ถ้านับแทคติคหลากหลายเป๊ปนี่คือที่สุดในโลกล่ะแต่ข้อเสียคือบางทีนักเตะจะสับสนกับบทบาทตัวเองคือถ้านักเตะเซนส์บอลไม่ถึงนี่คือจุดจบเลยน่ะ ส่วนอันเชผมว่าจุดเด่นเค้าคือมีแทคติคที่ชัดเจน+กับการเข้าถึงตัวนักเตะเค้าทำได้ดีมาก สามารถดึงศักยภาพนักเตะออกมาได้อีก สองคนนี้ดีคนละแบบ  

-สองคนนี้เก่งคนละเเบบ

-อันเช่ ถ้าเเผน Aเวิร์คจะสุดยอดมากใช้บอลเร็วกดดันคู่เเข่งรูปแบบการเล่นเป็นมิตรกับนักเตะการเเก้เกมส่วนมากเปลี่ยนตามตำเเหน่งไม่นิยมโรเตชั่น

-เป็ป แผน Aเวิร์คจะออกเเนวกลางๆเพราะเน้นครองรักษารูปเกมบอลรูปแบบการเล่นค่อนข้าง Fix นักเตะต้องเล่นตามรูปแบบที่กำหนดไว้มีแผน Bที่ดีหลายครั้งได้ผลนิยมโรเตชั่น  

อันเช่ โรเตชั่น จนทีมเกือบเจ๊งในลีคมาหลายแมทย์ละ  

พูดถึง เสือใต้ เหรอเปล่า????ที่เขียนคือรวมๆตั้งเเต่คุม มิลาน เป็นต้นมา  

ก็เสือใต้นี่แหละ  

ในฐานะที่เชียร์เสือใต้ผมชอบอันเช่มากกว่านะ พอเริ่มจูนติดนัดใหญ่ๆนี่แกละเอียดมากๆ แล้วแกไม่อินดี้เท่าเป็ปด้วย ลาห์มถนัดแบ็คก็ใช้ลาห์มเป็นแบ็ค บาเยิร์นเหมาะกับ 4-2-3-1 ก็เล่น 4-2-3-1 สังเกตว่าหลังๆฟอร์มฝืดแต่จริงๆแล้วบอลแกเขี้ยวมากคือเสียประตูน้อยมากแถมยังมียิงประตูช่วงท้ายเกมส์ได้บ่อยๆ โรเตชั่นนักเตะในบุนเดสผมรับได้นะ เชื่อว่ายืนระยะได้ดีกว่าในระยะยาวด้วย  

สไตล์อิตาเลี่ยนแบบนี้แหละครับ แต่เป๊ปเสียประตูน้อยมากนะ  

ขอเห็นต่างที่ว่าเป๊บ หลากหลายนะ เป๊บมีเกียร์เดินหน้าที่ชัดเจนคือ ยิงมายิงกลับไม่โกง ลุยยิงให้มากกว่าแค่นั้น
แต่ เทคติกการบุกแกสุดมาก ถ้าได้นักเตะที่"ถึง" ไปไกลมาก
ผมชอบนะ บอลเป๊บดูโครตสนุก เพราะไม่มีถอย
ถ้าแบบความลึกกว่านั้น การบุกคือการรับที่ดีที่สุด ก็ไม่แน่ใจในตรงนี้ ก็ว่าไปตามที่เห็น
สองเกมส์ที่ เป๊บโดนก่อนแล้วแก้ไม่ตกคือ 4-0 กับ เอฟเวอร์ตัน และโดน ลุงรา ไป 4 ลูกเหมือนกัน
ตำราเป๊บนี้ชัดเจนมากนะ พอนักเตะเข้าใจ เป็นแบบที่แกคิดหมดเลย เป็นโค๊ชที่เก่งมาก
รอผ่าน ลีคอังกฤษ สัก 3 ปี ผมว่าบอลเป๊บจะก้าวหน้าไปอีกหลายๆขั้นเลย
นั่นขึ้นอยู่กับ เป๊บและทีมสต๊าฟ
....
รอดเจอร์ เคยอยู่บาร์ซ่า UCL รอดเจอร์เจอเป๊บ...ผลคือ?
คูมัน.. ผมว่ามันมีอะไรๆอยู่เหมือนกันนะ  

