[RE: อยากให้นักเตะไทยพัฒนาการอ่านเกมบอลและทิศทางบอล]
ax727046 พิมพ์ว่า:
ผมก็สงสัยอยู่ทำไม ทีมสโมสรอื่นของไทยเวลาเล่นกับทีมละดับ AFC เวลาเราดูแล้วมันรู้สึกว่า
มันคนละคลาสกันอะ แต่พอดูบุรีรัมย์เล่นกับทีมพวกนี้ใน AFC แล้วรู้ว่ามันคลาสเดียวกันนี้บุรีรัมย์ก็ฝึกตอนโตนะ อันนี้ไม่อวยบุรีรัมย์นะครับคือผมรู้สึกอย่างนี้จริงๆ ปล.เดี่ยวคนเข้าใจผิดผมเด็กเมืองทองนะครับ
บุรีรัมย์ที่สามารถต่อกรได้อย่างสูสีจนสามารถพูดได้เต็มปากว่าอยู่ระดับเดียวกับทีมชั้นนำของเอเชียมีอยู่ 2 ปีเท่านั้นครับ คือปีที่แพ้เอสเตกาลตกรอบ 8 ทีม กับปีที่ตกรอบแรกด้วยกฎ head to head เมื่อปี 2015 ปีล่าสุดถือว่าล้มเหลวมากใน AFC
ทำไมบุรีรัมย์ถึงสามารถประสบความสำเร็จได้ใน 2 ปีนี้และปีเหล่านี้แตกต่างจากปีอื่นๆที่บุรีรัมย์ล้มเหลวยังไง? คำตอบคือ "โควต้าต่างชาติ" ครับ ปี 2013 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นปีที่ลงตัวที่สุดของบุรีรัมย์ในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ ออสมาร์ในตอนนั้นสามารถแบกเกมส์รับของบุรีรัมย์ได้ทั้งแผง นักเตะระดับกัปตันทีมต่างชาติคนแรกในประวัติศาสตร์ของแชมป์เคลีกทีมล่าสุดลงเล่นทำให้รู้สึกเหมือนมีกองหลังไว้ใจได้หลายคนในสนามอีกทั้งยังทำประตูในนัดสำคัญๆนับไม่ถ้วน ยิ่งบวกกับความเก๋าที่ยุคนั้นมีแต่นักเตะชั้นนำของไทยในช่วงพีคของอาชีพอย่างสุเชาว์ จักรพันธ์ ชัปปุยส์(ก่อนเจ็บ) ประทุม ธีรธร อดิศักดิ์ และความเก๋าของอดีตทีมชาติอย่างสุรีย์ สุรัตน์ ทำให้ระดับของทีมจากไทยสูงอย่างไม่น่าเชื่อ แทคติคเพรสแหลกของบุรีรัมย์ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นตัวแปรหลักของความสำเร็จ แต่การที่เล่นเพรสแหลกอย่างยุคนั้นได้ก็เพราะหลังบ้านแน่นทำให้นักเตะคนอื่นๆสามารถผลัดกันวิ่งกดดันคู่ต่อสู้ได้อย่างอิสระ บุรีรัมย์ยุคนั้นเรียกได้ว่ามีเกมส์รับแน่นที่สุดเท่าที่เคยเห็นทีมจากไทยลงเตะเลย
ปี 2015 ก็ไม่ต่างกันตรงที่ตัวแปรหลักคือโควต้าต่างชาติแต่เปลี่ยนจากกองหลังมาเป็นกองหน้า โดยรวมปี 2015 โควต้าต่างชาติบุรีรัมย์ลงตัวกว่าปี 2013 ด้วยซ้ำเพราะในปี 2013 มีออสมาร์เป็นโควต้าต่างชาติที่แบกทีมแทบจะคนเดียว (เบโรคาลกะคาเมโล่ใน AFC ก็แป้ก) แต่ใน 2015 บุรีรัมย์มีตูเนซ โก และที่สำคัญคือคู่กองหน้าอย่างดิโอโก้และมาเชน่า การที่คู่กองหน้ามีความอันตรายทำให้ต่างชาติต้องพะวงเกมรับมากขึ้นส่งผลให้นักเตะไทยสามารถช่วยเล่นเกมส์บีบเพรสซิ่งได้ง่ายขึ้นมาก และโควต้าต่างชาติในปีนั้นก็ทำประตูให้ทีมได้เป็นกอบเป็นกำ (ยิงไปทั้งหมด 12 ประตูเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรจากไทยใน ACL 9ประตูจากนักเตะต่างชาติ 7ประตูจากคู่หูบราซิล)
เพราะฉะนั้นตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่จะเป็นทางลัดให้สโมสรจากไทยประสบความสำเร็จในเอเชียปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคือโควต้าต่างชาติ ระบบบอลเพรสซิ่งก็สำคัญแต่ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าสโมสรจากไทยจะสามารถใช้ระบบเพรสซิ่งล้มทีมจากเกาหลีหรือญี่ปุ่นได้หากเล่นกันด้วยนักเตะจากชาตินั้นล้วนๆเหมือนอย่างที่ผมไม่เชื่อว่ากว่างโจวจะได้ ACL หากแข่งกันโดยไม่มีโควต้านักเตะต่างชาติเลยจริงๆ ยิ่งทีมไหนมีโควต้าต่างชาติที่สามารถแบกนักเตะเอเชียในทีมได้เท่าไหร่ก็ยิ่งมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จมากเท่านั้น แต่อีกหน่อยการแข่งขันใน ACL สำหรับสโมสรจากไทยจะยิ่งยากเมื่อทีมจากจีนสามารถทุ่มนักเตะระดับโลกมาได้ตามใจชอบ