ก็อย่างที่เรารู้ๆกันว่าฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรของทวีปต่างๆ จะมีการใช้คะแนนค่าสัมประสิทธิ์
เพื่อใช้เป็นเกณฑ์กำหนดโควต้าของสโมสรแต่ละประเทศ ที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน โดย
แต่ละทวีปก็จะมีหลักเกณฑ์ในการคิดคะแนนที่แตกต่างกันไป ในที่นี้ผมจะพูดถึงเฉพาะ
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชียหรือที่เรียกกันว่าเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ที่มีตัวแทนหนึ่งเดียว
ของเราร่วมการแข่งขัน คือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่กำลังทำผลงานได้ดีอยู่ตอนนี้ เรามาทำ
ความเข้าใจในส่วนนี้ว่า คะแนนค่าสัมประสิทธิ์ของเอเชีย (AFC MA Ranking) มีหลักการ
ในการคิดอย่างไร ถ้าเราอยากจะได้โควต้าสโมสรเพิ่มในอนาคต เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ด้วยความที่ทวีปเอเชียค่อนข้างจะมีขนาดใหญ่ ฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกจึงมีการ
แบ่งโซนการแข่งขันออกเป็น โซนตะวันออกและโซนตะวันตก เพื่อให้ง่ายในการเดินทาง
ผมจะขอพูดเฉพาะโซนตะวันออก เพราะเป็นโซนที่เกี่ยวข้องและมีผลกับเราโดยตรง
เกณฑ์โควต้าโซนตะวันออก
1. 3+1 คือ เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 3 ทีม + เพลย์ออฟ 1 ทีม (คะแนนรวมอันดับ 1,2)
2. 2+2 คือ เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 2 ทีม + เพลย์ออฟ 2 ทีม (คะแนนรวมอันดับ 3)
3. 2+1 คือ เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 2 ทีม + เพลย์ออฟ 1 ทีม (คะแนนรวมอันดับ 4)
4. 1+2 คือ เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 1 ทีม + เพลย์ออฟ 2 ทีม (คะแนนรวมอันดับ 5)
5. 1+1 คือ เข้ารอบแบ่งกลุ่ม 1 ทีม + เพลย์ออฟ 1 ทีม (คะแนนรวมอันดับ 6)
6. 0+1 คือ เพลย์ออฟ 1 ทีม (คะแนนรวมอันดับ 7-12)
การได้โควต้าเท่าไหร่นั้นจะอิงตามคะแนนค่าสัมประสิทธิ์ โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย
นับเฉพาะโซนของตัวเอง ทีมที่คะแนนรวมอันดับ 7-12 ถ้าไม่ผ่านการเพลย์ออฟจะได้ไป
เล่น AFC Cup
เงินรางวัล-สนับสนุน
รอบเพลย์ออฟ
- ค่าเดินทาง 692,600 บาท/นัดเยือน
รอบแบ่งกลุ่ม
- เงินรางวัล ชนะ 1,731,600 บาท เสมอ 346,300 บาท
- ค่าเดินทาง 1,038,900 บาท/นัดเยือน
รอบ 16 ทีม
- เงินรางวัล ชนะ 2,770,500 บาท
- ค่าเดินทาง 1,038,900 บาท/นัดเยือน
รอบ 8 ทีม
- เงินรางวัล ชนะ 4,155,840 บาท
- ค่าเดินทาง 1,038,900 บาท/นัดเยือน
รอบรองฯ
- เงินรางวัล ชนะ 6,926,400 บาท
- ค่าเดินทาง 1,038,900 บาท/นัดเยือน
รอบชิงฯ
- เงินรางวัล ชนะ 103,896,000 บาท แพ้ 51,948,000 บาท
- ค่าเดินทาง 2,077,900 บาท/นัดเยือน
คะแนนค่าสัมประสิทธิ์ของเอเชีย (AFC MA Ranking)
จากภาพจะเห็นว่ามีการแบ่งคิดคะแนนเป็น 2 ส่วน คือ คะแนนทีมชาติกับคะแนนสโมสร
คะแนนทีมชาติ 10% + คะแนนสโมสร 90% จึงจะได้ออกมาเป็นค่าสัมประสิทธิ์ที่แท้จริง
วิธีคิดคะแนนทีมชาติ 10%
คะแนนฟีฟ่า โดยใช้ตัวหาร 10% ของคะแนนสูงสุด จากตารางจะเห็นว่าทีมที่ได้คะแนนฟีฟ่า
สูงสุดก็คือ อิหร่าน 820 คะแนน จะได้ 820/10 = 82 จากนั้นนำค่า 82 ไปหารกับคะแนน
ฟีฟ่าของชาตินั้นๆ ก็จะได้คะแนนที่แท้จริงออกมา
เช่น จากตารางไทยได้คะแนนฟีฟ่า 245 คะแนน จะได้ 245/82 = 2.988
จากตารางออสเตรเลียได้คะแนนฟีฟ่า 661 คะแนน จะได้ 661/82 = 8.061
วิธีคิดคะแนนสโมสร 90%
