ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5214
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 2:34 pm
มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน
มีเรื่องมาให้อ่านแก้เซ็งหลังทีมแพ้ เรียบเรียงจากหนังสือ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ผมคิดว่าสนุกมาก แกเล่าว่า โรมัน อบราโมวิช เคยติดต่อเรื่องดึงตัวไปคุมทีมตั้งแต่ปี 2008
"ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 ผมมีโอกาสพบ โรมัน อบราโมวิช ที่โรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์ มีเอเยนต์คอยนัดแนะการพูดคุยครั้งนี้ให้ ซึ่งตอนที่ผมเจอ อบราโมวิช เขาพกบอดี้การ์ดมาเพียบ"
"การทักทายเป็นไปอย่างเรียบง่าย เจ้าของทีมคนนี้อยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวผม เช่น สไตล์การทำงานเป็นไง? ปรัชญาเป็นแบบไหน? ก่อนที่ อบราโมวิช จะพูดถึงบรรดาทีมที่มีเอกลักษณ์เด่นชัดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล หรือ เอซี มิลาน แต่แน่นอนว่า เชลซี ยังไม่เป็นแบบนั้น เขาเลยอยากทำสักอย่างเพื่อให้ เชลซี ก้าวไปอยู่ในจุดที่หวังไว้"
"ก่อนจะเดินทางมาคุย ผมเคยอ่านข่าวเจอว่า อบราโมวิช เป็นคนที่บุคลิกเหมือนปีศาจ แต่ในความเป็นจริงช่างตรงกันข้าม เจ้าของทีมคนนี้ออกแนวขี้อายด้วย รวมถึงยังมีอีกหลายสิ่งที่ผมสัมผัสได้ คือเขาเป็นคนที่รู้เรื่องฟุตบอลแบบเชิงลึก แล้วก็กระหายในชัยชนะตลอดเวลา"
"หลังจบการเจรจาหนนั้น ผมมีโอกาสได้เจอ อบราโมวิช อีกรอบที่โรงแรมในฝรั่งเศส แต่เป็นการนัดพบกันที่เป็นความลับมาก ผมไม่ต้องการให้ใครรู้ เพราะการแอบคุยแบบนี้มันไม่ถูกต้อง แล้วก็ผิดกฎหมายด้วย"
"จากการที่ผมกังวลไปหมด เลยเริ่มรู้สึกประหม่าตั้งแต่ขึ้นรถแท็กซี่ หมอนั่นพยายามสังเกตว่าผมคือใคร? ทำไมหน้าตาคุ้นๆ แต่ผมไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ ผมใส่แว่นดำด้วย อารมณ์เหมือนเป็นสายลับ 007 ที่จะไปทำภารกิจบางอย่าง"
"ผมระวังตัวตลอดเวลา เช็กให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็น ไม่มีช่างภาพแอบถ่าย เพราะเมื่อวันก่อน มีคนจับได้ว่า โชเซ่ มูรินโญ่ นัดพูดคุยกับ มัสซิโม่ โมรัตติ เรื่องไปคุม อินเตอร์ มิลาน"
"ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ให้ตายเถอะ! ผมดันไปเจอคนรู้จักที่นั่น! เป็นเอเยนต์ฟุตบอลที่อิตาลี ผมพยายามหลบเขาแล้ว แต่ไม่พ้น เลยแกล้งถามไปว่า 'ไง คุณมาทำอะไรที่นี่?' ก่อนจะโดนถามกลับมาว่า 'ไม่ คุณต่างหากมาทำอะไรที่นี่?' บอกตรงๆ ว่าผมกลั้นหัวเราะตัวเองไม่อยู่"
"โชคดีที่ไม่มีอะไรร้ายแรง ผมเดินลงบันไดเพื่อไปพบกับ อบราโมวิช ในห้องที่เตรียมเอาไว้ ซึ่งผมยืนยันตั้งแต่ก่อนเริ่มบทสนทนาหนนี้เลยว่า ผมยังมีสัญญากับ เอซี มิลาน แล้วก็มีความสุขที่ได้ทำงาน ดังนั้น หนทางเดียวที่ผมจะไปคุม เชลซี คือการเจรจาต้องได้รับการอนุมัติจาก มิลาน แล้วเท่านั้น"
"เมื่อเริ่มคุยกัน ผมบอกเสี่ยหมีว่า เชลซี มีผู้เล่นที่เน้นกายภาพมากเกินไป จำเป็นต้องเพิ่มผู้เล่นเชิงเทคนิคเข้ามา เช่น ฟร้องค์ ริเบรี่ หรือ ชาบี อลอนโซ่ นั่นคือ 2 นักเตะที่ผมเสนอขึ้นมา ซึ่งน่าจะยกระดับทีมได้"
"อย่างไรก็ตาม อบราโมวิช เสนอชื่อมาอีกคน เขาคนนั้นคือ อังเดร เชฟเชนโก้ ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับเชลซี ดูเหมือนว่าเสี่ยหมีจะเป็นห่วงเชว่าพอสมควร แล้วก็ถามถึงสาเหตุที่ เชว่า เล่นไม่ดีด้วย แต่ผมยอมรับไปตรงๆ ว่าไม่ทราบเหตุผลที่ เชว่า ล้มเหลวในอังกฤษ แม้จะเป็นยอดนักเตะก็ตาม"
"เสี่ยหมี เริ่มอธิบายจุดยืนต่อไปว่า 'ผมไม่แฮปปี้เลยที่ เชลซี ชวดแชมป์ทุกรายการ โดยเฉพาะแชมเปี้ยนส์ลีก ผมอยากเห็น เชลซี ชนะในทุกเกมที่ลงเล่น' เห็นได้ชัดว่าเจ้าของสโมสรคนนี้หลงรักฟุตบอลขนาดไหน"
"หลังเสร็จการพูดคุย ดูเหมือนว่าผมจะความแตกซะแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น อาเดรียโน่ กัลลิอานี่ ซีอีโอของ มิลาน โทรมาหาผมว่าไปทำอะไรที่ปารีส? ผมเงียบไปพักนึง ก่อนจะบอกไปตรงๆ ว่ามาพบ อบราโมวิช โดยให้เหตุผลว่า เมื่อตัวเองโดนคนระดับเสี่ยหมีเรียก อย่างน้อยที่สุดคือการมารับฟังในสิ่งที่เขาอยากจะพูด"
"กัลลิอานี่ บอกว่า 'งั้นหรอ? แต่คุณจะไม่ย้ายไปคุมทีมไหนทั้งนั้น' ผมเลยตอบกลับไปว่า 'ใช่ ผมจะไม่ย้ายที่ไหน' ซึ่งก็เหมือนที่ผมยืนยันหนักแน่นแต่แรก หากสโมสรไม่อนุมัติ ผมจะอยู่ที่ เอซี มิลาน ต่อไป รวมถึงต้องการพา มิลาน กลับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย เพราะดันจบอันดับ 5 ปีนี้"
"หลังจากนั้น อบราโมวิช ประกาศตั้ง สโคลารี่ เป็นโค้ชแทน ส่วนผมกลับไปคุม มิลาน แล้วในที่สุดผมพาทีมกลับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ตามที่หวัง ผมเลยเริ่มคิดที่จะคุม เชลซี แบบจริงจัง ผมได้รับการติดต่อจาก อบราโมวิช อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นผมมีโอกาสดูเทปเชลซี เต็มไปหมด โดยเฉพาะฟอร์มของ ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา จนกระทั่งสุดท้าย ผมได้เซ็นสัญญากับเชลซี"

