ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญที่สุดคือ เงิน

แล้วอาเซน่อลผม ก็เป็นทีมใหญ่ แต่ไม่เคยใจใหญ่กับเค้าเลย

ตอนนี้แมนยู ผู้บริหารเค้าโชว์วิสัยทัศน์แบบนี้

จะก้าวขึ้นไปเป็นเบอร์1 ของยุโรป ผมไม่แปลกใจเลย

ดูบาซ่า มาดริด บาเยิน ดูขุมกำลังเค้า สมกับเป็นท็อปของยุโรปจริงๆ

ตอนนี้แมนยู จะไปยืนตรงจุดนั้นบ้าง ผมนี่โคตรอิจฉา

ปล.เอาจริงๆแมนยูยุคเฟอร์กี้ ถึงแม้จะไม่ขุมกำลังแบบสตาร์ล้นทีม แต่ก็ท็อปยุโรปแหล่ะ

รายได้อยู่ในกลุ่มผู้นำทุกโพลจะให้มาใช้เงินหยุ๋มหยิ๋มได้ไง ลอร์ดเอ็ดโชว์ความมั่งคั่งไป

ข่าวน่ะมีมาตลอด งบ100ล้านบ้าง 150ล้านบ้าง 200ล้านบ้าง


ล่าสุดเพจนึงเอาคำพูดมูมาลง คือจะทำลายสถิติค่าตัวอีก (ถ้ากรีซมันน์ฉีกสัญญาไม่น่าจะถึง89ลป.ละมั้ง)

เงินเยอะแต่ซื้อใครก็โดนโก่งนะครับ แย่ตรงนี้ถึงไม่ใช่เงินเราก็เถอะ

ผมว่าการใช้เงินมันได้หลายอย่างนะครับ นอกจะได้แชมป์แล้วยังสร้างมูลค่าให้ทีมอีกด้วย

คือลงทุนไปแล้วมันคุ้มอ่ะ เหมือนสินค้าที่ลงโฆษณาระดับพันล้าน แต่จ่ายไปแล้วยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้าน ยังไงก็คุ้ม

ถ้าอาร์เซน่อลลองทุ่มบ้าง 5-6 ปีแรกตัวเลขอาจจะแดง ต้องควักเนื้อจ่ายไปก่อน

แต่พอได้แชมป์แทบทุกปี เดี๋ยววันนึงตัวเลขมันก็กลับมาเขียวเอง แถมยังติดลมบนต่อไป

เชลซีเดี๋ยวนี้ก็ไม่ทุ่มเยอะแล้ว แต่ก็ยังได้ลุ้นแชมป์แทบทุกปีเหมือนสมัยยังทุ่มเยอะๆอยู่เหมือนเดิม

ไม่เชิงหรอกครับการปั้นก็สำคัญ บาร์ซ่าปั้นเองก็หลายคนครับ ชาบี้ อิเนียสต้า เมสซี่ บุสเกตส์ โดยเฉพาะเมสซี่ยอดนักเตะแห่งยุดนี้ก็มาจากการปั้นของบาร์ซ่าเอง เงินก็สำคัญครับแต่ถ้าวางรากฐานเยาวชนดีๆระยะยาวน่าจะดีกว่่าอีกครับ

ลอร์ดเอ็ดฟาร์มมา 2 ฤดูกาลเต็มๆ

ผมว่าช่วงหลังอาร์เซน่อลก็ซื้อแล้วนะ ปัญหาไม่ใช่ตัวที่มีสู้เค้าไม่ได้เลยหรอก อาจจะเหลื่อมๆบางตำแหน่ง ตัวหลักก็ยังไม่โดนย้ายหนีเลยด้วย

โกล แผงหลัง ตัวจริงถือว่าใช้ได้ดีเลย สำรองก็ลดไปตามสภาพ กองกลางมีให้เลือกเยอะทุกแบบ แนวรุกก็เช่นกัน

