คือผมเรียนมาได้เทอมนึงละคิดว่ามันไม่ใช่ทาง เลยตัดสินใจลาออก อาจารย์แกถามเหตุผล ก็บอกไปตรงๆ แกใส่มาเป็นชุดเลย คุณตัดสินใจผิดตอนสมัครไปรอบนึง เพราะรู้ว่าไม่กะจะเรียนก็ยังสมัคร นี่ยังมาตัดสินใจผิดลาออกอีก แล้วพ่อแม่คุณเป็นมหาเศรษฐีหรือไงถึงเอาเงินมาโปรยเล่น ไม่เสียดายเงินบ้างเหรอ คุณลาออกไปแล้วจะไปทำอะไร แทนที่จะมีความรู้ไว้ประดับหัว ไอเราอธิบายอะไรไปแกส่ายหัวไม่รับฟังอย่างเดียว บ่นเหตุผลคุณตลกมาก จริงๆคุณคงกลัวสอบเเล้วติด F น่ะสิ เลยชิงออกก่อน

ไอเราก็ไม่อยากสวนไปมาก พยายามอดทน สวนไปบ้างบางจังหวะพอ สุดท้ายทนไม่ไหวบอกเอาเป็นว่าเป็นเหตุผลส่วนตัวผมละกัน แกจึงยอมเซ็นใบลาออกให้ ตอนกลับยกมือไหว้ยังไม่สน แบบนี้ก็มีเนอะ ไม่มีไรหรอก มาบ่นเฉยๆ

อ.เค้ารักคุณรึเปล่าครับ

ผมก็ลาออกมาเหมือนกันนะ เรียนได้ 1 เทอม 1 ซัมเมอร์ และเกรด 4.00 แต่อ.เข้าใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่อยากจะเรียนเลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร ทำใจไปครับ อย่าไปสนใจเลย เราไม่อยากเรียนใครก็บังคับเราไม่ได้ครับ

คงรักมากเลยท่าน ใส่ผมมาเกือบชั่วโมง

แล้วเหตุผลคืออะไร คือแค่ว่ามันไม่ใช่ ผมว่ายังตอบไม่ดีพอ เพราะท่านเหมือนไม่รู้ว่ามาเรียนทำไมตั้งแต่แรก แล้วออกไปก็ไม่รู้จะทำอะไร


ท่านตอบตัวเองได้ไหมว่าว่าท่านต้องการอะไรที่มันดีกว่าค้นหาตัวเองได้


เพราะคำว่าไม่ใช่มันมีหลายสาเหตุ สังคมไม่ใช่ ไม่อยากเรียน ไม่อยากทำงาน ไม่อยากสอบ ไม่อยากเจอเพื่อนไม่อยากเจอคน ไม่สามารถตอบความต้องการที่แท้จริงของตัวเองได้


ว่าท่านจะเดินต่อไปยังไง

ในแง่มุมมองคนอื่น คงไม่อยากให้คุณเสียโอกาสนะครับ

เพราะคนที่ได้โอกาสเรียนป.โทมีค่อนข้างน้อยนะครับ เค้าคงไม่อยากให้คุณทิ้งโอกาสไป

แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณทั้งนั้นนะครับ

จริงๆเหตุผลผมชัดเจนมากกว่านี้ แต่พอดีว่าไม่ได้เล่าเจาะลึก กลัวมันยาวไปอะท่าน แต่บอกอาจารย์ชัดเจนนะถึงเหตุผลที่สมัคร เหตุผลที่ออก สิ่งที่จะทำต่อไป เป้าหมายที่วางไว้ต่างๆ แต่แกส่ายหัวไม่ฟังอย่างเดียว ก็เลยครับๆไป

ไม่รู้จะช่วยได้หรือเปล่า ถ้าตัดสินใจแล้ว

ผมนี่เรียน ป.โท เกิน 2 ปี เกรดดีมาก 3.80 เหลือทำวิจัย

พอดีเจอปัญหา หลายเรื่องมันรุมๆมา แล้วก็พอทำวิจัยจริงๆ ทำไม่ได้ ( ไม่ตรงสายคำนวณตามแบบน้นไม่ได้ ) ก็เลยถอยออกมา ทุกวันนี้ใช้วุฒิ ป.ตรี

ผมว่าไม่เป็นไร ( ก็หาเงินได้เยอะอยู่นะคิดว่าพอใจอยู่ )

ผมว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้าตัดสินใจแล้ว มันมีหลายอย่างให้ทำ

