1 ล้านบาท 5ปี เฉลี่ย ปีละ 2แสนบาท
เริ่มต้นเลยนะคับ ผมโชคดี ตอนอยู่ที่ กทม. ได้มีโอกาสทำงานกับคนเก่ง คนนึงซึ่งเป็น เจ้านายที่คอยสอนอะไรต่างๆมากมาย(รวยระดับ มีเงิน1000ล้าน) ได้มีโอกาส จับพลัดจับผลูทำงานใกล้ชิด โดยตำแหน่งนั้นคือ การตลาดหาลูกค้า ไปเที่ยว รีสอร์ท ซึ่งรีสอร์ท นั้น ราคา ค่าห้อง ประมาณ คืนละ 2000-30000บ.ต่อคืน ทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิด กับลูกค้าที่ถือว่ามีกำลังทรัพย์ และทำให้ความคิดเปลี่ยนไปหลายๆอย่าง
หลังจากกลับมาจากกทม. มาทำงานที่ บ้านเกิด เพราะปัญหาสุขภาพของพ่อแม่ และลูกยังเล็กก็เลยเริ่ม มองหางานที่จะสามารถทำให้เรามีเงินเก็บและเลี้ยงลูกได้ และจากประสบการณ์ เลยไปสมัครงานที่บ.รับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง
ปีแรก-ปีที่สอง เป็นลูกน้องเขาโดยตำแหน่งเราคือหาคนมาสร้างบ้าน หรือทำหอพัก เงินเดือนเริ่มต้น5000 บาท(ห้าพันบาทถ้วน) +ค่าคอม โดยสิ่งที่เรา ต้องเรียนรู้คือ วิธีหาลูกค้า+โปรโมชั่นของ ธนาคาร + ทริกต่างให้ลูกค้ามา สร้างบ้านกับเรา
ปีที่สาม ท่านจะได้ซึมซัพการ อ่านแบบ การถอดราคา ชั้นเชิงการต่อรองกับลูกค้า มีคนงานที่รู้จักส่วนหนึ่ง รู้จักแวดวงการรับเหมามากขึ้น คนที่เป็นครูท่านที่ดีที่สุดคือหัวหน้างานของท่าน ส่วนมาก เขาไม่สอน แต่เราต้องรู้จักสังเกต
ช่วง สามปีนี้ จะมีคนมาให้ท่านทำงานด้วยข้อควร ระวังคือ อย่ารับงานนอก เด็ดขาด(รับทำเอง) เพราะ เรายังใหม่กับวงการนี้ อย่าคิดว่าตัวเองรู้มาก ถ้ามีคนมาเสนอให้ แนะนำให้เอาเข้า บ.อย่างเดียว หรือไปบอกหัวหน้าของท่านแทน ส่วนค่าตอบแทนแล้วแต่เขาจะให้ ท่านจะได้รับความรู้เรื่อง ที่ดินไปด้วย การประเมิณราคา ซื้อสินค้าที่ไหน อย่างไร ร้านไหนถูกกว่ากัน การติดต่อธนาคาร ถ้าหัวหน้าท่านไปธนาคาร ขอไปด้วยเลย อย่าอายหรือขี้เกียจ เมื่อผ่าน สามปีแล้ว ท่านลองคิดว่า ตัวเองพร้อมที่จะรับ งานเองหรือยัง
ลองรับงานเล็กๆ ก่อนก็ได้ เช่นสร้างบ้าน ราคา ไม่เกิน 3แสน ต้องไปติดต่อเทศบาล พาลูกค้า ไปธนาคารด้วยตนเอง ซื้อของเอง บริหาร คนเองดู



