สถานการณ์ของลิเวอร์พูลปัจจุบัน (18-Jan-2017) แม้จะตามเชลซีถึง 7 คะแนน แต่ยังมีโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่น้อยถ้าเทียบสถิติกับปี 2014 ยุคที่เบรเดรน รอดเจอร์ พาลิเวอร์พูลคว้ารองแชมป์ ดังนี้

ณ สิ้นเดือนมกราคม 2014 ลิเวอร์พูล เตะพรีเมียร์ลีกนีดที่ 24 พลาดท่าถูกเวสบรอมตีเสมอจบเกมส์ 1-1 จากการผิดพลาดของตูเร่ในการส่งบอลคืนผู้รักษาประตูแล้วโดนอนิเชเบ้ ฉกไปยิง


ผลดังกล่าวทำให้ลิเวอร์พูลอยู่อันดับ 4 ตามหลังอาเซน่อลจ่าฝูงถึง 8 คะแนน ซึ่งห่างจ่าฝูงมากกว่าปัจจุบันที่ตามเชลซี 7 คะแนน


เกมส์ต่อมานัดที่ 25 ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในฤดูกาลของลิเวอร์พูล โดยเปิดบ้านถล่มอาเซน่อลไปถึง 5-1


และตามด้วยชัยชนะต่อเนื่องรวมเป็น 11 นัดรวด


ขึ้นไปนำโด่งเป็นจ่าฝูง ณ นัดที่ 35 ต้องการเพียง 7 แต้มจาก 3 นัดสุดท้ายในการปลดล๊อกแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยไม่ต้องลุ้นผลคู่อื่น


ก่อนนัดที่ 36 จะถูกเชลซี บุกมาชนะที่แอนฟิล 2-0


ตามด้วยเสมอพาเลซ 3-3 (นำไปก่อน 3-0) ทำให้ซัวเรสถึงกับหลั่งน้ำตาหลังจบเกมส์


สรุปเก็บได้เพียง 4 แต้มจาก 3 นัดสุดท้ายได้เพียงแค่รองแชมป์ เนื่องจากแมนซิตี้ชนะได้ถึง 6 นัดรวดสุดท้ายของฤดูกาล


ดังนั้นพรีเมียร์ลีกนัดที่ 23 ของฤดูกาลนี้ (1-Feb-2017) ที่ลิเวอร์พูลจะเปิดบ้านเจอเชลซีจ่าฝูงจึงถือว่าสำคัญอย่างมาก ถ้าลิเวอร์พูลชนะได้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการกลับมาลุ้นแชมป์ดังเช่นปี 2014 ที่เปิดบ้านเอาชนะจ่าฝูงอาเซน่อลในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้ และได้มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง ถ้าแพ้อาจจะหมดโอกาสไปเลยก็เป็นได้

นำเขา 8 แต้ม แต่ถูกเขาแซงซะงั้น แม่มเอ้ยยยยย

วินเพจมาเองแบบนี้ ...

ลาก่อนครับ Liverpool

จริงๆปีนั้น ถ้าไม่มีมูมาจอดรถบัสที่แอนฟิลด์ ได้เห็นเจอราดชูถ้วยพรีเมียร์แน่นอน

ใครจะเชื่อดันมาพลาดลื่นนัดสำคัญที่สุดนัดนึง

หมดแล้ว จบ จบกัน

เชลซีบอก "สบายล่ะกู ฮ่า ฮ่า ฮ่า" (เสียงน้าค่อม)

จบแล้ว การลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูล

เพราะเจอราดลื่นแท้ๆ

จะโทษ โทษตัวเองเหอะเชลซีนัดนั้นสำรองทั้งทีม


กองหลังดาวรุ่งคาลาสลงนัดแรกยังไม่มีปัญญาเจาะเลย แถมมีคนมาลื่นเองอีก

หงส์ตุโดนอีกเเว้ววววว

ขอโทษนะครับแฟนหงส์ไม่ได้พูดว่า "ถ้าไม่มีมูมาจอดรถบัสที่แอนฟิลด์ " นั่นอาจเป็นแฟนทีมอื่น

