ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 7850
ที่อยู่: กทม
โพสเมื่อ: Mon Jun 26, 2017 9:11 pm
" ราชินี จอมโหด ".... !!???


ราชนีโหด
พระนางศุภยลัต เป็น ธิดาของพระเจ้ามินดง กับ มเหสีรอง
คือ พระนางอเลนันดอ โดยอุปนิสัยของพระนางศุภยลัตนั้น
เหมือนกับพระมารดาคือ เป็นคนใจร้าย ขี้หึง ทะเยอทะยาน
เจ้ากลอุบาย กล่าวคือ...เมื่อพระเจ้ามินดงประชวรหนัก

พระนางอเลนันดอได้แต่งตั้งเจ้าฟ้าสีป่อ ซึ่งเป็นพระโอรส
ของพระเจ้ามินดงกับเจ้าหญิงจากเมืองสีป่อ ให้ขึ้นครองราชย์แทน
(ภายหลังมีพระนามว่าพระเจ้าธีบอ) เพราะเจ้าฟ้าสีป่อมีนิสัยหัวอ่อน
ซึ่งทำให้ควบคุมง่าย รวมถึงได้แต่งตั้งให้
พระนางศุภยลัตเป็นพระราชินีของเจ้าฟ้าสีป่อด้วย



เมื่อเจ้าฟ้าสีป่อขึ้นเป็นกษัตริย์ของพม่า
พระนางอเลนันดอ และ พระนางศุภยลัต ก็เกรงว่า
ญาติพี่น้องและบริวารจะมาแย่งชิงอำนาจ
จึงสั่งให้เพชรฆาตสังหารบรรดาญาติพี่น้องและบริวาร
รวมกว่า 500 คนโดยใช้เวลาสังหารหมู่กว่า 3 วัน
แถมยังได้จัดงานรื่นเริงขึ้นในกลางเมืองและในวัง

เพื่อให้ชาวเมืองสนุกสนานเพลิดเพลินกับงาน
มีการแสดงดนตรีปี่พาทย์มาบรรเลงในวังตลอดเวลา
ที่ทำการสำเร็จโทษพวกเจ้านาย เพื่อให้เสียงดนตรีปี่กลอง
กลบเสียงกรีดร้องขอชีวิต จะได้ไม่มีใครสงสัยหรือได้ยินเสียงโหยหวน
ของผู้ที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
เล่ากันว่าคืนนั้นสุนัขเห่าหอนทั้งคืน จนชาวเมืองผวาไม่เป็นอันหลับอันนอน



ต่อมาพระนางศุภยลัตเกิดไม่พอใจอังกฤษ
ที่เข้ามาทำป่าไม้ในพม่าแต่ให้ค่าสัมปทานน้อย
จนมีปัญหากันถึงขั้นเปิดศึกรบ พระนางศุภยาลัต
เกิดความหยิ่งยโสในอำนาจจึงไม่เกรงกลัวอังกฤษ
สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่ออังกฤษเพราะไม่มีอาวุธที่เทียบเท่าอังกฤษ
และที่สำคัญคือ ชาวเมืองไม่คิดจะต่อสู้เพื่อกษัตริย์และราชินี
เพราะพระนางศุภยลัตกดขี่ชาวเมืองมาตลอด

สุดท้ายการปกครองพม่าโดยราชวงศ์อลองพญาก็ล่มสลาย
พระนางศุภยาลัตถูกเชิญให้ออกจากพม่าไปอยู่ที่เมืองเล็กๆ ในอินเดีย
เป็นเวลากว่า 30 ปีจึงจะเดินทางกลับมายังพม่า

อย่างไรก็ตาม หลังจากพระนางศุภยลัตเสด็จกลับมายังพม่า
มีนักข่าว ขอเข้าพบเพื่อขอพระราชทานสัมภาษณ์
พระนางศุภยาลัตได้ตรัสว่า พระองค์ทรงไม่ได้ฆ่าญาติพี่น้องแต่อย่างใด !!!!!



