ตามข่าวในเวบและในเฟซfair

ส.บอลประกาศไม่จ่ายเงินให้กับทีมในดี1และดี2 ด้วยเหตุต้องจ่ายค่าภาษี ซึ่งขัดกับนโยบายตอนหาเสียงอย่างชัดเจน

ประเด็นของผม คือ ถ้าตอนหาเสียง ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ ไม่แน่ใจว่าจะจ่ายได้ ก็ไม่ควรพูดว่าจะทำหรือจะจ่ายเท่านั่นเท่านี้บาท

แต่ควรบอกไปตามจริงว่า ถ้าได้รับเลือกตั้ง และตรวจสอบบัญชีแล้วมีเงินเหลือ จะจ่ายเงินช่วยทีมรายได้น้อยในดี1 และ ดี2 ก็ว่าไป

เพราะตอนนี้ สโมสรฟุตบอลของไทย เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพ มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ย่อมต้องมีการประมาณการรายได้ เมื่อผู้บริหารองค์กร บอกว่าจะจ่ายเงินให้กับสโมสร เท่านั้นเท่านี้งวด จำนวนกี่บาท

สโมสรต่างๆย่อมต้องลงบัญชีเป็นประมาณการรายได้ และวางแผนการจ่ายเงินตามประมาณการรายได้ดังกล่าว เพราะคงไม่มีสโมสรไหนคาดคิดว่า จะมีการประกาศไม่จ่ายเงินที่ขัดกับตอนหาเสียง

เมื่อ ส.บอลชุดใหม่เข้ามาทำงานช่วงต้นปี มีการตรวจสอบบัญชี พบว่า ส.บอลมีหนี้ค้างจ่ายจำนวนมาก ทำให้ ส.บอล ไม่สามารถจ่ายเงินสนับสนุนตามที่หาเสียงไว้ได้

ส.บอลก็ควรแจ้งสโมสรต่างๆ ตั้งแต่ตรวจพบในช่วงต้นปี สโมสรต่างๆจะได้ตั้งตัวทัน และหาแหล่งรายได้อื่นมาทดแทน

แต่การที่ ส.บอลมาประกาศไม่จ่าย ก่อนถึงกำหนดจ่ายงวดสุดท้าย (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ) โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าให้สโมสรต่างๆเตรียมตัวแต่อย่างใด

สโมสรอาชีพไหน จะตั้งตัวทัน เพราะผมเชื่อว่า ทุกสโมสรย่อมเชื่อโดยสุจริตใจว่า คำพูดของผู้บริหารองค์กร ย่อมเชื่อถือได้ ไม่มีการเปลี่ยนไปมา ตอนหาเสียงพูดแบบไหน ตอนรับเลือกตั่งต้องทำแบบนั่น

เมื่อมีการเปลี่ยนกระทันหัน ว่าไม่จ่ายแล้วนะ ผมว่า คำพูดของผู้บริหารองค์กรที่สโมสรต่างๆเคยเชื่อมั่น จะไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิม เพราะวันนี้พูดแบบนี้ พรุ่งนี้อาจเปลี่ยนก็ได้ และสโมสรไหน สายป่านไม่ยาว และหวังจะเอาเงินสนับสนุนงวดสุดท้ายจาก ส.บอลมาใช้จ่ายปลายฤดูกาล ก็ผิดหวังไปและอาจถูกฟ้องล้มละลายจนต้องปิดตัวได้ ถ้าหนี้ค้างจ่ายมากพอ ส่วนสโมสรไหนสายป่านยาวคงรอดตัวไป ช่างเป็นการบริหารที่มืออาชีพจริงๆ

ปล. ผมตามข่าวเรื่อง ส.บอลชุดใหม่ จะฟ้อง ส.บอลชุดเก่าเพื่อเรียกค่าเสียหายมานานมากกกก แต่ข่าวกลับเงียบมากซะงั้น ซึ่งถ้ามีการฟ้องร้องกันไปแล้ว ป่านนี้ ส.บอลชุดนี้อาจมีเงินมาจ่ายให้กับสโมสรตามที่หาเสียงก็เป็นได้

