SS Moment Of The SeaSon
1. Chelsea : Change to Champions
42%
[48]
Vote
2. Tottenham Hotspur : This is my yard
14%
[16]
Vote
3. Manchester City : PL is not Easy
4%
[5]
Vote
4. Liverpool : No Mane no party
8%
[10]
Vote
5. Arsenal : Wenger Out !
13%
[15]
Vote
6. Manchester United : Old trafford The theatre of draw
16%
[18]
Vote
คะแนนทั้งหมด: 112
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 3090
ที่อยู่: fifaonline 3 thailand by player
โพสเมื่อ: Mon May 29, 2017 10:50 pm
[ EPL ] Moment Of The SeaSon
จบลงไปแล้วสำหรับ Premier League ฤดูกาลนี้ แชมป์ได้แก่ เชลซีก็ต้องขอแสดงความดีใจด้วยนะครับ
กับการเข้ามาปีแรกของ อันโตนิโอ คอนเต้และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้เลยเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับโมเมนท์อันยอดแย่หรือยอดเยี่ยมกันแต่ละทีมดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง
แล้วพวกท่านละคิดว่าอันไหนเป็น Moment Of The SeaSon
1. Chelsea : Change to Champions
ต้องยอมรับว่าฤดูกาลนี้เชลซีไม่ได้ถูกมองให้เป็นเต็งในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีค ด้วยซ้ำเพราะว่าพวกเขาพึ่งผ่านการถ่ายเทจากยุคของ น้ามูมาสู่คอนเต้ แรกๆเปิดซีซั่นมา ถือว่าเชลซีทำได้ดี กับชัยชนะ 3 นัดรวด แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเชลซีบุกไปเสมอ สวอนซี2-2 ต่อด้วยเปิดบ้าน แพ้ลิเวอร์พูล 1-2 และไปเยือน อาน่อลแพ้ 3-0 ท่ามกลางข่าวลือมากมายหนาหูกับการปลด คอนเต้ แต่แล้ว การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น คอนเต้เปลี่ยนแผนการเล่น จาก 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 มาเป็น 3-4-3 ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เชลซีเก็บชัย 11 นัดรวด พุ่งขึ้นนำจ่าฝูงตั้งแต่วันนั้นจนวันสุดท้ายของการแข่งขัน ส่งผลให้พวกเขาคว้าแชมป์สมัยที่ 5ไป ครอง นับเป็นโมเมนท์ที่สำคัญอย่าางนึงของเชลซีในฤดูกาลนี้เลย
2. Tottenham Hotspur : This is my yard
ต้องถือว่านี้เป็นอีกฤดูกาลนึงที่เป็นการพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาพร้อมแล้วกับการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีคไม่ใช่แค่ มาปีเดียวแต่มาทุกปี กำลังหลักของพวกเขายังเต็มไปด้วยพลังหนุ่มทั้ง เคน อัลลี่ และอีริคเซน ที่พร้อมจะประสานงานทะลวงตาข่ายทุกทีมในลีค ถึงสเปอร์สจะจบด้วยการเป็นรองแชมป์และมือเปล่าไร้ถ้วยแต่สิ่งที่พวกเขามีโมเม้นท์ที่น่าจดจำมากๆ คือ สถิติการเล่นในบ้านที่ White hart lane ในปีนี้พวกเขาไม่แพ้ใครเลยในลีค ชนะ 17 เสมอ 2 ยิงได้ 47 เสีย 9 เป็นสุดยอดฟอร์มการเล่นในบ้านที่ต้องบอกว่าแข็งแกร่งและยากที่จะหาทีมใดมาเทียบ แต่ก็เป็นที่น่าเศร้าเพราะนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เล่นในสนามแห่งนี้ เราต้องมาคอยดูว่า ฤดูกาลหน้าที่เวมบลีย์ที่สเปอร์สไม่ค่อยถูกฉโลกสักเท่าไหร่ ผลงานในบ้านของพวกเขาจะแข็งแกร่งแบบนี้หรือไม่ แต่ก็ต้องขอชื่นชมว่านี้คือ โมเมนท์ที่สุดยอดอันนึง จนต้องยกประโยคของเทพเรนจ์ให้เลยครับ This is my yard