หรือจะกลับไปเรียนอีก ก็ได้ในอนาคต อย่าไปคิดมาก

คิดซะว่าอาจารย์ ก็อยากให้สู้ต่อ ก็สบายๆใจไป ละกันครับ จำแต่เรื่องดีๆ

อย่างน้อยผมว่าพื้นฐานก็มาจากความหวังดี อยากให้ท่านเรียนจนจบโทให้ได้แหล่ะท่าน

ใจเย็นๆนะครับ ตอนนี้ท่านอาจจะยังโมโหอยู่

ถ้าจารย์ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจจริง เค้าคงแค่ถามไรนิดๆหน่อยๆ ไม่ด่า ไม่รั้งหรอกครับ

เพียงแต่วิธีการของบางคนอาจจะไม่ถูกจริตเราเท่านั้นเอง

ผมก็กำลังเรียนโทปี1เพิ่งเรียนคาบสุดท้ายของเทอม1วันนี้เอง เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยโคตรเหนื่อย

ผมกำลังสอบ มะรืนนี้เลย สเกลงานแม่งต่างจาก ป.ตรีเยอะมาก แต่ก็นั่นแหละไม่อยากแพ้ด้วย ชีวิตก็ต้องสู้ต่อไป

ป.โท ถ้าไม่ใช่ วิศวะ กับ วิทยาศาสตร์ สมัยนี้ก็งั้นๆ ชิลๆไปปวดหัวแค่ thesis จบไปอัพเงินเดือนได้ 2000 บาท แต่หมดค่าเรียนไปครึ่งล้าน

ผมก็กำลังคิดจะออกฮะ เรียนมาได้เทอมนึง

พ่อผมก็ลาออก ลาออกตอนทำวิทยานิพนธ์นี่แหละ ใกล้จะจบอยู่ละ

สาเหตุเพราะพ่อผมก็ทำงานอยู่แทบไม่ว่าง แบ่งเวลามาทำวิทยานิพนธ์ได้จนจบเล่นก็ถือว่าดีแล้ว

แต่พ่อผมส่งไปกี่ทีกี่ทีก็ไม่ผ่าน แล้วแบบเพื่อนพ่อผมทีแรกก็ไม่ผ่านเหมือนกัน นั่งรถคันเดียวกันไปส่งงานที่มหาลัยตั้งหลายรอบ

จนสุดท้ายเพื่อนพ่อผมมันไปจ้างทำ สรุปผ่าน ส่วนพ่อผมจนแล้วจนรอดก็ไม่ผ่านอยู่ดี

พ่อผมเลยลาออก บอกเหตุผลกับเพื่อนและครอบครัวว่าคนตรวจกวนตีนเกินเลยออกดีกว่า แต่ไม่รู้ว่าไปบอกกับอาจารย์ว่ายังไง

ถาม อ. กลับสิครับว่าเหตุผลอะไรที่ผมต้องเรียนต่อ นอกจาก เงินกับประดับความรู้ เพื่อแลกการเสียเวลาในชีวิต

เขากลัวรายได้มหาลัยหายหรือป่าวเพราะเดี๋ยวนี้ ป.โท มันหลักสูตรหาเงินให้มหาลัยชัดๆ

เชื่อเถอะว่าเค้าไม่ได้ด่าเพราะโกรธเกลียดหรือระบายอารมณ์หรอก
เหตุที่ทำไมว่านานเป็นชั่วโมง
เพราะเค้าอยากให้คุณเปลี่ยนใจ เค้ารู้ว่าบังคับใจคุณไม่ได้สุดท้ายก็ต้องอนุมัติลาออก เค้าถึงได้ด่าๆๆๆๆๆ เพราะหวังว่าคุณจะเปลี่ยนใจ

ไม่เคยเรียน ปอโท แต่คงยากกว่า ปอตรี เยอะอยุ่ นึกย้อนไป ขนาดสมัยผมเรียน ปอตรี เรียนไปชิวๆ ไม่เครียดไม่ไรเลย ปี 1-3 จนมาถึงโปรเจคทำ thesis นี่แหละ วิจงวิจัยอะไรบ้าบอก็ไม่รุ้ไม่เคยทำ เรียนก็เรียนอาร์ตมาด้วยนะต้องมาทำเล่มเอกสารเป็น 100ๆ หน้า สรุป โปรเจค 1 ติด F เพราะไม่ขึ้นสอบ เซงอาจารย์

