หากเป็นมวยก็คงต้องบอกว่าเป็นการชกได้เข้าเป้า เข้าตากรรมการแบบจะแจ้งสุดๆ สำหรับฟอร์มการเล่นของ
ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าวัยเก๋า แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ระเบิดฟอร์มทั้งยิง ทั้งจ่าย และมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อชัยชนะถล่มทลายของต้นสังกัดเหนือ ศรีสะเกษ เอฟซี ผู้มาเยือนขาดลอย 5-1 ในศึกฟุตบอลไทยลีก 2017 นัดที่ 15 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2560
เกมนี้หากใครได้ชมเกมเชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงไม่ต่างจากผม ที่คงต้องยกนิ้วโป้งให้ ลีซอ ฟอร์มร้อนแรงอีกครั้งของเจ้าตัวแมตช์นี้จริงๆ ซึ่งสำหรับผมรู้สึกยินดีครับที่ ลีซอ กลับมาท็อปฟอร์ม เรียกความมั่นใจได้อีกคำรบ
เนื่องจากที่ผ่านมา ผมค่อนข้างรู้สึกชื่นชมและมองว่า ลีซอ เป็นนักเตะคนหนึ่ง ที่มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และมีไฟเสมอๆ กับโอกาสที่จะได้ถูกส่งลงสนาม
เพราะก่อนเกมนี้หลายคนก็คงทราบว่า แบงค็อกฯ ขาดกองหน้าตัวหลักลงสนามพร้อมกันสองราย ดราแกน บอสโควิช ดาวซัลโว ที่ติดโทษแบน และ มาเชน่า ที่มีอาการบาดเจ็บ
ดังนั้น ปฎิเสธไม่ได้ครับว่า เกมนี้จึงเป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นและสามารถ ฉายแสงฉกฉวยโอกาสนี้ไว้ได้ จนคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ไปครอง จากการมีส่วนรวมการได้ประตู 3 ลูก และจากการซัดเอง1 ประตูด้วยเท้าขวาส่งบอลโค้งเสียบเสาไกลตุงตาข่ายสุดสวย
แม้ว่าที่ผ่านมา ลีซอ จะได้รับโอกาสลงสนาม แต่หากมองตามความเป็นจริงก็น่าจะโดนบดบังรัศมี จากนักเตะต่างชาติทั้ง บอสโควิช , มาเชน่า และแม้กระทั่ง มาริโอ ยูรอฟสกี้ พอสมควร
แต่พอระเบิดฟอร์มแบบนี้ จึงเป็นเรื่องน่าสนใจครับ ว่า
มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชวัย 63 ปี ทีมชาติไทยคนใหม่ ที่เข้ามาชมเกมที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ (รังสิต) รังเหย้า แบงค็อก ยูไนเต็ด ในนัดนี้ เพื่อดูฟอร์มนักเตะไทย นั้นจะคิดอย่างไร เพราะพอลีซอ ยิงได้ หรือมีส่วนกับประตูหรือมีจังหวะลุ้นพังประตู ช่องถ่ายทอดสด มีการตัดภาพไปที่ใบหน้าของ ราเยวัช บ่อยครั้ง
เสมือนๆเป็นคำถามกลายๆแบบโยนหินถามทางว่าสนใจมั๊ยที่จะเรียก ลีซอ ติดทีมชาติ ซึ่งแม้อาจจะเป็นเรื่องเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจ เนื่องจาก ราเยวัช น่าจะยังเดินสายเพื่อขอดูฟอร์มนักเตะไทย ในไทยลีก อีกสักระยะ ก่อนจะมีการเรียกตัวรวมพล
แต่จากฟอร์มนัดนี้ ส่วนตัวผมก็เชื่อว่าชื่อ ลีซอ น่าจะเข้าไปอยู่ในลิสต์ ในใจนักเตะไทยของ ราเยวัช ไม่มากก็น้อย เพราะหากมองในแง่ของเรื่องประสบการณ์ ความมั่นใจ ลีซอ ไม่เป็นสองรองใคร หากจะมีเงื่อนไขก็คงจะเป็นเรื่องของอายุ ที่เข้าสู่วัยเลขสาม
