แชร์ประสบกามหาเรื่องตรวจ HIV คลีนิคนิรนาม
ขออนุญาตแบ่งเป็นพาร์ทๆ คนที่มีเวลาไม่มากจะได้เลือกอ่านได้ ผมเวิ่นเว้อเยอะซะด้วย
พาร์ท 1 เกริ่นเล็กน้อย
Spoil
จากกระทู้นี้
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1433581
หลังจากที่เลิกกับแฟนที่คบกันมา 4 ปี รวมถึงยังไม่เคยมีอะไรกับใครทั้งสิ้นมาก่อนในชีวิต อายุก็ล่วงเลยจนเกือบจะ 30 แล้วยังไม่มีประสบกามเลยสักครั้ง
เลยตัดสินใจละทิ้งสัจจะ ที่สัญญากับตัวเองว่าจะมีอะไรครั้งแรกหลังแต่งงาน ด้วยการให้เพื่อนแนะนำแหล่งนวดปู๋... ซึ่งผมไม่เอาไซด์ไลน์ ไม่เอาหญิงขายบริการ เพราะไม่อยากสอดใส่ กลั๊วกลัวโรค อยากนวดข้างนอกเฉยๆ ก็เลยจัดการเลือกน้องๆผ่านไลน์ร้าน และนัดจองล่วงหน้าไป 1 วัน
พาร์ท 2 ลองของ 18+
Spoil
วันที่ 26 พ.ค. ใจตุ้มๆต่อมๆเดินเข้าร้านนวดครั้งแรก ณ จังหวัดหนึ่งแถวปริมณฑล เหงื่อแตก ใจเต้นตุ่บๆ นี่กรูจะได้เห็นนมสาวอยู่ตรงหน้าครั้งแรกหรือนี่ 5555 ผมเดินเข้าไปบอกว่า ชื่อ... มีจองคุณ... ไว้ตอนเวลา... ครับ น้องเดินออกมา ตัวเล็กๆน่ารักดี
สมมุติว่าชื่อคุณเปี๊ยว คุณเปี๊ยวก็พาผมเข้าห้อง หน้าตายิ้มแย้มมากๆคงเก่งรับแขก และพอรู้ว่าผมประหม่าเลยชวนคุยซะเยอะ ถือว่าทำให้ผมผ่อนคลายลงได้มากๆ คุณเปี๊ยวทำให้หมด ถอดเสื้อ อาบน้ำ มานวด โดยใช้ตัว มือ หน้าอก
โดยจุดที่ผิดพลาดคือ ผมดันปล่อยสติให้คุณเปี๊ยวนำตรงนั้นมานวดกับของผมอยู่ได้ 5 นาที โดยไม่มีการป้องกันอะไรทั้งสิ้น พอได้สติจึงบอกคุณเปี๊ยวว่าใช้มือจนเสร็จ ละนอนคุยกันปกติ หลังจากนี้ก็รีบไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาด จบประสบการณ์เรียนรู้ของผมครั้งแรกในชีวิตแบบย่อๆ ละเอียดไปเดี๋ยวจะโดนพี่เบนอุ้ม
พาร์ท 3 เป็นกังวล
Spoil
จริงๆก็ไม่ได้กังวลอะไรหรือถึงขนาดจิตตก เพราะผมก็ไม่ได้สอดใส่ และไม่ได้ทำนานด้วย แต่พอมาอ่านข้อมูลต่างๆตามอินเตอร์เน็ต (หลายๆคนพอมีครั้งแรกก็มาอ่านเหมือนผมแน่นอน) หลายแหล่งบอกว่า การเสียดสีอวัยวะเพศนั้น มีโอกาสทำให้ติด HIV ได้ "ถ้า" มีน้ำหล่อลื่นออกมาจากจิ๊มิ และของๆผมมีแผลถลอก นอกจาก HIV ยังมี เริม หนองใน ซิฟิลิส ที่ติดง่ายกว่า HIV อีก เอาล่ะหว่า ทำไงดี คิดไปคิดมาก็คิดว่าเสี่ยงน้อย คิดอีกทีมันก็เสี่ยงอยู่แม้ว่าโอกาสน้อยยมากกก เลยตัดสินใจไปตรวจให้สบายใจ 100% ไปดีกว่า ไม่รอช้า หาวันว่างไปคลีนิคนิรนาม
พาร์ท 4 ตัดสินใจไปตรวจ !!!
