เกรดเฉลี่ย 3.85 ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ สู้ เกรดเฉลี่ย 3.00 ของ ม.รัฐดังๆ ได้ไหมครับ

จากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/31939178


พวกท่านคิดเห็นกันอย่างไรครับ

ไม่ได้

ไม่ได้

ม รัฐดังๆ ได้ 3 ขึ้นนี่ถือว่าใช้ได้นะครับ

เก่งหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าอ่านหนังสือก่อนสอบแค่ 2-3 วัน ไม่มีทางจะได้เกรดถึง 3.00 แน่นอน

บางที่มองแต่ชื่อสถาบันก่อนละครับ เกรดมาทีหลัง

ม.รัฐ เกรด 3 ก็เทพแล้ว


แต่ไม่เสมอไป เพราะผมเคยเจอนักเรียน ราชภัฎ 3.99


ถามอะไรตอบได้หมดทุกอย่าง
อะไรไม่รู้บอกขอเวลาแล้วก็กลับมาตอบได้
เป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะเสมอ
แต่เป็นคนที่อารมรุนแรง

คิดว่า avatar จขม คือใครครับ

ตาม top เม้นเลย - -

ดังขนาดไหนอะ cu tu ku ไรพวกนี้ ราชภัฎคงต้องเฉียด 4 อะ ถึงจะพอสู้ได้ ในสายตาฝ่ายบุคคล คิดว่านะ

พูดไปจะกลายเป็นว่าดูถูก

โลกแห่งความแห่งความเป็นจริงไม่ได้ครับ

แค่เห็นใน resume เค้าก็ไม่พิจารณาต่อแล้วครับ

นอกจากจะเทียบเกรดแล้ว ช่วยเลิกตรรกะเหมารวมพวกจบ ม.ดัง แล้วเป็นพวกลูกคุณหนู ทำงานไม่เป็นเถอะนะ กว่าจะได้เรียน กว่าจะเรียนจบ ลุยมาเยอะเหมือนกันโว้ยยยย

ผมว่าหลักสูตรไม่ต่างกันมากหรอก แต่การแข่งขันห่างกันเยอะ
อย่างจุฬา เข้าไปได้ก็หัวกะทิของประเทศแล้ว ยังต้องไปเหยียบกันเองอีก พวก 2 กว่าๆจุฬายังโหดกว่า 4 ราชภัฏอีกมั้ง

ปล เท่าที่เจอมานะ ยังไม่เคยเจอ 4 ราชภัฏ เจอราวๆ 3.5-3.8

edit นิดนึง
คนจบจุฬาก็มีจุดด้อยเป็นของตัวเอง
คนจบราชภัฏยอมทำงานที่พวกจบจุฬาแค่เห็นก็ทำหน้าเบ๊
หนักเอาเบาสู้ จนได้ดิบได้ดีก็เยอะแยะ
มหาลัยมันไม่ได้ตัดสินทุกอย่างหรอก

คำว่าสู้คืออะไรครับ ถ้าในแง่สมัครงาน ผมว่าเขาเรียกสัมภาษณ์แน่

แต่ ตอนสัมภาษณ์นี่แหละ จะพิสูจน์ว่า คุณน่ะสู้เขาได้มั้ย
ไม่ใช่ตอบเงอะงะ ไม่มั่นใจ ถามไรก็ตอบ เซ่อๆซ่า

พอนึกออกมั้ย การสัมภาษณ์ งาน คือ ของจริง แล้วอย่าไปโทษ สถาบันนะ

แต่ถ้าแง่ การโดนมองจากสังคม ตอบได้เลยว่า สู้ไม่ได้ เพราะเขาเข้ายากครับ ม.นี้ แต่ ได้ถึงเกรด 3 .00 ก็นับว่าเก่งมาก

แฟนเก่าหรอ

ไม่ได้ครับ คหสต และที่จะมาบอกว่าทำงานเป็นกว่าก็ไม่ใช่อีกเหมือนกัน

ไม่ใข่

เคยเห็นใบรับสมัครงานบ้างที่เขาจะเเยกเกรดไว้นะครับ เเบบ ของรัฐ2.5 ม.อื่นๆ3.25งี้ เคยเห็นมาบ้าง เเต่สมัยผมม.ปลายมีเพื่อนคนหนึ่งเรียนเก่งมากๆ เเต่มันกลับเลือกเรียนราชภัฏแถวบ้านเลย คือมันเเนวเเน่ตั้งเเต่ม.5เลยนะ แต่พอไปเรียนมันก็ระดับหัวเเถวของที่นั้นเลยละ ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เหตุผลของมันเลย แต่มันก็ได้บรรจุก่อนใครในรุ่นเลย ทุกวันนี้ได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศเเล้ว กลับกันผมเรียนม.รัฐจบออกมาเกรดกลางๆยังช่วยที่บ้านทำงานอยู่เลย คนเก่งจริงอยู่ที่ไหนมันก็เก่งนะผมว่า ยิ่งเก่งบวกขยัน บุคลิกดียิ่งไปได้ไกล

ผมว่าความเข้มข้นก็ต่างกันนะ ตอนเรียนผมเคยให้เพื่อนเรียนฬ เกรด2ปลายๆ มาติวให้ คือเค้ารู้ทุกอย่างทำได้ทุกข้อของม.ผมเลย ทั้งๆที่ม.ผมเองวิชานั้นก็หลักสูตรโหดระดับต้นๆเหมือนกัน

บางวิชาที่มีวิธีการหาคำตอบซัก 10 แบบ ม.ผมเรียนไป 4-5 แบบ แต่ของเค้าเรียนครบ 10 แบบเลย

เวลา 1 เทอมเท่ากัน คิดดูว่าเนื้อหาจะอัดแน่นกันขนาดไหน

อาจารย์ที่สอนHRตอนป.โทผม แกสอนอยู่ม.อันดับต้นๆของประเทศแล้วรับงานconsultด้วย

แกบอกว่าเวลาHRบริษัทใหญ่ๆจะเลือกรับคนเข้าทำงานจะแยกกองresumeตามมหาลัยที่จบ ม.x-y-zกอง1 ม.a-b-c กอง2 ม.ฯลฯกอง3

แค่นี้ก็คงพอจะตอบได้หลายๆอย่างแล้ว

ใช่ครับ ความเข้มข้นต่างกัน
คนสอนจุฬาจบนอกทั้งนั้น มีอะไรใหม่ๆมาใส่ให้เยอะ
ม. ผมมี คนจบนอก เด็กลูกหม้อ และคนจบใน ผมว่าห่างกันเยอะ

edit แก้คำผิด

อาจารย์ผมบอกว่า ถ้ามาทางวิชาการ เกียรตินิยมสำคัญ แต่ถ้ามาทางวิชาชีพเอามาทำขี้เกลืออะไร

ไม่รู้แล้วแต่คนจริงๆ เกรด เป็นเพียงเริ่มต้น ไปอีกขั้นเท่านั้น แต่อย่างว่าแหละ


บางที่ดู resume เค้าก็ต้องเลือก ชื่อเสียงมาก่อน

เพื่อนผมเกรด 2.5 แต่เทพสัส คือมันเก่งในด้านนั้นจริงๆอายุ27เงินเดือนจะแสนแล้ว
พวกเกรด 3.9 ยังสู้ไม่ไหว
ปล. ม.รัฐ

ผมทำประจำครับ ถึง3นะ
อาจจะเพราะสาขาวิชาด้วยที่เน้นอ่านท่องจำ ไม่มีต้องฝึกคิดคำนวน

HR บางบริษัทเขาเลือกดู มหาลัยที่จบก่อนนะ มหาลัยไม่ตรงเขาก็เอาproposalทิ้งลงถังขยะละไม่ได้ดูเกรดด้วยซ่ำ

สมัครงานบริษัทใหญ่ๆบางบริษัท เขาแยก Resume เป็นกองๆ ก่อนส่งให้ผู้บริหาร/หัวหน้างานสัมภาษณ์
1.จบม.รัฐดังๆ เกรดเฉลี่ยสูงๆ เกียรตินิยม อยู่กองนึง (พวกนี้ ส่วนมากพรมแดงมารอที่หน้าบ้านละ)
2.ม.รัฐเกรด 3 กว่าๆ อยู่อีกกองนึง
3.ม.เอกชน เกรดเฉลี่ยๆสูงๆ เกียรตินิยม อยู่อีกกองนึง(พวกนี้ขึ้นอยู่ด้วยว่าเอกชนไหน ถ้าดีๆหน่อย เช่น ABAC <<<ส่วนมากจะได้ภาษาอังกฤษ แล้วมีประวัติร่วมแข่งขัน project นั้นนี้เยอะๆ อาจจะดีกว่า ม.รัฐเกรด 3 ทั่วๆไป)
แล้วก็ไล่ไปเรื่อยๆ พวก 2 ต้นๆ ม.เอกชนนี่ นู่นเลยรอม้านั่งสำรอง โลกความจริงมันแบบนี้แล

ถ้าถามว่าทำไมคุณภาพแตกต่างกัน เอาง่ายๆ แค่เข้าไปมหาลัยดังๆ คณะดีๆได้ ส่วนมาก ให้เกเรแค่ไหน แต่บรรยากาศ คนรอบข้างมันจะกดดันเราให้ตั้งใจเรียนเองครับ ไม่มากก็น้อย ต่อให้โดดเรียนแมร่งทั้งเทอม (เข้าไปวันแรก กับวันสุดท้ายก่อนสอบ) อย่างน้อยๆ ใกล้สอบมันก็จะขวนขวายหาเพื่อนติวให้ ไม่ใช่ทิ้งไปเลย ไม่ไปสอบไรเงี้ยผมว่า

ส่วนเรื่องการทำงาน ความขยัน ทัศนคติ ประสบการณ์ อีกเรื่องนะ อันนั้นต้องทำงานไปสัก 2-3 ปีละ คงจะเริ่มเห็น คนเก่งๆ ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็นก็มีให้เห็นถมไป

ก็ไม่เสมอไป แต่ถ้าพูดถึงทางสัคมก็คงต้องตอบว่า ไม่ได้
ผมเองก็คนนึงที่จบเอกชน สมัครยังพอโอเคเพราะสาขาผมค่อนข้างมีงานอยู่
แต่ต่อโทนี่ชัดเลยว่าโดนดูถูกและให้ค่าน้อยกว่ามอรัฐชัดเจน
จนตอนนี้คิดว่าจะไม่ต่อและ ไปเป็นสจ๊วตดีกว่า 66666

สมัยนี้ผมมีน้องเรียนวิศวะจุฬา (ผมจบจากที่นี่เหมือนกัน)

มีเพื่อนของเขาซิ่วมาจากวิศวะมหิดล เกรด 3.8 มาเรียนวิศวะจุฬาเหลือ 2.7 บางที ม.รัฐ ระดับก็ต่างกันอีกขั้นแล้วครับ (จริงๆนะ)

อย่าหาว่าอย่างนู๊นอย่างนี้ครับ ผมคิดว่าถ้าเอาทางสอบหรือทฤษฏีของวิศวะ จุฬาล้ำหน้าไปไกล มหาลัยอื่นมากๆครับ สมัยผมเรียนก็มีเพื่อนอยู่เกษตรมาถามข้อสอบของเขา ซึ่งผมมองว่ามันง่ายมากๆครับ

ส่วนเรื่องปฏิบัติ ยังด้อยกว่าบางมหาลัยครับ แต่คนที่เก่งด้านปฏิบัติก็มี แต่น้อยครับ

แล้วผมคิดว่าสายงานวิศวกรรมส่วนใหญ่เขาอยากได้แบบช่างครับ (เก่งปฏิบัติ) ถ้าจบมหาลัยไม่ดัง แต่มีประวัติเก่งนั่นนี่ ผมว่าสู้ได้ครับ

ไม่ได้หรอกครับ

ถ้าเอาส่วนใหญ่ล่ะนะ

แต่มันก็มีคนที่เก่งจริงๆก็มีครับ

มหาลัยเข้ายาก = มีการคัดเลือกคุณภาพผู้มาเรียน = สภาพแวดล้อมคนที่เรียนด้วยกันมีแต่คนที่มีความรู้จริงๆ

ทำให้ชั้นเรียนมีการแข่งขันสูง เพราะงั้นหากทำเกรดได้สูงในมหาลัยที่มีคุณภาพ ก็ไม่แปลกที่จะเครดิตดีกว่า
หลักสูตรแน่นกว่า แต่คุณภาพอาจารย์ให้ใกล้เคียงกัน เพราะส่วนมากอาจารย์มหาลัยสอนหลายที่อยู่แล้ว

สุดท้ายขึ้นอยู่กับชนิดงาน เช่น สายงานผมคือ ออกแบบ
ไม่มีใครมาสนว่าจบมาจากไหนหรือวุฒิการศึกษาอะไร วัดกันที่Portfolio

น้องที่ภาคผม ม.รัฐแถว แยกเกษตร ช่วยกันติวรุมกันให้ผ่านโปร สุดท้ายไม่ไหวโดนไทร์
ย้ายไปเรียน ม.เอกชน แยกบางบัว ได้เกรียตินิยม อันดับ 1

ทุกคนงง ตาแตก

แล้วแต่คน

ถ้าในแง่ของการสมัครงาน ไม่มีทางและไม่มีวันสู้ได้ครับ ในแง่ของมุมมองผู้ว่าจ้างต่อผู้สมัครนะ

สำหรับผม เกรดคือส่วนหนึ่ง

แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ ต้องให้ทดลองงานก่อน ถึงจะประเมินคนคนนั้นได้ ไม่ใช่ดูเกรด หรือ ม ที่จบมา อย่างเดียว

แต่ hr ทั่วไป ก็มักจัดูแต่เกรดกับ ม ที่จบมาล่ะนะ

โทษนะครับ ขอถามหน่อยครับ จุฬาเด็กกับอาจารย์ก็เก่ง เครื่องไม้เครื่องมือก็น่าจะพร้อม คอนเน็คชั่นก็น่าจะเยอะ แล้วทำไมเด็กถึงไม่เก่งปฏิบัติอะครับ

ในสายตาคนนอกอย่างผมคิดว่าเด็กฬส่วนใหญ่เก่งทุกด้านจริงๆนะ

ให้ทดลองงานก่อนไม่ได้ทุกครั้งหรอกครับ ใบสมัครมาที 40-50 คน
แต่มีว่า 2 ตำแหน่งเงี้ย จะให้มาทดลองได้ไงหมดล่ะครับ ถ้าไม่มี
ประสบการณ์ ตัว ม กับ เกรด ก็ต้องเอามาคิดก่อนแล้ว แล้วนี่
มีดูทรานสคริปกิจกรรมด้วย ยิ่งเกรดเยอะ ชม กิจกรรมเยอะ ยิ่ง
ได้โอกาสก่อน

ผมหมายถึง ถ้าจะบอกว่าคนนั้นๆจะทำงานดีหรือไม่ดี ก็ต้องดูว่าทำงานเป็นไงด้วย หรือดูว่าผ่านโปรมั้ยนั่นแหละ

เพราะมันการันตีไม่ได้หรอกว่าเกรดดี แล้วจะทำงานดี บางคนอาจเข้ามาแล้วเกี่ยงงาน ขี้นินทา เห็นแก่ตัว ก็อาจเป็นไปได้

ผมถึงบอกว่าควรทดลองงาน "ก่อนตัดสิน" ว่า คนเกรดดีมาก จาก ม ไม่ดัง กับคนเกรอปานกลาง จาก ม ดัง คนไหนดีกว่ากัน ตามคำถามหัวกระทู้

ส่วน hr ก็ถูกแล้วที่ดูเกรดดู ม ดูข้อมูลเบื้องต้น พอเข้ามาแล้ว ก็ควร "ทดลองงาน" ว่าทำงานจริงเป็นไง ก่อนที่จะตัดสิน ทดลองงานที่ผมว่าไม่ใช่ทุกคนที่สมัคร แต่คือคนที่เข้ามาแล้วน่ะแหละ

จบบริบูรณ์

ผมว่าต้องมานิยามก่อนว่าคำว่า ปฏิบัติ คืออะไร ถ้าเป็นพวกงานช่าง จุฬาก็อาจจะสู้ที่อื่นนไม่ได้ (ผมจบจากทีนี้) เพราะมีช็อปให้เข้าน้อยมาก ยิ่งถ้าเป็นภาค inter ด้วยแล้วแทบจะไม่มีเลย แต่ถ้าการปฏิบัติคือการใช้อุโมงค์ลม ใช้เครื่องมือ laser ออกแบบสิ่งต่างๆ จากคอมพิวเตอร์ อันนั้นผมว่าจุฬาทำได้สบาย

ขอบคุณครับ ผมนึกว่าที่จุฬาจะมีชอปเกินพอซะอีก

จะแรงไปมั้ยถ้าจะบอกว่า

ม. ดัง เกรด 3.00 มีคุณภาพมากกว่า (ในแง่วิชาการนะ)

ที่ผมรู้เพราะ มีเพื่อนอยู่บางมดครับ แล้วพวกนี้เหมือน คนมาเข้ามันเป็นสายช่างอยู่แล้ว ดังนั้นจะเก่งเรื่องพวกนี้มากกว่าครับ

แต่เด็กจุฬา ผมว่าเก่งทุกคนครับ เพราะฉะนั้นจะเรียนรู้อะไร ไม่ยากหรอก ที่ผมพูดมันอาจจะแค่ช่วงเริ่มๆของการทำงาน

ปล.ทำปฏิบัติไม่ค่อยเป็นจริงๆนะครับ จนมาลองทำงาน เพราะตอนอยู่ที่มหาลัย ปฏิบัติน้อยครับ