ละครเรื่อง "เพลิงพระนาง" ของไทยที่ฉายในปีพ.ศ. 2539
ได้ถูกสร้างโดยมีเค้าโครงเรื่องจากพระนางศุภยลัต
ใครสนใจก็ลองเปิดหาดูได้นะครับ.
.....


ปล.
ปัจจุบันยังมีที่ฝังพระศพอยู่ในย่างกุ้ง
โดยรัฐบาลอังกฤษจัดการให้ตามธรรมเนียม
แต่ไม่อนุญาตให้เชิญพระศพขึ้นไปที่ราชธานีกรุงมัณฑะเลย์
คงอนุญาตเพียงแต่ทำเป็นมณฑปบรรจุพระอัฐิ
อยู่ที่ถนนเจดีย์ชเวดากอง (Shwe Dagon Pagoda Rd.)
ห่างจากบันไดด้านทิศใต้ของพระเจดีย์ชเวดากองมาประมาณ 200 เมตร
สร้างเป็นกู่ทรงมณฑปยอดปราสาทแบบพม่า ก่ออิฐฉาบปูนขาว
รูปทรงคล้ายที่ฝังพระศพของพระเจ้ามินดงในกรุงมัณฑะเลย์
...
เข้าร่วม: 26 Feb 2010
ตอบ: 13577
ที่อยู่: Weserstadion
โพสเมื่อ: Mon Jun 26, 2017 9:16 pm
[RE: " ราชินี จอมโหด ".... !!???]
เขาว่าจริงๆ คนสั่งการคือพระนางอเลนันดอ พระชนนีของพระนางศุภยาลัตนะ

เพราะตอนนั้น ราชินีศุภยาลัต ก็อายุ 19-20 เท่านั้นเอง ซึ่งจะว่าไปก็ยังเด็กอยู่มาก

เข้าร่วม: 24 Apr 2010
ตอบ: 2341
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 27, 2017 7:10 am
[RE: " ราชินี จอมโหด ".... !!???]
มีคนเคยสัมภาษณ์อยู่ครับ บอกว่าแม่เป็นคนจัดการ
0
0
เข้าร่วม: 18 Dec 2005
ตอบ: 333
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 27, 2017 11:19 am
[RE: " ราชินี จอมโหด ".... !!???]
G.Conlon พิมพ์ว่า:
เขาว่าจริงๆ คนสั่งการคือพระนางอเลนันดอ พระชนนีของพระนางศุภยาลัตนะ

เพราะตอนนั้น ราชินีศุภยาลัต ก็อายุ 19-20 เท่านั้นเอง ซึ่งจะว่าไปก็ยังเด็กอยู่มาก

 


มีโอกาสเป็นไปได้สูงครับ เพราะตอนนั้นผู้ที่กุมอำนาจจริง ๆ คือพระนางอเลนันดอ ส่วนพระนางศุภยลัตตอนนั้นก็พึ่งจะวัยรุ่น และไม่ได้มีฐานอำนาจใด ๆ พอจะสั่งการให้ดำเนินการสังหารหมู่เชื้อพระวงศ์ได้