Spoil
วันที่ 2 มิ.ย. หลังเเสี่ยง 7 วันเต็มๆ
ขอท้าวความอีกหน่อยว่า การตรวจ HIV ตอนนี้คลีนิคนิรนามมี 2 แบบหลักๆก็คือ
แบบ NAT ตรวจได้ตั้งแต่ 5-14 วัน รอผล 3 วัน
แบบ Anti-HIV ตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันเป็นต้นไป (ถ้าเสี่ยงเกิน 14 วัน ก็ตรวจแบบนี้ก็รู้แล้ว) รอผล 1 ชั่วโมง
โดยการที่ผมไปตรวจเนี่ย มันเพิ่งเสี่ยงมา 7 วัน ฉะนั้นถ้าผมติด HIV มา ค่า Anti-HIV ผมจะยังเป็นลบอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจให้ผมทั้งสองแบบเลย ก็คือ Nat กับ Anti นั่นเอง ยังไงก็ต้องเจอ
ผมก็ลง BTS สถานีราชดำริ พอลงจากรถไฟ ตอนอยู่ชั้นบนให้กวาดตามองไปฝั่งสนามม้า และมองไปไกลๆจะเห็นแท๊งค์น้ำสีเหลืองๆสะดุดตา 2 แท๊งค์ตั้งตระหง่าน นั่นแหละคือคลีนิคนิรนาม เดินไปได้เลยประมาณ 600 เมตรก็ถึง
ใครที่คิดว่าคลีนิคจะโทรมๆ เก่าๆ มีแต่คนเป็นโรคไอค่อกๆแค่กๆมาตรวจ ไม่จริงนะครับ เข้าไปบรรยากาศมันก็คือโรงพยาบาลทั่วๆไปนี่แหละ เจ้าหน้าที่หน้าตายิ้มแย้ม เป็นกันเอง ไม่มีเหวี่ยง มีตู้รับบัตรคิวตรงประตูทางเข้า แจ้งว่ามาตรวจอะไรก็ว่าไป รอเรียกคิวไปลงทะเบียนไม่นาน 10 นาทีได้ การลงทะเบียน จะให้ลงแค่ อักษรตัวแรกของชื่อ และอักษรตัวแรกของนามสกุล วันเดือนปีเกิด แค่นี้
หลังจากนั้นจะถูกเรียกไปอีกครั้งเพื่อพูดคุยการตรวจและชำระเงิน โดยการตรวจ HIV ถ้าเราให้บัตรประชาชน จะเสียค่าตรวจ 20 บาทเป็นค่าทำบัตร ถ้าไม่สะดวกให้บัตร เสียค่าตรวจ 200 กว่าบาท โดยข้อมูลการตรวจทั้งสองแบบ ทั้งเสียเงินกับไม่เสียเงิน เป็นความลับทั้งสิ้น ไว้ใจได้ครับ
หลังจากทำบัตรแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เชิญขึ้นบนห้องเจาะเลือด เจ้าหน้าที่มือเบามากๆ ยิ้มแย้มคุยเล่นเป็นอันเอง ถุงมือเปลี่ยนใหม่ เข็มฉีดยา สุขอนามัยต่างๆดีมากๆ พอเจาะเสร็จก็รอฟังผล 1 ชั่วโมง
ระหว่างรอผล ผมก็เดินข้ามฝั่งไปรอบๆสนามม้ามองอะไรสีเขียวๆประมาณ 20 นาที ตัดสินใจ เอาวะ เดินกลับเข้านิรนาม ไปคุยกับคนอื่นๆ เพราะอยากได้ประสบการณ์ให้มากที่สุดกับการมาที่แบบนี้
ได้เจอกับน้องผช.คนนึง ได้คุยๆกัน น่าจะเป็นเพศที่ 3 ครับ อายุยังน้อย ร้องไห้ เครียดมาก บอกว่ามีอะไรไม่ได้ป้องกันโดยเป็นฝ่ายรับ (โอกาสเสี่ยงของผู้รับเยอะกว่าแบบรุก ยิ่งเป็น ช-ช ด้วย)