เครดิต ปีเตอร์โบท

เข้าร่วม: 19 Dec 2014
ตอบ: 17987
ที่อยู่: ใน♥ริสะจัง :3
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 2:36 pm
[RE: มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน]
แล้วเสี่ยหมีSS รักSSไหม
0
0
เข้าร่วม: 31 Jul 2008
ตอบ: 9835
ที่อยู่: Phetchabun
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 2:43 pm
[RE: มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน]
"เมื่อตัวเองโดนคนระดับเสี่ยหมีเรียก อย่างน้อยที่สุดคือการมารับฟังในสิ่งที่เขาอยากจะพูด"

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 11334
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 2:44 pm
[RE: มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน]
อิ่มมม...

0
0
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 13650
ที่อยู่: Somewhere
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 2:45 pm
[RE: มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน]










อันนี้ ภาพถ่ายฟิล์มป่ะ โคตรคลาสสิค
0
0
เข้าร่วม: 15 Oct 2013
ตอบ: 44895
ที่อยู่: Barca | Bayern | City
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 2:55 pm
[RE: มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน]
5All พิมพ์ว่า:
แล้วเสี่ยหมีSS รักSSไหม  


น่าจะไม่รัก
0
0
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 4454
ที่อยู่: อพาร์ทเม้นท์แถวโอลด์แทรฟฟอร์ด
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 3:07 pm
[RE]มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน
บอร์ดคุนตะพาบ ทัณฑ์บนครั้งที่ 1
วลีเด็ดเค้าเลยล่ะ
0
0
เข้าร่วม: 23 May 2008
ตอบ: 3303
ที่อยู่: SCG Stadium
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 3:10 pm
[RE: มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน]
"เมื่อเริ่มคุยกัน ผมบอกเสี่ยหมีว่า เชลซี มีผู้เล่นที่เน้นกายภาพมากเกินไป จำเป็นต้องเพิ่มผู้เล่นเชิงเทคนิคเข้ามา เช่น ฟร้องค์ ริเบรี่ หรือ ชาบี อลอนโซ่ นั่นคือ 2 นักเตะที่ผมเสนอขึ้นมา ซึ่งน่าจะยกระดับทีมได้"

ศึกษามาตั้งแต่ยังไม่ได้ทำการตกลงใดๆทั้งสิ้น สุดยอดโค้ชเลย
0
0


"WE ARE NOT A ONE-MAN TEAM"
Mohamed Elneny said when asked about some one left from the club.
เข้าร่วม: 20 Jul 2007
ตอบ: 2310
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 3:30 pm
มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน
เสี่ยหมีตัวจริง ขี้อาย

เสี่ยหมีใน ss ก็ขี้อาย มุดรู ไปไหนไม่รู้ 555555555555555



ปล.ขอบคุณสำหรับบทความ
0
0
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 4454
ที่อยู่: อพาร์ทเม้นท์แถวโอลด์แทรฟฟอร์ด
โพสเมื่อ: Mon Apr 17, 2017 4:06 pm
[RE]มีเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยหมีมาเล่าให้ฟังว่าเค้ารักเซลชีแค่ไหน
อกไก่สไลด์หนอน พิมพ์ว่า:
เสี่ยหมีตัวจริง ขี้อาย

เสี่ยหมีใน ss ก็ขี้อาย มุดรู ไปไหนไม่รู้ 555555555555555



ปล.ขอบคุณสำหรับบทความ  

บอร์ดคุนตะภาบ