เนื่องจากในเทศกาลคริสมาส จึงอยากนำเสนอข้อมูลที่หลายคนอาจจะสงสัยมากแบบสรุปประเด็นไวๆสั้นๆไม่สาวความยาว และขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นชาวคริสต์นะครับ

เรื่องที่จะนำเสนอมีอยู่ว่า


"ทำไมชาวคริสต์ ถึงสวดมนต์ก่อนกินข้าว?"





บางทีเราจะเห็นภาพนี้ในหนังฝรั่งที่ก่อนกินข้าวจะมีการสวนมนต์ถึงพระเจ้า









ทำไปทำไม เพราะเหตุใดจึงต้องสวดมนต์ถึงพระเจ้ากินเลยไม่ได้หรอ ?


เพื่อที่จะอธิบายให้เข้าใจขอเล่าที่มาก่อน

เดิมทีแล้วศาสนาคริส และอิสลามนั้นมาจากศาสนาเดียวกันมีพระเจ้าองค์เดียวกันเป็นศาสนาที่ปฏิรูปมาจากศาสนายูดาห์ ของชาวยิวซึ่งพระเจ้าได้บัญญัติาสิ่งที่กินได้ และสิ่งที่ห้ามกินไว้ดังนี้

1.)สิ่งมึนเมาทุกชนิด
2.)เลือด
3.)สัตว์บกที่ตายโดยไม่ได้ถูกเชือด
4.)สัตว์บกที่ไม่ได้กล่าวนามพระเจ้าขณะเชือด
5.)สัตว์บกที่ใช้กรงเล็บหรือเขี้ยวล่าสัตว์กินเป็นอาหาร
6.)เนื้อลา
7.)สัตว์ที่พระเจ้าระบุว่าเป็นสิ่งสกปรกน่ารังเกียจ(นะญิส) เช่น หมู หมา
8.)อาหารใดก็ตามที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม เช่นขโมยมา หรือซื้อมาด้วยทรัพย์สินที่ได้มาโดยผิดหลักการศาสนา
(เช่นเงินดอกเบี้ย เป็นต้น)

ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ใช่แค่เพียงหมู ตามที่เราเข้าใจกันในศาสนาอิสลามว่าไม่กินหมู (ชาวยิวก็ไม่กินหมู)

จริงๆในคำภีย์ทางคริศต์มีอธิบายเพิ่มอีก


ศาสนาพทุธก็มีสิ่งห้ามกินนะ


อันที่จริงพระเยซูนั้นเป็นยิวไม่กินหมูอยู่แล้ว แต่ว่าพระองค์เองสอนว่า อาหารหรือสิ่งที่กินเข้าไป ไม่ได้เป็นบาปหรือไม่บาป แต่บาปมาจากสิ่งที่อยู่ในใจ



ตอบคำถามที่ถามไว้ต้นกระทู้ สวดมนต์ทำไม

อาหารที่อยู่บนโต๊ะอาหารนั้นมีทั้งสิ่งที่กินได้และสิ่งที่เป็นมลทิน แต่ชาวคริสต์ยังยึดถือคำสอนของพระเจ้าอยู่ ชาวคริสจึงขอพระเจ้าให้ชำระมนทิลอาหารเหล่านั้นด้วยการสวดขอบคุณพระเจ้า ถ้าไม่ได้อธิษฐานก็ถือว่าอาหารนั้นเป็นมลทินอยู่ก็ห้ามกินเหมือนกันครับ ขอในนามพระเยซูคริสต์ ผู้มาพระเยซูผู้ทำให้ธรรมบัญญัติสมบูรณ์

นั้นจึงทำให้กินข้าวกันได้อย่างมีความสุขในวันสำคัญทางศาสนา

ถ้าสวดไปกินไปจะติดคอ ครับ

บ้านผมเป็นคริสต์ก็ทำแบบนี้ล่ะ อย่าเรียกสวดเลย เค้าเรียกอธิษฐาน

แต่ผมไม่ได้เป็นนะ ผมไม่มีศาสนา

ผมเป็นคริสต์นะ

เขาเรียกภาวนา

ผมก็เป็นคริตส์นะ แต่ไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย

เวลากินข้าวก็ไม่เคยสวดนะ

เคยสวดตอนเด็กๆที่ไปเข้าค่ายบ้านเณร