3. Manchester City : PL is not Easy
ฤดูกาลแรกอขงชายที่ชื่อว่า เป็บ กวาดิโอล่า ชายผุ้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทุกลีคทุกสโมสรที่เขาเคยไปคุม เป็บประเดิมการคุมแมนซิตี้ ด้วยการชนะ 10นัดรวดทั้งในลีคและUCL แต่แล้วจุดเปลี่ยนมันก็เริ่มเกิดขึ้น เป็บให้สัมภาษณ์ว่าก่อนที่เขาจะมาพรีเมียร์ลีคก็มีแต่เสียงบอกว่าที่นี้มันยาก แต่หลังจากเขาได้มาคุมแล้วการขับรถในอังกฤษนั้นยากเสียกว่า อยุ่ดีดีฟอร์มอันร้อนแรงของแมนซิก็หายไปดื้อๆ และเกิดอาการหลังช็อตทั้ง โอตาเมนดี้และสโตนส์ที่พึ่งย้ายมาใหม่ตอนซัมเมอร์เกิดอาการรั่วและขายน้ำมันกันอย่างสนุกสนานและตัวสำคัญ คือ เคลาดิโอ บราโว่ นายด่านจอมหนึบขาวชิลี ที่ เป็บนำมาจากบาร์ซ่าเพราะต้องการประตูที่ใช้เท้าได้ดี แต่ กลับกลายเป็นว่าบราโว่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับลีคและ Reflex ของเขาตกลงไปอย่างชัดเจน แมนซิตี้ก็มีผลงานที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนได้ ยาย่า ตูเร่กลับมาทีมจึงมาผลงาน ทรงตัวอีกครั้ง และบวกกับการได้ เฮซุส บุตรแห่งเป๊บมาเติมเต็มช่วงครึ่งฤดูกาลหลังช่วยกันพาแมนซิจบที่ 3 อาจจะไร้ถ้วยแต่ก็ถือว่าปีนี้เป็นบทเรียนสอนเป็บให้รู้ว่า Pl is not Easy
4. Liverpool : No Mane no party
สุดยอดทีมแชมป์ยุโรป 5สมัยที่ถูกตั้งความหวังจากแฟนบอลไว้ทุกปีว่าเมื่อไรทีมเราจะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีคกับเขาบ้างหลังจากไม่ได้เคยได้แชมป์ดิวิชั่น1 หรือชื่อใหม่พรีเมียร์ลีคมา 27ปี แล้ว แต่ความหวังของเหล่าเดอะค็อปก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากการมาของ เจอร์เกน คล็อป ผู้ปลุกปั้นดอร์ทมุน เบียดแย่งความยิ่งใหญ่กับ บาร์เยิร์น เริ่มฤดูกาลคล็อปจัดการเซ็นผู้เล่นเข้าเสริมทีมหลายคนแต่ 1 ในนั้นคือ ซาดิโอ มาเน่ที่เอามาจากเซาธ์แธมตัน (อีกแล้ว) ค่าตัว 34 ล้านปอนด์ต้องบอกว่าแพงสุดๆ เป็นคำถามให้เหล่าเดอะค็อปคิดขึ้นมาในหัวว่าคุ้มไหม? แต่แล้วฟอร์มของเขากับลิเวอร์พูลก็ตอบคำถามทุกคนว่า คุ้มหรือไม่ มาเน่พาลิเวอร์พูลบินสูงเบียดจ่าฝูงกับแมนซิและเชลซีในตอนนั้น แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มผ่านไปเรื่อย จุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาลมาถึง การมาของ แอฟฟริกัน เนชั่น คัพ ลิเวอร์พูลต้องเสียมาเน่ให้กับ เซเนกัลเพื่อไปรับใช้ชาติทำการแข่งขัน คล็อปไม่คิดว่าการเสียมาเน่ครั้งนี้จะส่งผลต่อทีมมากไม่ได้จัดการซื้อใครไว้เพื่อทดแทน แต่สิ่งที่คิดกับไม่ใช่ ลิเวอร์พูลเจอเหตุการณ์สุดเลวร้ายเมื่อไม่มีมาเน่ 9 นัดที่ขาดมาเน่ทุกรายการลิเวอร์พูลสามารถชนะได้แค่ 1นัด คือการชนะ พลีมัธทีมจาก ลีควัน และทำให้การลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูลต้องเป็นอันถูกพับเก็บไป ดังนั้นผมจึงขอยกโมเม้นท์นี้เป็นโมเมนท์ที่สุดของลิเวอร์พูลเลยทีเดียว