อย่างไรก็ดี หากจะเอาเงื่อนไขของช่วงวัยมาใช้ในการพิจารณาเรียกนักเตะเข้าสู่ทีมชาติไทย ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่แฟร์เท่าไหร่ กับนักเตะคนหนึ่ง หากนักเตะคนนั้นสามารถสร้างผลงานได้ดีในลีก ซึ่งผมคิดว่าจะเหมาะกว่าหากยึดหลักตรงนี้ในการเรียกนักเตะสู่ทีมชาติ
อีกทั้งผมยังมองว่าประสบการณ์ของ ลีซอ ที่ผ่านเกมระดับสูงมานานนั้นยังคงมีประโยชน์ต่อทีมชาติไทย ในเรื่องของจังหวะการเล่น การพักบอล ส่งบอล รวมถึงจังหวะยิงประตูที่น่าจะสร้างความวูบวาบได้ดีในฐานะซูเปอร์ซับ เช่นเดียวกับ ธนา ชะนะบุตร
รวมถึงที่ต่างประเทศ หลายครั้งเราก็ยังเคยได้ยินว่ามีการเรียกนักเตะอายุหลักเลขสามติดทีมชาติ ที่สำคัญจะมองกันจริงๆ ไม่ใช่แค่ฟอร์มนัดนี้เท่านั้นของลีซอ ทีร้อนฉ่า! เพราะในปีนี้ (2017) อดีตกองหน้าทีมชาติไทยจอมเก๋า รายนี้ก็ยิงประตูเป็นว่าเล่นซึ่งหากยังจำกันได้ก็ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล (2017) ในแมตช์เจอ การท่าเรือ ก็เหมายิงคนเดียวถึง 4 ลูก (จบเกม แบงค็อก ชนะ 6-2)
เรียกว่าหากเอาผลงานมาทาบทับกับนักเตะไทย รายอื่นๆ ก็น่าจะสู้ได้สบาย ซึ่งจากฟอร์มซัดกระจายยิง 4 ลูกนี้ ครั้งหนึ่งผมยังเคยถาม โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เมื่อครั้งยังเป็นแม่ทัพช้างศึกว่ามีความคิดสนใจจะดึง ลีซอ เล่นทีมชาติหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็ประมาณว่าพร้อมและยินดีที่จะเรียกติดทีมชาติไทยเช่นกัน
ทว่า พอลมเปลี่ยนทิศ ช้างศึกเปลี่ยนนาย การตัดสินใจสุดท้ายน่าจะอยู่ที่ ราเยวัช และทีมงานเท่านั้น ที่จะตัดสินใจในการพิจารณาเลือกนักเตะทีมชาติไทย ซึ่งหากมองกันตามเนื้อผ้า นักเตะทีมชาติไทย แกนหลักๆก็น่าจะยังเป็นชุดเดิม กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน , ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จากนโยบายที่พร้อมให้โอกาสนักเตะไทยลีกทุกคนของนายใหญ่คนใหม่ทีมชาติไทย เมื่อครั้งแถลงข่าวรับเผือกร้อน ก็เชื่อว่า ราเยวัช จะมีการเรียกนักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพ พอสมควร
ส่วนจะเป็นใคร จะถูกใจหรือไม่ นั้นเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เช่นเดียวกับในรายของ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ที่สำหรับผมมองว่าแม้วัยจะเลขสามแต่ก็ยังมีของ และดีพอน่าจะได้รับโอกาสในการเรียกติดธงคืนสู่ทีมชาติไทยอีกครั้งเช่นกัน หลังจากห่างหายจากแคมป์ช้างศึกไปนาน
ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าหากลีซอ ได้รับโอกาสติดธง คงจะไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ ไม่ต่างจากการลงเล่นให้กับสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เจ้าตัวนั้นเฝ้ารอวันที่จะลงสนาม เพื่อแสดงฝีเท้าอันยอดเยี่ยมให้ได้เห็น.
ยอดี้
เครดิตภาพเพจ Bangkok United FC