[RE: ความเชื่อเรื่องบาป บุญ ผมมองว่ามันเป็นเหมือนดาบสองคมนะ]
Spoil
yaibathai พิมพ์ว่า:
หลายๆท่านอาจจะเห็นผมชอบตั้งกระทู้เกี่ยวกับลิเวอร์พูล คอมเม้นแซวลิเวอร์พูล จนผมนี่โดนเรื้อนเป็นประจำเลย แต่วันนี้ผมจะพูดในเรื่องที่แบบในชีวิตจริงไม่น่าจะมีใครฟังผมซักเท่าไหร่ เพราะผมไม่ใช่คนเข้าวัด ทำบุญ ไม่ได้เป็นคนธัมมะธัมโม แถมยังหื่น ลามก บ้ากามอีก รับประกันด้วยทัณฑ์บน ก่อนหน้านี้ก็โดนใบเหลืองอีก แต่วันนี้ผมอยากจะพูดในเรื่องนามธรรมที่เรียกว่าบุญและบาป โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ไม่รู้สึกอินกับเรื่องบุญ เรื่องบาป นะ เวลาจะทำอะไรผมไม่เคยสนใจเรื่องบุญ บาป เลย จะได้บุญหรือได้บาบผมก็ไม่สนใจ ผมเลยมีมุมมองต่อเรื่องของบุญ บาป ในแง่มุมนึงคือ
ในแง่ที่ดีก็คือทำให้คนทำความดี ละเว้นความชั่ว
ส่วนในอีกแง่นึง ผมมองว่าเรื่องบาป บุญ มันก็ไม่ได้ทำให้จิตใจของคนเราสูงขึ้นมาเหมือนกัน คือถ้าคนเราให้ทาน บริจาค หรือทำสิ่งต่างๆ เพื่อหวังจะได้บุญ ได้ไปเสพสุขบนสวรรค์ หรือหวังว่าชาติหน้าจะได้เกิดมาสบาย แบบนี้ก็จะเป็นการทำไปด้วยจิตใจที่หวังสิ่งตอบแทน ทำไปด้วยความโลภ ความเห็นแก่ตัว โดยไม่ได้เกิดจากใจที่เมตตา ใจที่บริสุทธิ ใจที่หวังอยากให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ แบบนี้ยิ่งทำไปจิตใจคนที่ทำก็จะยิ่งเห็นแก่ตัวมากขึ้น ยิ่งยึดติดกับความโลภมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้แหละ มันก็เลยมีลัทธิอยู่ลัทธินึงที่แอบอ้างพระพุทธศาสนา เอาเรื่องบุญมาทำมาหากินกับคนไทย สอนให้คนไทยทำบุญเยอะๆว่ายิ่งทำ ก็จะยิ่งรวย ยิ่งทำก็ยิ่งได้ ทำแล้วได้ไปอยู่สวรรค์ ได้สุขสบาย คนไทยหลายๆคนก็เลยหลงไปกับการทำบุญ ทำบุญจนเกินตัวเกินพอดี ไม่อยู่ในทางสายกลางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้(ลัทธินี้ผมเคยไปหลายรอบนะ แต่ไม่เคยเชื่อ ไม่เคยรู้สึกศรัทธาเลย)
อีกเรื่องนึงก็คือความเชื่อเรื่องถ้าลูกชายบวช พ่อแม่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ ด้วยความเชื่อนี่แหละ ทำให้คนที่ไม่ได้อยากบวชจริงๆต้องมาบวช บวชแต่กาย แต่ไม่ได้บวชที่ใจ บวชแล้วก็ทำตัวเหมือนฆราวาส ไม่ได้ตั้งใจศึกษาธรรมมะ ส่วนพ่อแม่ที่หวังจะได้เกาะผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ เมื่อลูกชายจะบวชให้ ก็ดีใจจัดงานเลี้ยงบวชนาคซะใหญ่โต บันเทิง สนุกสนาน มีเงินเท่าไหร่ก็เลี้ยงเต็มที่ หมดเงินเป็นแสนๆก็ยอม โดยไม่อยู่บนพื้นฐานของความเรียบง่ายเลย