ใช้ 90 เป็นตัวตั้ง หารด้วยคะแนนสโมสรสะสมจากชาติที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด
ในช่วง 4 ปีหลัง จากตารางจะเห็นว่าชาติที่ได้คะแนนสโมสรสะสมสูงสุดก็คือ ยูเออีฯ
67.433 คะแนน จะได้ 90/67.433 = 1.33465810508 จากนั้นนำค่า 1.33465810508
ไปคูณกับคะแนนสโมสรสะสมของชาตินั้นๆ ก็จะได้คะแนนที่แท้จริงออกมา
เช่น จากตารางไทยได้คะแนนสโมสรสะสม 29.05 คะแนน จะได้
29.050 x 1.33465810508 = 38.772
จากตารางออสเตรเลียได้คะแนนสโมสรสะสม 43.733 คะแนน จะได้
43.733 x 1.33465810508 = 58.369
คะแนนสโมสร
รอบเพลย์ออฟ
- เข้าร่วมการแข่งขัน (ต่อทีม) 0.3 คะแนน
- ชนะ (ไม่นับดวลจุดโทษ) 0.3 คะแนน
- เสมอ 0.15 คะแนน
รอบแบ่งกลุ่ม
- ชนะ 3 คะแนน
- เสมอ 1 คะแนน
หลังจากนั้นเอาคะแนนที่ทำได้ มาหารเฉลี่ยด้วยจำนวนสโมสรของชาตินั้นๆที่เล่นรอบ
แบ่งกลุ่ม ก็จะได้คะแนนสโมสรที่แท้จริงออกมา
เช่น สโมสรญี่ปุ่นเล่นรอบแบ่งกลุ่ม 4 ทีม คะแนนที่ทำได้ทั้งหมดในรอบแบ่งกลุ่ม
คือ 30 คะแนน ก็จะเท่ากับ 30/4 = 7.5 คะแนน
เมืองทองฯเป็นทีมเดียวจากไทยที่เล่นในรอบนี้ คะแนนที่ทำได้ทั้งหมดในรอบแบ่งกลุ่ม
ตอนนี้คือ 11 คะแนน ก็จะเท่ากับ 11/1 = 11 คะแนน
รอบ 16 ทีม
- เข้าร่วมการแข่งขัน (ต่อทีม) 3 คะแนน
- ชนะ 3 คะแนน
- เสมอ 1 คะแนน
รอบ 8 ทีม - รอบชิงฯ
- ชนะ 3 คะแนน
- เสมอ 1 คะแนน
รอบเพลย์ออฟ
- เข้าร่วมการแข่งขัน (ต่อทีม) 0.1 คะแนน
- ชนะ (ไม่นับดวลจุดโทษ) 0.1 คะแนน
- เสมอ 0.05 คะแนน
รอบแบ่งกลุ่ม
- ชนะ 1 คะแนน
- เสมอ 0.5 คะแนน
หลังจากนั้นเอาคะแนนที่ทำได้ มาหารเฉลี่ยด้วยจำนวนสโมสรของชาตินั้นๆที่เล่นรอบ
แบ่งกลุ่ม ก็จะได้คะแนนสโมสรที่แท้จริงออกมา
เช่น สโมสรมาเลเซียเล่นรอบแบ่งกลุ่ม 2 ทีม คะแนนที่ทำได้ทั้งหมดในรอบแบ่งกลุ่ม
คือ 15 คะแนน 15/3 = 5 ก็จะเท่ากับ 5/2 = 2.5 คะแนน
รอบ 16 ทีม
- เข้าร่วมการแข่งขัน (ต่อทีม) 1 คะแนน
- ชนะ 1 คะแนน
- เสมอ 0.5 คะแนน
รอบ 8 ทีม - รอบชิงฯ
- ชนะ 1 คะแนน
- เสมอ 0.5 คะแนน
ในการประเมินโควต้าจากค่าสัมประสิทธิ์นั้น ทางเอเอฟซีจะใช้หลักปีที่ลงท้ายด้วยเลขคี่
พูดง่ายๆก็คือ จะประเมินกัน 2 ปี/ครั้ง เท่ากับว่าในปี 2018 เราจะยังได้โควต้า 1+2 แน่นอน
แต่ในปี 2019 จะมีการประเมินรอบใหม่ โดยจะยึดคะแนนสัมประสิทธิ์จนถึงสิ้นปี 2017
นั่นหมายว่า ในปี 2017 นี้ ถ้าค่าสัมประสิทธิ์เราไม่สามารถแซงออสเตรเลียได้ โควต้าในปี
2019-2020 เราก็ยังได้เท่าเดิมคือ 1+2 แม้ว่าในปี 2018 เราจะสามารถแซงได้ก็ยังไม่มีผล
เราต้องรออีกทีก็คือปี 2021 ที่จะมีการประเมินอีกครั้ง จากตารางถ้าบวกอีก 3 คะแนนที่
เมืองทองฯจะได้แน่ๆจากการเข้ารอบ 16 ทีม ค่าสัมประสิทธิ์เราจะขึ้นไปที่ 44.76 คะแนน
ในกรณีที่ออสเตรเลียไม่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมเลย เราจะตามหลังประมาณ 22 คะแนน
จากรอบ 16 ทีม-รอบชิงฯ จะมี 8 นัด 8x3 = 24 หมายความว่า ถ้าเราจะแซงออสเตรเลีย
ต้องลุ้นให้เมืองทองฯไปถึงตำแหน่งแชมป์และต้องชนะทุกนัด เราจึงจะสามารถแย่ง
เอาโคว้ตา 2+1 มาจากเขาได้ในปี 2019 ในส่วนการคิดคะแนนค่าสัมประสิทธิ์ตั้งปี 2018
เป็นต้นไป จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยจะใช้คะแนนจากผลงานสโมสรคิดเป็น 100%
ล้วนๆ ไม่มีคะแนนทีมชาติมาเกี่ยวข้องอีกแล้ว เท่ากับว่าถ้าเราอยากจะได้โควต้าเพิ่ม
ในอนาคตปี 2018-2020 สโมสรเราต้องทำผลงานในรายการนี้ให้ดีเพราะจะไม่มีคะแนน
ทีมชาติมาช่วยเราอีกต่อไป