ผมไม่ใช่ติ่งใคร ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่อยากฝากสโมสรต่างๆที่เริ่มเดือดกันว่า โอเคเรื่องนี้อาจจะผิดจริงหรือมีตื้นลึกหนาบางอะไรที่เรายังไม่รู้ แต่เรื่องอื่นๆอีกหลายๆอย่างมันเริ่มดูเป็นระบบเป็นมืออาชีพขึ้นจริงๆ กดดันเรื่องนี้กันได้เต็มที่ สนับสนุนให้ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง แต่อย่าเพิ่งถึงขั้นขับไล่เลย

ถ้าอยากให้มันเป็นมืออาชีพก็ไม่ควรจ่ายได้ละนะ
-รุ้สึกว่ายศเพิ่งออกมาบอกเองว่า ทีมไหนไม่พร้อมทำทีมมายื่นเรื่องได้
และข่าวนี้ก็ออกมาต่อเลยละมั้ง...

-จำได้ว่าหลังยศได้ใหม่ๆ มีคนอ้างบารมีพ่อยีว่า
TPLมีวันนี้ได้เพราะบารมีพ่อยี
เงินแจกทีมแบบนี้นีเอง ทำจนชิน ทำจนเคย
ก็ไม่เป็นมืออาชีพสักที
(ส่งทีมเล่นแต่ไม่ดิ้นรนหาเงินให้เป็นระบบเป็นอาชีพ
เหมือนเป็นบรรไดให้พวกมีอิทธพลต่าง
มีเสียงมีที่ยื่น หวังนัยยะอื่นๆ)


ปล.แต่หากเป็นนโยบายผมว่ายศผิดที่ไม่ชัดเจนนะ

แม่งเอ้ย!! พ่อยีไปไหนละ ไม่เห็นข่าวเลย

ดิ้น ดิ้น ดิ้น กันมั้ยลุง

ผมเห็นด้วยกับท่านนะ ว่าสโมสรฟุตบอลอาชีพ ไม่ควรมีการสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากภาครัฐหรือจาก ส.บอล และผู้สมัครไม่ควรเอาเรื่องเงินสนับสนุนมาเป็นนโยบายหาเสียง เพราะจะทำให้ สโมสรฟุตบอลเคยตัว ไม่เป็นมืออาชีพ และยืนด้วยขาตัวเองไม่ได้

แต่ ส.บอลชุดนี้แหละ ช่วงหาเสียง นโยบายหาเสียงหลัก คือ ให้เงินช่วยเหลือกับทีมในดี1และดี2 ทีมเหล่านั้น จึงเทคะแนนให้

นี้เขาเรียกว่า การไล่กุ๊ยครับ
เอาเป็นว่ายกตัวอย่างสโมรทีมบ้านเกิดผมแล้วกัน คือคนทำทีมเป็น อบจ. นักเตะก็หาแถวๆพื้นที่ เรียกมาซ้อมและไปแข่งก็จ่ายค่าซ้อมและเบี้ยเลี้ยงนิดหน่อย ไม่ได้จริงจัง เหตุผลหลักๆที่ทำทีมก็เผื่อที่จะรอเงินจาก กกท.และสมาคมฟุตบอล ส่งมาอุดหนุน แล้วก็จะเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง และอีกส่วนหนึ่งก็จ่ายให้นักเตะนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง นี้แหละครับถ้าลองไม่จ่ายเงินพวกนี้ ก็จะกำจัดพวกที่ทำทีมแบบนี้ออกไปก็จะเหลือแต่คนที่เขาอยากทำทีมจริงๆจังๆ ไม่ใช่มาหาผลประโยชน์แบบนี้

ก็ต้องดูสาเหตุเกิดจากอะไร บางทีมที่ออกมาบ่นจัดมาเพื่อแข่งขันจิงไหม หรือเพื่อแค่รอเงินที่จะได้ ต้องไปดูตรงนี้ทีมไหนไม่จริงจังตัดสิทธิ์ไปซะ