ผมจะบอกวิธีการ ของผมนะคับ ผมตื่นนอน ตอนเช้า พยายาม ตื่นเวลาเดิม ทุกวันให้เป็นกิจวัติ เช่น 6.00 หรือ 7.00 ร่างกายจะได้ชิน
ผมลงทุนโดยมีรถ 1คัน เป็นกระบะ(ผมซื้อมือ2มาคับ ราคาไม่แพงมาก) สามารถขนปูน หรือ ไปหาลูกค้าได้โดยที่ เขามองเราว่า เราสะอาด น่าคุยด้วย ดังนั้น รถควรที่จะล้างเสมอ อย่าไปเสียดายค่าล้างรถ และการแต่งตัว คนต่างจังหวัด ไม่ชอบ คนที่ใส่เสื้อ เชิ้ต เนกไทด์ เราควรใส่เสื้อโปโล แทน แต่ต้องสะอาดเรียบร้อยตลอดเวลา หนังสือ แบบบ้านสวยๆ ตามเนตหรือซื้อเป็นเล่มๆ ติดรถไว้ตลอดเวลา
เวลาทำงานหาลูกค้าใหม่ ย้ำลูกค้าใหม่นะคับ ต้อง ไม่เกิน12.00น. เพราะ ช่วงเช้า อารมณ์ ของคน จะสดใส พร้อมรับสิ่งใหม่ ตอนบ่าย ขึ้นไป คนจะง่วงนอน และ รับปัญหามาเยอะแล้ว แนะนำ อย่า ไปพบช่วงเวลาหลังจากบ่ายขึ้นไป หรือ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ แนะนำว่า ช่วงอาหารเย็นคือช่วงที่เหมาะสมคับ
อย่า งก กับเงินไม่กี่บาท แลกกับ ความรู้สึกที่เสียไป เช่น ลูกค้าอยากได้อะไรเพิ่มถ้าจัดให้ได้ แล้วเรา ไม่เสียตังมาก ก็จัดให้แลย แล้วค่อยไปเพิ่ม กับอย่างอื่นทีหลัง ของฝากให้ลูกน้อง หรือคนงาน ต้องมีตลอดให้เขารักเรา ทำงานให้เราอย่างสุดความสามารถ หรือถ้าเราว่าง บางอย่างไปทำเองเลย เพื่อที่จะได้รู้วิธีทำด้วย
การทำสัญญาต้องรัดกุม ต้องละเอียด ทุกอย่างเพื่อ เซฟตัวเรา และลูกค้าด้วย



ตอนหน้า จะเป็น วิธีหาลูกค้านะคับ

ปล. ชอบก็โหวตด้วยนะคับ

จะให้ผมปรับเปลี่ยนไปทำงานก่อสร้างเลยก็คงยาก แต่ชอบแนวคิดเรื่องอารมณ์ลูกค้ายามเช้าและบ่ายครับ จะนำไปปรับดู

ผมก็ชอบทำงานกับคนเก่งๆครับ

แต่ตอนนี้เหมือนที่บริษัทผมเขารู้สึกอิ่มตัวมาก คนขี้เกียจก็เยอะเลย

ผมไม่อยากจะเฉื่อยตามพวกเขาเลย ที่บริษัมสหภาพค่อนข้างแข็งแรง

คนก็มักจะมักง่ายไม่กระตือรือล้น ถามว่าดีไหม ดี แต่ตัวผมเองรู้สึกพัฒนาช้ามาก

ชอบย่อหน้าสุดท้ายมากครับ ดีมาก

ถ้าผมบอกท่านว่า ผมจบนิติมา ท่านจะเชื่อไหม ผมเริ่มต้นตอนทำงานที่ตจว.อายุ 30ปีคับ

เท่ากับต้องเก็บให้ได้ วันละประมาณ 500 ทุกวัน

เห็นด้วยเรื่องสะอาดและสุภาพ โต๊ะทำงานต้องไม่รก
เจอมากับตัวทั้งลูกค้าลูกจ้างยันธนาคาร

ถึงจะทำงานทีบ้านก็ต้องแต่งตัวให้เหมือนออกไปทำงานข้างนอก
ไม่ต้องถึงขนาดใส่สูทตัวนอก แค่ให้มันดูไม่ชิวเกินไป ไม่ลากแตะก็ใช้ได้

ชอบแนวคิดท่านมากคับ

บ้านในรูปตัวอย่างนี่ งบเท่าไหร่ครับ แล้วเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ใช่ไหม เหมาะกับพวกแบบกะทัดรัด และไม่แพงใช่ไหม

