เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมาปฏิเสธเรื่องที่กล่าวขานกันมาว่าเขาเคยใช้ “ไดร์เป่าผมในตำนาน” เล่นงานลูกทีมเวลาที่เล่นไม่ได้ดั่งใจอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อวันก่อน คุณป๋าของเด็กผี ได้รับเชิญไปพูดในงานสัมมนาธุรกิจที่มิลาน ภายในงานนั้นป๋าก็ได้เล่าถึงเรื่องไดร์เป่าผมอันเป็นอาวุธประจำกายของป๋ามาตลอดระยะเวลา 27 ปีที่รับหน้าที่บอสใหญ่ของ “เดอะ เร้ด เดวิลส์” สำหรับเรื่องนี้ก็มีหลายคนชอบเอาไปเล่าต่อๆ กันว่าป๋าเป็นคนเจ้าอารมณ์ ชอบว้ากใส่ลูกทีมโดยเฉพาะเวลาที่ทีมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หรือโดนขึ้นนำอยู่ในช่วงครึ่งแรก

“ป๋ารู้นะว่ามีคนพูดถึงเรื่องนี้เยอะมาก แต่ในความจริงแล้วไอ้ที่เขาลือๆ กันเคยเกิดขึ้นแค่เพียง 6 ครั้งเท่านั้นในช่วงเวลา 27 ปี ป๋ามั่นใจว่าลูกทีมของป๋าทุกคนจะต้องพูดแบบนี้แน่นอน”

“ปัญหาใหญ่สำหรับป๋าคือ ถ้ามีใครคิดจะตอบโต้กลับมา ป๋าก็จะสวนชุดใหญ่กลับไปทันที อย่างไอ้เจ้าจ็อค สไตน์ ก็ชอบบอกป๋าว่า ‘ไว้วันจันทร์ค่อยคุยกับเด็กๆ ก็ได้นะป๋า’ แล้วป๋าก็จะบอกว่าไม่ได้! ต้องเดี๋ยวนั้นทันทีโว้ย”

“เพราะฉะนั้นหลังจบเกมในวันเสาร์ ป๋าจะบอกลูกทีมทันทีว่าป๋ารู้สึกยังไง เพราะว่าเราใช้เวลาฝึกซ้อมอย่างหนักกันมาทั้งอาทิตย์ ป๋าก็ต้องคาดหวังว่าทีมของป๋าจะต้องเป็นฝ่ายชนะในทุกเกมสิ ป๋าจำเป็นต้องบอกความจริงกับลูกทีมของป๋า ซึ่งการพูดตรงๆ นี่แหละเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว”

“ลูกทีมของป๋าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี ก็เลยไม่มีใครคิดจะกล้าหือกับป๋าเลย พอวันต่อมาเรื่องพวกนั้นก็ถือว่าจบไปแล้ว ไม่คาใจ ไม่มีการขุดขึ้นมาใหม่อีกรอบ ป๋าจะเตรียมความพร้อมเพื่อคว้าชัยชนะในนัดต่อไป ป๋ากล้าพูดเลยว่า ป๋าไม่เคยปกครองลูกทีมด้วยการยัดเยียดความกลัวลงไปในหัวของพวกเขาเลย ไม่เชื่อคุณก็ลองบอกชื่อนักเตะที่ลงสนามเพราะกลัวป๋าสิ หน้าที่ของป๋าคือการมอบทัศนคติดีๆ ลงไปในทีมของเรานะ ป๋าจะปล่อยให้พวกเขาได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา เด็กป๋าต้องอย่ายอมแพ้ง่ายๆ แล้วก็ต้องรู้สึกสนุกที่ได้ลงสนามให้กับสโมสรของเราด้วย นี่แหละคือกฎเหล็กของป๋าล่ะ”



แปลและเรียบเรียงโดย : devilmag.com
http://www.devilmag.com/page/2237
ที่มา : thesun.co.uk