5. Arsenal : Wenger Out !
พยายามคิดอยุ่นานว่าจะหาโมเมนท์อะไรของ ไอ้ปืนใหญ่ดีในฤดูกาลนี้เพราะปีนี้ไอ้ปืนใหญ่ฟอร์มคงเส้นคงวาไม่ดีมากและแย่มากตลอดมักจะมีช่วงดีสลับแย่ทั้งฤดูกาลแต่ถ้าจะเป็น โมเมนท์ใหญ่คงหนีไม่พ้นกระแส Wenger out หากสมุมติคุณเป็นแฟนบอลทีมหนึ่งมักหวังให้ทีมประสบความสำเร็จ นั้นก็คือความต้องการของชาวกันเนอร์ อาเซน่อล ห่างหายจากการเป็นแชมป์ลีคมาแล้ว 13 ปี แม้ระหว่างนั้นทีมจะได้แชมป์ลีคคัพและ เอฟเอคัพอยู่บ้างแต่นั้นก้ยังไม่พอต่อทีมใหญ่อย่างอาเซน่อล ฤดูกาลนี้ ทีมปืนใหญ่ฟอร์มไม่ต่อเนื่องดีบ้างร้ายบ้างสลับไปมาและมีช่วงนึงแย่สุดหลังจาก ตกรอบ ชปล.อีกแล้ว และทำให้ฟอร์มในลีคเป๋ ทำให้ฤดูกาลนี้ น่อลจบที่อันดับ 5 ในพรีเมียร์อดไป ชปล. ครั้งแรกของเวนเกอร์ กับอาเซน่อล จึงทำให้กระแส Wenger out นั้นลุกเป็นไฟแฟนบอลแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายทั้งสนับสนุนเจ๊และเชียร์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแต่แล้ว สววรรค์เหมือนเข้าข้าง เวงเกอร์ อาเซน่อลสามารถคว้าแชมป์ FA cup เป็นสมัยที่ 13 มากที่สุดในเกาะอังกฤษ และการสัมภาษณ์หลังๆเหมือนจะมีการต่อสัญญาเวงเกอร์ต้องมาคอยรอชมกันว่า สรุปแล้ว เวงเกอร์จะอยุ่ต่อ แล้วถ้าอยุ่ต่อเราจะได้เห็น Wenger Out อีกหรือไม่
6. Manchester United : Old trafford The theatre of draw
การมาของชายที่ชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ผู้ที่จะมาปลุก ปีศาจที่หลับไหลตัวนี้ให้ตื่นขึ้นอีกครั้งหลังจากไม่ได้ตื่นขึ้นมาเลยหลังจากการจากไปของ ท่านเซอร์ เฟอร์กี้ มูริญโย่จัดการเสริมทัพแบบสั่นสะเทือนทั้งลีคด้วยการเซ็น มคิทายาน นำพระเจ้ามาสู่อังกฤษ อิบราฮิโมวิช และสถิติโลกใหม่ กับ ป็อกบา ผลงานเริ่มต้นแมนยูไปได้สวยแต่ แล้วสิ่งที่ปกติก็เกิดขึ้นแมนยูนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่เล่นเกมส์ในบ้านได้โหดมาตลอด แต่กลับกันฤดูกาลนี้ แมนยูกลับทำผลงานในบ้านได้อย่างยอดแย่ ด้วยการชนะ 8 เสมอ 10 และแพ้ 1 เสมอถึง 10 นั้นและครับ เสมอ เสมอ และก็เสมอ ทำให้อันดับในลีคของแมนยู จบที่อันดับ 6 แต่ก็ไม่กระทบกับพวกเขาเท่าไร เพราะการแข่งขันที่จำนวนนัดจะมากกว่า 60 นัดต่อฤดูกาลแต่พวกเขาสามารถ คว้าแชมป์ลีคคัพและยูโรป้าลีค คว้าโควต้าไปลุย UCL อีก 1 ทีมและสถาปนาทีมตัวเองเป็นทีมที่ประความสำเร็จบนเกาะอังกฤษมากที่สุด
แล้วเพื่อนๆคิดว่าโมเมนท์ไหนที่ผมกล่าวมา คือ Moment Of The Season
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 18926
ที่อยู่: BNK48
โพสเมื่อ: Mon May 29, 2017 10:52 pm
[RE: [ EPL ] SS Moment Of The SeaSon]
กด 5 ไป
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 4371
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 29, 2017 11:00 pm
[RE: [ EPL ] SS Moment Of The SeaSon]
#save เจ้
เป็นปีที่น่อล ไม่ได้ไป ucl ครั้งเเรกเลย
ตอนดูสดนัดไหนไม่รู้ มีเครื่องบินมาโชวป้าย wenger out
เเล้วตัดไปที่หน้าเวนเกอร์ หน้าเเกเครียดๆเห็นเเล้วสงสารเลย
เข้าร่วม: 25 Apr 2006
ตอบ: 1516
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 29, 2017 11:03 pm
[RE: [ EPL ] SS Moment Of The SeaSon]
The theatre of draw
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 472
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 29, 2017 11:05 pm
[RE: [ EPL ] SS Moment Of The SeaSon]
Wenger Out ! สิ ระบาดไปทั่วโลกเลยนะ!!!
เข้าร่วม: 09 Oct 2009
ตอบ: 5207
ที่อยู่: C h i a n g M a i
โพสเมื่อ: Mon May 29, 2017 11:24 pm
[RE: [ EPL ] Moment Of The SeaSon]
โมเม้นก็ควรให้แชมป์ไปครับ ปีนี้ไม่ได้มีโมเม้นขนาดนั้นอะผมว่าอย่างเชลซีพอตั้งหลักได้ก็นำยาวๆ
ผมนึกถึงโมเม้นปีกุนยิงนาทีสุดท้าย ปีเจิดลื่นไรงี้ นั่นแหละเรียกว่าโมเม้นจริงๆ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 2608
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Tue May 30, 2017 10:58 am
[RE: [ EPL ] Moment Of The SeaSon]
5 The theatre of draw