เห็นข่าวต่างประเทศออกข่าวว่าเป็นของเวียดนามแล้ว ธุรกิจนี้ดังมากในอเมริกา

แถมโดนจดทะเบียนไปแล้วด้วย

เปลี่ยนนานแล้วครัช ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

เอาไปแค่ชื่อน่ะครับ
เหมือนๆว่า ซอสศรีราชาคือซอสพริกแบบเผ็ด
แค่สูตร/ส่วนผสมก็ของใครของมัน

ของทางอมริการึยุโรปก็มีนะ

เมื่อวานมาดูยังเป็นซอย

ใช่ครับ ตอนนี้คนต่างชาติมองว่าซอสศรีราชาที่ไทยคือของปลอมด้วยซ้ำครับ

แปลกจัง ไทยไม่ได้จดลิขสิทธิ์ชื่อหรือนี่

http://coolmaterial.com/feature/we-tasted-nine-sriracha-sauces-to-find-the-best/ มีหลายยี่ห้อจัด
ดูฝรั่งจะไม่ถูกปากอันของไทยเท่าไหร่

ของไทยครับ แต่คนเวียดนามคนนึงเค้ามากินซอสศรีราชาของไทยแล้วอุทานว่า เฮ้ย หง่อนหลำ

(ภาษาเวียดนามแปลว่าอร่อยโคตรๆ)

คนคนนั้นมีชื่อว่า David Tran เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม(อพยพไปอยู่เมกาสมัยสงครามเวียดนาม)

แกเจอซอสพริกตอนที่มาเที่ยวไทยซอสพริกศรีราชานี่แหละ พอกินเข้าไปแกก็ชอบรสชาติจนหลงไหล

จนกลับไปถึงเมกา แกก็พยายามทำสูตรซอสพริกให้เหมือนของไทยออกมาขาย โดยพริกที่ใช้แกใช้พริกเม๊กซิกันแทน

พริกจากไทย(แหงล่ะของ...ก็มันคือของที่พยายามเลียนแบบซอสพริกศรีราชาแต่ดันโกอินเตอร์ในเมกาซะงั้น)

เหมือนเค้าจะบอกว่าเค้าให้เกียรติซอสพริกต้นตำรับของไทยนะ เค้าเลยใช้ชื่อว่าซอสพริกศีราชา(Sriracha spicy sauce)

จากนั้นมาเค้าก็เอาชื่อนี้ไปผลิตซอสพริกขายหน้าตาเฉยเลย ตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีเจ้าของซอสพริกชื่อดังในอเมริกาไปแล้ว

นี่ไงหน้าตาลุงแก...ออกแนวอาแปะ เจ้าสัวจอมก็อปปี้เหมือนกันนะ

แต่เมื่อปี 1975 David Tran ชาวเวียดนาม ได้อพยพไปยัง USA และเริ่มผลิตซอสพริกที่ชื่อ Sriracha ขึ้นด้วยโรงงานชื่อ Huy Fong ภายในปี 1981 โดยอ้างว่า Shiracha เป็นชื่อเรือไต้หวันที่นั่งจากเวียดนามไปอเมริกา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งชื่อ Sriracha เอง และชื่อเล่นว่า ” Cock Sauce” เพราะ Logo ข้างขวดเป็นตราไก่ โด่งดังและเป็นที่รู้จัก มีทุกครัวเรือน

สรุปน่าจะเป็นที่การตลาดเขาเข้าถึงคนอเมริกันได้มากกว่าเรา
Cr. Mthai.com

คือสูตรต้นตำหรับมันมาจาก อ.ศรีราชา บ้านเรานั่นแหละ เลยตั้งชื่อว่าซอสศรีราชา


แต่ที่ดังๆในอเมริกาเป็นของคนเวียตนามมานานแล้ว แล้วไม่รู้ว่าเค้าเอาชื่อไปตอนไหน

บ้านเราไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ชื่อ ศรีราชาได้เพราะมันเป็นชื่อ อำเภอของชลบุรี ไม่สามารถจดเป็นลิขสิทธิ์ได้ครับ ตาTran คนที่ยูสบนๆพูดถึงแกอยู่อเมริกาเลยเอาไปจดได้เพราะอเมริกาไม่มีรัฐชื่อศรีราชา