เรื่องทำบุญปล่อยสัตว์ก็เหมือนกัน หลายๆคนปล่อยสัตว์เพื่อทำความสบายใจ ได้บุญ โดยไม่ได้คำนึงเลยว่าสัตว์ที่ปล่อยไปจะรอดมั้ย จะตายมั้ย ไม่ได้สนใจว่าเป็นการสนับสนุนพ่อค้าแม่ค้าที่จับสัตว์มาขายเพื่อให้คนซื้อเอาไปปล่อยเลย
ส่วนเรื่องบาป มีอยู่เรื่องนึงคือเรื่องพระภิกษุ หลายๆคนจะไม่กล้าต่อว่าพระ ถ้าพระรูปนั้นๆทำเรื่องไม่ถูกต้องเพราะกลัวว่าถ้าไปต่อว่าพระเข้าจะเป็นบาป ตกนรก พระไหนเป็นพระจริงพระไหนเป็นพระปลอม ก็ปล่อยไปทำไม่รู้ไม่ชี้ไมรู้ไม่ชี้ไม่กล้าจัดการ ไม่กล้าต่อว่า ไม่ใช่หน้าที่ของฆราวาส ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสงฆ์อย่างเดียว แทนที่ชาวพุทธน่าจะช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตา แต่กลับนิ่งเฉย คนรุ่นใหม่ๆหลายๆคนก็เลยไม่นับถือพระ(ผมก็เหมือนกัน) เพราะมีพระทำตัวไม่ดีอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด
สุดท้ายนะ ผมว่าถ้าคนเราละเว้นความชั่วเพราะกลัวบาป กลัวตกนรก ผมว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ แต่ถ้าจะให้ดีกว่า ผมว่าถ้าคนเรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักใจเขาใจเรา มีความเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าทุกชีวิตก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกับเรา รักชีวิตเหมือนกับที่เรารักชีวิต เราก็จะไม่ไปทำลายชีวิตใคร ไม่ทำร้ายใคร โลกนี้ก็จะสงบและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
คุณเข้าใจผิดทั้งหมดเลย ไม่น่าเชื่อ
แสดงให้เห็นว่าคุณ ยังไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง
1.เลย บาปบุญมี 100% ทำชาตินี้ส่งผลชาติหน้าแน่นอน
2.ใครทำบุญหวังผลชาติหน้าอะไรของคุณ ถ้าคนที่เข้าใจหลักศาสนาที่แท้จริง
คำว่าหวังในชาติหน้า นั่นหมายถึงว่าความสุขที่แท้จริง คือการหลุดพ้น
เกิดมาในภพภูมิที่ดีก่า นั่นคือการเข้าสู่ทางที่ถูกต้อง หมายถึงบุญกรรมในชาติก่อนส่งผลมาถึงชาตินี้ และยิ่งทำบุญเรื่อยๆไปทุกชาติที่ดีกว่า มันก็ยิ่งทำให้เราเข้าใกล้การหลุดพ้นมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งพระพุทธเจ้าต้องเกิดถึง 10 ภพภูมิถึงหลุดพ้นได้
3.การบวช เป็นสิ่งที่่คนเป็นลูกควรพึงกระทำ ไม่ใช่ขี้เกียจตัดผม ขี้เกียจต่างๆนานๆแล้วมาหาเหตุผลว่า บางคนทำแล้วก็ไม่เห็นดีอะไร ไม่เกี่ยวครับ หนึ่งเลย คุณเป็นคนนอกไม่ต้องไปสนใจเขา
ว่าใครจะเมาใครจะจ่ายตังสิ้นเปลืองอะไร สองคือในอดีตรวมถึงปัจจุบันหลายๆคนบวชแล้วไม่สึกก็มีเยอะครับ เข้าใจหลักธรรมคำสอนต่างๆมากขึ้น ผลบุญส่งต่อถึงพ่อแม่ครับ
เพราะนั้นไม่แปลกที่เราต้องตอบแทนคุณ
และอีกมากมาย เหมือนคุณยังเข้าใจอะไรเพี้ยนๆไปหมด