตัว ทำไมบ้านเรามีคนแบบนี้เยอะจังฟะ

ทำไมไปประเด็นโรคยากอะ ตายไม่ตายผมว่าเขาไม่ได้ว่าหรอก คนมันก็ตายกันทุกวันอยู่แล้ว แต่น้องเขาทรมานเป็นหลายชั่วโมง แล้วมันมีเป็นภาพเป็นวิดีโอเดินไปเดินมา ปวดท้อง มันน่าสลดตรงนี้แหละ

ระบบคัดกรอง er ที่เราใช้มันคัดกรองคนได้ดีแค่ไหน ถ้าหมอทั่วประเทศบอกดีมากก็จบไป เราคนไทยก็ใช้ระบบนี้ต่อ ถ้าดูแล้วมันไม่ใช่ก็หาวิธีแก้ไขซะ

เคยเจอเคสปวดท้องมา ตรวจร่างกายแล้ว เจอเลือดส่งตรวจแล้ว เอ็กซ์เรย์แล้ว กำลังรอผลเลือดที่ส่งไป ญาติเข้ามาด่าว่าทำไมไม่ทำอะไรให้คนไข้เลย .... คือรอผลเลือดอยู่ มันยังวินิจฉัยไม่ได้ จะให้ตูทำไงฟะ นั่งกุมมือส่งยิ้มปลอบประโลมคนไข้รึไง

ส่วนเคสนี่ เท่าที่ถามกับเพื่อนที่อยู่โรงพยาบาลที่เกิดเรื่อง การจัดการก็เร็วนะ คนไข้ส่งตัวมาบ่ายสองกว่า บ่ายสามก็ได้ทำ CT และ ยาแก้ปวดก็ให้

รายละเดียดตามลิ้งนี้อ่ะ
http://dodeden.com/274837.html

คนไข้มาบ่ายโมงแต่ไปสลบที่หน้าห้องอายุกรรม ถึงจะได้เข้า er แสดงว่าคนไข้เป็น opd ป่าว หมอบอกว่าทำตามระบบอันนี้โอเคนะ แต่ก็อย่างที่พิมก่อนหน้าระบบมันดีแค่ไหน คนไข้รถชนเข่าถลอกเข้าฉุกเฉิน แต่คนไข้คนนี้ไม่ได้เข้า

ต้องเข้าใจว่าคนนี้ส่งมาจาก รพ.อำเภอ ด้วยเรื่งปวดท้อง ผมว่า รพ.อำเภอคง X ray ท้องแล้วไม่เจออะไรผิดปกติที่บ่งบอกว่าเป็นภาวะทางศัลยกรรมและสัญญาณชีพยังดี เลยส่งตัวมาแบบปกติ ไม่ได้เป็นแบบเร่งด่วน แล้วที่ รพ.จังหวัดตอนคนไข้มาถึงแล้วก็ต้องมีการตรวจวัดสัญญาณชีพกันอีกรอบถ้าได้ไปอยู่ opd แสดงว่าตอนที่มาถึงสัญญาณชีพยังดี ถ้าสัญญาณชีพไม่ดียังไงก็คงเข้าห้องฉุกเฉินแหละ

ไม่ได้เข้าเพราะไม่จำเป็นต้องเข้าห้องฉุกเฉินครับ หายใจได้ สัญญาณชีพปกติ เข้าไปก็ไปนอนเฉยๆ เหมือนกันครับ

ระบบคัดกรองฉุกเฉินของไทยก็เหมือนกับประเทศอื่นแหละ ปัญหาคือคนมาเยอะเกิน ไม่รู้ว่าตัวเองฉุกเฉินหรือเปล่า

บุคลากรเค้าทำดีที่สุด เท่าที่จะดีได้แล้ว ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ระดับนโยบาย ให้มีบุคลากรมากขึ้น ให้ความรู้แก่พื้นฐานแก่ประชาชนเรื่องโรค ภาวะฉุกเฉินให้มากขึ้น