ผมเชื่อนะ เพราะกำลังจะถามเลยว่าตอนทำสัญญาท่านไม่มีการพูดถึงจ้างพวกนักกฎหมายมาช่วย ไม่เสี่ยงไปหรอ5555

พึ่งรู้นี่แหล่ะว่าคนต่างจังหวัดไม่ชอบคนใส่เชิ้ต

รอต่อนะครับ

มีญาติผมนี่แหละตอนแรกก็เป็นพนังงานโรงงาน แล้วออกมาทำรับเหมา เป็นบูกน้องเค้า (บิ้วท์อิน) แล้วทะเลาะกับลูกพี่เลยแยกรัวออกมาทำกับน้อง ตอนนี้ เริ่มมีเงินเก็บละ จากไม่มีอะไร เริ่มซื้อบ้านซื้อรถ แค่เวลาไม่ถึง5ปีไปนั่งคุยกับเค้าสนุกดีนะ เสียดายไม่ได้เรียนสายนี้มา ได้แต่รอเงินเดือนอย่างเดียวอ่ะผม

มารออ่าน part ต่อไปครับ

ชอบๆ ผมก็ 32 หล่ะกำลังเบื่อกับชีวิตที่เดิมๆไปวันๆ แต่ก็ไม่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆ

รีบมานะครับ ตอนต่อไป

มาเขียนต่อนะผมรออ่านอยู่

ผมอ่านมาชอบบรรทัดหลังๆมากที่สุด ที่ว่า "อย่า งก กับเงินไม่กี่บาท แลกกับ ความรู้สึก

ที่เสียไป เช่น ลูกค้าอยากได้อะไรเพิ่มถ้าจัดให้ได้ แล้วเรา ไม่เสียตังมาก ก็จัดให้เลย แล้ว

ค่อยไปเพิ่ม กับอย่างอื่นทีหลัง ของฝากให้ลูกน้อง หรือคนงาน ต้องมีตลอดให้เขารักเรา

ทำงานให้เราอย่างสุดความสามารถ" จากประสบการณ์ตรง หลายๆร้านค้าหรือร้านอาหารไม่

ใส่ใจกับตรงนี้ บางทีทำผิดพลาดกับลูกค้ากลับไม่รับผิดชอบหรือไม่เเสดงความใส่ใจอย่างที่

ควร การเพิ่มสิ่งเล็กๆน้อยให้อาจต้องควักเงินเพิ่มนิดหน่อย เเต่มันคุ้มค่าครับ กับความรู้สึก

ของลูกค้า การดูเเลลูกน้องนี่ก็สำคัญมาก พนง ทุกคนก็คือฟันเฟืองของบริษัท ทำงานก็ใจ

เค้าใจเรา ไม่ใช่สั่งอย่างเดียว การเเสดงออกถึงน้ำใจเเละไมตรีของเจ้านายนี่เเหละที่ซื้อใจ

ลูกน้องได้ ชื่นชม จขกท ครับ

ตกลง จขกท ทำงานอะไร รับทำบ้านหรอครับ

เพิ่งรู้ว่าลูกน้องบ.รับเหมาได้เงินเยอะก็ตอนนี้

ขอลงชื่อรออ่านต่อนะครับ

ท่านทีเงินเก็บ 1 ล้าน ในขณะที่ผมเอาเงิน 1 ล้านไปตกแต่งบ้านทำบิวอินท์

ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง เพิ่งจะรู้พวกก่อสร้างนี่แพงโคกๆๆๆ

รอติดตามอ่านนะครับผม

ผมไม่รอช้า ครับ แอดเพื่อนทันที

ชอบคนมีแนวคิดแบบนี้

ผมเพิ่งทำบ้านเสร็จ 4 คูหา ลากเลือดเลยครับ เพราะทำครั้งแรก งบบานผ้รับเหมาไม่ซื่อสัตย์ โชคดีที่ทำเลดีขายไปบ้างแล้ว

จขกท.ถ้าเป็นผู้รับเหมาเอง ผมว่าแนวคิดคุณดีมาก ขอให้ลูกค้าเยอะๆครับ ถ้าอยู่แถวอีสานก็ทักทายกันด้วยคับ