แต่ส่วนนี้พี่ยศก็ผิดถ้าทีมที่เขาตั้งใจทำทีมจริงๆรอเงินตัวนี้อยู่ แถมเป็นคำพูดจากนโยบายหาเสียง สัญญาว่าจะให้แล้วไม่ได้ทีมที่ลงคะแนนให้ก็คงไม่พอใจละครับ

ผมว่าไอ้พวกบ่นก็รู้ว่าสมาคมมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่ แต่ก็มีพวกผสมโรงสร้างเรื่องรวมกับบางทีมที่ตั้งใจรอเงินทำทีมที่สัญญาว่าจะให้จริงๆ

เรื่องนี้เคลียไม่ยากลงไปคุยซะ

ผมคิดว่า ถ้าคิดจะไล่กุ๊ยจริงๆ ตอนหาเสียง ต้องไม่นำเรื่องจะจ่ายเงินสนับสนุนให้กับทีมดี1 และดี2 มาเป็นนโยบายหาเสียงครับ

แต่ต้องประกาศตอนหาเสียงไปเลยว่า ส.บอลชุดนี้ จะทำบอลลีกของไทยให้เป็นบอลอาชีพจริงๆ จะไม่ให้เงินสนับสนุนกับทีมใด เพื่อให้ทุกทีมเป็นทีมอาชีพและหาเงินได้เองอย่างแท้จริง

ทีมไหน คอยรอเงินช่วยเหลือแต่เพียงอย่างเดียว ไม่จริงใจทำบอล ไม่ต้องเลือกผม ไปเลือกคนอื่นได้เรย

ถ้าประกาศตอนหาเสียงแบบนี้ ผมจึงจะถือว่า ไล่กุ๊ยจริงๆ แต่เมื่อประกาศตอนนี้ ความเห็นส่วนตัวของผม คือ แค่หาเหตุผลมารองรับเพื่อป้องกันการโดนสโมสรต่อว่า เรื่องผิดสัญญาตอนหาเสียง ก็เท่านั้นครับ

หาเสียง คิดว่ามีเงิน ทำได้

แต่มาทำจริง เงินไม่มี ทำไม่ได้

อะไรที่ เปย์ มากไป มันไม่ดีหรอก... สุดท้ายก็ต้องมากลับลำ เพราะเงินไม่เข้าตามเป้า


ขออย่าให้เรื่องเงิน กระทบ การทำทีมชาติ ล่ะกัน

เริ่มมาแล้วสิน่ะ

สโมสร ต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองก่อน

ผมเห็นด้วยนะ สโมสร ควรยืนได้ด้วยขาตัวเอง ไม่งั้นก็จะมีพวกเกณฑ์กุ๊ยมาแข่งเอาเงินอยู่เรื่อย

ผมมองว่า หาเสียง คือ เรื่องนึง ทำจริง ก็อีกเรื่องนึง


ไม่การเมืองนะครับ แต่ขอยกตัวอย่างพรรคต่างๆเวลาหาเสียงเลือกตั้ง

มีนโยบาย 1 2 3 4 บลาๆๆ

แต่พอได้รับเลือกจริง งบประมาณที่จะเอามาทำ 1 2 3 4 เนี่ย ไม่พอ ต้องเลือกว่าจะทำอันไหนก่อน อันไหนหลัง อันไหนยกเลิก

เคสเดียวกันแหละครับ

ไอ "เงิน" ที่หาเสียงว่าจะ "ให้" เนี่ย มันก็แค่ "นโยบาย หรือ สัญญาลมปาก" ครับ

พอมาทำจริงๆ อ้าว!! งบไม่พอ ทำทุกนโยบายที่หาเสียงไว้ไม่ได้ ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละครับ

เขาอาจจะให้ตามนโยบายก็ได้ แต่ให้หลังจากไล่กุ๊ย ไล่เหลือบ ไลปลิงไปก่อน

ไม่ใช้ให้ทั้งกุ๊ย ให้ทั้งเหลือบ ให้ทั้งปลิง

#โลกผมสวยโรยไปด้วยแป้งลาเวเดอร์และแป้งสาลี