ส่วนดารเปิดสงครามกับอังกฤษจนนำมาถึงการเสียเมืองนั้น จะว่าไปก็ไม่ใช่ความผิดของพระนางเลย คนที่เริ่มคือพระเจ้าบาจีดอ รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์ก่งบอง ที่ส่งกองทัพเข้ารุกรานแคว้นอัสสัมและมณีปุระในอินเดียจนเป็นเหตุให้เปิดสงครามกับอังกฤษ ในปี พ.ศ.2366 กระทั่งพม่าต้องพ่ายแพ้เสียดินแดนทางใต้ไปจนหมด พอพม่าอ่อนแอลงก็โดนอังกฤษหาเรื่องอยู่เรื่อย ๆ กระทั่งทางการอังกฤษตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะยึดพม่าเป็นอาณานิคมในสมัยพระเจ้าสีป่อ แต่ก็ใช่ว่าพม่าจะไม่ทำอะไรเลย ยังมีการส่งทูตไปทำไมตรียื่นผลประโยชน์ให้ฝรั่งเศสให้มาคานอำนาจอังกฤษ แต่ก็เท่านั้นฝรั่งเศสเฉยไม่เอาด้วย ลงท้ายหลังจากบอบช้ำมานานพม่าก็แพ้ให้อังกฤษแบบสู้ไม่ได้จนเสียเมือง
0
0
เข้าร่วม: 26 Feb 2010
ตอบ: 13577
ที่อยู่: Weserstadion
โพสเมื่อ: Tue Jun 27, 2017 12:02 pm
[RE: " ราชินี จอมโหด ".... !!???]
Gorge พิมพ์ว่า:
มีโอกาสเป็นไปได้สูงครับ เพราะตอนนั้นผู้ที่กุมอำนาจจริง ๆ คือพระนางอเลนันดอ ส่วนพระนางศุภยลัตตอนนั้นก็พึ่งจะวัยรุ่น และไม่ได้มีฐานอำนาจใด ๆ พอจะสั่งการให้ดำเนินการสังหารหมู่เชื้อพระวงศ์ได้

ส่วนดารเปิดสงครามกับอังกฤษจนนำมาถึงการเสียเมืองนั้น จะว่าไปก็ไม่ใช่ความผิดของพระนางเลย คนที่เริ่มคือพระเจ้าบาจีดอ รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์ก่งบอง ที่ส่งกองทัพเข้ารุกรานแคว้นอัสสัมและมณีปุระในอินเดียจนเป็นเหตุให้เปิดสงครามกับอังกฤษ ในปี พ.ศ.2366 กระทั่งพม่าต้องพ่ายแพ้เสียดินแดนทางใต้ไปจนหมด พอพม่าอ่อนแอลงก็โดนอังกฤษหาเรื่องอยู่เรื่อย ๆ กระทั่งทางการอังกฤษตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะยึดพม่าเป็นอาณานิคมในสมัยพระเจ้าสีป่อ แต่ก็ใช่ว่าพม่าจะไม่ทำอะไรเลย ยังมีการส่งทูตไปทำไมตรียื่นผลประโยชน์ให้ฝรั่งเศสให้มาคานอำนาจอังกฤษ แต่ก็เท่านั้นฝรั่งเศสเฉยไม่เอาด้วย ลงท้ายหลังจากบอบช้ำมานานพม่าก็แพ้ให้อังกฤษแบบสู้ไม่ได้จนเสียเมือง  


แต่ผมมองว่า การที่พม่าเสียเมือง พระนางศุภยาลัตมีส่วนต้องรับผิดชอบเต็มๆ

เพราะพระเจ้าธีบอโดยส่วนพระองค์แล้ว ทรงเป็นคนประนีประนอม ไม่ปราถนาสงคราม

แต่พระนางศุภยาลัตเป็นคนทิฐิสูง ยืนกรานจะให้พม่ารบต้านอังกฤษให้ได้

ถ้าพระเจ้าธีบอทรงมั่นพระทัยในพระองค์เอง ตัดสินพระทัยด้วยพระองค์เอง พม่าน่าจะรอด

เพราะจากที่อ่านหนังสือหลายๆเล่ม หลายสถนการณ์ตลอดรัชสมัยของท่านจนพม่าเสียเมือง

และหลังจากนั้น(เช่น การพยายามมองหาเจ้าชายจากสยามหรือศรีลังกา มาเป็นคู่ให้พระธิดา)

นับว่าเป็นการตัดสินพระทัยที่ถูกต้อง แต่พระองค์ก็ไม่ได้ทำ เพราะพระนางศุภยาลัตเข้ามาก้าวก่าย
1
0