ได้คุยกับพี่ผู้หญิงคนนึงหน้าตาดี คอยปลอบประโลมน้องคนนี้ โดยพี่เค้าเป็นผู้ติดเชื้อและวันนั้นมารับยาพอดี อัธยาศัยดีและมองโลกในแง่ดีมาก
ได้เจอคนต่างชาติคู่เกย์ มาตรวจเป็นคู่ๆเลย หน้าตายิ้มแย้มเดินออกไป คงตรวจละไม่มีอะไร
ได้เจอคนที่เดินเข้าห้องฟังผลหน้าตาปกติ เดินออกจากห้องหน้าตาเปลี่ยนเป็นอีกแบบ
พอถึงคิวผม ก็เข้าไปฟังผล ก็แน่นอนว่า ต่อให้ติดเชื้อ Anti-HIV ผมก็ยังเป็นลบอยู่ดี คุณหมอก็เลยบอกว่า ให้รอฟังผล Nat 3 วันนะ ถ้าเลือดมีเชื้อ เจ้าหน้าที่จะติดต่อมาหาผมในทุกๆทาง ถ้าไม่มีเชื้อ จะไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา (แต่ให้ไปตรวจอีกครั้ง หลังจากเสี่ยงครบ 1 เดือน) นับเป็นวันที่ผมตั้งกระทู้นี้ก็ 3 วันทำการพอดี ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา ก็น่าจะรอดแล้วล่ะมั้ง ถ้าติดต่อมาเดี๋ยวผมมาแจ้งอีกทีละกัน 555
คุณหมอน่ารักมาก คุยเล่นเป็นกันเอง โดยบอกผมว่า ไม่ต้องกลัวหรอกแค่เสียดสีข้างนอก บางคนใส่ข้างในเป็นสิบครั้งยังไม่ติด เพราะจริงๆแล้วมันติดยาก แต่ที่พูดแบบนี้ก็ไม่ได้อยากให้วางใจนะ ต้องป้องกันทุกครั้ง โรคติดต่อมันมีโรคอื่นๆนอกจาก HIV และติดง่ายกว่าด้วยซ้ำ
หมอบอก ถุงยางพอไหม หมอมีเป็นเข่ง เอาไปให้หมด ผมก็บอก ไม่เอาละหมอ ไม่เที่ยวแล้ว ผมเข็ดแล้ว 555
ผมก็กลับบ้านอย่างสบายใจนิดๆ
พาร์ท 5 สรุป
Spoil
จนถึงวันนี้ล่วงเลยวันอันตรายมา 3 วันแล้ว ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา แสดงว่าผล Nat ปกติ ผมก็คงไปตรวจซ้ำ 1 เดือนเพื่อปิดเคสนี้ เท่ากับว่าผมได้เรียนรู้ประสบการณ์การแก้ผ้าต่อหน้าหญิงแปลกหน้าครั้งแรกในชีวิต ทำให้ผมได้รู้ว่า การมีอะไรกับคนแปลกหน้ามันไม่ได้รู้สึกดีเลยสักนิดนอกจากสำเร็จความใคร่และรู้สึกผิด ซึ่งครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ครั้งแรกและครั้งเดียว และจะไม่มีอะไรกับใครไม่ว่าจะภายใน ภายนอกจนกว่าจะแต่งงาน 555555
พาร์ท 6 เกร็ดควรรู้เกี่ยวกับ HIV
Spoil
- มีรายงานโอกาสติดเชื้อไวรัส เอชไอวี (HIV) หรือ เอดส์ (AIDS) จากผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ โดยประมาณต่อการกระทำ/สิ่งที่เกิดขึ้น 1 ครั้ง (ทั้งนี้ถ้าเป็นเพศสัมพันธ์ จะเป็นกรณีไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย) ดังนี้
ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายรับหรือถูกสอดใส่ทางทวารหนัก โอกาสติดเชื้อประมาณ 0.04-3.0%
ชายที่เป็นผู้สอดใส่ทางทวารหนักมีโอกาสติดเชื้อประมาณ 0.03%
หญิงที่ร่วมเพศทางช่องคลอด โอกาสติดเชื้อประมาณ 0.05-0.3%
ชายที่ร่วมเพศทางช่องคลอด มีโอกาสติดเชื้อประมาณ 0.01-0.38%
ฝ่ายรับหรือฝ่ายถูกสอดใส่จากการร่วมเพศทางปาก/ออรัลเซ็ก (Oral sex) มีโอกาสติดเชื้อประมาณ 0.04 %
ฝ่ายสอดใส่ทางปาก มีโอกาสติดเชื้อประมาณ 0.005%
haamor.com/th/โอกาสติดโรคเอดส์/
เห็นเปอร์เซ็นต์แบบนี้เหมือนจะติดยาก แต่ก็ขึ้นอยู่ว่ามีน้ำหล่อลื่นมาแค่ไหน ก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้น ยิ่งมีแผลก็ยิ่งแล้วไปใหญ่
- ท่านใดที่ไม่เคยเสี่ยง หรือเคยมีอะไรแต่ป้องกัน ผมก็ยังอยากให้ไปตรวจอยู่ดี เพราะจะได้ประสบการณ์ที่คลีนิคนิรนามด้วย ได้พูดคุยกับคนอื่นๆทั้งคนติดเชื้อ ทั้งคนที่มาตรวจ ทั้งคุณหมอ เจ้าหน้าที่ เป็นประสบการณ์ชีวิต
- HIV ไม่ได้น่ากลัว ติดแล้วก็ต้องมานั่งเบื่อกินยาให้ตรงเวลา นอกนั้นก็ใช้ชีวิตปกติ ดูแลสุขภาพแบบปกติ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป แค่บริจาคเลือดไม่ได้ มีลูกได้แต่ต้องคัดเชื้อ ผู้หญิงให้นมลูกไม่ได้
- ทุกๆคนที่มีเพศสัมพันธ์ ควรตรวจ HIV ทั้งๆปี ปีละ 2 ครั้ง และตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆให้ครบด้วย เป็นการควบคุมโรค
- จะมีอะไรกับใคร แนะนำจูงมือกันไปตรวจครับ โรงพยาบาลทั่วไปๆมีหมด ตรวจไม่กี่ร้อยบาท เป็นการเซฟตัวเองด้วยนะครับ จะได้มีอะไรกันอย่างสบายใจ แต่ก็อย่าลืมใส่ถุงด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวป่อง
- HIV ไม่ใช่เอดส์ เอดส์คือคนที่มีเชื้อ HIV แต่ไม่รับยาต้าน จนทำให้สภาพร่างกายอยู่ในสภาพโรคเอดส์ เสี่ยงต่อการเจอโรคฉวยเต็มไปหมด กว่าจะเป็นถึงขั้นนั้นคือต้องไม่กินยาต้านเลย ไม่ดูแลตัวเองเลย
- คนไทยทุกๆ 80 คน มีคนติดเชื้อ HIV 1 คน ไม่ใช่น้อยๆต้องช่วยกันควบคุมด้วยการไปตรวจซะ
- อย่าอายที่จะไปตรวจ ตรวจที่ไหนก็ได้ เพื่อตัวเอง เผื่อว่าเป็นจะได้รีบๆดูแลตัวเอง
- อย่ารังเกียจคนติดเชื้อ HIV เอาเวลาไปรังเกียจคนเลวก็พอ
มีอะไรสงสัยถามผมทางนี้ หรือทาง PM ก็ได้นะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะครับ