เริ่มแล้ว! กองทัพทยอยร่อนหมายเรียก "พลสำรอง" เข้าฝึกวิชาทหาร ก.แรงงานย้ำ "นายจ้าง" ปฏิบัติตามกฎหมาย อนุญาต "ลูกจ้าง" ใช้สิทธิลารับราชการทหารแต่ได้รับค่าจ้างตามเดิม หลังฝึกต้องได้กลับเข้าทำงานตำแหน่งเดิม อัตราค่าจ้างเท่าเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่กระทรวงกลาโหมจะทยอยเรียกกำลังพลสำรอง ตาม พ.ร.บ.กำลังพลสำรอง 2558 โดยเป็นกำลังพลสำรองที่มีระบุในบัญชีของหน่วยงานที่มีสถานะเป็นนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน หรือ รด. ปี 5 และ รด. ปี 3 และทหารที่ปลดกองประจำการแล้ว หรือบุคคลที่จับได้ใบดำและจะต้องมีอายุไม่เกิน 45 ปี โดยคิดเป็นร้อยละ1-2 หรือ ประมาน 7 หมื่นคน เฉลี่ยแล้วฝึกไม่เกิน 10 วัน และจะได้รับสิทธิเบี้ยเลี้ยงด้วยนั้น ขณะนี้เริ่มมีการทยอยส่งหมายเรียกพลไปยังกำลังพลสำรองตามที่ระบุในบัญชี

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่เข้าทำงานอาจจำเป็นต้องลางาน เนื่องจากหากไม่ไปรายงานตัว หรือไปไม่ทันตามวัน เวลาที่กำหนดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย โดยผู้ถูกเรียกจะต้องนำหมายเรียกพลส่งให้เจ้าหน้าที่ สำหรับผู้ที่เรียน รด.เป็นทหารกองหนุน จะต้องนำสมุดประจำตัวทหารกองหนุนติดตัวไปด้วย

วันนี้ (17 พ.ค.) พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ทำการเรียกทหารกองหนุนเข้ารับการเรียกพลเพื่อตรวจสอบและฝึกวิชาทหาร ระหว่าง มี.ค. - ก.ค. 2560 กระทรวงแรงงานจึงออกประกาศขอความร่วมมือนายจ้างปฏิบัติตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 โดยนายจ้างที่มีลูกจ้างซึ่งเป็นทหารกองหนุนทำงานอยู่และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 35 และมาตรา 58 ในส่วนที่เกี่ยวกับการลาเพื่อรับราชการทหารในการเรียกพล เพื่อการตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อมตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร และในการจ่ายค่าจ้างในวันที่ลาด้วย

นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า เมื่อลูกจ้างได้รับคำสั่งเรียกพล (ตพ.17) หรือหมายเรียกพล (ตพ.13) เพื่อตรวจสอบและฝึกวิชาทหาร ประจำปี 2560 ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ให้ลูกจ้างนำคำสั่งหรือหมายเรียกดังกล่าวแสดงต่อนายจ้าง พร้อมขออนุญาตลาหยุดงาน โดยนายจ้างต้องอนุญาตให้ลูกจ้างลาเพื่อรับราชการทหารในการเรียกพลครั้งนี้ ตามกำหนดเวลาและสถานที่ที่ปรากฏในคำสั่งหรือหมายเรียกพล เมื่อครบระยะเวลาการฝึกแล้ว ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองนำเอกสารขอความร่วมมือในการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้าง (ตพ. 22) ไปแสดงต่อนายจ้างเพื่อขอรับค่าจ้าง โดยให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาเพื่อรับราชการทหารเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปีหนึ่งต้องไม่เกินหกสิบวัน พร้อมทั้งรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างเดิม ทั้งนี้ การเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหารในกรณีนี้ ไม่รวมถึงการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (เกณฑ์ทหาร)


http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9600000050027

ของทบ.ไม่กี่วัน

ทำไมของทร. เกือบเดือนนึงเลยอะ

เห้อ

อีก 5 นาทีรวม จับคนช้าหนึ่งนาย

เรียกผมไปทีอยากลางาน

อ้าว .. ขาดงานไป 10 วันนี่ นายจ้างจ่ายฟรีเหรอ

คิดซะว่าไปออกกำลังกาย

ยังมองไม่เห็นประโยชน์ของการเรียกคนที่จบมาแล้วกลับไปฝึกเลย

แน่จริงมึงเรียกพวกนายพล พวกยศใหญ่ๆกลับมาฝึกด้วยกันด้วยนะ ถ้ามากันพร้อมเพรียงค่อยมาเรียกพลเรือนไปฝึก

สนใจแต่ธุรกิจของกองทัพนะท่าน...

ว่าแต่ทำไมประเทศเรามันบิ๊กเยอะจังวะ !!!

งานนี้ลดหย่อนภาษีให้บริษัทเอาสินะ

ปัญญาอ่อนมาก เรียกทำไม บางคนเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว หาเช้ากินค่ำบางคนเป็นพ่อเลี้ยงลูกคนเดียว มันไม่ใช่เด้กๆที่ภาระไม่เยอะ เรียกไปแล้วลูกๆเขาทำไง แล้วไอ้พวกช่างซ่อมที่ครอบครัวเขาใช้ฝีมือพ่อเป็นหลักถ้าเรียกไป10วันนี้ เอารายใด้จากใหนใครมาจ่ายค่าจ้างให้ถ้าไม่ใด้เป็นลูกจ้าง

มันเอาอะไรคิดวะ

นี่ถ้าทั้งปีทำงาน 4 วันจะไปไม่เกี่ยงเลย

ไม่เข้าใจสุดๆ เหตุผลคือแทบไม่มีเลย เพราะปัจจุบัน จำนวนที่เรียกไปเกณฑ์ทหารในแต่ละกองร้อยก็มีมากกว่าที่ต้องการแล้ว และทำไมยังจะต้องเรียกมาไปอีก อย่าง10วันนี่ถามจริงว่ามันจะฝึกอะไรได้ ไอคนที่ทำงานบริษัทไม่โดนผลกระทบก็จริง แต่คนที่เป็นเจ้าของกิจการ,ฟรีแลนซ์, ทำธุรกิจส่วนตัวนี่สิ เรียกไป2อาทิตย์ก็แย่แล้ว

สีหน้าของนายจ้าง...

ก็เรียกกันทุกปีไม่ใช่หรอ หรือผมพลาดอะไรไป ปีที่แล้วเพื่อนผมก็โดน

อยู่ต่างประเทศทำไงอะ

คราวนี้ คนจับใบดำก็โดนด้วย

ควรเลิกได้แล้วนะครับที่ให้พวกหลังเขามานำหน้าเนี่ย เพราะพวกนี้คิดแต่แบบไดโนเสาร์ทำอะไรไม่คิดให้รอบด้าน

- ถ้าคนที่โดนเรียกไม่ใช่ลูกจ้างแต่มีอาชีพของตัวเองที่ถ้าไม่ทำคือไม่มีรายได้ รายได้หายไปสิบวันนี่ทำไมเค้าต้องมาเสียครับ?

- แล้วทำไมภาคธุรกิจต้องมาเสียค่าใช้จ่าย 10 วันให้กับเรื่องไร้สาระแบบนี้ครับ??

ปญอ

แน่จริง เมิงเรียก ลูก นาย พลทั้งหลายไปด้วยดิ

เตรียมไปรบกับใครเหรอครับ

เรียกเราด้วยสิ

อยากเปลี่ยนที่นอน

เรียกให้หมดเลยครับ

ไอ้คนทำงานบริษัท นายจ้างจ่ายไง รับเงินเท่าเดิม

แล้วคนที่ทำงานฟรีแลนซ์อ่ะ เปิดกิจการตัวเองอ่ะ ใครจ่ายให้เค้า ถึงจะมีเบี้ยเลี้ยงให้มันจะซักกี่บาทกัน เลี้ยงดูครอบครัวเค้าได้ป่าว

แล้วเค้าจะส่งหมายเรียกไปตามที่อยู่ไหนครับ ย้ายที่อยู่บ่อย

จะได้ทำเรื่องของบเพิ่มสินะ

โง่เง่าเต่าตุ่น

เปลืองงบฉิบหาย การเรียกกำลังพลสำรอง นั่นเค้าไว้เวลามีศึกสงคราม แต่โลกสมัยนี้ไม่มีแล้ว
เรียกเค้ามาฝึก สูญเสียค่าใช้จ่าย เสียเวลา แถมยังใช้อำนาจไปเบียดบัง บริษัทผู้ว่าจ้างอีก
บริษัทเค้าก็ต้องการคนทำงาน เค้าเสียหายแล้วยังต้องจ่ายค่าแรงอีก เรียกไปฝึกพอจบการฝึกทีนี่ ก็ไม่ได้เรียกอีกแล้ว เพราะนานๆเข้าอายุเกิน ผมบอกเลยไม่ได้อะไร

แหมทำไมต้องมีการเรียกฝึกก็รู้อยู่แล้วว่าเพราะทำไม หึหึ

ปล.พี่เอาทุกทางเลยนะ เอาซะตูหลอนนึกว่าอยู่ท่ามกลางเกาหลี 2 ประเทศ

ยิ่งอายุมากขึ้น ความรู้สึกอยากอยู่ประเทศนี้ยิ่งน้อยลง

ไร้สาระมากจริงๆ มาให้ฝึกเอาป่านนี้มีเป็นลมตายกันเป็นร้อยแน่ๆ

ผมทำฟรีแลนซ์ ใครจะจ่ายให้ผมเนี่ย ส่งงานช้าลูกค้าแม่งด่าอีก

อยากจะเรียนถามว่าตอนที่ท่านไปสมัครเรียน รด. มีใครบังคับให้ไปสมัครเรียนกันหรือไม่ แล้วสาเหตุที่สมัครไปเรียนเพื่ออะไร แล้วคำย่อ นศท.(นักศึกษาวิชาทหาร) สื่อถึงอะไร ????

พวกทหารนี่ก็แปลก อยู่ดีๆหาเรื่องอยากโดนด่าซะงั้น 5555

คอร์รัปชั่นงบประมาณได้อีกเยอะ

เพื่อนผมโดนเรียกไปวันเดียวกับมีสอบจบรอบที่4 สอบจบเหมือนจะได้6รอบถ้าอยากจบพร้อมเพื่อนแล้วมันเรียนไมเก่งด้วยโอกาสหายไปรอบนึง

คนส่วนใหญ่สนใจแค่ เรียนจบไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารแค่นั้นแหละ

ถามคำเดียว กำลังจะรบกับใครเหรอ

เราจะทำตามสัญญา ถุ้ยยยย

จะเรียกทำไมวะ คนทำมาหากิน กำลังพลไม่พอมึงก็เพิ่มอัตรารับทหารเกณฑ์ดิวะ เรียกงี้ต้องใช้งบอีกเท่าไหร่ ค่าชุด+อุปกรณ์ทั่วไป+เบี้ยเลี้ยง เปิดช่องให้พวกแม่งอีก สบายเลย

ถ้าผมเป็นนายจ้างบริษัทใหญ่ๆผมจะลดจำนวนพนักงานชายลง เรื่องอะไรต้องมาปวดหัวกับเรื่องโง่ๆแบบนี้ด้วย

อ่านดูมีแต่คนไม่เห็นด้วยที่ให้ไปทบทวนการฝึก

ถ้าเกิดมีสถานการณ์ขึ้นมา เรียกกองหนุนไปรบแล้วรบไม่เป็น ใครจะปกป้องประเทศเรานะ

ผมว่าทุกคนน่าจะรู้อยู่เต็มอกนะ เหตุผลที่เค้าจัดโปรเจคนี้ขึ้นมา เขาได้อะไร

เอาให้เละไปเลยครับท่าน ชอบๆ รัฐบาลคิดได้แต่อะไรแบบนี้ 5555

ถ้ารบกันจริงฝึกสิบวันไม่พอหรอก น้อยไป แล้วเวลารบกันจริง หน่วยข่าวกรองรู้ก่อนนั้นแล้วแน่ๆ ก่อนสิบวันแน่ๆ ทหารประจำการเราก็ไม่ใช่น้อยๆ ประเทศเพื่อนบ้านใครมันจะบุกเรา เทียบกำลังพลสู้เราไม่ได้หรอก การจะเคลื่อนพลบุกมันใช้เวลานาน คนมากขนาด หน่วยข่าวกรองไม่รู้ก็ควรยุบทิ้งซะ
ไม่ต้องเอากรณีเฟิลฮาเบอร์มาเทียบนะ มันคนละเรื่อง คนเป็นล้านก็เอาเครื่องบินไม่อยู่ การบุกสายฟ้าแล่บอยาก ถ้าจะบอกว่าฝึกสิบวันก็รบได้ เชื่อเถอะ สงครามจริง ฝึกสิบวันไม่พอ เอางบพวกนี้ไปฝึกทหารประจำให้เก่งๆ ทุกหน่วยพอ ไม่ใช่สร้างภาพฝึก แบกเป้ถ่ายรูป ลงรายงานปลอมขอแดกเบี้ยเลี้ยงไปวันๆ

เห็นมีนักร้องคนนึงตอนโดนใบแดงฟูมฟายเกือบตายแต่พอออกมานี่บอกรักทหารทุกวัน

เขาคงคิดว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลกับทุกคน

เอาไปฝึก ได้ขับเรือดำน้ำเปล่า

เงินทั้งนั้น ที่เรียกมา

ในสมัยโบราณเมื่อมีการชิงอำนาจแย่งแผ่นดินกัน จำต้องรู้ว่าใครจงรักภักดีกับฝ่ายไหน เพื่อกำจัดให้สิ้นซาก ไม่เป็นเสี้ยนหนามอีก

แต่ยุคนี้ น่าจะเป็นเรื่องการเมือง มากกว่าต้องการพร้อมรบ เพราะนับจากนี้จนถึงปลายปีหน้า ที่มีเลือกตั้ง ทหารต้องการเอาคนเสื้อแดงมาอบรม นั่นคือ การทำงานด้านจิตวิทยา ซึ่งใช้มาตั้งแต่สมัยปราบคอมมิวนิสต์โน่น

นโยบายนี้ จึงน่าจะมาจากพวกอำมาตย์ ที่กลัวว่าผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการอีกครั้ง เข้าใจตรงกันนะ

อยากเห็นคนดีฝึกทหารจังฮับ พวกที่ชื่นชมเอาเข้ามา

ปล หนี้กุบานเลยมึงมาจ่ายให้ไหมมมมมมมมมมม

สงสารพวกนายจ้างSMEบ้างเถอะครับ

เกิดร่อนมาโดนคนที่เป็นแกนการทำงานนี่ชิบหายเลยนะครับ

คนอ้วนๆเขาเอาป่ะครับ

ทหารกองประจำการ+ทหารเกณฑ์ก็ครึ่งล้านแล้วครับ ถ้าจะมีการเรียกฝึกกำลัสำรองทุกคนทุกปี ปีล่ะหลายวันแบบนี้ก็ยกเลิกทหารเกณฑ์ดีไหม

เอาสักทางครับจะเน้นกำลังพลหรือเน้นอาวุธทันสมัย ไม่งั้นงบกลาโหมได้แตะสามแสนล้านแน่ ประเทศเราไม่ได้รวยถึงขนาดต้องทุ่มงบประมาณให้ทหารขนาดนั้น

เรื่องการรบไม่ต้องกลัว ในประวัติศาสตร์ชาติไทยเราไม่เคบรบจนเสียกำลังรบหลักหมดจนต้องเรียกกำลังสำรอง ยิ่งยุคนี้ถามหน่อยใครมันโ.่รุกรานประเทศสงบๆแบบเรา

ฟายเอ้อ พูดง่ายเนอะ

ไม่ใช่ว่าแค่ลาได้ ได้เงินเท่าเดิม
บางทีตำแหน่งนั้นๆ ไม่มีใครทำแทนได้ ก็เป็นผลเสียนะครับ

ตามนี้เลยครับ ไม่มีอะไรผิดไปจากนี้แน่นอน
เอาจริงๆ นี่เปล่าประโยชน์มาก
เพราะกำลังพลที่อายุเยอะแล้ว + มีเวลาฝึกทบทวนแค่ 10 วัน
ออกไปรบจริงก็แค่เป้าให้เค้าซ้อมยิง

แล้วออกกฎหมายมา พูดถึงแต่พนักงาน ลูกจ้าง ว่ายังได้ค่าจ้างค่าแรง
แต่ไม่เห็นคิดถึงคนประกอบกิจการตัวเอง ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ
จะไปเอาเงินชดเชยรายได้จากไหน

แล้วประเทศที่สถานการณ์รุนแรงถึงขนาดต้องเอาพลสำรองไปออกรบจริงๆ
ต้องแบบพวกอัฟกานิสถาน เยเมน หรือประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางโน่น
ถ้าไม่มีสงครามกลางเมืองจริงๆ ไม่มีประเทศไหนเขาทำกันหรอก
เพราะมันสิ้นเปลืองงบแบบไม่คุ้มค่าเลย

จะมีก็แต่ประเทศโลกที่ 3 ที่ยังมีนักการเมืองหรือเผด็จการทหารโกงกินนี่ละ
ถึงคิดแต่เรื่องแบบนี้ออกมา

นี่โชคดีนะเนี่ย ที่ประเทศเราเป็นประเทศกำลังพัฒนา ไม่ใช่ประเทศโลกที่ 3

แดกเพิ่มนั่นเอง

ผมว่าพวกเขาไม่คิดแบบไดโนเสาร์ แต่พวกเขาฉลาดพอที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่และเพิ่มระด้ับไปเรื่อยๆ โดยที่คนที่โดนถูกกระทำไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้ จำยอมต้องทำไป

แล้วคนที่ค้าขายหละครับ จะเอาเงินเดือนมาจากไหน

ถ้าองค์กรนั้นๆ มี Man power สมดุลกับค่าจ้าง การที่เอาคนออกไป 1 แล้วบริษัทต้องจ่ายค่าแรงแถมเสียคนทำงานไปอีก ถ้าต้องเพิ่มคนมาแทนอีก 1 คน สมดุลเรื่องค่าจ้างก็เสียอีก เหมือนโยนภาระให้บริษัทเลยแบบนี้ แน่จริงถ้าเรียกไปควรมีมาตรการหางานรับรองให้สิทั้งตำแหน่งและอัตราค่าจ้างเดิม ในฐานะ HR ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เเต่ในฐานะพลเรือนก็นะคงจำเป็นต้องไปถ้าถูกเรียก

ประเทศนี้ เฮ้อ