ยุคนั้นผียิ่งใหญ่เกรียงไกรมากๆ โดยชายคนนี้

ทำไมถึงเรียกว่า ไดร์เป่าผมอะครับ

คนละสไตล์กับเจ๊เลย

ป๋านี่ ถ้านับเป็นดนตรี ก็ ชาวร็อค อ่ะ

ใส่มันเข้าไป หนักๆ ว้ากๆ แรงๆ

ส่วนของเจ๊นี่แนว แจ็ส เรียบๆ เบาๆ สบายๆ

ถ้าต้องเลือกเจ้านาย ผมก็ขออยู่กับเจ๊นะ

อยู่แบบป๋าไม่ไหว

แกโมโหแล้วใช้ไดร์กำราบครับ

แต่ก็คุมลูกทีมอยู่หมัด สุดยอดจริงๆคนนี้

เอาไปเป่าใส่หน้าคนที่เล่นห่วยเหรอครับ

มันเหมือนกับ นักบอลที่เล่นบอลมาในครี่งแรกแล้วผมยุ่ง เลยไดร์สให้เรียบซะหน่อย


ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

hairdryer treatment และ squeaky bum time ทั้งสองคำนี้ เป็นศัพท์บัญญัติที่เกิดขึ้นจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คำว่า hairdryer treatment หรือไดร์เป่าผมของเซอร์อเล็กซ์ มีที่มาจากอากัปกิริยาของเซอร์อเล็กซ์ยามที่โมโหโกรธา เพราะลูกทีมเล่นไม่ได้ดังใจ เขาจะยืนประชิดหน้าแทบจะชนผู้เล่นที่ถูกเรียกมาเฉ่ง อารมณ์คำก่นด่าและเสียงคำรามที่ออกมาถูกนำไปเปรียบเทียบกับความร้อนแรงและเสียงครางของเครื่องเป่าผม ว่ากันว่าคนที่ใช้คำว่า hairdryer เป็นคนแรกคือลี ชาร์ป ผู้เล่นในตำแหน่งปีกในอดีตของทีมผีแดง ซึ่งมักจะมีพฤติกรรมนอกลู่นอกทางเสมอ เดวิด เบ็กแฮม บอกว่า ความกลัวที่จะต้องเจอกับไดร์เป่าผมของท่านเซอร์ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนดเล่นกันได้ดี

จริงจังใส่เลย นี่แหนะ

กว่าจะได้คำตอบ 555555555 ขอบคุณครับ

คิดว่าแกตะคอกจ่อหน้าซะผมปลิว

คนนี้อ่ะเก่งจริง โครตโค้ช ผมยังคิดไม่ออกใครจะทำได้แบบท่านเซอร

นึกไม่ออกคิดถึงกอร์ดอน แรมซี่ใน Hell's kitchen คนกลาสโกว์เหมือนกัน ดุชิบหายเหมือนกัน ประสบความสำเร็จเหมือนกัน

เป๊ปได้ปะ

รอดูอีกหน่อยสัก 5 ปี เรื่องแชมปไม่เถียง

ได้ครับ ในเรื่องของความสำเร็จ แต่ถ้าในเรื่องของการสร้างทีม ผมว่าอเล็ก เฟอร์กูสันดีที่สุดตลอดกาล ความแตกต่างของวันแรกที่ป๋ามา กับวันสุดท้ายที่จากไป ขนาดของสโมสร ฐานแฟนบอล แบรนด์ของยูไนเต็ด ผมว่านี่ต่างหากที่น่ายกย่อง

แมนยูยุคป๋าเหมือนทีมพระเอกอะ หมั่นไส้มาก ตัวไม่ได้ดีมากถ้าเทียบกับทีมรุ่งๆสมัยก่อน แต่สู้ได้หมด

หลายนัดเหมือนจะเสมอก็บี้จนยิงได้ทดเวลาประจำ

หน้าที่ของป๋าคือการมอบทัศนคติดีๆ ลงไปในทีมของเรานะ ป๋าจะปล่อยให้พวกเขาได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา เด็กป๋าต้องอย่ายอมแพ้ง่ายๆ แล้วก็ต้องรู้สึกสนุกที่ได้ลงสนามให้กับสโมสรของเราด้วย นี่แหละคือกฎเหล็กของป๋าล่ะ”

เอาง่ายๆเรียกมาด่ากันใกล้ๆหน้าแทบชน เหมือนลมใส่หัวกระเจิง
ป๋าแกเคยได้เค้กวันเกิดจากผู้ตัดสินเป็นหน้าไดร์เป่าผมด้วย

สมมุติดด้วยระยะเวลาคุมทีมเท่ากัน แล้วเป๊ปทำทีมกวาดแชมป์ทุกทีมที่ไปคุม สมมุติสัก 5-6 ทีมตลอดการคุมทีม ก็ถือว่าเก่งทั้งคู่มีความยากที่แตกต่างทั้งสองแบบ

คนนึงเปลี่ยนทีมใหม่ เริ่มต้นใหม่ ลีคใหม่ นักเตะใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ ยังคว้าแชมป์ได้

ส่วนอีกคนคุมทีมเดิมยาวๆ(ที่จริงท่านเซอร์ก็ต้องนับเป็น 2 ทีม) แล้วยังคว้าแชมป์ได้เรื่อยๆ ผลัดใบนักเตะไปตลอด รักษาระดับความกระหายแชมป์ได้ยาวนาน
ส่วนตัวผมให้เครดิตคนที่คุมทีมเดิมนานๆมากกว่า เพราะมันยากมากเลยกับการอยู่ในองค์กรนึงนานๆผ่านความสำเร็จมาแล้ว แล้วยังจะต้องรักษาระดับเดิมไว้ใด้อีก แค่นึกภาพต้องทำงานที่เดิมนานๆ 20 ปี ก็ยากแล้ว
ง่ายๆแค่เล่น fm ไปสัก 5-6 ปีก็เริ่มเบื่อละกับการต้องมาปั้นนักเตะใหม่

ผู้นำฮึกเหิม ลูกทีมก็คึกตาม ละดูตอนนี้
ปล ที่เหลือแค่เป่าลมเบาๆ ใช่มะป๋า

แล้วคำว่า สระไดร ล่ะคับ

ต้องถามเฮียอุ้มครับ

หนึ่งในนั้นต้องมีสตั๊ดบินในตำนานของเบ็คแฮม แน่นอน