ตอนนั้นด้วยความที่เป็นเด็กด้วยล่ะหนึ่ง แถมเป็นเด็กเกรียนจนบรรดาอาจารย์เพ่งเล็งอีกหนึ่ง ยื่นเรื่องยื่นอะไรอาจารย์ก็ปัดทิ้งๆ จำได้เลย จะทำเกี่ยวกะเรื่องฟัน แอนิเมชั่นผจญภัยเข้าไปในปากสู้กะแมงกินฟัน ดั๊น ไปซ้ำกะเพื่อนอีกคน แต่เพื่อนคนนั้นทำประมาณให้ความรู้เรื่องฟันผ่านแอนิเมชั่น เนี่ย แค่หัวข้อเรื่องมีคำว่า "ฟัน" จบละ ไม่ให้เราทำ

อาจารย์นี่ก็ตัวดีใช่ย่อยเลย ตอนปรึกษาโปรเจคก็เออออไปเรื่อย พอขึ้นสอบนี่โดนฟันเละ เพื่อนผมมีลาออกเพราะโปรเจคจบก็หลายคน

นานๆ ทีขอระบาย ฮาาา

ปอโท เปิดหัวมาก็ต้องยืนเรื่องวิจัยเลย แค่คิดก็มันส์แล้ววว

ขอบคุณมากท่าน

สู้ๆครับ

ตอนทำวิทยานิพนธ์นี่ขึ้นอยู่กับอาจารย์เลยจริงๆ

มีพี่คนนึงในที่ทำงานไปเรียนได้แปปเดียว แล้วอาจารย์ในมหาลัยคนนึงบอกว่า เราจะเรียนแบบสบายๆช่วยๆกัน แกโมโหสุดขีด นี่กูเสียตังคมาหาความรู้นะ ผมคิดว่าอาจารย์อย่างคุณให้สิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ แกลาออกเลย จบ

เคยเรียนปีนึง แต่ มันบ่ใช่ ก็เลยออกดีกว่า

ถ้าเรียนไป 1 เทอม แล้วไม่ใช่ก็ออกไปทำสิ่งที่ตรงกับเราคิดดีกว่า เรียนครบหลักสูตรค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆ นะนั่น

ปีที่แล้สคิดจะสมัครเหมือนกัน ตอนจะสมัครผมเข้าไปหาอาจารย์ที่สนิทตอน ป.ตรี แกบอกอย่างมึงไม่ไหวหรอก ตอนนั้นยังจะไม่รอดอยู่เสียเวลาทำมาหากิน

ผลเรียน จบเกือบจะ จบ ได้ A เกือบหมด B+ มาตัววิชาจริยธรรมและกฏหมาย

เกรด 3.89 ผมยังเรียนไม่จบเลยครับ เลิกก่อน เพราะมาถึงจุดที่มองว่ามันไม่ประโยชน์สำหรับผมเลยแล้ว

ผมก็โดนครับ แบบ จขกท.

ผมว่าอันนี้อาจารย์เขาพูดเพื่อให้เด็กไม่เครียดกับลดความกดดันนะครับ ตอนผมเรียนอาจารย์บางคนก็พูดแบบนี้แหละ แต่พอเรียนแล้วไม่ได้ใกล้เคียงกับคำพูดของอาจารย์เลย

เข้าใจเจ้าของกระทู้เลย ไม่เกิดกับตัวเองไม่รู้ ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง

ถ้ามันไม่ใช่ทาง

ถ้าผมเป็นอาจารคนนั้น

ผมจะไม่ว่าอะไรท่านซักคำ

ผมจะถามว่าความฝันของท่านสิ่งที่ท่านจะทำ จริงๆ คืออะไร

ผมจะรับฟังท่านอย่างเข้าใจ

แล้วผมจะแนะนำ ให้ท่านเดินตามทางที่ท่านอยากจะเดินจริงๆ

เพราะนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ท่านทำได้ดีที่สุดและรักที่จะทำจริงๆ

อย่าไปเสียดายเวลาที่เรียนมาเลยครับ ถ้ามันไม่ใช่

แต่ให้เสียดายชีวิตที่เหลือที่ท่านต้องใช้ต่อไปอีก หลายสิบปี

เป็นกำลังใจให้ครับ และเดินตามทางที่ท่านรักที่จะทำจริงๆ

เพราะนั้นจะเป็นที่ที่ท่านจะทำได้ดีที่สุดและมีความสุขกับมันครับ

แล้วเหตุผลที่ออกคือไรอะครับมันไม่ใช่. มันกว้างมาก เรียนแล้วไม่ชอบ เรียนไม่ไหว เงินไม่มี บลาๆ

