ผีโขมดนั้นหากตรวจสอบดูจากหลายๆ ตำรา
จะพบว่าข้อมูลค่อนข้างแตกต่างกันไป
และไม่ค่อยมีบทบาทการแสดงสักเท่าไรนัก
ไม่ว่าจะเป็นวรรณคดีหรือตำนานใดๆ
ผีโขมดก็มักได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น !!!
ทำไมนะหรอ มาจะเล่าให้อ่าน ............
ประวัติความเป็นมาของผีโขมดนั้นไม่ค่อยประจักษ์ชัดนัก
คือจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาเรื่องนี้ฉาก เรื่องโน้นฉาก แล้วก็แวบหายไป
เลยไม่รู้ว่าไปทำยังไงเขาถึงได้กลายเป็นผีโขมด
ถ้าอย่างผีตายทั้งกลม ก็รู้ล่ะว่าคลอดลูกไม่ออกเลยตาย
หรือ อย่างผีนางตานี ก็ทราบว่าเพราะมีวิญญาณของผีสาว
ไปสิงสถิตอยู่ในต้นกล้วยตานีตายทั้งกลม
แต่สำหรับผีโขมดนั้นหาที่มาที่ไปไม่ได้เอาซะเลย
บางตำราบอกว่า “โขมด” เป็นภาษาเขมรแปลตามตัว
ได้ความเพียงว่าเป็นผีทั่วไป แต่บางตำราบอกว่าเป็นผีที่มีรูปร่าง
หน้าตาน่ากลัวเหมือนกับผีไม่มีผิด ก็นั่นนะ ซิ… ถ้าไม่ให้เหมือนผี
แล้วจะให้เหมือนอะไรมิทราบ อีกตำราบอกว่าผีโขมดนั้น
เป็นเพียงดวงไฟลอยวับๆ แวมๆ วูบวาบ เป็นดวงโต
มองเห็นในเวลากลางคืนโดยเฉพาะในที่ที่มีน้ำฉ่ำแฉะ
และไม่ทำอันตรายใคร แต่จะคอยลวงให้คนหลงทางหรือเดินผิดทาง
เพราะเข้าใจว่ามีคนถือคบไฟเดินนำหน้านำทางให้
ครั้งพอเข้าไปใกล้ดวงไปนั้นกลับหายไป มองไปมองมา
คราวนี้เห็นลอยอยู่ข้างหน้าบ้าง ข้างหลังบ้าง
ถ้าเจอแบบนี้ไม่ต้องลังเล…อนุญาตให้วิ่งได้เลย
เพราะแสดงว่าโดนผีโขมดเล่นงานเข้าให้แล้ว !!!!!
เนื่องจากมีข้อมูลเกี่ยวกับผีโขมดน้อยเต็มที
จึงหาหลักฐานยืนยันไม่ได้ว่าผีโขมดชอบกินอะไรเป็นพิเศษ
นอกจากในวรรณคดีสุดฮิต เรื่องหนึ่งของไทยคือ สังข์ทอง
มีเรื่องราวของผีโขมด แทรกอยู่ คือในตอนที่หกเขย
ไปหาปลาแข่งกับพระสังข์ตามคำสั่งของท้าวสามน
แต่ปรากฏว่าหกเขยหาปลามาได้นิดเดียว
แถมถูกพระสังข์ที่แปลงตัวมาเป็นรุกขเทวดาตัดเอาใบหูจนแหว่งวิ้น
เพื่อแลกกับปลา บรรดาหกเขยได้แก้ตัวและบอกถึงสาเหตุ
ที่หูแหว่งแก่ท้าวสามนพระพ่อตาว่า “ผีโขมดโกรธกัดเอาใบหู”
นี่อาจจะพอสรุปได้ว่าผีโขมดน่าจะเป็นผีที่มีตัวตน
ไม่ใช่เป็นเพียงดวงไฟวับๆแวมๆวูบวาบ และอาหารอย่างหนึ่งที่มันชอบกิน
คงน่าจะเป็นเนื้อสัตว์พวกหกเขยจึงเอามาเป็นข้ออ้าง
ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าท้าวสามนจะเชื่อหรือไม่ !!
หากผีโขมดเป็นเพียงดวงไฟคอยลวงให้คนหลงทางในเวลากลางคืน
ใครที่ชอบเที่ยวเป็นเหยี่ยวราตรี และกลับบ้านดึกๆ
ก็ระวังเอาไว้หน่อยแล้วกัน ควรหาเพื่อนร่วมทางด้วย
จะได้ไม่โดนผีโขมดเล่นงาน และถ้าเกิดผีโขมดชอบกินเนื้อสัตว์
หรือ ของสดๆ คาวๆอย่างที่หกเขยเอามาเป็นข้ออ้าง
ก็น่าจะระวังตัวกันเอาไว้ เจอใครที่ท่าทางไม่ชอบมาพากล
อย่าไปสุงสิงด้วย เพราะอาจเป็นผีโขมดมาดักเล่นงานเอาก็ได้
หรือใครที่หนีเมียไปเที่ยวแล้วเบื่อที่จะแก้ตัวซ้ำซาก
ว่า “ผีโขมดลวงให้หลงทางเลยกลับบ้านดึก” อะไรทำนองนี้…
ได้ผลยังไงหรือไม่ก็ทดสอบกันเอาเองล่ะกัน
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายทอดและรักษาเผ่าพันธุ์ของผีโขมดอีกเช่นกัน
แต่ในตำราเกี่ยวกับกำเนิดเทพเจ้าบรรยายไว้ว่า
พระราหูนั้นสร้างขึ้นมาจากผีโขมด ...!!!!
ในตำนานการสร้างโลกและกำเนิดเทพเทวดาของอินเดีย
บอกเอาไว้ว่าเมื่อพระอิศวร ทรงสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมา
ด้วยอำนาจแห่งฤทธิ์ของพระองค์นั้น ได้นำหัวผีโขมดจำนวน 1 โหลหัว
หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ 12 หัวน่ะแหละห่อด้วยผ้าดำ
(บางตำราว่านำไปบดให้เป็นผงละเอียดแล้วจึงนำมาห่อด้วยผ้า)
ต่อจากนั้นได้ปะพร มด้วยน้ำทิพย์พลันหัวผีโขมดสุดหล่อนั้น
ก็เกิดเป็นพระราหูขึ้นมาได้อย่างน่า อัศจรรย์
กำเนิดพระราหูมีความเป็นมาหลายนัย ในตำนานของพระราหูกล่าวไว้ว่า
เทพกึงอสูรตนนี้ มีร่างกายท่อนล่างเป็นงูและปลาหางงู
ยังแยกออกเป็นหัวผีโขมดสองหัวอีกด้วยนะจะบอกให้ ..!!!!
....