ในงาน LA Autoshow 2016 นี้หลาย ๆ ค่ายก็เผยของดี, ของเด็ดและของดังมา
ประชันโฉมกันอย่างไม่ควรละสายตา แต่มีอยู่บูธหนึ่งที่กล้านำรถที่แซ่บแบบพริก
หลายเม็ดมาประชันโฉมกับเขาด้วย นั่นก็คือ Lexus IS รุ่นซอสศรีราชา!!
กลายเป็น Internet Joke ในชั่วข้ามคืนเมื่อ Lexus เผยโฉม IS รุ่นพิเศษ รุ่นซอส
พริกศรีราชา โดย Lexus จับมือกับบริษัท Huy Fong Foods ผู้ผลิตซอสพริกศรี
ราชาจากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเครื่องหมายทางการค้า Sriracha Sauce
พร้อมตราสัญลักษณ์รูปไก่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมากในตลาดสหรัฐอเมริกา
(คนละแบบกับซอสพริกศรีราชาในประเทศไทยและผู้ผลิตในไทยอนุญาตให้ใช้ชื่อ
เครื่องหมายทางการค้า Sriraja เท่านั้น)


รถคันนี้จะเป็นการนำ Lexus IS300 มาดัดแปลงให้เข้ากับความเป็นซอสพริก
ศรีราชาอันโด่งดังในสหรัฐอเมริกาด้วยการสาดสีตัวรถโทนสีเดียวกับแพ๊คเกจ
และสีของซอส สีของตัวรถจะถูกสาดด้วยสีซอสพริกที่ฉ่ำไปด้วยโทนเมทัลลิค
, ขอบกระจังหน้ากรุขอบด้วยสีเขียวคล้ายกับฝาขวดซอส, ติดตั้งสัญลักษณ์ไก่
Rooster แก้มด้านหน้ารถ และถึงขั้นผลิต Nameplate ‘Sriracha ‘ ประดับบั้น
ท้ายรถด้วย


ภายในห้องโดยสารก็มีประดับประดาให้สมกับความแซ่บ ด้วยการเปลี่ยนสีส้ม
และสีเขียวของชิ้นส่วนบางจุด พร้อมประดับด้วยสติ๊กเกอร์รูปพริก, โลโก้ Sriracha
, โลโก้ไก่ Rooster และกรุแผ่นผ้าสัญลักษณ์ของแบรนด์ติดเข้ากับชุดเบาะ เป็นต้น

และเพื่อยืนยันว่ามันเป็น Lexus IS ที่ร้อนแรงที่สุดจึงได้มีการบรรจุดซอสศรีราชา
ตราไก่อีก 42 ขวด อยู่ท้ายรถอีกด้วย

Lexus IS รุ่นซอสพริกศรีราชาท้าทายสายตาด้วยความเผ็ดร้อนในงาน LA
Autoshow 2016 แล้ววันนี้

คือซอสชื่อศรีราชา ที่โด่งดังในอเมริกา เป็นของผู้ผลิตจากเวียดนาม เพราะเค้าเป็นคนสร้างแบรนด์นั้นที่โน่น และรสที่ฝรั่งชอบกันดันเป็นรสของเค้าครับ

ในเมกาของเวียดนามครับที่ขวดนิ่มใส ฝาสีเขียวแบบบีบ
แต่ถ้าเปนขวดแก้ว ฝาเกลียวของไทยครับ

อำเภอศรีราชาก็ก๊อปชื่อมาจากซอสพริกศรีราชาครับ กำลังจะโดนฟ้องลิขสิทธิ์อยู่

ฝรั้่ง เค้ากินซอสพริกกับหลายๆอย่างครับ ไม่ว่าสเต๊ก เนื้อ มันฝรั่ง
ของไทยจำได้อย่างเดียวว่าเอาไว้กินกับไข่เจียว

ใบกระท่อม...เป็นของญี่ปุ่น

http://news.mthai.com/hot-news/social-news/492424.html
ไม่รู้จะดีใจ หรือเสียใจดี หลังจากที่ ญี่ปุ่นจดสิทธิบัตร กัญชา คือยารักษามะเร็ง ไปแล้ว กระท่อม สมุนไพร ที่กฏหมายไทยบรรจุไว้ในยาเสพติดประเภทที่ 5 ก็ถูกประเทศญี่ปุ่นจดสิทธิบัตร เป็นยา อีกแล้วครับ
อ่านเป็นภาษาอังกฤษได้ที่นี่ http://speciosa.org/japanese-universities-patent-kratom/

ผมเจอขวดนี้ ในร้านอาหารจีน ที่เยอรมันครับ

เพิ่งมารู้ข้อมูลนี่เอง ตอนแรกก็งงๆ

แต่รสชาติไม่เหมือนศรีราชาบ้านเรานะ

น้ำจิ้มแจ่ว นี่แหละเด็ดกว่าซอสทั้งปวง แต่ฝรั่งอาจไม่กล้าลอง ไม่เหมือนศรีราชา ที่มีทั้งเผ็ดน้อย เผ็ดกลาง เผ็ดมาก

แต่กับไข่นี่ ถ้าได้พริกน้ำปลาบีบมะนาว ข้าวร้อนๆ แจ่มกว่าบีบศรีราชานะ ขอบอก