รอต่อไปฤดูกาลหน้านะครับ winpage เจิมเอง

พอเถอะครับ อดีตมันผ่านไปแล้วช่างมันเถอะครับ ว่ากันที่ปัจจุบันทีมท่านก็ยังอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์อยู่นะครับ

คิดถึงที่ไร ฮา ทุกที

ซาเล้งคันนั้น
พี่เจิดวันนั้น
3ลูกครึงแรกครึงหลังขออีก3 3-3
พันธมิตรแช่งเป็ด

ถ้าไม่ล้มเองนะครับ อาจจะจบที่เสมอ แล้วก็ไม่ต้องเน้นยิงเยอะเกมพาเลซ

สรุปใช้ประสบการณ์มาสั่งสอนดีกว่า ไม่ใช่เน้นเท่ ชนะรวด โชว์เหนือ

ไม่ได้เอาฮานะ นัดที่เชลซีชนะ 2-0 ใช่นัดที่เจอร์ราด ลื่น แล้วเด็มบ้า บา ฉกไปยิงหรือเปล่าครับ

เจิมแบบนี้น่าจะรอดยากครับ

แต่ก็ไม่หวังอยู่แล้วขอท๊อป 4 ก็พอละ

ผมว่าหัวเรื่องเป็นบทความที่ค่อนข้างดีเลยนะครับ แค่ไม่อยากให้ลากออกทะเล ไป วอร์กันอีก

อดของแท้ คราวนี้

ครับเบื่อวอร์เหมือนกันครับ สงสารทีมอื่นคงรำคาญน่าดู

ไม่ได้เอาฮา แต่เอาเดือดใช่ไหมฮับพี่ รู้นะรู้นะ [/imgr]

ต้องถามว่า ปีนั้น Winpage ตั้งกระทู้เกี่ยวกับหงส์ลุ้นแชมป์ตอนปีนั้นไหม...

เวรกรรม หมดลุ้นละหงส์กรู

ที่เฮนโด้โดนใบแดงก็มีส่วน ทำให้สามนัดหลังทีมเสียสมดุลย์ไปพอสมควร ปีนั้นเฮนโด้ก็เล่นดีมาก

ผมว่าไม่เกี่ยวกับเชลซีมากนะ นัดพาเลซนี่สิ พลาดเองเต็มๆ

winpage

777er นั่นไม่ใช่แฟนหงส์ครับดูจากประวัติตั้งกระทู้ก็
รู้เลยว่าแฟนทีมไหน

ต้องถามว่าตอนปีนั้น winpage ได้ตั้งกระทู้ลุ้นแชมป์ใช่มั้ยครับ?

ชิบหายละ

ปีนั้นผมทำใจแล้วว่าลิพูลคงได้ แต่ก้เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง555

เจิมเองแบบนี้

จบครับ

ชอบใจตรงที่เป็น Winpage นี่แหละ

อวตาร มีลิ้งวีดีโอมั้ย

ไม่โทษมูหรอกครับ สำหรับผม ผมยังโทษร็อดเจอร์สมากกว่า การดันกองหลังสูงขนาดนั้นมันเสี่ยงเกินไปอยู่แล้ว แต่นอกจากเทคติคนี้ที่ใช้ได้ผลมาตลอดแล้ว ร็อดเจอร์สก็ไม่มีแผนบุกรูปแบบอื่นๆ เลย

ถ้าจะแพ้ ก็เพราะร็อดเจอร์สไม่มีแผนการบุกที่หลากหลายนั่นหละครับ

ผมยังเชื่อเลยว่าหงส์ยังมีลุ้นอยู่ บอลเหลืออีกหลายนัดมากไม่รู้จะถอดใจกันทำไม

ผมเห็นด้วยเลย

นัดเชลซี แค่จุดเล็กๆ ที่พลาดได้ ไม่ได้มีผลอะไรกับเกมที่เหลือมากนัก

จุดเปลี่ยนสุดๆคือการโดน คริสตัล พาเลซ ตีเสมอ 3-3 นี่แหละ