ผมว่าเวนเกอร์หลังๆก็ซื้อเอาๆแล้วนะ อย่างมุสตาฟี่ซื้อมาก็ปังเลย โอซิล เช็ค อเล็กซิส ถือว่าเข้าเป้าหมด พวกที่เหลือก็มีชื่อเสียงมาแล้ว ถึงยังไม่เข้าเป้า แต่ก็ไม่ได้เข้ารถเข้าพง


แทคติค วิธีการเล่น การจัดตำแหน่ง แผนการเล่น นั่นแหละ

ผมว่าปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เงินครับ แต่น่าจะเป็นวิสัยทัศน์ หรือความกล้าของผู้จัดการทีม เพราะอย่างอาเซน่อลเอง หรือลิเวอร์พูลเองก็มีข่าวออกมาโต้งๆ ตลอดว่ามีเงินให้ใช้

แต่เวงเกอร์บอกถ้าเจอตัวที่ใช่ค่อยทุ่มซื้อ จากที่ดูมาหาตัวที่ใช่ยากเย็นเหลือเกิน
ส่วนลิเวอร์พูลคล๊อปบอกว่าจะไม่ทุ่มซื้อนักเตะที่เห็นแก่เงิน เคสนี้เลยหาซุปตาที่รักพูลยากหน่อย

มันเปนการลงทุนที่หวังผลอยู่แล้ว
ถอนทุนคืนได้สบายด้วยการตลาด
เหมือนมาดริดอ่ะ ซื้อๆมา แชมป์ก้อไม่ค่อยได้ แต่การตลาดยังเปนอันดับต้นๆอยู่

ผมก้อไม่รุ้ทำไมปืนไม่ทำ นักเตะดังๆมันมีมูลค่ามากกว่าอันดับในตารางนะบางที


เหมือนถ้าทีมคุณมีนักเตะแอฟฟริกาทั้งทีมแล้วเปนแชมป์
กับทีมที่มีซุปตาร์ทั้งทีมแต่ได้อันดับสอง

ผมว่าค่าการตลาดทีมที่สองมีเยอะกว่าทีมแรกนะ

ไม่เชิงฮะ ไม่ใช่เพราะรอตัวที่ใช่อะไรหรอก คือตัวที่ใช่อะเจอแล้ว แต่พอเจอทีมอื่นมาแข่งในตลาด ไม่ยอมเกทับ เพราะบอกแพง

จะสังเกตได้ ตัวที่เวนเกอร์ตามก่อนตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง มีข่าวก่อนใคร 2-3 ปีผ่านไปเริ่มดังขึ้น พอจะเข้าไปซื้อ เจอทีมอื่นเกทับ หงายหลัง

ตัวที่ใช่ของเวนเกอร์ไม่ได้หมายถึง ดูฝีเท้า แต่หมายถึง ฝีเท้าต้องดีด้วย และต้องไม่มีคนแย่งหรือแพงเกินไป

(ไม่รู้นี่มัน จัดการฟุตบอล หรือเลือกซื้อหุ้น )

ผมมองว่า ที่เป็นท็อปจริง คือโอซิล กับอเล็กซิส

ที่เหลือ ยังเป็นของเหลือในตลาด อย่างเช็คเป็นช่วงโรยรา แต่เข้าทางเวนเกอร์เพราะตำแหน่งโกล ชอบใช้คนมีประสบการณ์

บอกเลยว่า โดยรวมๆ อาเซน่อลก็ยังเป็นทีมที่ดี ไม่งั้น คงไม่ได้ที่2ปีก่อนหรือที่3 ปีก่อนหน้า

ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม UCL แบบนอนมาทุกปี

แต่คลาสอาเซน่อล ก็คืออยู่ประมาณนี้แหล่ะ ถ้าอยากเป็นเบอร์1 ต้องใช้ของดีกว่านี้

นี่คือข้อแตกต่าง ว่าทำไม เอเวอตั้นเป็นทีมที่ดี จบท็อปเซเว่นตลอด แต่ไม่เคยได้ลุ้นแชมป์ (ต่อให้ใช้ยอดกุนซือเลยเอ้า)