ถ้าท่านถามว่าผิดเลยเนอะ

ตอบว่า :: ไม่ผิดเลยเนอะก็ไม่ใช้ แต่มันก็ไม่น่าถึงกับขนาดที่ต้องพูดว่า


" คุณลาออกไปแล้วจะไปทำอะไร แทนที่จะมีความรู้ไว้ประดับหัว "
" จริงๆคุณคงกลัวสอบเเล้วติด F น่ะสิ เลยชิงออกก่อน "

มันทำให้เห็นทัศนคติของคนพูดชัดเกินไปหน่อย

เหตุผลคือผมเรียนนิติศาสตร์ครับ จบเนติ ผ่านทนายหมดเเล้ว เหลือแค่รออายุงาน 2 ปี เพื่อไปสอบอัยการหรือผู้พิพากษาครับ ซึ่งการเรียนโท มันทำให้เราได้สอบในสนามสอบอีกหนึ่งสนาม ที่เรียกว่าสนามเล็กครับ (คู่แข่งน้อยกว่า) แต่การเรียนโทกับการสอบอัยการหรือผู้พิพากษามันคนละเรื่องกันเลยครับ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย ผมเลยตัดสินใจลาออกแล้วมาทุ่มอ่านหนังสือเพื่อสอบสนามใหญ่ (คู่แข่งเยอะกว่า) แต่สอบแบบนี้มันต้องอ่านเยอะอะท่าน ปีสองปียังแทบจะไม่พอเลย ไม่อยากต้องแบ่งเวลาอ่านไปทำวิทยานิพนธ์ด้วย

นักศึกษาลาออก แกคงต้องไปตอบบอร์ดบริหารอะครับ ทำไมนึกศึกษาถึงลาออก คงมีผลต่อการประเมินผลงานแกด้วย เดี๋ยวนี้มันธุรกิจหมดแล้ว

ผมจบ ป.โท สายวิทยาศาสตร์มา

ลองมาลงเรียน ป.โท สายบริหารการศึกษา

เรียนได้อาทิตย์เดียว เลิกเรียนทันที

แนวคิดของ อ.ผู้สอน ยึดติดกับตำรา ไม่ยืดหยุ่น แถมเพื่อนที่เรียนด้วยกันก็อวยอาจารย์ ผมนำเสนออะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่เป็นความจริง ได้รับการต่อต้าน ....

ประเด็นแรกเลยคือเสียโอกาสสำหรับคนที่อยากเรียนจริงๆ สองคือ อ. เสียเวลา
เสียแรงไปแล้ว ถ้าเป็นทางสายวิทย์อย่างของ ม.ผม ถึงกับมีประกันวิทยานิพนธ์
(เบ็ดเสร็จประมาณ 150,000) และสามนี่สำคัญมาก อ. จะติดแบลคลิตแน่ๆ แต่
จะติดในส่วนไหนนี้แล้วแต่กรรมการที่ตรวจสอบ ผมว่า อ. ค่อนข้างใจดีมากเลยนะ
ที่เซ็นให้ ถ้าเป็น ม. ผม เขาคงให้ท่านยื่นคำร้องไปที่บัณฑิตวิทยาลัย แล้วไป
ชี้แจ้งต่อกรรมการเอง เสร็จแล้วถึงให้ กรรมการสรุปผลกลับมาที่ อ.ที่ปรึกษา
เพราะฉะนั้น อย่าไปว่าอะไรแกเลยครับ เพราะดูๆแล้ว คำพูดแกกับการกระทำ ก็
สวนทางกันอยู่ แกก็เลือกทางที่ดีที่สุดให้คุณละ

ผมเรียน ป โท วิศวะ มีคนเข้าออกเป็นว่าเล่นเป็นเรื่องปกติมากครับ อาจารย์ไม่รั้งไม่อะไรเซ็นปรู๊ดผ่าน เป็นเรื่องธรรมดาของคณะแหละมั้ง เด็กจบตรีใหม่ๆแบบผมนี่ก็ออกกันเยอะ เพราะบางคนเรียนไม่ไหว บางคนอยากหาเงินทำงาน บางคนรู้ตัวว่าไม่จบ 2 ปี แน่ๆ ซึ่งมันเสียเวลาหาเงินอย่างเห็นได้ชัดในสายอาชีพผม แต่ถ้าจบไปอนาคตก็จะสดใสไม่แพ้กัน ผมก็อยู่ในช่วงลังเลอยู่ว่าจะออกดีมั้ย เพราะเรียนง่าย แต่งานยากมาก วิจัย โปรเจค ยากบรรลัย

ไม่ผิดหรอกครับ แต่ถ้าอาจารย์ไม่ใส่ใจ เค้าคงไม่เสียเวลากับที่จะลาออกเป็นชม.