ถ้าผมเป็นนักฟุตบอล มีโค้ชที่อยากเล่นภายใต้การนำทัพของเค้า มีอยู่สามคน
อเล็กซ์ อันเช่ ลิปปี้ เก่งและมีบารมีไปในทางบวก  

เป๊ปเสียประตูน้อยเวลาเจอทีมเล็กครับ คือสไตล์เป๊ป = การคุมเกมส์แบบหมดจด คือการปิดโอกาสไม่ให้คู่ต่อสู้ได้มีโอกาสแม้กระทั่งครองบอล เมื่อไม่สามารถครองบอลก็เท่ากับปิดโอกาสในการเล่นเกมส์บุกไปในตัว แต่หากสังเกตดีๆแผงหลังบาเยิร์นในยุคเป๊ปไม่ได้แข็งอะไรเลย บ่อยครั้งที่เหลือแผงหลังน้อยมากเพื่อพยายามดันนักเตะให้ขึ้นหน้าไปกดดันบีบเพรสซิ่งคู่ต่อสู้ ถ้าเจอกับทีมเล็กที่บาเยิร์นกดจนโงหัวไม่ขึ้นก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเจอทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวชั้นดีล่ะ? หรือถ้าเจอทีมที่ไม่เน้นครองบอลแต่เมื่อได้บอลขอแค่พริบตาเดียวก็มีโอกาสเข้าทำล่ะ? หรือถ้าเจอกับทีมที่เคยชินกับการเล่นเกมส์รับมากถึงขนาดที่นักเตะทุกคนในทีมยืนตำแหน่งเกมส์รับได้อย่างมีวินัยไม่ลนลานตลอด 90 นาทีล่ะ?

สิ่งที่เกิดขึ้นคือบาเยิร์นในรอบ 4 ทีมสุดท้ายของ UCL 3 ปีล่าสุดครับ บาเยิร์นไปไม่รอดเมื่อเจอ 3 ประสานอย่าง MSN อภิมหาโคตรบอล Counter ของอันเช่ หรือบอลอุดแหลกสไตล์เซมิโอเน่ ไม่ได้บอกว่าเป๊ปไม่เก่งแต่บอลของเป๊ปมีจุดอ่อนถึงตายอยู่ และด้วยความที่เป๊ปยึดมั่นในปรัชญาตัวเองมากๆทำให้รู้สึกว่าบาเยิร์นในยุคเป๊ปคงไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่าที่แกทำอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟุตบอลเข้าสู่ยุคของ Modern Football มากขึ้นคือนักเตะทุกคนในทีมช่วยกันบีบเพรสซิ่งและยืนคุมตำแหน่ง ไม่มีอีกแล้วบอลตำแหน่งใครตำแหน่งมันแบบที่แล้วๆมาครับ


 

เซนเตอร์ก็ยังเล่นเซนเตอร์ตลอดนะครับ ไม่ได้ไปยืนกองกลาง ผมอ่านท่านพิมแล้วงงๆ  

จัดนักเตะที่บอร์ดซื้อ ตัวเองไม่ได้ร้องขออะไร
จนได้ UCL 2 สมัย เข้าชิง 3 (สมัยมิลาน)  

ถ้าเซนเตอร์หมายถึงการยืนอยู่หลังสุดล่ะก็ใช่ครับ แต่บ่อยครั้งภายใต้การคุมทีมยุคบาเยิร์นเป๊ปจะให้เซนเตอร์เล่นครึ่งสนามพอ และมักจะเป็นการยืนให้ถ่างออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย หน้าที่ของคนที่คอยออกบอลจากแดนหลัง (อยู่หลังสุด) มักจะเป็นอลอนโซ่ซึ่งไม่ใช่เซนเตอร์ธรรมชาติด้วย และนี่คือจุดเริ่มต้นของบทบาท Sweeper-Keeper ของนอยเออร์ครับ  

วิธีเล่นแบบนี้ก็มีมานานแล้วนะครับ อยู่ที่ว่าโค้ชจะเลือกใช้รึเปล่าให้กองกลางลงไปออกบอล แต่ก็เท่ากับเสีย1ออปชันกลางสนามไป ส่วนใหญ่ก็พวก อลองโซ่ โครส ติอาโก้ อิเนสต้า นะครับ ผิดถูกยังไงแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