ทำไม บางทีม ต้องไปแย่งหนีตกชั้นทุกปี ทำไมบาซ่ากับบาเยิน เข้าชิงUCL บ่อยๆ

เพราะคลาส มันแสดงออกมาแบบนั้น

ในเมื่อคลาสมันแค่นี้ บอร์ดอาเซน่อล ต้องการแค่นี้จริงเหรอ หรือจะหวังฟลุคแบบเลสเตอร์ (ที่สุดท้าย คลาสมันก็แสดงออกมาในฤดูกาลถัดมา)

ก็แสดงว่าอยู่ที่ตัวคนมากกว่าตัวเงิน มีเงินแต่ไม่เกทับ...แต่ถ้าไม่มีเงินเกทับอันนั้นค่อยพูดได้ว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด

อันเดียวกันฮะ คือ ไม่ใช้เงิน ต่อยอด เพื่อหาความสำเร็จ

ก็คือ ต้นเหตุมาจากคน แต่ปัจจัยความสำเร็จคือเงิน ถูกแล้วครับ

สมมติมีงบเท่ากัน 100 ล้าน (ไม่ได้กู้หนี้ หรือถอนขนหน้าแข้งมาซื้อ เพราะเป็นงบทำทีมอยู่แล้ว เงินเหลือๆ)
เวนเกอร์ยื่นครั้งแรก 20 ล้าน
อีกทีมยื่นตัดหน้า 50 ล้าน
แต่เวนเกอร์ไม่ยอมยื่น 50 ล้าน+ เพราะคิดว่านักเตะคุ้มค่าที่ 20 ล้าน เลยไม่ซื้อ

แบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่าเงินเป็นปัจจัยครับความสำเร็จแล้วครับ มันอยู่ที่ตัวผจก.ทีม จะเรียกว่างก, เสียดายเงิน หรือเห็นคุณค่าของเงินก็ตาม มันเป็นปรัชญาการทำทีมของแต่ละคน

นั่นแหล่ะครับ เหมือนคุยคนละประเด็น

ตัวผจก หรือบอร์ดบริหาร จะทำไง ไม่รู้

แต่เค้าไม่ยอมใช้ หรือไม่มี มันเลยไม่สำเร็จ ปฏิเสธไม่ได้ที้ว่า เงินคือปัจจัยความสำเร็จ

เข้าใจที่ผมจะบอกมั้ยฮะ ส่วนโค้ช นี่ เป็นเหตุของปัจจัยที่ว่าอีกที

ซื้อนักเตะมา100 ล้านเสียเงินสดไป100ล้าน แต่ มันไม่ได้ลดมูลค่าของสโมสรนะ ซื้อมา100ล้าน นักเตะก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินของสโมสรที่มีค่า100ล้านเช่นกัน จนกว่าจะฟอร์มกากจนโดนตีราคาตกลง

ก็คุณบอกว่า "ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญที่สุดคือ เงิน"
ผมก็ตอบว่าไม่ใช่สำหรับทีมอาเซน่อล เป็นที่เวนเกอร์ไม่ใช้มากกว่า เพราะปรัชญาของแก เน้นของดีราคาถูก
ในทางกลับกันถ้ามูไปคุมน่อล แล้วอยากได้กรีซมันน์ 100 ล้านปอนด์ถามว่า น่อลมีเงินให้ช๊อปไหม ตอบเลยว่ามี!!

ถ้าเป็นแบบนี้แล้วปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญที่สุด มันจะคือเงินได้อย่างไร!!??!!



อันนี้ข่าวตอนปี 2558 อาจมีใหม่กว่านี้แต่ขี้เกียจหา -> “ปืน” อู้ฟู่ เทงบ 200 ล้าน ป.ล่าหอกใหม่ “เบนซ์” ตัวเลือกเบอร์ 1

เบอร์หนึ่งของยุโรป

ทีมอื่นมันเขียนเถอะเห้ยไม่ใช่เด็กผีเขียน ทำมาเป็นถุยย เดี๋ยวปั๊ดดด

อย่างงี้หล่ะ ถือว่าแบ่งๆกันไป